ยอดนักรบจอมราชัน 699 สงสัย
ตอนที่ 699 สงสัย
เมื่อเสียงของฮัตโตริชิฮิโระจบลงเขาก็ค่อยๆเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นเช่นนั้นฟูมะฮายาคุจิขมวดคิ้วและการแสดงออกของเขาก็ดูไม่สบอารมณ์อย่างมากเพราะฮัตโตริชสฮิโระคนนี้โอหังเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็เป็นถึงผู้นำของสำนักนินจาอิงะแต่ฮัตโตริชิฮิโระคนนี้ไม่ไว้หน้าเขาเลย ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลฟูมะกำลังตกอยู่ในความวุ่นวายเมื่อเร็วๆนี้ล่ะก็เขาคงจะกำจัดตระกูลฮัตโตริไปเสียแล้ว
ฮัตโตริชิฮิโระก็เหลือบมองไปที่เย่เชียนแล้วพูดว่า “โอ้..แขกที่ว่าเป็นราชาหมาป่าผู้โด่งดังอย่างคุณเย่เชียนนี่เอง..ช่างเหมาะสมกับการเป็นแขกผู้มีเกียรติจริงๆ..ไม่น่าแปลกใจที่ผู้อาวุโสฟูมะจะมาต้อนรับด้วยตัวเอง”
เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆซึ่งเมื่อประกอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้านี้เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ฮัตโตริชิฮิโระมาที่นี่ ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้คิดว่าฮัตโตริชิฮิโระมาช่วยเขาก็ตามแต่ฮัตโตริชิฮิโระคนนี้ก็มีความคิดอยากจะตกลงบางอย่างกับตนและไม่ว่าเขาจะต้องการกำจัดตระกูลฟูมะหรือเพราะเขาเกลียดชังตระกูลฟูมะก็ตามแต่ตราบใดที่ฮัตโตริชิฮิโระมีความคิดที่จะเป็นพันธมิตรกับตนแล้วเย่เชียนก็ยินดีที่จะร่วมมือกับฮัตโตริชิฮิโระเพื่อกำจัดศัตรูร่วมกัน
ถึงแม้ว่าเย่เชียนกับสมาคมมังกรดำจะเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันก็ตามแต่ตระกูลนินจาเหล่านี้ก็จะต้องเป็นศัตรูของเขาในไม่ช้าก็เร็วอยู่ดี ไม่ว่าในกรณีใดเย่เชียนก็ต้องกำจัดกับพวกเขาไม่เช่นนั้นเหล่าตระกูลนินจาก็อาจจะเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเขาในอนาคตอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นเช่นนั้นฟูมะฮายาคุจิก็พูดว่า “ผู้อาวุโสฮัตโตริ..จู่ๆคุณก็ถือวิสาสะเข้ามาในบ้านของผมแบบนี้ไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
“ผู้อาวุโสฟูมะคุณหมายความว่ายังไงที่ผมถือวิสาสะเข้ามาน่ะ..ผมเดินเข้ามาจากประตูอย่างเปิดเผยและยิ่งไปกว่านั้นผมก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของสำนักนินจาอิงะเพราะงั้นผมเข้ามาไม่ได้งั้นหรือ?..อีกอย่างการที่ผมจะเข้ามารายงานสิ่งต่างๆมันก็ไม่ได้ผิดกฏของสำนักหนิ?” ฮัตโตริชิฮิโระพูด
“หืม..ไม่ทราบว่ามีเรื่องสำคัญอะไรหรือ..ผู้อาวุโสอย่างคุณถึงต้องมารายงานด้วยตัวเอง” ฟูมะฮายาคุจิพูด
“อย่างแรกเลยผมอยากจะถามผู้อาวุโสฟูมะว่าตระกูลฟูมะจะจัดการกับลูกหลานที่ไม่เคารพผู้อาวุโสอย่างไร?” ฮัตโตริชิฮิโระพูด
ฟูมะฮายาคุจิก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและรู้สึกว่าวันนี้ฮัตโตริชิฮิโระมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่วุ่นวายเช่นนี้ถ้าหากฮัตโตริชิฮิโระไม่เปิดเผยอะไรออกมาเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก “เรื่องนี้ก็แล้วแต่สถานการณ์เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสำนักอิงะของเราคือวินัยและกฎเกณฑ์..ดังนั้นหากรุ่นหลานหรือสมาชิกทำตัวหยิ่งผยองกับผู้อาวถโสผู้มันก็ต้องมีบทลงโทษอยู่แล้ว” ฟูมะฮายาคุจิพูด “หืม..มีใครทำให้ผู้อาวุโสฮัตโตริขุ่นเคืองหรือเปล่า?..ไม่ทราบว่าสมาชิกคนใดที่กล้าถึงขนาดนั้น?”
“ถึงตระกูลฮัตโตริของผมจะไม่รุ่งโรจน์เหมือนแต่ก่อนแต่ตระกูลของผมก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะมาเย้ยหยันหรือดูถูกได้..ตราบใดที่ผมยังอยู่มันจะไม่มีใครสามารถรังแกตระกูลฮัตโตริของผมได้..เรื่องของเรื่องก็คือตอนที่ผมไปชมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้เพื่อทดสอบลูกศิษย์ในสำนักของเราแต่ทว่าหลังการแข่งขันจบคุณคาเอดะไม่เพียงแต่ไม่เคารพเท่านั้นแต่ยังมีถ้อยคำที่ดูถูกและเย้ยหยันทั้งดูหมิ่น..ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ผู้อาวุโสฟูมะล่ะก็ผมคงจะสั่งสอนไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว.. อย่างไรก็ตามผมก็หวังว่าผู้อาวุโสฟูมะจะมอบความยุติธรรมให้แก่ผม..ไม่งั้นในฐานะผู้อาวุโสแล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?” ฮัตโตริชิฮิโระพูด
“ผู้อาวุโสฮัตโตรินี่คุณพูดเกินจริงไปหรือเปล่า..คุณเย่กับคุณซ่งก็อยู่ที่นั่นด้วยและพวกเขาก็สามารถเป็นพยานได้เพราะงั้นผู้อาวุโสฮัตโตริอย่าพูดอะไรที่มันเกิดจริงจะดีกว่า..คุณต่างหากลองย้อนกลับไปเมื่อเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งสุดท้ายสิ่งต่างๆมันชัดเจนว่าเป็นคุณ..ถ้าคุณทำก็ยอมรับมาเถอะผมจะปล่อยมันไปสักครั้ง..แต่คุณยังกล้าพูดแบบนี้อยู่อีกหรือ?” Difeng พ่นลมอย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบายใจ
ฮัตโตริชิฮิโระก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้อาวุโสฟูมะ..คุณได้ยินมันด้วยหูของตัวเองหรือ?..ผมจะไปโกหกคุณทำไม..ผมอยู่ในสำนักอิงะมานานหลายปีแล้วผมไม่ใช่คนประเภทกลับกลอกโดยการใส่ร้ายคนอื่นโดยไม่มีมูลเหตุและหลักฐาน..มันดูไร้เหตุผลไปหน่อยและผมก็เชื่อว่าผู้อาวุโสฟูมะคงจะไม่ลืมเรื่องเมื่อสองปีที่แล้วที่ลูกหลานตระกูลฮัตโตริของผมเพียงแค่พูดคำบางคำที่ไม่พึงประสงค์แต่ผู้อาวุโสฟูมะกลับลงโทษเขาอย่างรุนแรงและล้มเลิกการฝึกศิลปะการต่อสู้ของเขาและขับไล่เขาออกสำนักอิงะไป.. เพราะงั้นสำหรับเรื่องของวันนี้ผมก็หวังว่าผู้อาวุโสฟูมะจะให้ความยุติธรรมแก่ผมไม่เช่นนั้นตระกูลฮัตโตริของผมจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป”
เมื่อ 2 ปีที่แล้วมีเด็กหนุ่มผู้มากพรสวรรค์ในตระกูลฮัตโตริและไม่ว่ามันจะเป็นกลยุทธ์ของทักษะการต่อสู้และสติปัญญาที่เฉียบแหลมก็ตามเขาก็ไม่แพ้คาเอดะเลย ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วแน่นอนว่าฟูมะฮายาคุจิจึงไม่เต็มใจที่จะเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้เพราะคนของตระกูลฮัตโตริก็มีแนวโน้มที่จะคว้าตำแหน่งผู้สืบทอดในรุ่นต่อไปของสำนักนินจาอิงะ ดังนั้นฟูมะฮายาคุจิจึงบังเอิญพบข้ออ้างที่จะตัดอนาคตของเด็กหนุ่มคนนั้นและขับไล่เขาออกจากสำนักนินจาอิงะไป ในตอนนั้นฮัตโตริชิฮิโระก็ไปทำงานที่ต่างประเทศเขาจึงไม่รู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเขากลับมาความหวังและความพยายามที่จะกอบกู้ตระกูลฮัตโตริกลับคืนมานั้นก็แหลกสลายไปในทันที
ซึ่งในตอนนี้มันแตกต่างออกไปเพราะตระกูลฟูมะกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อนและพวกเขาก็กำลังดิ้นรนเพื่อครอบครองสำนักอิงะ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถรักษาเสถียรภาพได้ในตอนนี้แต่เมื่อใดที่การเลือกตั้งพรรครัฐบาลสิ้นสุดลงมันก็จะมีการต่อสู้ระหว่างมังกรกับเสือและนี่คือสิ่งที่ฮัตโตริชิฮิโระคาดหวังเอาไว้ แน่นอนว่าฟูมะฮายาคุจิเองก็สามารถมองเห็นได้เช่นกันเพราะถ้าหากตระกูลฮัตโตริประสบกับปัญหาในช่วงเวลานี้ล่ะก็พวกเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะพลิกกลับเลย ซึ่งเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ตระกูลฮัตโตริได้ดูแลสิ่งที่สำคัญที่สุดในสำนักนินจาอิงะและนั่นก็คือหน่วยข่าวกรองและแหล่งข้อมูลที่ตระกูลฮัตโตริครอบครองนั้นก็เหนือจินตนาการและไม่มีใครเทียบได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นฟูมะฮายาคุจิที่เฝ้ามองสิ่งนี้มาเป็นเวลานานเขาก็ไม่มีโอกาสเลย ดังนั้นเมื่อใดที่ตระกูลฮัตโตรี่ก่อกบฏต่อสำนักนนินจาอิงะล่ะก็มันจะทำให้สำนักนินจาอิงะสูญเสียไม่น้อยและทำให้เสถียรภาพของสำนักอิงะลดลงไปอย่างมาก แต่ที่สำคัญกว่านั้นข้อมูลต่างๆของสำนักอิงะก็จะรั่วไหล และพวกเขาก็จะอ่อนแอลงอย่างมาก
“ผู้อาวุโสฮัตโตริผมหวังว่าคุณจะเข้าใจนะว่าความอดทนของคนๆหนึ่งมีขีดจำกัด..อย่าคิดว่าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่ตระกูลฮัตโตริทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา..เพราะงั้นลืมมันไปซะอย่าทำให้เรื่องเล็กมันกลายเป็นเรื่องใหญ่เลย..ส่วนการลอบสังหารครั้งก่อนเราจะไม่พูดถึงมันอีก..ไม่งั้นมันจะแย่สำหรับเราทุกคน” ฟูมะฮายาคุจิก็ปกป้องหลานชายที่เคยถูกคุกคามและข่มขู่และ จุดประสงค์ก็คือการทำให้ฮัตโตริชิฮิโระไม่สบอารมณ์และรอโอกาสที่เหมาะสมแล้วถอนรากถอนโคนตระกูลฮัตโตริเพื่อขจัดปัญหาในอนาคตออกไป
ฮัตโตริชิฮิโระก็ชัดเจนมากเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและในตอนนี้มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกำจัดคาเอดะเพราะเขาคือผู้สืบทอดรุ่นต่อไปของตระกูลฟูมะและเป็นความหวังสำหรับอนาคต ดังนั้นฟูมะฮายาคุจิจะไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายคาเอดะได้อย่างแน่นอนและเหตุผลที่ฮัตโตริชิฮิโระทำเช่นนี้ก็เพียงเพื่อเตือนฟูมะฮายาคุจิและเมื่อตระกูลฮัตโตริทำสิ่งต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้วฟูมะฮายาคุจิก็ทำอะไรไม่ได้อีก ซึ่งนี่คือเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเขาถึงหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาและเมื่อฮัตโตริชิฮิโระกำลังจะเอ่ยปากพูดต่อเย่เชียนก็ขัดจังหวะเขา
“เมื่อพูดถึงครั้งก่อนที่คุณคาเอดะถูกลอบสังหารในร้านอาหารผมก็บังเอิญอยู่ที่นั่นด้วยและได้สอบสวนเรื่องนี้หลังจากนั้นและมันทำให้ผมรู้อะไรบางอย่าง..ไม่ทราบว่าพวกคุณอยากที่จะฟังหรือเปล่า?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
ฮัตโตริชิฮิโระก็ถึงกับตกตะลึงและหันไปมองเย่เชียนจากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ผมอยากฟังคุณเย่..ถ้าคุณมีข้อมูลอะไรคุณก็พูดมันออกมาตรงๆได้เลย..ผมไม่ชอบพวกลับหลัง!”
ฟูมะฮายาคุจิก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจกับคำพูดที่เย้ยหยันของฮัตโตริชิฮิโระ แต่ในขณะนี้ก็มีคนนอกอย่างเย่เชียนและซ่งหลันดังนั้นเขาจึงต้องเก็บอาการเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ต้องการให้เย่เชียนเห็นความโกลาหลภายในสำนักนินจาอิงะ “คุณเย่มีเรื่องอะไรจะพูดหรือ..ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันเรื่องอะไร” ฟูมะฮายาคุจิพูด
“ก่อนที่ผมจะพูดออกมา..อย่างแรกผมอยากจะเข้าใจสิ่งหนึ่งก่อน..คุณคาเอดะครับทำไมคุณถึงสงสัยว่าการลอบสังหารครั้งก่อนเป็นคำสั่งของผู้อาวุโสฮัตโตริ?” เย่เชียนพูด “ในเมื่อคุณพูดแบบนั้นออกมาคุณก็ต้องมีหลักฐานหรือมูลเหตุด้วย..เพราะงั้นคุณต้องอธิบายให้ชัดเจน”
“ใช่!..ผมก็อยากจะรู้ว่าทำไมคุณถึงสงสัยผม” ฮัตโตริชิฮิโระพูด
คาเอดะก็หันไปเหลือบมองฟูมะฮายาคุจิและหลังจากเห็นว่าปู่ของเขาพยักหน้าตอบคาเอดะก็พูดว่า “นินจาสี่คนที่มาลอบสังหารผมในตอนนั้นผมได้สืบข้อมูลมาว่าพวกเขาเป็นคนของตระกูลฮัตโตริเพราะถ้าเป็นนินจาจากตระกูลดันโซพวกเขาก็คงจะไม่ส่งคนมาสามสี่คนเพื่อลอบสังหารผมหรอก..ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ควรจะส่งนินจาที่มีความสามารถมากกว่านี้มา..ดังนั้นแน่นอนว่าจุดประสงค์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการใส่ร้ายป้ายสีตระกูลดันโซและเบี่ยงเบนผู้ที่อยู่เบื้องหลัง..ผมได้ขอให้นากาซาวะเคโกะสืบค้นข้อมูลต่างๆแล้วและข้อมูลต่างๆก็ชี้ไปที่ผู้อาวุโสฮัตโตริ..ดังนั้นผมจึงสงสัยว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการของผู้อาวุโสฮัตโตริ”
.
.
.
.
.
.
.
Comments