ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 544 ชีวิต (4)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 544 ชีวิต (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 544 ชีวิต (4)

“กราบทูลฝ่าบาท พวกเราเคยได้ยินทูตของมังกรพิษบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นบึงมังกรพิษ หรือเหยี่ยวเหล็กสี่ปีก ก็ล้วนอยู่ในการดูแลของขุมกำลังยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่าตำหนักมังกรศักดิ์สิทธิ์ ขุมกำลังนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ขุมกำลังแทบทั้งหมดรอบๆ ที่เรารู้จักล้วนอยู่ในการควบคุมของพวกมัน” ธุลีขาวตอบอย่างละเอียดและตั้งใจ

“ตำหนักมังกรศักดิ์สิทธิ์หรือ” ลู่เซิ่งจดจดจำชื่อนี้เอาไว้

“ฝ่าบาท ถ้าหากว่าตำหนักมังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ก่อตั้งขึ้นจริงๆ อย่างนั้นก็จำเป็นต้องระวังตัวเป็นพิเศษด้วย ข้าเคยได้ยินมาว่า เผ่ามังกรชนิดนี้เป็นราชาในหมู่มังกร พวกมันมีภูมิคุ้มกันต่อพลังงานและวิชาส่วนใหญ่โดยกำเนิด พลังการต่อสู้ทางกายก็เหี้ยมหาญจนไร้คู่ต่อกรเช่นกัน พอถือกำเนิดมาก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับตำนาน หรือเป็นภูตโดยกำเนิดทันที ถ้าหากเป็นตำหนักมังกรศักดิ์สิทธิ์จริงๆ…ข้าแนะนำว่าให้ฝ่าบาทพยายามวางแผนการออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุดจะดีกว่า” ตอนนี้ธุลีขาวไม่รู้ว่าลู่เซิ่งอยู่ในระดับอะไร แต่อย่างไรก็คงสู้มังกรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นเขาจึงเกลี้ยกล่อมให้ลู่เซิ่งพาทุกคนไปจากที่นี่

“ร้ายกาจขนาดนี้เชียว” ลู่เซิ่งค่อนข้างสนใจ

“ขอรับ แม้แต่มังกรอัญมณีที่ได้ชื่อว่าอาวุธสังหารก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน” ธุลีขาวกล่าวพลางพยักหน้า “ตอนนี้เผ่าเรามีคนไม่เยอะพอดี สามารถอพยพได้สะดวก ถ้าหากว่ามีคนเยอะ กลับจะลำบากมากกว่าเดิม”

“พูดมีเหตุผล แต่ข้าขอพิจารณาดูก่อน” ลู่เซิ่งพยักหน้าบอกว่าเข้าใจ

จากนั้นเขาก็โบกมือให้ธุลีขาวจากไป ส่วนตัวเองลุกเดินไปนั่งขัดสมาธิในป่ารกที่อยู่ใกล้ๆ

‘ดีปบลู’

พอใช้ความคิด อินเตอร์เฟซของดีปบลูก็พลันปรากฏตรงหน้า

‘ดูเหมือนจะยกระดับได้อีกหน่อย’ ลู่เซิ่งตรวจสอบปุ่มด้านหลังกรอบ ปุ่มเรียนรู้ยังคงอยู่

แผนผังในครั้งนี้สามารถใช้ได้นาน เขาลองนับดู มีแผนผังทั้งหมดหกแผ่น เขาเพิ่งใช้ถึงแผนที่สาม หรือก็คือระดับผู้นำหมาป่าเกล็ดหิมะ แต่กลับเลื่อนขั้นมาโดยตลอดจนถึงระดับภูตหรือระดับตำนานในสภาพนี้

‘ฉวยจังหวะรอคนมา ยกระดับขึ้นอีกดีกว่า’ เพื่อประหยัดเวลา ลู่เซิ่งจึงเพ่งสมาธิสงบลมหายใจพร้อมกับกดปุ่มเรียนรู้ต่อ

กรอบพลันพร่ามัว

ด้านในตำหนักมังกรศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขา

มังกรศักดิ์สิทธิ์สามตาค่อยๆ ตื่นจากการหลับใหล นางถูกไอความเย็นที่บ้าคลั่งไร้ความกลัวเกรงปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ตอนแรกไอความเย็นใหญ่แค่นิดเดียว แต่มันกลับขยายใหญ่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา

มาถึงตอนนี้ ไอเย็นได้กลายเป็นกลิ่นอายที่จับต้องได้กลุ่มก้อนใหญ่ที่นางไม่อาจไม่ให้ความสำคัญได้อีกแล้ว

นางไม่กล้าลุกขึ้นจากไป เพราะจำเป็นต้องคุ้มครองน้ำพุเหมันต์นิรันดร์ไว้ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นหากมันปะทุขึ้นมา ผลลัพธ์นั้นคงเลวร้ายจนไม่อาจนึกถึง

“มะลิ”

วังวนกลุ่มหนึ่งปรากฏในบริเวณที่มืดมิด มังกรศักดิ์สิทธิ์สีน้ำเงินที่มีขนาดเล็กตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากด้านใน

“ฝ่าบาทที่เคารพ มะลิฟังคำบัญชาของท่าน” มังกรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้มีเค้าโครงร่างกายเรียวเล็กและงดงาม แต่กรงเล็บกลับคมกริบเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมเผ่า นางเป็นสมาชิกที่เร็วที่สุด และมีกรงเล็บแหลมที่สุดในเผ่า

มังกรศักดิ์สิทธิ์สามตามองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง

“ไปยังบึงมังกรพิษ หาต้นกำเนิดของไอเย็นที่ผิดปกติ และทำให้มันยอมแพ้ซะ ถ้าหากมันขัดขืน จงจัดการทันที”

“เพคะ”

[แผนผังพลังเกล็ดหิมะ: หมาป่าแห่งเหมันต์+9 (ภูติ) (คุณสมบัติพิเศษ: ร่างตำนานระดับเก้า, วิชาตำนานระดับเก้า: ควบคุมความเย็น, วิชาเกราะน้ำแข็ง, เหมันต์คำราม, ประกายวิญญาณเย็นสุดขั้ว)]

‘ทำไมยังไม่เลื่อนระดับสักที’ ลู่เซิ่งมองพลังอาวรณ์ที่หายไปหนึ่งหมื่นกว่าหน่วยของตนอย่างเสียดาย ครั้งนี้ขาดทุนอยู่บ้าง ถ้าหากครั้งนี้ไม่สามารถหาอะไรในโลกนี้มาชดเชยได้ เขาจะขาดทุนหนักจริงๆ แล้ว

แต่เขานึกอีกที ถ้าหากว่าครั้งนี้สำเร็จ ก็น่าจะเลื่อนสู่ระดับเจ้าแห่งอาวุธได้เมื่อกลับไป ถ้าหากเลื่อนเป็นเจ้าแห่งอาวุธได้ ต่อให้ใช้พลังอาวรณ์เหล่านี้จนหมดเกลี้ยงก็ไม่เป็นไร

ปุ่มเรียนรู้สีฟ้าในกรอบของดีปบลูกำลังทิ่มแทงจิตใจของลู่เซิ่งเหมือนกับเข็ม

พลังอาวรณ์สูญเสียเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

‘เอาอีก!’

เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด พร้อมกับกดปุ่มเรียนรู้อย่างจริงจัง

‘มาถึงระดับเก้าแล้ว นี่คือตัวเลขสูงสุด น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ต่างไปจากเดิมสิ’

พลังอาวรณ์หายไปอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับน้ำตก ลู่เซิ่งรู้สึกได้ว่า มีวัตถุที่น่าอัศจรรย์อย่างหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งของที่เบาเหมือนกับแก๊สมุดเข้ารูขุมขนทั่วร่าง และหลอมละลายเข้ากับพลังอาวรณ์ที่ไหลเชี่ยว ก่อนจะแผ่กระจายไปยังผิวทุกส่วน และมุมทุกมุมบนร่างอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ความเจ็บปวดเบาบางกลุ่มหนึ่งส่งมาจากบนบ่าของเขาอีกครั้ง

พรวด!

หัวหมาป่าอีกข้างหนึ่งงอกออกมาจากบนบ่าอีกด้าน

‘ครั้งนี้กลายเป็นหมาเฝ้านรกสามหัวจริงๆ แล้วสิ…’ ลู่เซิ่งเอือมระอา นึกไม่ถึงว่าตนจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดในตำนานชนิดนี้

พรวด!

หัวอีกข้างงอกออกมาจากทรวงอกของเขา ตัดบทความคิดของเขา

ลู่เซิ่งจ้องมองทรวงอกอย่างงุนงงเล็กน้อย

พรวด พรวด พรวดๆๆ!

ไม่นานก็มีหัวหมาป่าหลายข้างงอกออกมาจากบนบ่าและกลางหลังติดต่อกัน พวกมันกองอยู่บนร่างท่อนบนของเขาเหมือนกับเพาะเห็ด

กรอบชัดเจนขึ้นจากความพร่ามัว

[แผนผังพลังเกล็ดหิมะ: หมาป่าราตรีเหมันต์เก้าเศียร (มหาภูติ) (คุณสมบัติพิเศษ: ร่างตำนานระดับสูง วิชาในตำนานขั้นสูงระดับหนึ่ง: ควบคุมความเย็น, แปลงเป็นหิมะ, ราตรีเหมันต์คำราม, ประกายวิญญาณหนาวยะเยือก, อัญเชิญธารน้ำแข็ง)]

ร่างกายของลู่เซิ่งใหญ่ขึ้นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวเหมือนกับถูกเติมลม กล้ามเนื้อและเส้นขนขยายใหญ่ขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เจ็ดหมี่…

แปดหมี่…

เก้าหมี่…

สิบหมี่…!

หมาป่ายักษ์สีขาวหิมะสูงสิบหมี่ปล่อยไอความเย็นสีขาวออกมาจากทั่วร่างเหมือนกับควัน พื้นและป่ารอบๆ ถูกไอเย็นสีขาวปกคลุมอย่างบ้าคลั่ง แล้วโดนแช่แข็งเป็นรูปสลักน้ำแข็งในพริบตา

ไอเย็นขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนปกคลุมหมู่บ้าน โดยปกคลุมอาณาเขตมากกว่าร้อยหมี่รอบๆ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกคลุมอยู่ในเกล็ดหิมะสีขาว

มีไอสีขาวหมุนวนอยู่ในซอกหลืบแคบๆ ทั้งยังเกิดอนุภาคที่เหมือนกับผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กขึ้นมา

ลู่เซิ่งใช้จิตวิญญาณกวาดดู แล้วเข้าใจจากสายเลือดโดยสัญชาตญาณว่า นั่นคือการให้กำเนิดวิญญาณน้ำแข็งเกล็ดหิมะ

วิญญาณน้ำแข็งเกล็ดหิมะ ชีวิตพิเศษที่ถือกำเนิดมาจากประกายวิญญาณเย็นยะเยือก พวกมันไม่มีร่างกายเหมือนกับวิญญาณ สามารถทะลวงผ่านร่างกายของสิ่งมีชีวิตเพื่อมอบความหนาวเหน็บและความเจ็บปวดให้แก่พวกมันได้

นี่คือวิญญาณอันน่ากลัวที่เกิดขึ้นมาเพื่อทรมานสิ่งมีชีวิต เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับหมาป่าราตรีเหมันต์

‘เก้าหัวเหรอ…’ ลู่เซิ่งอ้าปากพ่นลมหายใจ ศีรษะทั้งเก้าพ่นลมหายใจพร้อมกัน คล้ายกับขยับตามทุกๆ การเคลื่อนไหวของเขา แม้จะมีศีรษะเก้าข้าง แต่กลับมีจิตแค่จิตเดียว

เขายกมือขึ้นเพื่อทดลองความสามารถทั้งหมดหลังจากการยกระดับ แต่ว่ากลิ่นอายอันแข็งแกร่งซึ่งกำลังมาจากที่ไกลด้วยความเร็วสูงก็รบกวนความคิดของเขา

โฮก!

เสียงคำรามที่เย็นเยียบและดังสนั่นดังมาจากที่ไกล

ลู่เซิ่งเงยหน้าขึ้น ศีรษะทั้งเก้ามองไปยังต้นเสียงพร้อมกัน

ตูม!

ชั่วพริบตานั้นพายุบ้าคลั่งสายหนึ่งก็กดทับลงมา ลู่เซิ่งที่ตั้งตัวไม่ทันร่างสั่นน้อยๆ ต้นไม้รอบๆ ถูกพัดเอียงจนหักโค่น พุ่มไม้ใบหญ้าโดนพัดจนลู่ไปด้านหลัง

‘นี่คืออะไร แสดงความน่าเกรงขามหรือ’ ลู่เซิ่งพลันไม่พอใจ แม้ร่างกายร่างนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าร่างหลักของเขา แต่ก็มีความแข็งแกร่งราวครึ่งหนึ่งของร่างหลัก

เขาเกิดความคิด เหมันต์ราตรีคำรามอันเป็นวิชาในสายเลือดโดยพรสวรรค์เริ่มสะสมพลังทันที

ศีรษะหมาป่าตรงกลางเงยหน้าอ้าปาก กลุ่มแสงสีขาวบริสุทธิ์หมุนวนกลางปากโดยที่มีความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งท้ายสุด ตรงกลางกลุ่มแสงสีขาวถึงขั้นค่อยๆ ปรากฏสีดำที่เหมือนกับการพังทลายขึ้นมา

โฮก!

เสียงหมาป่าคำรามสนั่น

เสาแสงสีขาวบริสุทธิ์สายหนึ่งถูกยิงออกจากปากของลู่เซิ่ง เสาแสงที่ใหญ่ถึงสองหมี่ตั้งตรงเหมือนกับแสงเลเซอร์ พุ่งไปทางต้นเสียงอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น

มะลิกำลังกระพือปีกขนาดยักษ์ ร่างกายอันงดงามขนาดสิบหมี่กว่าๆ กำลังร่อนลงใต้ชั้นเมฆ ด้านหลังมีมังกรลมสีเขียวที่ตัวเล็กกว่านางครึ่งหนึ่งติดตามอยู่เป็นจำนวนสิบกว่าตัว มังกรสีเขียวพวกนี้ถนัดการควบคุมอากาศมากที่สุด เมื่อมีพวกมันอยู่ด้วย ก็สามารถมอบของขวัญพบหน้าให้แก่เด็กน้อยที่เพิ่งเลื่อนระดับได้แล้ว

“ท่านมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงส่ง พวกเราโจมตีด้วยแรงกดดันลมแล้ว ต่อจากนี้ต้องทำอะไรอีกหรือไม่” ผู้นำของมังกรสีเขียวเข้ามาถามเบาๆ

“แรงกดดันลมขนาดยักษ์ที่มังกรลมสิบห้าตัวผนึกกำลังใช้ออกมา เทียบได้กับวิชาในตำนานขั้นสูงแล้ว ต่อให้เป็นข้าก็ไม่กล้าปะทะซึ่งหน้า ต้องรบกวนผู้อาวุโสทุกท่านแล้ว” มะลิปฏิบัติต่อมังกรลมเหล่านี้อย่างเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรพวกเขาก็เป็นมังกรเฒ่าระดับผู้อาวุโสจากเผ่ามังกรลม ทุกๆ ตัวล้วนเป็นยอดฝีมือที่อยู่เหนือกว่าระดับยอดผู้นำขึ้นไป ผู้นำมังกรลมยิ่งเป็นตำนานในระดับภูตเหมือนกัน

ต่อให้นางจะอยู่ในระดับภูต ก็ทำได้แค่สู้กับมังกรลมระดับยอดผู้นำสิบตัวในครั้งเดียวเท่านั้น หากมากกว่านี้ก็จะไม่ใช่คู่มือแล้ว

“ท่านมังกรศักดิ์สิทธิ์เกรงใจแล้ว นี่เป็นสิ่งที่เราในฐานะราษฎรควรกระทำ” ผู้นำมังกรลมรีบตอบ

ครืน…

เสียงระเบิดเบาๆ พลันลอยมาจากพื้นดิน

มะลิงุนงง วิชาแรงกดดันลมไม่น่าจะสร้างเสียงแบบนี้ได้ คงไม่ได้ฆ่าเด็กน้อยตัวนั้นไปแล้วหรอกนะ

นางรีบก้มหน้าดู

ฟิ้ว!

ชั่วพริบตานั้นมีแสงสีขาวสายหนึ่งเฉียดผ่านหน้านางไป เกิดประกายเลือดขึ้นสายหนึ่ง

แสงสีขาวพุ่งผ่านด้านข้างนาง แล้วหายไปในชั้นเมฆบนท้องฟ้าไกลออกไป

ท้องฟ้าที่ตอนแรกขาวกระจ่างมืดลงอย่างรวดเร็ว

“นี่…หรือว่าจะเป็น!?” มะลิงงงัน ม่านตาหดตัว ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้า

“แย่แล้ว รีบถอยเร็ว!” นางย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความทรงจำเมื่อครั้งอดีต แล้วตะโกนไปทางฝูงมังกรลม

แต่ไม่ทันการณ์แล้ว

เกล็ดน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์นับไม่ถ้วนเริ่มแผ่ขยายบนผิวของฝูงมังกรลม เมฆดำกดทับ การเคลื่อนไหวของมังกรลมทั้งหมดเริ่มเชื่องช้าลง ทุกๆ การกระพือปีกต้องใช้แรงมากกว่าก่อนหน้านี้สิบเท่ากว่าๆ

“รีบหนี! นี่เป็นราตรีเหมันต์คำรามในตำนาน! สวรรค์! เหตุใดสัตว์ประหลาดอย่างหมาป่าราตรีเหมันต์ถึงได้มาปรากฏตัวในอาณาเขตผืนนี้ได้! รีบหนีๆๆ!” มะลิกระพือปีกและตะโกนอย่างหวาดกลัว ถ้าหากหัวกะทิทั้งหมดในเผ่ามังกรลมตายลงที่นี่ นางไม่กล้าจินตนาการเลยว่าฝ่าบาทจะทรงพิโรธขนาดไหน!

เหล่าฝูงมังกรลมรีบหมุนตัวหนีเตลิดไปทั่วทิศ ไม่ต้องให้มะลิเตือน พวกเขาก็สัมผัสได้ว่าการคุกคามที่อันตรายถึงชีวิตกำลังจะมาแล้ว

หากถูกน้ำแข็งชนิดนี้แช่แข็ง พลังชีวิตทั้งหมดจะถูกกระชากทันที

มะลิเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่เกรงกลัววิชาขนาดใหญ่นี้เท่าไหร่ ตอนนี้นางกัดฟันจ้องมองเบื้องล่าง แล้วเห็นเงาร่างขนาดยักษ์สีขาวหิมะกลุ่มหนึ่งกำลังเงยหน้ามองมาทางด้านนี้เช่นกัน

“บ้าเอ๊ย! เจ้าตายแน่! ข้า! แมรี่แอน ซียาลีนา อันเดลี…โอ้! มารดาของข้า…” มะลิพุ่งลงได้ครึ่งหนึ่ง พริบตาที่เห็นหมาป่ายักษ์ตัวนั้นชัด ขนทั่วร่างนางก็ลุกขึ้นเหมือนกับเข็ม การคุกคามที่อันตรายถึงชีวิตหลั่งไหลไปทั่วร่าง

หมาป่ายักษ์ตัวนั้นมีเก้าหัว มิหนำซ้ำหัวทั้งเก้ายังกำลังเงยหน้า สะสมก้อนแสงสีขาวบริสุทธิ์ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไว้กลางปากด้วย

หากตัดเสาแสงเมื่อครู่ทิ้ง ยังเหลืออีกแปดสาย…

ครืน!

แสงสีขาวทั่วฟ้าปกคลุมดวงตาของนาง ทุกอย่างกลายเป็นน้ำแข็ง

ลู่เซิ่งทยอยเงยหน้าขึ้น ก้อนแสงหลายกลุ่มที่มีอานุภาพน่าสะพรึงกำลังสะสมพลังในปากของเขา

เสาแสงสายแรกถูกยิงไปแล้ว

จากนั้นหัวหมาป่าข้างที่สองก็เงยหน้าขึ้นปล่อยเสาแสงสายที่สองออกไป

ฟ้าว!

จากนั้นก็เป็นสายที่สาม…

สายที่สี่…

สายที่ห้า…

เสาแสงหลายสายหายไปในท้องฟ้า ท้องฟ้ามืดครึ้มลงโดยสมบูรณ์ ครั้งนี้ลู่เซิ่งรู้แล้วว่า เหตุใดสายเลือดในแผนผังหลังวิวัฒนาการถึงได้ชื่อว่าหมาป่าราตรีเหมันต์ ที่แท้เขาสร้างราตรีเหมันต์ได้จริงๆ

แน่นอนว่าถ้าหากมะลิอยู่ตรงนี้ อาจจะแก้ตัวให้เขาอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า ความจริงหมาป่าราตรีเหมันต์ไม่ได้มีเก้าหัว และอย่างมากสุดก็ทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มได้ครู่หนึ่งเท่านั้น

ระดับยื่นมือออกไปไม่เห็นห้านิ้วอย่างเขานี้ คาดว่าไม่เคยมีหมาป่าราตรีเหมันต์ตัวไหนในเทพนิยายเคยทำได้มาก่อน

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด