ยอดรักชายาอัปลักษณ์ 251 ปฏิเสธที่จะกลับ

Now you are reading ยอดรักชายาอัปลักษณ์ Chapter 251 ปฏิเสธที่จะกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ท่านนายพลหนิง จิ่นอ๋องส่งคนมาขอรับ”

 

 

สายตาอันว่างเปล่าของหนิงอวี้เป็นประกายขึ้นมาทันใด นางชำเลืองขึ้นช้าๆ ก็เห็นคนแปลกหน้าผู้หนึ่งยืนอยู่ที่ประตู

 

 

“ข้าน้อยรับคำสั่งท่านอ๋อง ให้มารับท่านกลับพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

“ท่านอ๋องเล่า”

 

 

“ท่านอ๋องกำลังบัญชาการศึกอยู่พ่ะย่ะค่ะ”

 

 

ประกายในตาหนิงอวี้เลือนหายไป นางค่อยๆ ก้มหน้าลง

 

 

“ทันทีที่ท่านอ๋องตีหยวนอีแตกก็ส่งใต้เท้ามั่วหลีมารับท่าน แต่เกิดเรื่องเร่งด่วนคับขันขึ้น ใต้เท้ามั่วหลีกำชับข้าน้อยเดินทางมาก่อน เพื่อมาอารักขาท่านพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

พลทหารกล่าวจบก็แอบคาดคะเนด้วยสายตา พระชายาได้ยินคำพูดแล้วกลับไม่เคลื่อนไหว หนิงอวี้จับสังเกตสายตาเขาได้ก็ได้สติกลับคืน

 

 

“เรื่องคับขัน”

 

 

“พ่ะย่ะค่ะ จู่ๆ เกิดมีคนชุดดำนับพันคนบุกโจมตีเข้ามา พระชายา ตอนนี้เหตุการณ์เร่งด่วน สถานการณ์หยวนอีไม่รู้แน่ชัด โปรดให้ข้าน้อยอารักขาข้างกายท่านด้วยเถิด ข้าน้อยจะคุ้มครองท่านกลับไปข้างกายท่านอ๋องให้ได้พ่ะย่ะค่ะ”

 

 

นิ่งเงียบอยู่นาน หนิงอวี้บีบผ้าเช็ดหน้าไหมในมือแน่น นางส่ายหน้าช้าๆ แล้วพูดโพล่งออกมาหนึ่งประโยคอย่างชัดเจนว่า “ไปเรียนท่าน ข้าจะไม่ไป”

 

 

“หนิงอวี้ไม่มีทางหนีทัพเด็ดขาด ต่อให้ต้องสู้รบจนตัวตายกลางสนามรบก็ตาม”

 

 

“พระชายา! ความเป็นห่วงของท่านอ๋อง…”

 

 

“ออกไป”

 

 

หนิงอวี้มองเขาปราดหนึ่งด้วยสายตาหยิ่งผยอง นายทหารถูกข่มขู่ด้วยสายตาก็ก้าวถอยสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว ครั้นรู้ตัวว่าตัวเองก้าวถอยโดยไม่ทันรู้ตัวก็หน้าแดงด้วยความอาย จากนั้นก็หันกายออกไปพร้อมปิดประตู

 

 

ประตูถูกปิดลง เหลือเพียงหน้าต่างที่เปิดให้สายลมพัดเข้ามา ลมพัดผ่านแก้มหนิงอวี้ นางหลับตาทั้งคู่ลง สัมผัสสายลมอันแผ่วเบา

 

 

“ข้าผิดต่อท่านพ่อ และผิดต่อท่านด้วย”

 

 

รบจนตัวตายกลางสนามรบหรือ นับแต่ที่นางหลุดปากประโยคนี้ออกมา ในใจนางก็ตัดสินใจไว้แล้วว่า

 

 

นางจะเอาตัวเจ้าคนชุดดำหน้ากากผีนั้น มาสับเป็นหมื่นชิ้นให้ได้ !

 

 

ฆ่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าคิดมาขวางนาง นางจะเอาศีรษะคนผู้นั้นมาเซ่นบิดา!ในเมื่อมู่หรงเหยียนก้าวเข้ามา เช่นนั้นเขาก็สมควรตาย! ต่อให้เขาเป็นเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์เหนือ ต่อให้เขาเป็นขุนพลหน้ากากผีกล้าหาญชำนาญศึก ต่อให้เขาเคยไว้ชีวิตนางไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

 

 

ไม่ว่าจะเป็นใคร หากทำร้ายบิดา ต้องตายให้หมด! ต้องชดใช้! หนิงอวี้ขบฟัน นางกำผ้าเช็ดหน้าแพรที่ชุ่มโชกในมือแน่น จนเค้นเป็นหยดน้ำใสร่วงหล่นกระทบพื้น

 

 

ทันทีที่หยดน้ำกระทบพื้น หนิงอวี้ก็ลืมตาขึ้น ดวงตาบวมแดงแววตาเยือกเย็นไร้อารมณ์ หนิงอวี้ลุกขึ้นยืน แต่เนื่องด้วยนั่งขัดสมาธิบนพื้นอยู่นาน แข้งขาจึงอ่อนล้า นางเซแทบจะล้มกองกับพื้น

 

 

หนิงอวี้ใช้มือค้ำชั้นหัวเตียง นางพยายามลุกขึ้นยืน เมื่อล้วงจดหมายสองสามฉบับนั้นออกมาจากหลังหมอนก็สอดเก็บไว้ในอกเสื้ออย่างดี หากรบจนตัวตาย ก็จะมีจดหมายของเว่ยหยวนเป็นเพื่อน บนเส้นทางที่ตามหาบิดามารดาก็คงไม่เหงามากนัก

 

 

เมื่อผลักประตูออกไป ใบหน้าผู้ช่วยแม่ทัพและสาวใช้ปรากฏความยินดี หนิงอวี้กวาดสายตามองปราดหนึ่งแล้วออกคำสั่งเสียงเบาว่า “ไปยกอาหารมา ส่วนเจ้า ส่งคนไปเฝ้าจับตาหยวนอี หากหยวนอีเกิดความวุ่นวายขึ้น ให้ส่งทหารหนึ่งพันเข้าจู่โจมโดยทันที”

 

 

“นี่มัน…กำลังพลของเรา…”

 

 

“ไป”

 

 

เมื่อผู้ช่วยนายพลพยักหน้ารับ สาวใช้ก็ยกอาหารมาจัดวางอย่างพร้อมเพรียงแล้ว

 

 

หนิงอวี้กินอาหารจนหมดด้วยสีหน้านิ่งเฉย นางยกมือขึ้นเช็ดปากแล้วรีบเดินไปยังที่พักของบิดาอย่างรวดเร็ว

 

 

ผ้าขาวปลิวไหว ทุกสิ่งที่ปรากฏสู่สายตาล้วนแต่สีขาวสะอาด กลางห้องโถงมีโลงศพไม้สีดำโลงหนึ่งตั้งอยู่ หนิงอวี้ฝืนปั้นหน้ายิ้มแต่น้ำตากลับไหลอาบผ่านมุมปากแล้วร่วงหล่น

 

 

“ท่านพ่อ ข้าจะล้างแค้นให้ท่าน รอข้านะเจ้าคะ”

 

 

หนิงอวี้คุกเข่าลงกับพื้นแล้วโขกศีรษะคำนับเสียงดังสามครั้ง

 

 

โขกคำนับครั้งที่หนึ่ง เพื่อคารวะบุญคุณบิดาที่เลี้ยงดูอุ้มชู โขกคำนับครั้งที่สอง เพื่อขอบคุณบิดาที่ไม่กล่าวโทษนาง โขกคำนับครั้งที่สาม เพื่อให้สัตย์ว่าจะสังหารมู่หรงเหยียนและคนชุดดำถือดาบโค้งนั่นแล้วเอาศีรษะมาเซ่นวิญญาณบิดาบนสวรรค์

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด