ยอดนักรบจอมราชัน 693 พิธีเปิดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 693 พิธีเปิดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 693 พิธีเปิดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้

ความกังวลของซ่งหลันนั้นไม่ได้ไร้เหตุผลเพราะไม่ว่าจะเป็นสมาคมมังกรดำหรือเหล่าตระกูลนินจานั้นพวกเขาล้วนเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าเป้าหมายของพวกเขาจะมีเจตจำนงที่เห็นแก่ตัวก็มีเจตนาที่จะพัฒนาชาติของตนอย่างแท้จริง ดังนั้นในการเผชิญกับศัตรูนั้นพวกเขาก็ย่อมทำทุกอย่างให้บรรลุผลและแน่นอนว่าองค์กรทหารรับจ้างเป็นคนนอกสำหรับพวกเขาเสมอและไม่ว่าความขัดแย้งระหว่างสมาคมมังกรดำกับเหล่าตระกูลนินจาจะลึกซึ้งแค่ไหนก็ตามแต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูต่างชาติแล้วมันก็เป็นไปได้มากที่พวกเขาจะละทิ้งความคับข้องใจส่วนตัวของพวกเขาเอาไว้และสงบศึกชั่วคราวแล้วหันมาจัดการศัตรูภายนอกอย่างองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก่อน

แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่สมาคมมังกรดำจะสงบศึกกับตระกูลฟูมะและสำนักนินจาอิงะผ่านการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้เพราะท้ายที่สุดแล้วทั้งสองฝ่ายก็อยู่ในภาวะทางตันและการต่อสู้กันต่อไปก็จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเจ็บปวดและมีบาดแผลเพิ่มเท่านั้น

แต่ถ้าหากทั้งสองฝ่ายตกลงสงบศึกกันได้ล่ะก็สถานการณ์ของเย่เชียนก็จะเลวร้ายอย่างยิ่ง

เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องกังวลไปผมจะระวังตัวเอาไว้..นอกจากนี้ยังมีพี่หลินที่คอยปกป้องผมอยู่และยังนอกจากพี่หลินก็ยังมีพี่ไป๋ฮวยที่พร้อมช่วยเหลือผมเพราะงั้นพี่หลันสบายใจได้เลย..อีกอย่างผมจะไม่ยอมให้พวกเขาสงบศึกกันหรอก..ถ้าสถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นมันยังวุ่นวายไม่พอผมก็จะทำให้มันเกิดความโกลาหลมากกว่าเดิม..ต่อให้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปยังไม่สามารถควบคุมเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นได้ในตอนนี้ก็ตามแต่เราจะสร้างโอกาส..ตราบใดที่เราพยายามผมก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!”

“ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดีแต่ความมั่นใจในตนเองมากเกินไปนั้นมันจะเป็นผลเสีย” ซ่งหลันพูด “ฉันรู้จัดคาเอดะมาสักระยะหนึ่งแล้วเขาเป็นคนที่ฉลาดมาก..นายต้องระวังเวลาพูดอะไรด้วย..นอกจากนี้หากพวกเขาสามารถบรรลุข้อตกลงสงบศึกกันได้ล่ะก็บางทีคาเอดะอาจจะหลอกใช้นายเพื่อแสดงความจริงใจในการร่วมมือกับสมาคมมังกรดำก็เป็นได้..เพราะงั้นนายควรระวังให้มากกว่านี้”

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปผมจะติดต่อชิงเฟิงแล้วให้เขาเฝ้าระวังสิ่งต่างๆเอาไว้..ถึงแม้ว่าคาเอดะจะฉลาดแต่ผมก็ไม่ได้โง่สักหน่อยเพราะงั้นผมจะระวังเอาไว้..นอกจากนี้สมาคมมังกรดำก็ยังเสียเปรียบพวกเราอยู่..ผมไม่เชื่อหรอกว่าชิบะชิเงโอะจะไม่สนใจความปลอดภัยของลูกสาวของเขาเลย”

หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “อ๋อผมลืมไป..ผมได้ยินมาว่าในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปของเราก็เป็นสปอนเซอร์ด้วยใช่ไหม?..ทำไมเราไม่ขึ้นไปบนเวทีแล้วพูดอะไรสักสองสามคำเพื่อแสดงจุดยืนของพวกเราและเพิ่มชื่อเสียงของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปล่ะ?” เย่เชียนเหลือบมองคาเอดะที่กำลังพูดคุยกับแขกอยู่ข้างนอกแล้วพูดกับซ่งหลัน

“ถึงแม้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปจะเป็นสปอนเซอร์แต่มันก็เป็นเพียงการสนับสนุนเงินเพื่อหน้าตาของบริษัทเท่านั้น..แบบนี้ฉันจะไปคว้าจุดสนใจของทุกคนได้ยังไง?..นอกจากนี้การจัดการแข่งขันนี้ขึ้นมาฟูมะกรุ๊ปก็สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว..แต่ที่พวกเขาทำแบบนี้ก็เพื่อการฟอกเงินของบริษัทฟูมะกรุ๊ป” ซ่งหลันพูด

“ว่าแต่พี่หลัน..พี่รู้จักผู้หญิงคนที่อยู่ข้างๆคาเอดะไหม?” เย่เชียนถาม

“นายกำลังพูดถึงนากาซาวะเคโกะหรือเปล่า?..ฉันเคยเจอเธอหลายครั้งแต่ฉันก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย..ฉันรู้แค่ว่าเธอคือผู้ช่วยของคาเอดะและคนรักของเขา..ส่วนรายละเอียดนอกเหนือจากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรเลย” ซ่งหลันถามต่อ “ทำไมเหรอ..เธอมีปัญหาอะไร?”

“รอบๆตัวเธอแปลกๆน่ะเธอคล้ายกับชิบะโชโกะและผู้หญิงของเซี่ยตงไป่..เพราะงั้นผมกับพี่หลินจึงสงสัยว่าพวกเธอทั้งหมดมาจากสำนักชาโด้ซากุระ” เย่เชียนพูด

“ชาโด้ซากุระ?” คิ้วของซ่งหลันก็ขมวดเข้าหากัน “พวกชาโด้ซากุระส่งคนไปแฝงตัวอยู่กับเซี่ยตงไปและคาเอดะเพื่ออะไร?..องค์กรชาโด้ซากุระมีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักนินจาอิงะกับแก๊งฝูชิงงั้นเหรอ?..หรือร่วมมือกัน?”

“ไม่รู้สิพวกเราก็แค่สงสัยเพราะถ้าพวกนั้นคือคนของชาโด้ซากุระจริงๆสถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นคงไม่ง่ายอย่างที่เราเห็นเป็นแน่” เย่เชียนพูดต่อ “จุดประสงค์ของพวกสำนักนินจาอิงะคืออะไรและพวกชาโด้ซากุระนั้นมีจุดประสงค์อะไรและอยู่ฝ่ายไหน?..ใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดกันแน่..มันช่างน่ากลัวจริงๆผมเกรงว่ามันอาจจะยากยิ่งกว่าการรับมือกับสมาคมมังกรดำซะอีก” เย่เชียนพูด

“ที่สำคัญกว่านั้นพวกช้าโด้ซากุระทำตัวลึกลับและเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร..สิ่งนี้จะขัดขวางเราอย่างมากจากการทำสิ่งต่างๆในอนาคตและพวกเราจะต้องลำบากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” หลินเฟิงพูดต่อ “สิ่งต่างๆในประเทศญี่ปุ่นเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆเพราะงั้นเราต้องดำเนินการทีละขั้นตอนและระมัดระวังในการดำเนินการแผนต่างๆของเราในอนาคต..ไม่งั้นเราจะสูญเสียทุกครั้งที่เราทำผิดพลาด”

“พูดถึงเรื่องนี้ฉันจำได้อยู่อย่างหนึ่ง..แต่ฉันไม่รู้ว่าเมื่อกี้พวกนายสังเกตเห็นหรือเปล่า” ซ่งหลันพูด

“หืม..อะไรหรอ?” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจ

“ก่อนหน้านี้ตอนที่เราเดินผ่านทางเดินวีไอพี..คนคนนั้นคือดันโซบายาชิไม่ใช่เหรอ?…” ซ่งหลันพูด

“พี่หลันหมายถึงดันโซบายาชิผู้นำตระกูลดันโซอย่างงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูดต่อ “ใช่..ผมพบกับเขาเมื่อครู่นี้แต่ก็ไม่มีอะไรมันเป็นเพียงการทักทายปกติ”

“อาจเป็นเพราะนายเป็นผู้ชายเพราะงั้นนายจึงไม่เข้าใจการกระทำของผู้หญิง” ซ่งหลันพูด “เมื่อดันโซบายาชิและคาเอดะทักทายกันเมื่อครู่นี้ฉันสังเกตเห็นว่านากาซาวะเคโกะขยิบตาให้กับดันโซบายาชิอย่างลับๆ..ถ้าฉันเดาไม่ผิดนากาซาวะเคโกะต้องมีบางอย่างกับดันโซบายาชิแน่ๆ..ซึ่งถ้าหากนากาซาวะเคโกะคือคนของชาโด้ซากุระล่ะก็เรื่องนี้ค่อนข้างจะน่าสนใจเลยทีเดียว..การที่เธอปลอมตัวมาเป็นผู้ช่วยของคาเอดะแบบนี้จุดประสงค์คืออะไรกันแน่?”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งหลันพูดคิ้วของเย่เชียนก็ขมวดเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้เพราะเมื่อนึกถึงสิ่งที่ไป๋ฮวยพูดแล้วทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะค่อยๆชัดเจนขึ้น เพราะไป๋ฮวยบอกเย่เชียนเอาไว้ว่าการลอบสังหารคาเอดะในร้านอาหารดูเหมือนจะเป็นแผนการของตระกูลดันโซและดันโซบายาชินั้นวางแผนใส่ร้ายป้ายสีให้ตระกูลฮัตโตริ ตามที่ซ่งหลันเพิ่งพูดออกไปดันโซบายาชิและนากาซาวะเคโกะได้สมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้วและเป้าหมายก็คือการกำจัดตระกูลฟูมะนั่นเอง

ในแง่ของพลังคาเอดะนั้นไม่ได้ด้อยกว่าดันโซบายาชิเลยและในแง่ของรูปลักษณ์นั้นคาเอดะก็ดูดีกว่าดันโซบายาชิมากเนื่องจากดันโซบายาชินั้นอายุมากแล้ว ดังนั้นจากมุมมองปกติมันไม่มีเหตุผลใดที่นากาซาวะจะเลือกดันโซบายาชิเลย ดังนั้นสัญญาณทุกประเภทดูเหมือนจะชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่านากาซาวะเคโกะนั้นเข้าหาคาเอดะเพื่อจุดประสงค์อื่นและถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนของชาโด้ซากุระก็ตามแต่เธอต้องมีแผนการอื่นๆอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเนื่องจากนากาซาวะเคโกะสามารถหลอกคนอย่างคาเอดะได้จึงไม่มีใครสามารถรับประกันได้เลยว่าเธอจะไม่ใช้คนของชาโด้ซากุระและยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากนากาซาวะเคโกะเป็นคนของชาโด้ซากุระจริงๆเธอก็อาจจะมีจุดประสงค์อื่นในการเข้าหาดันโซบายาชิเช่นกัน

“สิ่งที่พี่หลันพูดออกมามีประโยชน์มาก..ดูเหมือนว่าผมควรให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากขึ้น” เย่เชียนพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าบางครั้งการมีผู้หญิงอยู่เคียงข้างก็มีประโยชน์เหมือนกันนะเนี่ย”

ซ่งหลันก็เหลือบมองเย่เชียนด้วยหางตาแล้วพูดว่า “ผู้หญิงไม่ใช่แค่มีประโยชน์สำหรับเรื่องนี้เท่านั้นหรอกนะ..นายกำลังดูถูกผู้หญิงและประเมินพวกเราต่ำเกินไป!”

เย่เชียนก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ฮ่าๆ..ไม่หรอกเพราะผู้หญิงยังคงมีประโยชน์สำหรับวัตถุประสงค์หลายอย่าง..เช่นการทำอาหาร..การซักเสื้อผ้าและมีลูกให้..ผู้หญิงยังต้องทำสิ่งเหล่านี้ด้วย”

ซ่งหลันก็จ้องเขม็งไปที่เย่เชียนแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “จำสิ่งที่นายพูดในวันนี้เอาไว้..แล้วคอยดูว่าฉันจะเอาไปบอกกับสาวๆที่บ้านหรือเปล่า..พวกเธอจะดูแลนายหรือเปล่าก็คอยดูเถอะ”

เย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วเปลี่ยนเรื่องโดยพูดว่า “ดูเหมือนว่างานจะเริ่มแล้ว..ดูสิ”

การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการแข่งขันระดับโลกโดยมีผู้แข่งขันหลายพันคนจาก 20 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศจีน,ประเทศสหรัฐอเมริกา,ประเทศไอซ์แลนด์,ประเทศเยอรมัน,ประเทศบราซิล,ประเทศเกาหลีและประเทศไทยเป็นต้น จากนั้นจึงนำระบบคัดออกเพื่อเลือกผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดแปดคนเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะอิงจากระบบการให้คะแนนและสุดท้ายก็จะกำหนดแชมป์และรองชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับ 3 ตามจำนวนคะแนนที่ทำได้ ซึ่งแชมป์เปี้ยนได้รับรางวัลเป็นเงิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

เมื่อเผชิญกับเงินรางวัลที่น่าดึงดูดมหาศาลเช่นนี้จึงมีผู้เข้าแข่งขันนับไม่ถ้วนและผู้ชมที่แห่กันมาที่ประเทศญี่ปุ่นและทุกคนก็ต้องการที่จะมีชื่อเสียงและร่ำรวยในชั่วข้ามคืนกันทั้งนั้น

เนื่องจากเป็นการแข่งขันระดับโลกดังนั้นศิลปะการต่อสู้ทุกประเภทจึงแบ่งกันออกเป็น ศิลปะการต่อสู้แบบมือเปล่า,มวยสากลและมวยไทย เป็นต้น ซึ่งคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชมอย่างมาก อย่างไรก็ตามผู้เข้าแข่งขันที่เข้าร่วมไม่ทราบว่ามีหลายวิธีในเรื่องนี้ และพวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าโบนัสที่กำหนดเอาไว้ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของกำไรที่บริษัทฟูมะกรุ๊ปได้รับและแต่ถึงพวกเขาจะรู้มันก็ไม่ขัดขวางความคืบหน้าของการแข่งขันเพราะท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็อยากจะเอาเงินรางวัลแชมป์ 5 ล้านไปครอง ไม่ต้องพูดถึงแผนการตลาดเพื่อการพัฒนาที่ตามมาที่อำนวยความสะดวกการเงินให้พวกเขาในอนาคตด้วย ซึ่งมันถูกเปิดตัวโดยฟูมะกรุ๊ปเช่นดาราศิลปะการต่อสู้และโฆษณารับรอง ฯลฯ สิ่งนี้จะนำมาซึ่งทั้งชื่อเสียงและโชคลาภ

อย่างไรก็ตามการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้ชนะจะเป็นที่ 1 ของโลกเพราะท้ายที่สุดก็ยังมีปรมาจารย์ผู้ทรงพลังมากมายทั่วโลกที่ไม่อยากจะเข้าร่วมการแข่งขันเหล่านี้แต่แน่นอนว่าการแข่งขันนี้ก็ยังคงน่าสนใจอย่างมาก

ในรอบแรกมีผู้เข้าแข่งขันมากกว่าหนึ่งพันคนที่จะถูกคัดออกไปครึ่งหนึ่งและชื่อของผู้เข้าแข่งขันจะถูกป้อนลงในคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ก็จะจับคู่โดยอัตโนมัติอย่างเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการทำงานของการทุจริตต่างๆ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็มีไว้สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องราวภายในเท่านั้นเพราะถึงแม้ว่ามันจะถูกป้อนลงในคอมพิวเตอร์แต่ผู้จัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ก็ยังคงสามารถดำเนินการทุจริตและปรับแต่งการแข่งขันได้เสมอ อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เย่เชียนกังวลและเขาก็ไม่สนใจที่จะให้ความสนใจในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

ซึ่งด้วยทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนนั้นอย่างน้อยๆเย่เชียนก็สามารถเข้ารอบลึกๆได้ใช่ไหม?

หลังจากพิธีเปิดอย่างอลังการงานสร้างแล้วคาเอดะก็กล่าวสุนทรพจน์อย่างเรียบง่ายและประกาศการเริ่มต้นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ซึ่งรายชื่อผู้เข้าแข่งขัน 1,200 คนในการแข่งขันก็ยังคงเลื่อนไปมาบนหน้าจอขนาดใหญ่และคอมพิวเตอร์ก็จับคู่การแข่งขันโดยอัตโนมัติ ซึ่งรอบเบื้องต้นจะแบ่งออกเป็นสามสถานที่โดยแต่ละแห่งมีหน้าจอขนาดใหญ่ 2 แห่งและสามารถดูสถานที่อีกสองแห่งได้พร้อมๆกันอย่างครบครัน

“ฉันไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นคู่ต่อสู้คนแรกของนาย” หลินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

.

.

.

.

.

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด