ยอดนักรบจอมราชัน 157 คลื่นลูกใหญ่ใต้ผืนน้ำ

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 157 คลื่นลูกใหญ่ใต้ผืนน้ำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อชิงเฟิงเห็นเย่เชียนเดินเข้ามา เขาก็รีบวิ่งไปหาพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

“บอส! บอสมาแล้ว” ชิงเฟิงพูด

เย่เชียนจ้องมองเขาแล้วถามด้วยความประหลาดใจว่า “อ้าว… นี่นายไม่ได้อยู่ในเมียนมาร์หรอกเหรอ ? ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ?”

“ผมเพิ่งมาถึงเมื่อคืนนี้เอง บอสก็รู้หนิว่าต่อให้ผมอยู่ที่นั่น ผมก็ช่วยอะไรมากไม่ค่อยได้ สู้ให้ผมมาช่วยงานอยู่ที่นี่น่าจะดีและเหมาะสมมากกว่า ฮ่า ๆ ๆ ” ชิงเฟิงหัวเราะและพูดต่อ “อีกอย่าง… แจ็คโทรมาบอกผมว่าเขาขาดกำลังคนอยู่ เขาต้องการความช่วยเหลือด้านการฝึกซ้อมประจำวันน่ะ ผมก็เลยมานี่แหละ ว่าแต่บอสคงจะไม่ใจร้ายไล่ผมกลับไปหรอกใช่มั้ย ?”

เย่เชียนส่ายหัว จากนั้นก็พูดว่า “เอาเถอะ ถึงยังไงนายก็มาอยู่ที่นี่แล้วนี่นะ”

ชิงเฟิงยิ้มกว้างและพูดด้วยความดีใจว่า “ต้องอย่างนี้สิบอสผม! ผมรู้ว่าบอสผมเนี่ยมีเหตุผลที่สุดแล้ว มามะ… ขอผมจูบเป็นการขอบคุณหน่อย!” ไม่เพียงพูดเปล่า แต่ชิงเฟิงยังขยับเข้าไปใกล้เย่เชียนและทำท่าเหมือนกับว่าเขานั้นกำลังจะจูบแก้มของเย่เชียนจริง ๆ

เย่เชียนเอามือผลักหน้าของชิงเฟิงต้านเอาไว้แทบไม่ทัน เขาพูดว่า “ไอ้บ้า! นี่ฉันไม่ใช่เกย์นะเว้ย แจ็คอยู่ไหน ? ฉันมีธุระต้องคุยกับเขา”

ชิงเฟิงหัวเราะอย่างมีความสุขและพูดว่า “ฮ่า ๆ ๆ ทุกคนอยู่ข้างในกันหมดแล้วบอส มา… เดี๋ยวผมพาไป”

พูดจบชิงเฟิงก็เดินนำเย่เชียนเข้าไปข้างใน เมื่อพวกเขาเดินผ่านนักเรียนทหารฝึกอบรม ชิงเฟิงก็กวาดสายตามองดูพวกเขาและพูดอย่างดุดันว่า “นักเรียนทุกคน! ฝึกท่าทางของทหารเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ปฏิบัติ!”

นักเรียนทหารฝึกอบรมต่างกระตือรือร้นในการฝึกอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาเย็นมากแล้ว แต่แสงอาทิตย์ก็ยังคงแผดเผาใบหน้าของเหล่านักเรียนทหารพวกนั้นอย่างร้อนแรง หน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อชุ่ม ทว่าไม่มีนักเรียนทหารคนใดปริบากบ่นกันสักคำ แม้แต่ท่าทีไม่สบอารมณ์ใด ๆ ก็ไม่มีให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและเดินเข้าไปข้างใน “เป็นยังไงบ้าง ? นายเห็นนักเรียนทหารคนไหนดูท่าจะมีแววบ้างหรือยัง ?”

“ผมเพิ่งจะเริ่มฝึกพวกเขาวันนี้เองบอส มันยังบอกไม่ได้หรอก” ชิงเฟิงตอบและพูดต่อ “ต่อให้ตอนนี้พวกเขาจะยังไม่ได้เรื่องก็เถอะ แต่ผมสามารถเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าและฝึกฝนพวกเขาให้เป็นพลังที่ดีของพวกเราได้!”

เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างยินดี เพราะความมั่นใจของเด็กคนนี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้ว่าชิงเฟิงจะเป็นคนที่โอ้อวดและขี้โม้เกินจริง หรือบางครั้งจะดูเหมือนเด็กที่ยังไม่โตอยู่บ้าง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสถานการณ์ที่ร้ายแรงและคับขัน เขาก็ไม่ประมาทเลยแม้แต่น้อย ทำให้เย่เชียนมีความเชื่อมั่นในตัวของชิงเฟิงอย่างมาก

ภายในออฟฟิศส่วนกลางนั้นมีแจ็ค ม่อหลงและอู๋หวนเฟิงนั่งอยู่ข้างในโดยมีสำรับชุดน้ำชากงฟู่ตั้งอยู่ตรงหน้าพวกเขา ชาในถ้วยยังคงมีควันสีขาวลอยอยู่เหนือถ้วย แสดงให้เห็นว่าถ้วยชาพวกนั้นยังร้อนอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียนเดินเข้ามา พวกเขาทั้งสามคนก็รีบลุกขึ้นและทักทายพร้อมกันว่า “บอส!”

เย่เชียนพยักหน้าเบา ๆ และนั่งลงบนโซฟา จากนั้นก็พูดว่า “ทุกคนนั่งลงก่อน แจ็ค! นายทำงานหนักมาก แถมยังต้องคอยดูแลจัดการเกี่ยวกับทุกอย่างที่นี่ให้ฉันอีก”

“เรื่องเล็กหน่าบอส นี่มันงานผมอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเลย” แจ็คพูด

เย่เชียนพยักหน้าให้แจ็คอย่างขอบคุณและหันไปหาอู๋หวนเฟิง เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า “หวนเฟิง! นายไม่ได้อยู่กับพี่หลันหลันหรอกเหรอ ? ถึงตอนนี้เซี่ยงไฮ้จะดูเหมือนผิวน้ำที่สงบก็จริง แต่ภายใต้ผิวน้ำนี้มีคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังพลุ่งพล่านซ่อนอยู่นะ นายจะประมาทไม่ได้ นายต้องคุ้มกันพี่หลันหลันสิ!”

“พี่หลันหลันไปที่สำนักงานตั้งแต่เช้าแล้ว เธอบอกผมว่าเธอจะอยู่ที่นั่นทั้งวัน เธอก็เลยอนุญาตให้ผมออกมาได้ ผมคิดว่าเธอคงจะไม่มีปัญหาอะไรที่สำนักงานของเราหรอก ผมก็เลยมาดูรอบ ๆ ที่นี่น่ะ” อู๋หวนเฟิงพูด

เย่เชียนรู้ว่าอู๋หวนเฟิงนั้นจริงใจและภักดีต่อกลุ่มเขี้ยวหมาป่ามาก เขาจึงไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรชิงเฟิง อันที่จริงเย่เชียนนั้นถามไปโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง เพราะเขาเป็นห่วงซ่งหลันมากเกินไป ทว่าเมื่อตระหนักดูแล้วมันก็แทบจะไม่มีใครที่สามารถมาทำร้ายซ่งหลันได้เลย ต่อให้ไม่มีอู๋หวนเฟิงอยู่คุ้มกัน แต่ซ่งหลันก็เคยเป็นถึงนักฆ่ามือหนึ่งขององค์กรดาร์คลิลลี่แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้ใช้ทักษะของเธอมานานหลายปีแล้ว แต่ถึงยังไงพญามังกรก็ยังเป็นพญามังกรอยู่วันยังค่ำ

“มีข่าวความเคลื่อนไหวของแก๊งชิงบ้างมั้ย ?” เย่เชียนถาม

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไร แค่ได้ยินมาว่าซือตู้ลิเหรินถูกไล่ออกจากแก๊งชิงแล้ว” ม่อหลงพูด

“โอ้…?” เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะกัดฟันถามด้วยความประหลาดใจว่า “ซือตู้ลิเหรินถูกไล่ออกเหรอพี่ ? ทำไมล่ะ ?”

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เมื่อคืนตอนที่ฉันกลับไปที่บาร์มนต์เสน่ห์น่ะ ซือตู้ลิเหรินถูกสมาชิกของแก๊งชิงลงโทษ จากนั้นก็โดนพวกเขาขับไล่ออกไป” ม่อหลงพูด

เย่เชียนขมวดคิ้วแน่น เขาไม่เข้าใจถึงแรงจูงใจของชิงแก๊งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลย ถึงแม้ว่าซือตู้ลิเหรินจะเป็นฝ่ายผิด แต่ฝ่ายเย่เชียนเองก็ถล่มพวกเขาเช่นกัน มันไม่มีทางที่พวกนั้นจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ เช่นนี้อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นแก๊งชิงจะสามารถมีจุดยืนอยู่ที่ไหนได้ในอนาคต ? ดูท่าหัวหน้าใหญ่ของแก๊งชิงจะไม่ใช่คนง่าย ๆ และเขาอาจเป็นคนที่ลึกลับมากอีกด้วย

“พี่ม่อหลง พี่ทำได้ดีมาก” เย่เชียนพูด

“บอส! พวกเรากำลังคิดว่าเหว่ยตงเซียงกรุ๊ปกำลังจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่! เพราะเราได้ข่าวมาว่าพวกนั้นน่ะจ้างทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬจากยุโรปมาไม่น้อยกว่าสิบคน ผมว่าพวกนั้นกำลังจะทำการใหญ่บางอย่างแน่ ๆ ” แจ็คพูด

“ทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬ ? พวกนั้นคือคนของฮันเตอร์ฟอลคอนจอห์นใช่มั้ย ?” เย่เชียนถาม

“ใช่! แต่ฮันเตอร์จอห์นไม่ได้มาที่นี่” แจ็คตอบ

“พวกทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬน่ะไม่ได้เก่งกาจอะไรนักหรอก อีกทั้งพวกเขายังไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงอะไรในโลกนี้ด้วย แต่ฮันเตอร์จอห์นผู้มีฉายาว่า เหยี่ยวดำทมิฬ นั้นเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย เขาเคยเป็นถึงผู้บังคับการกรมทหารลาดตระเวนพิเศษแห่งสหราชอาณาจักร และเขาก็เคยเข้าร่วมกับกองทัพรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติและปฏิบัติการทางทหารขององค์การนาโต้ที่อัฟกานิสถานอีกด้วย เขามีประสบการณ์มากมายในการรบและความสามารถในการต่อสู้ของเขาเองก็แข็งแกร่งมาก เสียอย่างเดียวเขาค่อนข้างขาดความสามารถและคุณสมบัติในการเป็นผู้นำ” เย่เชียนอธิบายช้า ๆ “แจ็ค! เดี๋ยวนายช่วยติดตามเรื่องของเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปกับกลุ่มทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬต่อไปแล้วกัน แต่อย่าเปิดเผยตัวตนของเราให้ใครรู้ล่ะ ฉันต้องการรู้ว่าแผนของพวกนั้นคืออะไรกันแน่”

“รับทราบครับบอส!” แจ็คตอบอย่างหนักแน่น

เย่เชียนพยักหน้าและพูดต่อ “อ่อ… แล้วนายช่วยจัดทำตารางรายละเอียดแผนการขยายสำนักงานและบริษัทให้ฉันด้วย ฉันจะต้องไปพบท่านหวังปิงคืนนี้ ฉันต้องการให้ธุรกิจเบื้องหน้าบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดของเราขยายกำลังไปทั่วเซี่ยงไฮ้ให้ได้”

“คืนนี้เลยเหรอ ?” แจ็คพูดด้วยความประหลาดใจ

“ทำไม ? มีปัญหาอะไรรึเปล่า ?” เย่เชียนถามด้วยความงุนงงเล็กน้อย

“เปล่าครับบอส มันแค่กะทันหันไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ผมว่าผมคงทำมันให้เสร็จได้ภายในคืนนี้ครับบอส!” แจ็คพูดอย่างกระตือรือร้น

เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็พูดต่อ “อีกเรื่องนึง นายช่วยตรวจสอบแก๊งชิง ชิงกรุ๊ป หงเหมินกรุ๊ปและเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปอย่างละเอียดให้ฉันที ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกทุกคน ยิ่งมีรายละเอียดมากเท่าไรก็ยิ่งดี”

“โอ้บอส… ถ้าบอสต้องการทั้งหมดนั่น ผมอาจต้องใช้เวลาสักพัก แต่เดี๋ยวจัดให้แน่นอนครับ!” แจ็คพูด

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้รีบขนาดนั้น นายเอามาแค่ข้อมูลที่เกี่ยวกับสมาชิกระดับสูงทั้งหมดอย่างละเอียด เน้นเฉพาะที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับรัฐบาลนะ เพราะสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับเรามากในอนาคต” เย่เชียนพูด

“รับทราบครับบอส!” แจ็คยังคงตอบอย่างหนักแน่น

เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อย เขาไม่เคยสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของแจ็คในการทำเรื่องพวกนี้เลย

“เอาล่ะ! ช่วงนี้พวกเราไม่ได้แลกเปลี่ยนทักษะกันเลยนะว่าไหม ? ทุกคนอยากจะออกไปซ้อมกันสักหน่อยมั้ยล่ะ ?” เย่เชียนฉีกยิ้มและพูดอย่างกระตือรือร้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดนักรบจอมราชัน 157 คลื่นลูกใหญ่ใต้ผืนน้ำ

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 157 คลื่นลูกใหญ่ใต้ผืนน้ำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อชิงเฟิงเห็นเย่เชียนเดินเข้ามา เขาก็รีบวิ่งไปหาพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

“บอส! บอสมาแล้ว” ชิงเฟิงพูด

เย่เชียนจ้องมองเขาแล้วถามด้วยความประหลาดใจว่า “อ้าว… นี่นายไม่ได้อยู่ในเมียนมาร์หรอกเหรอ ? ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ?”

“ผมเพิ่งมาถึงเมื่อคืนนี้เอง บอสก็รู้หนิว่าต่อให้ผมอยู่ที่นั่น ผมก็ช่วยอะไรมากไม่ค่อยได้ สู้ให้ผมมาช่วยงานอยู่ที่นี่น่าจะดีและเหมาะสมมากกว่า ฮ่า ๆ ๆ ” ชิงเฟิงหัวเราะและพูดต่อ “อีกอย่าง… แจ็คโทรมาบอกผมว่าเขาขาดกำลังคนอยู่ เขาต้องการความช่วยเหลือด้านการฝึกซ้อมประจำวันน่ะ ผมก็เลยมานี่แหละ ว่าแต่บอสคงจะไม่ใจร้ายไล่ผมกลับไปหรอกใช่มั้ย ?”

เย่เชียนส่ายหัว จากนั้นก็พูดว่า “เอาเถอะ ถึงยังไงนายก็มาอยู่ที่นี่แล้วนี่นะ”

ชิงเฟิงยิ้มกว้างและพูดด้วยความดีใจว่า “ต้องอย่างนี้สิบอสผม! ผมรู้ว่าบอสผมเนี่ยมีเหตุผลที่สุดแล้ว มามะ… ขอผมจูบเป็นการขอบคุณหน่อย!” ไม่เพียงพูดเปล่า แต่ชิงเฟิงยังขยับเข้าไปใกล้เย่เชียนและทำท่าเหมือนกับว่าเขานั้นกำลังจะจูบแก้มของเย่เชียนจริง ๆ

เย่เชียนเอามือผลักหน้าของชิงเฟิงต้านเอาไว้แทบไม่ทัน เขาพูดว่า “ไอ้บ้า! นี่ฉันไม่ใช่เกย์นะเว้ย แจ็คอยู่ไหน ? ฉันมีธุระต้องคุยกับเขา”

ชิงเฟิงหัวเราะอย่างมีความสุขและพูดว่า “ฮ่า ๆ ๆ ทุกคนอยู่ข้างในกันหมดแล้วบอส มา… เดี๋ยวผมพาไป”

พูดจบชิงเฟิงก็เดินนำเย่เชียนเข้าไปข้างใน เมื่อพวกเขาเดินผ่านนักเรียนทหารฝึกอบรม ชิงเฟิงก็กวาดสายตามองดูพวกเขาและพูดอย่างดุดันว่า “นักเรียนทุกคน! ฝึกท่าทางของทหารเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ปฏิบัติ!”

นักเรียนทหารฝึกอบรมต่างกระตือรือร้นในการฝึกอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาเย็นมากแล้ว แต่แสงอาทิตย์ก็ยังคงแผดเผาใบหน้าของเหล่านักเรียนทหารพวกนั้นอย่างร้อนแรง หน้าผากของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อชุ่ม ทว่าไม่มีนักเรียนทหารคนใดปริบากบ่นกันสักคำ แม้แต่ท่าทีไม่สบอารมณ์ใด ๆ ก็ไม่มีให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและเดินเข้าไปข้างใน “เป็นยังไงบ้าง ? นายเห็นนักเรียนทหารคนไหนดูท่าจะมีแววบ้างหรือยัง ?”

“ผมเพิ่งจะเริ่มฝึกพวกเขาวันนี้เองบอส มันยังบอกไม่ได้หรอก” ชิงเฟิงตอบและพูดต่อ “ต่อให้ตอนนี้พวกเขาจะยังไม่ได้เรื่องก็เถอะ แต่ผมสามารถเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าและฝึกฝนพวกเขาให้เป็นพลังที่ดีของพวกเราได้!”

เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างยินดี เพราะความมั่นใจของเด็กคนนี้นั้นไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้ว่าชิงเฟิงจะเป็นคนที่โอ้อวดและขี้โม้เกินจริง หรือบางครั้งจะดูเหมือนเด็กที่ยังไม่โตอยู่บ้าง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสถานการณ์ที่ร้ายแรงและคับขัน เขาก็ไม่ประมาทเลยแม้แต่น้อย ทำให้เย่เชียนมีความเชื่อมั่นในตัวของชิงเฟิงอย่างมาก

ภายในออฟฟิศส่วนกลางนั้นมีแจ็ค ม่อหลงและอู๋หวนเฟิงนั่งอยู่ข้างในโดยมีสำรับชุดน้ำชากงฟู่ตั้งอยู่ตรงหน้าพวกเขา ชาในถ้วยยังคงมีควันสีขาวลอยอยู่เหนือถ้วย แสดงให้เห็นว่าถ้วยชาพวกนั้นยังร้อนอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียนเดินเข้ามา พวกเขาทั้งสามคนก็รีบลุกขึ้นและทักทายพร้อมกันว่า “บอส!”

เย่เชียนพยักหน้าเบา ๆ และนั่งลงบนโซฟา จากนั้นก็พูดว่า “ทุกคนนั่งลงก่อน แจ็ค! นายทำงานหนักมาก แถมยังต้องคอยดูแลจัดการเกี่ยวกับทุกอย่างที่นี่ให้ฉันอีก”

“เรื่องเล็กหน่าบอส นี่มันงานผมอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเลย” แจ็คพูด

เย่เชียนพยักหน้าให้แจ็คอย่างขอบคุณและหันไปหาอู๋หวนเฟิง เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า “หวนเฟิง! นายไม่ได้อยู่กับพี่หลันหลันหรอกเหรอ ? ถึงตอนนี้เซี่ยงไฮ้จะดูเหมือนผิวน้ำที่สงบก็จริง แต่ภายใต้ผิวน้ำนี้มีคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังพลุ่งพล่านซ่อนอยู่นะ นายจะประมาทไม่ได้ นายต้องคุ้มกันพี่หลันหลันสิ!”

“พี่หลันหลันไปที่สำนักงานตั้งแต่เช้าแล้ว เธอบอกผมว่าเธอจะอยู่ที่นั่นทั้งวัน เธอก็เลยอนุญาตให้ผมออกมาได้ ผมคิดว่าเธอคงจะไม่มีปัญหาอะไรที่สำนักงานของเราหรอก ผมก็เลยมาดูรอบ ๆ ที่นี่น่ะ” อู๋หวนเฟิงพูด

เย่เชียนรู้ว่าอู๋หวนเฟิงนั้นจริงใจและภักดีต่อกลุ่มเขี้ยวหมาป่ามาก เขาจึงไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรชิงเฟิง อันที่จริงเย่เชียนนั้นถามไปโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง เพราะเขาเป็นห่วงซ่งหลันมากเกินไป ทว่าเมื่อตระหนักดูแล้วมันก็แทบจะไม่มีใครที่สามารถมาทำร้ายซ่งหลันได้เลย ต่อให้ไม่มีอู๋หวนเฟิงอยู่คุ้มกัน แต่ซ่งหลันก็เคยเป็นถึงนักฆ่ามือหนึ่งขององค์กรดาร์คลิลลี่แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้ใช้ทักษะของเธอมานานหลายปีแล้ว แต่ถึงยังไงพญามังกรก็ยังเป็นพญามังกรอยู่วันยังค่ำ

“มีข่าวความเคลื่อนไหวของแก๊งชิงบ้างมั้ย ?” เย่เชียนถาม

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไร แค่ได้ยินมาว่าซือตู้ลิเหรินถูกไล่ออกจากแก๊งชิงแล้ว” ม่อหลงพูด

“โอ้…?” เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะกัดฟันถามด้วยความประหลาดใจว่า “ซือตู้ลิเหรินถูกไล่ออกเหรอพี่ ? ทำไมล่ะ ?”

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เมื่อคืนตอนที่ฉันกลับไปที่บาร์มนต์เสน่ห์น่ะ ซือตู้ลิเหรินถูกสมาชิกของแก๊งชิงลงโทษ จากนั้นก็โดนพวกเขาขับไล่ออกไป” ม่อหลงพูด

เย่เชียนขมวดคิ้วแน่น เขาไม่เข้าใจถึงแรงจูงใจของชิงแก๊งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลย ถึงแม้ว่าซือตู้ลิเหรินจะเป็นฝ่ายผิด แต่ฝ่ายเย่เชียนเองก็ถล่มพวกเขาเช่นกัน มันไม่มีทางที่พวกนั้นจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ เช่นนี้อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นแก๊งชิงจะสามารถมีจุดยืนอยู่ที่ไหนได้ในอนาคต ? ดูท่าหัวหน้าใหญ่ของแก๊งชิงจะไม่ใช่คนง่าย ๆ และเขาอาจเป็นคนที่ลึกลับมากอีกด้วย

“พี่ม่อหลง พี่ทำได้ดีมาก” เย่เชียนพูด

“บอส! พวกเรากำลังคิดว่าเหว่ยตงเซียงกรุ๊ปกำลังจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่! เพราะเราได้ข่าวมาว่าพวกนั้นน่ะจ้างทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬจากยุโรปมาไม่น้อยกว่าสิบคน ผมว่าพวกนั้นกำลังจะทำการใหญ่บางอย่างแน่ ๆ ” แจ็คพูด

“ทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬ ? พวกนั้นคือคนของฮันเตอร์ฟอลคอนจอห์นใช่มั้ย ?” เย่เชียนถาม

“ใช่! แต่ฮันเตอร์จอห์นไม่ได้มาที่นี่” แจ็คตอบ

“พวกทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬน่ะไม่ได้เก่งกาจอะไรนักหรอก อีกทั้งพวกเขายังไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงอะไรในโลกนี้ด้วย แต่ฮันเตอร์จอห์นผู้มีฉายาว่า เหยี่ยวดำทมิฬ นั้นเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย เขาเคยเป็นถึงผู้บังคับการกรมทหารลาดตระเวนพิเศษแห่งสหราชอาณาจักร และเขาก็เคยเข้าร่วมกับกองทัพรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติและปฏิบัติการทางทหารขององค์การนาโต้ที่อัฟกานิสถานอีกด้วย เขามีประสบการณ์มากมายในการรบและความสามารถในการต่อสู้ของเขาเองก็แข็งแกร่งมาก เสียอย่างเดียวเขาค่อนข้างขาดความสามารถและคุณสมบัติในการเป็นผู้นำ” เย่เชียนอธิบายช้า ๆ “แจ็ค! เดี๋ยวนายช่วยติดตามเรื่องของเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปกับกลุ่มทหารรับจ้างเหยี่ยวดำทมิฬต่อไปแล้วกัน แต่อย่าเปิดเผยตัวตนของเราให้ใครรู้ล่ะ ฉันต้องการรู้ว่าแผนของพวกนั้นคืออะไรกันแน่”

“รับทราบครับบอส!” แจ็คตอบอย่างหนักแน่น

เย่เชียนพยักหน้าและพูดต่อ “อ่อ… แล้วนายช่วยจัดทำตารางรายละเอียดแผนการขยายสำนักงานและบริษัทให้ฉันด้วย ฉันจะต้องไปพบท่านหวังปิงคืนนี้ ฉันต้องการให้ธุรกิจเบื้องหน้าบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดของเราขยายกำลังไปทั่วเซี่ยงไฮ้ให้ได้”

“คืนนี้เลยเหรอ ?” แจ็คพูดด้วยความประหลาดใจ

“ทำไม ? มีปัญหาอะไรรึเปล่า ?” เย่เชียนถามด้วยความงุนงงเล็กน้อย

“เปล่าครับบอส มันแค่กะทันหันไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ผมว่าผมคงทำมันให้เสร็จได้ภายในคืนนี้ครับบอส!” แจ็คพูดอย่างกระตือรือร้น

เย่เชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็พูดต่อ “อีกเรื่องนึง นายช่วยตรวจสอบแก๊งชิง ชิงกรุ๊ป หงเหมินกรุ๊ปและเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปอย่างละเอียดให้ฉันที ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกทุกคน ยิ่งมีรายละเอียดมากเท่าไรก็ยิ่งดี”

“โอ้บอส… ถ้าบอสต้องการทั้งหมดนั่น ผมอาจต้องใช้เวลาสักพัก แต่เดี๋ยวจัดให้แน่นอนครับ!” แจ็คพูด

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้รีบขนาดนั้น นายเอามาแค่ข้อมูลที่เกี่ยวกับสมาชิกระดับสูงทั้งหมดอย่างละเอียด เน้นเฉพาะที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับรัฐบาลนะ เพราะสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับเรามากในอนาคต” เย่เชียนพูด

“รับทราบครับบอส!” แจ็คยังคงตอบอย่างหนักแน่น

เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อย เขาไม่เคยสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของแจ็คในการทำเรื่องพวกนี้เลย

“เอาล่ะ! ช่วงนี้พวกเราไม่ได้แลกเปลี่ยนทักษะกันเลยนะว่าไหม ? ทุกคนอยากจะออกไปซ้อมกันสักหน่อยมั้ยล่ะ ?” เย่เชียนฉีกยิ้มและพูดอย่างกระตือรือร้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+