ยอดนักรบจอมราชัน 962 ทดสอบความภักดี

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 962 ทดสอบความภักดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 962 ทดสอบความภักดี

กฎขององค์กรชาโด้ซากุระนั้นเป็นเพียงตำนานมาโดยตลอดและไม่มีใครรู้ว่ามันจริงหรือไม่ แต่แน่นอนว่าเย่เชียนคงไม่เชื่อง่ายๆว่ากฎข้อนี้จะเป็นความจริง?

เย่เชียนยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “จริงเหรอ..ถ้างั้นผมมีอะไรอยากให้คุณทำ”

“บอกฉันมาสิว่าคุณจะให้ฉันทำอะไร..ต่อให้ฉันต้องตายฉันก็จะทำ” นากาซาวะเคโกะพูด

“มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น..มันง่ายมากแค่ช่วยฆ่าฮาเซงาวะเซตะให้ผม” เย่เชียนพูด

นากาซาวะเคโกะก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า “ฆ่าคุณฮาเซงาวะงั้นเหรอ..นี่คุณไม่ได้จะร่วมมือกับเขาหรอกเหรอ..ทำไมคุณถึงต้องการฆ่าคุณฮาเซงาวะล่ะ?”

“ก็ไม่มีอะไรมาก” เย่เชียนพูดเบาๆว่า “จู่ๆผมก็ไม่อยากร่วมมือกับเขาและยิ่งไปกว่านั้นองค์กรชาโด้ซากุระก็เป็นองค์กรภายใต้เขาเพราะฉะนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าคำพูดของคุณนั้นไม่ได้โกหกนี่ก็คือวิธีที่ดีที่สุดในการพิสูจน์โดยการฆ่าฮาเซงาวะเซตะ..ถ้าคุณทำสำเร็จผมก็จะเชื่อว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริง”

“ถ้าคุณเย่ต้องการทำแบบนั้นจริงๆก็ไม่มีปัญหา..ฉันจะฆ่าฮาเซงาวะเซตะในคืนนี้” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งนากาซาวะเคโกะก็พูดขึ้นและทัศนคติของเธอดูมั่นคงมากและทำให้เย่เชียนมองไม่ออกว่าจริงหรือเท็จ

“แต่ผมจะบอกกับคุณให้คุณเข้าใจก่อน” เย่เชียนพูด “ถึงแม้ว่าคุณจะฆ่าฮาเซงาวะเซตะแล้วผมก็จะไม่ปฏิบัติต่อคุณเหมือนผู้หญิงของผม”

“ฉันไม่ได้ต้องการเป็นผู้หญิงของคุณเย่..ฉันแค่ต้องการอยู่เคียงข้างคุณเย่เท่านั้น..ถึงแม้ว่าฉันจะต้องเป็นวัวหรือม้าฉันก็เต็มใจ” นากาซาวะเคโกะพูดต่อ “ฉันอยากจะแสดงความจริงใจต่อคุณเย่..เหตุผลที่ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะมอบแบบแปลนบ้านของนาโอกิอิชิอิให้คุณโดยเฉพาะ”

เย่เชียนขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว..คุณแค่ฆ่าฮาเซงาวะให้ผมก่อนแล้วเราค่อยวางแผนกันอีกที”

นากาซาวะเคโกะตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณเย่ต้องการแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย?”

“อะไรกันคุณคิดว่าผมพูดเล่นงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มจางๆที่มุมปากของเขา

นากาซาวะเคโกะก็มองเย่เชียนมันเป็นเวลานานแต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าคำพูดของเย่เชียนนั้นจริงจังหรือไม่จนเธอสับสนเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานนากาซาวะเคโกะก็พูดว่า “ฮาเซงาวะเซตะนั้นสนับสนุนประเทศจีนมาโดยตลอดเพราะงั้นถ้าคุณเย่ฆ่าเขามันก็เท่ากับเป็นการช่วยนาโอกิอิชิอิไม่ใช่เหรอ..มันจะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียหรือเปล่า..แต่บอกก่อนนะว่าฉันไม่ได้เข้าข้างฮาเซงาวะเซตะแต่ฉันคิดเพื่อผลประโยชน์ของคุณเย่”

เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ผมคิดว่าผมจะควรบอกคุณอย่างหนึ่งว่าถ้าคุณเป็นลูกน้องของผมคุณก็ต้องจริงใจกับผมจริงๆและคุณแค่ต้องทำตามที่ผมสั่งทุกอย่าง..สำหรับกรณีนี้ไม่ว่าอะไรถูกหรือผิดก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณควรพิจารณาแต่คุณต้องทำตามสิ่งที่ผมต้องการเท่านั้นแล้วผมจะเป็นคนรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง”

“โอเคฉันสัญญา..พรุ่งนี้ฮาเซงาวะเซตะจะไม่เห็นดวงอาทิตย์อีกตลอดไป” นากาซาวะเคโกะพูดอย่างหนักแน่น

เย่เชียนไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยิ้มเบาๆและลุกขึ้นเดินไปด้านข้างแล้วหยิบแผนที่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้เย่เชียนจากนั้นก็พูดว่า “นี่คือแบบแปลนแผนผังบ้านของนาโอกิอิชิอิค่ะ..ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณเย่ต้องการฆ่าฮาเซงาวะเซตะทำไมหรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ถึงยังไงเราก็ต้องจัดการกับนาโอกิอิชิอิให้ได้..ไม่อย่างนั้นถ้าหากเขาชนะการเลือกตั้งล่ะก็ผลที่ตามมาจะเป็นเหมือนหายนะอย่างมาก”

“สิ่งที่คุณพูดมานั้นสมเหตุสมผลมาก” เย่เชียนพูด “ผมไม่สบายใจถ้าผมร่วมมือกับฮาเซงาวะเซตะเพราะงั้นผมจึงต้องฆ่าเขาแล้วหาคนที่ภักดีต่อผมอย่างสมบูรณ์แบบ..ไม่งั้นเราจะไม่สามารถดำเนินการจัดการกับนาโอกิอิชิอิอย่างสบายใจได้..เอาล่ะช่วยบอกผมอย่างละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่บ้านของนาโอกิอิชิอิหน่อย..รวมถึงจำนวนบอดี้การ์ดที่เขามีด้วย”

“บ้านของนาโอกิอิชิอิมีบอดี้การ์ดประมาณห้าสิบคน..ซึ่งแบ่งออกเป็นสามกะและแต่ละกะก็แบ่งออกครั้งละแปดชั่วโมง..โดยแต่ละกะจะมีสิบคน..เมื่อพวกเขาเปลี่ยนกะการป้องกันจะหย่อนหยานและมีช่องโหว่มากที่สุดเพราะงั้นช่วงเวลานี้มันจะง่ายที่สุดที่จะลอบเข้าไป..แต่บ้านของเขาเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิดและมีคนดูอยู่ตลอด24ชั่วโมง..ดังนั้นจึงไม่ง่ายที่จะหลบเลี่ยงกล้องเหล่านั้นและยังมีไซเรนอินฟราเรดด้วย..ในกรณีนี้ถ้าคุณไม่ระวังสัญญาณตรวจจับจะแจ้งเตือนทันที” นากาซาวะเคโกะพูด “แต่ฉันส่งคนลอบเข้าไปข้างในก่อนแล้วเพราะงั้นถ้าหากคุณเย่มีแผนการอะไรฉันก็จะสั่งลูกน้องของฉันได้ทันที”

“ข้อมูลเหล่านี้ช่วยเราได้เยอะ..คราวนี้เราจะชิงเอกสารแผนการต่างๆของนาโอกิอิชิอิมาเพราะงั้นถ้าเราเคลื่อนไหวกันเยอะเกินไปมันจะไม่ดี” เย่เชียนพูดต่อ “ไปกันเถอะ!”

“ข้างห้องนอนบนชั้นสองเป็นห้องทำงานของนาโอกิอิชิอิและมีบอดี้การ์ดสองคนคอยคุ้มกันทางเข้า..พวกนั้นเป็นนินจาที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ยกเว้นนาโอกิอิชิอิเพียงคนเดียว..ฉันคิดว่าเอกสารแผนการดังกล่าวอาจจะซ่อนอยู่ในห้องนั้น” นากาซาวะเคโกะพูด

“คุณแน่ใจนะ?” เย่เชียนถาม

นากาซาวะเคอิโกะส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “นาโอกิอิชิอิทำตัวลึกลับมากและเขาจะไม่บอกใครเกี่ยวกับแผนการนี้เด็ดขาด..ยิ่งไปกว่านั้นห้องทำงานยังได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนาเพราะงั้นฉันจึงมั่นใจว่าเอกสารแผนการจะอยู่ที่นั่น..นอกจากที่นี่แล้วฉันก็คิดไม่ออกว่าจะเป็นที่ไหนได้อีก”

เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อคุณบอกว่านาโอกิอิชิอิทำตัวลึกลับแล้วทำไมเขาถึงต้องป้องกันห้องนั้นอย่างเปิดเผยชัดเจนด้วยล่ะ?..นี่ก็เหมือนกับว่าเขาพยายามบอกคนอื่นว่ามีบางอย่างในห้องทำงานของเขาไม่ใช่เหรอ?..มันไม่ใช่ความลับหรอกและผมคิดว่านี่เป็นกับดักที่นาโอกิอิชิอิวางเอาไว้..ผมคิดว่ามันไม่ได้อยู่ในห้องทำงานหรอกแต่อยู่ในห้องนอน..เพราะด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะมีเวลาส่วนตัวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน”

นากาซาวะเคโกะก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นล่ะ..ถ้าหากว่ามันไม่ได้อยู่ทั้งห้องนอนและห้องทำงานของเขาล่ะ?..การที่เราอยู่ในบ้านของนาโอกิอิชิอินานเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากเท่านั้น”

“ไม่ต้องกังวลไปผมมีวิธี” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจที่มุมปากของเขา “เนื่องจากเราไม่รู้ว่าเอกสารนั้นอยู่ที่ไหนเพราะงั้นเราจะปล่อยให้นาโอกิอิชิอิพาเราไปหามันด้วยตัวเอง..ด้วยความหวาดระแวงยังไงล่ะ!..แบบนี้เราก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากความหวาดระแวงของเขาได้”

นากาซาวะเคโกะก็ตกตะลึงไปชั่วขณะและไม่เข้าใจความหมายที่เย่เชียนพูดและมองดูเขาอย่างว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้ว่าเย่เชียนนั้นมีกลอุบายประเภทใด จากนั้นเย่เชียนก็กวักมือเรียกนากาซาวะเคโกะแล้วเธอก็เดินเข้าไปหาเขา จากนั้นเย่เชียนก็บอกเธอเกี่ยวกับวิธีการจนนากาซาวะเคโกะอดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอและเธอก็พูดว่า “คุณเย่นี่ช่างน่าทึ่งจริงๆ..สำหรับฉันไม่มีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบไปกว่าคุณอีกแล้ว..ช่างรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆที่ฉันได้อยู่เคียงข้างคุณเย่”

เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณยังคงต้องจัดการกับฮาเซงาวะเซตะก่อนเพราะถ้าคุณไม่สามารถฆ่าเขาได้ผมก็จะไม่ยอมรับคุณ..หากคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งของแผนการและลูกน้องของผมล่ะก็คุณต้องทำให้ผมเห็นก่อน!”

“ไม่ต้องกังวลไปค่ะตอนนี้ฉันเป็นลูกน้องของคุณเย่แล้วและไม่ว่าคุณเย่จะสั่งให้ฉันอะไรฉันก็จะทำ” นากาซาวะเคโกะพูดต่อ “คุณเย่รอข่าวดีจากฉันได้เลยค่ะ..ฉันจะกลับไปที่คลับเฮาส์เพื่อพบกับผู้นำคนอื่นของพรรคฝ่ายค้านในคืนนี้และนั่นจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มปฏิบัติการ!”

“ได้..ผมจะรอข่าวดีจากคุณ” เย่เชียนพูด

นากาซาว่าเคโกะมองดูนาฬิกาที่ผนังห้องและพูดว่า “คุณเย่นี่ก็ยังพอมีเวลาอยู่เพราะงั้นทำไมไม่ให้ฉันนวดให้คุณเย่เพื่อแก้ปวดเมื่อยล่ะ?”

“ก็ดี” เย่เชียนไม่ปฏิเสธเพราะคืนที่ผ่านมาทักษะและเทคนิคการนวดของนากาซาวะเคโกะทำให้เย่เชียนยอมรับจริงๆ ซึ่งเปรียบได้กับทักษะของหมอนวดมืออาชีพซึ่งทำให้กล้ามเนื้อของเย่เชียนผ่อนคลายและได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แน่นอนว่านากาซาวะเคโกะก็มีความคิดของตัวเองเช่นกันเพราะหลังจากเมื่อคืนนี้เธอก็ได้ลิ้มรสความหวานอย่างทั่วถึงและความรู้สึกราวกับวิญญาณของเธอหลุดออกจากร่างของเธอและล่องลอยไปบนท้องฟ้าจนทำให้เธอมีความสุขอย่างมาก

ในตอนแรกยังคงเป็นการนวดตามปกติแต่การนวดของนากาซาวะเคโกะก็ค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและเธอเริ่มจะยั่วยวนเย่เชียนทีละเล็กทีละน้อยแต่เย่เชียนก็ไม่ได้ขัดจังหวะเธอและหลับตาลงราวกับว่านี่ไม่ใช่เรื่องของเขา ในขณะที่นากาซาวะเคโกะกำลังเตรียมตัวสำหรับการกระทำครั้งต่อไปจู่ๆเย่เชียนก็ลุกขึ้นนั่งและพูดว่า “คุณควรเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่า..ผมไม่อยากให้คุณทำพลาด”

นากาซาวะเคโกะก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ขัดขืนเพราะเธอต้องการรับใช้เย่เชียนอย่างสมบูรณ์แบบและเธอก็เต็มใจที่จะเป็นทาสของเย่เชียนเพราะเย่เชียนเป็นเจ้านายของเธอแล้วและเธอก็ไม่กล้าขัดคำพูดของเย่เชียนแม้แต่น้อย

นากาซาวะเคโกะก็สวมเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องของเย่เชียนไปอย่างไม่เต็มใจ ถึงแม้ว่าหัวใจของเธอจะเต็มไปด้วยความผิดหวังแต่ความเป็นทาสโดยธรรมชาติของเธอทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ว่าเย่เชียนจะสั่งอะไรเธอหรือขออะไรเธอก็ตามถึงยังไงเธอก็ไม่ควรที่จะขัดคำสั่งเขา

แน่นอนว่าเย่เชียนไม่เคยคิดที่จะฆ่าฮาเซงาวะเซตะเพราะเขาแค่ต้องการทดสอบนากาซาวะเคโกะเท่านั้น ซึ่งเป็นเพราะจู่ๆองค์กรชาโด้ซากุระที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดกลับจะทำตามกฏที่ไม่ได้ระบุเอาไว้อย่างสมบูรณ์และชัดเจนดังนั้นเย่เชียนจะเชื่อง่ายๆได้อย่างไร? ดังนั้นการฆ่าฮาเซงาวะเซตะเป็นวิธีเดียวที่จะทดสอบนากาซาวะเคโกะเพราะถ้าหากนากาซาวะเคโกะทำได้เย่เชียนก็เต็มใจที่จะเชื่อเธอ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วความแข็งแกร่งขององค์กรชาโด้ซากุระนั้นก็แข็งแกร่งมาก ดังนั้นหากนำไปใช้ประโยชน์ได้ล่ะก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเย่เชียนอย่างแน่นอน

หลังจากมองนากาซาวะเคโกะจากไปเย่เชียนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินออกไปทันที

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด