ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 802 อิทธิฤทธิ์ (2)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 802 อิทธิฤทธิ์ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขณะ​นั่ง​บน​ลำธาร​หินหนืด​ ลู่​เซิ่งเพ่ง​ความสนใจ​ไป​ยัง​ที่อื่น​

เขา​หยิบ​เสื้อคลุม​ผดุง​ธรรม​ขึ้น​มาพิจารณา​อย่าง​ละเอียด​

ไม่นาน​เขา​ก็​ค้นพบ​ความ​อัศจรรย์​ส่วนหนึ่ง​บน​เสื้อคลุม​

บน​เกล็ด​ทุก​เกล็ด​ของ​ผ้าคลุม​มีอักขระ​เล็ก​ละเอียด​นับไม่ถ้วน​กระจัดกระจาย​อยู่​ ระหว่าง​อักขระ​พวก​นี้​มีผลึก​สีแดง​หลาย​เม็ด​ที่​เหมือนกับ​ทราย​ฝังตัว​อยู่​ไม่ห่าง​กัน​มาก​

จะเห็น​ได้​ว่า​นี่​เป็น​ค่าย​กล​ควบคุม​พลัง​แบบ​ฝังที่​สมบูรณ์แบบ​

สามารถ​กระจาย​พลัง​ที่​มาจาก​ภายนอก​ผ่าน​ลวดลาย​ค่าย​กล​ที่​ซ้อน​ทับกัน​ จากนั้น​ก็​ใส่เข้าไป​ใน​ผลึก​ แล้ว​ปล่อย​ออกมา​เพื่อ​ทำให้​สภาวะ​โจมตี​อ่อนกำลัง​ลง​ได้​

‘แต่​ผลึก​กับ​ลวดลาย​ค่าย​กล​จะเยอะ​เกินไป​แล้ว​มั้ง…’ ลู่​เซิ่งเพิ่งจะ​เคย​เห็น​เครื่อง​สวมใส่​ระดับ​มายา​พิศวง​เป็นครั้งแรก​

กระนั้น​สิ่งที่​ทำให้​เขา​ตกใจ​ก็​คือ​ แค่​เกล็ด​ลวดลาย​ค่าย​กล​บน​เสื้อคลุม​ชุด​นี้​ก็​มีมากกว่า​ร้อย​ล้าน​เกล็ด​แล้ว​ และ​บน​เกล็ด​ทุก​เกล็ด​ก็​มีลวดลาย​ค่าย​กล​กับ​ผลึก​เล็ก​ๆ ที่​เหมือนกับ​ตัว​แพร่​เชื้อโรค​

เดิมที​เกล็ด​ก็​เล็ก​จน​แทบ​มองไม่เห็น​แล้ว​ ลู่​เซิ่งต้อง​ใช้พลัง​สายตา​กับ​สัมผัส​สุดกำลัง​ถึงจะฝืน​มองเห็น​ความ​น่าอัศจรรย์​บน​ลวดลาย​ค่าย​กล​กับ​ผลึก​บน​เกล็ด​ได้​

‘มิน่า​ถึงทำซ้ำ​ไม่ได้​ ได้​แต่​ใช้วัตถุดิบ​ตาม​ธรรมชาติ​แปรรูป​อย่าง​หยาบ​ๆ…ต่อให้​สร้าง​งานฝีมือ​แบบนี้​ออกมา​ได้​ เวลา​กับ​สมาธิที่​ต้อง​ใช้ก็​มากมาย​มหาศาล​…’ ลู่​เซิ่งวาง​เสื้อคลุม​ลง​และ​นึก​สะท้อนใจ​

‘พลัง​ของ​เรา​ใน​ตอนนี้​ไป​ถึงระดับ​ยิ่งใหญ่​มหาศาล​แล้ว​ อย่า​คิด​จะได้รับ​การ​ยกระดับ​อย่าง​ใหญ่หลวง​ใน​เวลา​สั้น​ๆ มีความเป็นไปได้​ยาก​มาก​ แต่​ก็​ใช่ว่า​จะเป็นไปไม่ได้​…’

‘การต่อสู้​จริง​ แบ่ง​เป็น​สอง​ส่วน​ ได้แก่​การต่อสู้​ด้วย​ทักษะ​ยุทธ์​กับ​การต่อสู้​ด้วย​อิทธิฤทธิ์​ ความสามารถ​ต่อสู้​กายภาพ​ของ​เรา​ไป​ถึงขีดจำกัด​แล้ว​ ด้าน​อิทธิฤทธิ์​กลับ​ยังมี​ศักยภาพ​ให้​ขุดค้น​ไม่น้อย​’

ลู่​เซิ่งเข้าใจ​เป็น​อย่าง​ดี​ว่า​ ตัวเอง​ใช้พรสวรรค์​หากิน​มาโดยตลอด​ เวลา​ต่อสู้​มัก​ปะทะ​ตรงๆ​ กระบวนท่า​ก็​มีแต่​คร่า​วิญญาณ​ ทำลาย​ดาว​ อานุภาพ​เทพ​ หรือไม่​ก็​วิชา​หมัด​ทำลายล้าง​ใน​พริบตา​

ความจริง​วิชา​เหล่านี้​เป็น​ประเภท​ต่อสู้​ด้วย​วรยุทธ์​หรือ​กาย​เนื้อ​

ส่วน​อิทธิฤทธิ์​เป็น​สิ่งที่​เขา​ใช้สนับสนุน​มาโดยตลอด​

กระนั้น​เขา​ก็​เข้า​ใจดี​ว่า​ ใน​ร่าง​ตนเอง​มีอิทธิฤทธิ์​ที่​ยาก​จินตนา​การบรรจุ​อยู่​ หลาย​ๆ ครั้ง​เขา​ถึงขั้น​รู้สึก​หวาดกลัว​และ​ตกตะลึง​เพราะ​พลัง​แบบนี้​ด้วยซ้ำ​

โดยเฉพาะ​โลก​รูป​จิต​ที่​ทิ้ง​ไว้​เฉย​ๆ มาโดยตลอด​

ที่พึ่ง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​มาร​สวรรค์​ที่​ยิ่งใหญ่​ถึงกับ​ถูก​เขา​นำมาใช้​เป็น​วิชา​ธรรมดา​สำหรับ​ปัดกวาด​เช็ดถู​

ครั้งนี้​เขา​ต้องการ​จะขุดค้น​พรสวรรค์​ทาง​อิทธิฤทธิ์​ที่​แข็งแกร่ง​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ ส่วน​จะใช้การ​อย่างไร​ เขา​ได้คิด​เอาไว้​แล้ว​

ลู่​เซิ่งสั่งใน​ความคิด​ ระลอกคลื่น​สีดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ค่อยๆ​ แผ่​กระจาย​ออก​มาจาก​ใต้​ร่างกาย​ พื้นดิน​ที่​เป็น​สีแดง​อม​เหลือง​ใน​ตอนแรก​ถูก​ย้อม​เป็น​สีดำ​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​ก็​ไม่ทราบ​

สีดำ​จำนวนมาก​กระเพื่อม​เชื่องช้า​ราวกับ​ทะเลสาบ​เหนียวเหนอะ​

บุ๋งๆๆ…​

ท่ามกลาง​เสียง​ฟองอากาศ​ของ​กระแสน้ำ​อัน​เบาบาง​ ศีรษะ​กระเรียน​สีดำ​ขนาดใหญ่​ที่​ยาว​สิบ​กว่า​หมี่​ค่อยๆ​ ปรากฏ​ออกมา​ด้านหน้า​ลู่​เซิ่ง

กระเรียน​ดำ​ไม่ได้​ออกมา​ทั้งหมด​ โผล่​เพียง​ส่วน​ศีรษะ​กับ​ดวงตา​สีแดงฉาน​สอง​ข้าง​ออกมา​เท่านั้น​

นี่​คือ​พัน​เท​วะ​ สภาพ​อัน​แข็งแกร่ง​ที่เกิด​จาก​การ​แปลง​จิตวิญญาณ​ให้​เป็นรูปเป็นร่าง​ ใน​ตอนที่​ลู่​เซิ่งบรรลุ​วิญญาณ​แห่ง​วัฏจักร​

ความจริง​กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​เป็น​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​ จิตวิญญาณ​ก็​คือ​พัน​เท​วะ​ เพียงแต่ว่า​มีสภาพ​แตกต่าง​ออก​ไป​เท่านั้น​

‘กระเรียน​ยักษ์​พัน​เท​วะ​มีกาย​เนื้อที่​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ และ​มีความต้านทาน​ที่​แข็งแกร่ง​ต่อ​พลังงาน​ใน​ทุกๆ​ ด้าน​ เทียบ​กับ​ใช้อิทธิฤทธิ์​ของ​ร่าง​หลัก​แล้ว​ มัน​มีอานุภาพ​เยอะ​กว่า​มาก​ หาก​เรา​ปลดปล่อย​อิทธิฤทธิ์​ออกมา​ใน​สภาพ​พัน​เท​วะ​ อย่างนั้น​อานุภาพ​จะต้อง​ไป​ถึงขั้น​ที่​ไม่อาจ​จินตนาการ​ได้​แน่​’

ลู่​เซิ่งได้​เลือก​อิทธิฤทธิ์​ที่​เหมาะกับ​พัน​เท​วะ​เป็น​อย่างยิ่ง​ออกมา​อย่างหนึ่ง​

การคัดเลือก​อิทธิฤทธิ์​อย่างหนึ่ง​จาก​การ​จุติ​หลายครั้ง​ได้​ยาก​นัก​ สิ่งที่​ยาก​ก็​คือ​ เขา​ต้อง​เลือก​สิ่งที่​เหมาะกับ​พัน​เท​วะ​ที่สุด​

ลู่​เซิ่งขบคิด​ ร่าง​ก็​จมลง​ไป​ใน​ทะเลสาบ​สีดำ​อย่าง​เชื่องช้า​

ไม่นาน​นัก​กระเรียน​ดำ​พัน​เท​วะ​ก็​ค่อยๆ​ จมสู่ทะเลสาบ​สีดำ​ตามมา​ด้วย​

ลู่​เซิ่งหลับตา​อยู่​ใน​ความ​มืดมิด​ เขา​ตัดสินใจ​จะเรียนรู้​วิชา​หนึ่ง​ออกมา​ เขา​พัฒนา​มาถึงระดับ​นี้​แล้ว​ ไม่อาจ​พึ่งพา​ดี​ป​บลู​ได้​ตลอด​ จะต้อง​มีความเข้าใจ​ของ​ตัวเอง​ด้วย​

‘ความต้านทาน​ของ​พัน​เท​วะ​เหมือนกับ​ความต้านทาน​ของ​ร่าง​หลัก​ ดังนั้น​สิ่งที่​ต้อง​ทำ​จริงๆ​ ก็​คือ​ขยาย​จุดเด่น​ลด​จุดด้อย​เพื่อ​แสดง​ข้อได้เปรียบ​ หรือ​ก็​คือ​แสดง​ข้อได้เปรียบ​ด้าน​น้ำ​ ไฟ และ​พิษ​ เพื่อ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​ความต้านทาน​ของ​พลังงาน​ด้าน​อื่นๆ​ ’

ความคิด​ของ​ลู่​เซิ่งทำงาน​อย่าง​รวดเร็ว​ ความรู้​ด้าน​อิทธิ​ฤทธิ​มรรคา​ยุทธ์​จำนวนมาก​กำลัง​ถูก​คัดเลือก​ใน​ใจของ​เขา​

เค้าโครง​อิทธิฤทธิ์​ที่​พร่ามัว​ค่อย​เป็นรูปเป็นร่าง​ขึ้น​มา

ความจริง​ทะเลสาบ​ดำ​ผืน​นี้​คือ​ด้านใน​ร่าง​พัน​เท​วะ​

พัน​เท​วะ​เกิด​จาก​จิตวิญญาณ​ที่​บรรลุ​วิญญาณ​แห่ง​วัฏจักร​ แต่​หลังจาก​กลายเป็น​พัน​เท​วะ​แล้ว​ มัน​ก็​ไม่ได้​มีคุณสมบัติ​ของ​จิตวิญญาณ​อีกต่อไป​ หาก​แต่​กลายเป็น​สภาพ​ของ​ร่าง​กึ่ง​จับต้อง​ได้​ผ่าน​พลัง​แห่ง​วัฏจักร​ชนิด​พิเศษ​

ตอนนี้​เท่ากับ​ลู่​เซิ่งรวม​เป็นหนึ่ง​กับ​พัน​เท​วะ​

“ด้วย​ความเข้าใจ​ทั้งหมด​ของ​ข้า​”

“ด้วย​มรรคา​ยุทธ์​ตลอดชีวิต​ของ​ข้า​!”

“ด้วย​สติปัญญา​อัน​ล้ำเลิศ​ของ​ข้า​!”

“ด้วย​คุณสมบัติ​ที่​ไร้​คู่​ต่อกร​ของ​ข้า​!” ลู่​เซิ่งกาง​สอง​แขน​ออก​ อารมณ์​พลุ่งพล่าน​ สัมผัส​บางอย่าง​ได้​ เส้นสาย​สีทอง​เข้ม​จำนวนมาก​ปรากฏ​ขึ้น​ทั่ว​ร่าง​อย่าง​ฉับพลัน​

เส้นสาย​พวก​นี้​ลอย​ออก​ไป​ และ​เริ่ม​แผ่ขยาย​กลาง​ทะเลสาบ​ดำ​อย่าง​ไม่หยุดยั้ง​

แค่​ไม่กี่​นาที​ เส้นสาย​สีทอง​เข้ม​ก็​ยึดครอง​ร่าง​ยักษ์​ของ​พัน​เท​วะ​โดย​สมบูรณ์​

“เริ่ม​เลย​! ทะเลสาบ​แห่ง​ความ​พิโรธ​!”

ทันใดนั้น​ก็​มีระลอกคลื่น​สีทอง​เข้ม​หลาย​ชั้น​กระเพื่อม​ขึ้น​ด้านใน​ห้อง​อัน​มืดมิด​

ระลอกคลื่น​หลาย​กลุ่ม​ส่องสว่าง​และ​หนาแน่น​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ไม่นาน​ก็​จับตัว​กัน​เป็น​จาน​กลม​สีทอง​เข้ม​

จาน​กลม​พลัน​ปรากฏ​อักขระ​เท​วะ​ลักษณ์​ทั้งหมด​ที่​ลู่​เซิ่งครอบครอง​เรืองรอง​กะพริบ​

หลังจาก​อักขระ​เทว​ลักษณ์​กะพริบ​อยู่​พัก​หนึ่ง​ก็​เริ่ม​รวมตัวกัน​ด้วย​ความเร็ว​สูง จับตัว​กัน​เป็น​กระบี่​สีดำ​สนิท​อัน​งามประณีต​และ​เรียว​ยาว​

‘กระบี่​หรือ​’

ลู่​เซิ่งมอง​กระบี่​ยาว​ตรงหน้า​

คม​กระบี่​คือ​พลังงาน​สีดำ​ที่​กะพริบ​แสงสีดำ​สนิท​ ด้าม​กระบี่​คือ​จะงอย​ปาก​แหลม​ของ​กระเรียน​ดำ​ แยก​ซ้าย​ขวา​เป็น​จะงอย​สอง​อัน​

อักขระ​เท​วะ​ลักษณ์​นับไม่ถ้วน​ที่​เล็ก​เหมือนกับ​มด​วนเวียน​รอบ​ด้าม​กระบี่​พร้อมกับ​เปล่งแสง​สีม่วง​อ่อน​

‘นี่​คือ​…’ ลู่​เซิ่งเอื้อมมือ​ไป​หมาย​จะคว้า​กระบี่​

ตูม​!

กระบี่​ยาว​ระเบิด​ออก​ใน​ทันใด​ กระแสไฟฟ้า​สีดำ​จำนวนมาก​ซึ่งมีจุด​แสงสีม่วง​แทรก​อยู่​กระจัดกระจาย​ไป​ทั่ว​ แรง​กระแทก​อัน​รุนแรง​ทำให้​เขา​สีหน้า​แปรเปลี่ยน​ ต้อง​รีบ​ถอยหลัง​ออก​ไป​หลาย​ร้อย​หมี่​

ดี​ที่​มิติ​ความมืด​มีพื้นที่​ไพศาล​ พัน​เท​วะ​เป็น​ตัวตน​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่​ทำลาย​ดาวเคราะห์​ดวง​หนึ่ง​ได้​ พื้นที่​จึงใหญ่โต​ถึงขีดสุด​ตาม​ไป​ด้วย​

ตอนแรก​ใหญ่​มากกว่า​พัน​หมี่​ ตอนนี้​ยิ่ง​พอง​ขยาย​ไป​ถึงหลาย​พัน​หมี่​ ด้านใน​มีพื้นที่​กว้างขวาง​พอที่จะ​สลาย​แรง​ระเบิด​ใน​ครั้งนี้​

‘ล้มเหลว​แล้ว​…’ลู่​เซิ่งกลับ​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​เดิม​ สัมผัส​ร่องรอย​การระเบิด​ของ​พลังงาน​ที่​หลง​เหลืออยู่​ก่อนหน้า​

‘เป็น​อย่าง​ที่​คิด​ไว้​ โครงสร้าง​อิทธิฤทธิ์​ที่​ได้​มาจาก​การ​ก่อ​ตัวอย่าง​หยาบ​ๆ ไม่เสถียร​ถึงขีดสุด​ หนำซ้ำ​พลังงาน​จำนวนมาก​ก็​เสียเปล่า​ไป​ใน​การ​หักล้าง​กันเอง​ เลย​แสดง​อานุภาพ​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ออกมา​ไม่ได้​ จะต้อง​มีระบบ​โครงสร้าง​พลังงาน​ที่​สอดคล้องกัน​ระบบ​หนึ่ง​ ถึงจะแสดง​พลัง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​ ดังนั้น​โครงสร้าง​พลังงาน​ที่​เรา​ต้อง​การ​…คือ​อะไร​ล่ะ​’

ลู่​เซิ่งหลับตา​ลง​อีกครั้ง​…

เวลา​ผ่าน​ไป​ทีละน้อย​ หมอก​ดำ​หลาย​สาย​เริ่ม​จับตัว​บน​ร่าง​เขา​

หมอก​ดำ​หนาแน่น​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ขณะ​จับตัว​เป็น​วัตถุ​

นั่น​คือ​เกราะ​สีดำ​น่ากลัว​ที่​เรืองแสง​สีม่วง​ หมวก​เกราะ​กับ​ไหล่​สอง​ข้าง​มีหนาม​แหลม​ที่​โค้ง​ขึ้น​ด้านบน​เหมือน​เขา​กระทิง​ เกราะ​หน้า​เหมือนกับ​เป็น​โลหะ​แข็งแกร่ง​ใน​ลักษณะ​แท่ง​

โลหะ​แหลม​สอง​ก้อน​ที่​เหมือน​คอเสื้อ​แทง​ออก​มาจาก​ส่วน​คอ​ โลหะ​สอง​ก้อน​นี้​สูงกว่า​ส่วน​ศีรษะ​ ตรง​ขอบ​มีเทว​ลักษณ์​ซับซ้อน​ที่​เก่าแก่​และ​ลึกลับ​

สิ่งที่​ชวน​ให้​ประหลาดใจ​ก็​คือ​ แขน​ซ้าย​ของ​เขา​กลายเป็น​หัว​หมาป่า​ขนาด​ยักษ์​สามข้าง​ คอ​ของ​หมาป่า​เชื่อม​ติดกัน​ และ​ต่อ​ติดกับ​แขน​ของ​ลู่​เซิ่งพอดี​

ส่วน​แขนขวา​เป็น​มังกร​สีดำ​สนิท​คดเคี้ยว​ หาง​ของ​มังกร​เชื่อม​กับ​ท่อน​แขน​ของ​ลู่​เซิ่ง

แก​ร๊ก​

มีเสียงดัง​ขึ้น​ ปีก​ยักษ์​สีดำ​สนิท​ที่​มีแผ่น​โลหะ​กระจัดกระจาย​อยู่​เต็มไปหมด​คู่​หนึ่ง​กาง​ออก​ด้านหลัง​ลู่​เซิ่งอย่าง​ช้าๆ นั่น​คือ​ปีก​ขนาดใหญ่​ของ​กระเรียน​ดำ​พัน​เท​วะ​

‘ใกล้​แล้ว​…ใกล้​แล้ว​…เขา​สัมผัส​ได้​แล้ว​’

ลู่​เซิ่งหลับตา​ สัญชาติ​ญาณดิบ​บางอย่าง​กระเพื่อม​อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​จิตวิญญาณ​

นั่น​คือ​ความปรารถนา​ดั้งเดิม​ที่​เก่าแก่​กว่า​ความต้องการ​เอาชีวิต​รอด​ ซึ่งมาจาก​ส่วนลึก​ของ​วัฏจักร​นับไม่ถ้วน​ และ​ซ่อนเร้น​ตัว​อยู่​…

บุ๋งๆๆ…​

ฟองอากาศ​สีดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ลอย​ขึ้น​จาก​ใต้เท้า​เขา​

ร่าง​ของ​ลู่​เซิ่งลอย​ขึ้น​ สอง​ขา​ของ​เขา​หาย​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ก็​ไม่ทราบ​ สิ่งที่มา​แทนที่​คือ​หาง​ยักษ์​น่ากลัว​ที่​หยาบ​ใหญ่​และ​แข็งแกร่ง​

หาง​ใหญ่​สะบัด​แผ่วเบา​ ปีก​ของ​เขา​กาง​ออก​ กระแส​พลังงาน​สีดำ​จำนวนมาก​รวมตัว​ด้านหน้า​เขา​ด้วย​ความเร็ว​สูง

ขณะเดียวกัน​ก็​มีก้อน​แสงบริสุทธิ์​สีเทา​กลุ่ม​หนึ่ง​รวมตัว​ขึ้น​ด้านหน้า​ลู่​เซิ่งอย่าง​ช้าๆ เช่นกัน​

หมาป่า​สามหัว​อ้า​ปาก​พ่น​กระแสความ​เย็น​สีฟ้าหลาย​สาย​เข้าไป​ใน​ก้อน​แสง ส่วน​มังกร​ที่อยู่​บน​แขนขวา​ก็​พ่น​เปลวเพลิง​สีดำ​อม​ม่วง​ใส่ก้อน​แสงไม่หยุด​เช่นกัน​ เหมือนกับ​กำลัง​ปรับ​สมดุล​และ​ความเสถียร​อยู่​

ก้อน​แสงสั่น​ระริก​ขณะ​ขยาย​ใหญ่​และ​ไม่เสถียร​ขึ้น​เรื่อยๆ​

ในเวลาเดียวกัน​ เกล็ด​น่ากลัว​ที่​หยาบกระด้าง​และ​แข็งแกร่ง​ของ​ลู่​เซิ่งก็​เริ่ม​สัมผัส​ได้​ว่า​มีพลังงาน​ที่​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​ชนิด​หนึ่ง​กำลัง​สั่น​ไหว​

เปลวเพลิง​ กระแสความ​เย็น​ รวมถึง​พลังงาน​ชนิด​อื่นๆ​ ได้​ผสม​กัน​ด้วย​สัดส่วน​ประหลาด​ชนิด​หนึ่ง​ จับตัว​เป็น​ก้อน​สีเทา​ขนาด​ลูก​แตงโม​

‘นี่แหละ​!’ ลู่​เซิ่งรู้สึก​ว่า​สิ่งที่​ตัวเอง​ต้องการ​ได้​กลาย​เป็นจริง​แล้ว​ อิทธิฤทธิ์​ของ​เขา​มีมากมาย​ แต่​อิทธิฤทธิ์​ที่​ใช้แสดง​อานุภาพ​ทั้งหมด​ของ​ตน​ได้​ มีแต่​ก้อน​โกลาหล​สีเทา​นี้​เท่านั้น​

และ​หาก​ต้องการ​สร้าง​ก้อน​สีเทา​นี้​ เขา​จะต้อง​ทำให้​ร่าง​หลัก​ของ​ตัวเอง​กลายเป็น​สภาพ​ที่​สำแดง​อิทธิฤทธิ์​ได้​อย่าง​มีประสิทธิภาพ​มาก​ที่สุด​ หรือ​ก็​คือ​สภาพ​น่ากลัว​ที่​ทั้ง​แปลกประหลาด​และ​ดุร้าย​ใน​ตอนนี้​

ถ้าบอ​กว่า​สภาพ​ใบหน้า​สามใบ​และ​แขน​มากมาย​เมื่อก่อน​หน้าเป็น​สภาพ​ที่​เหมาะ​แก่​การต่อสู้​ด้วย​กาย​เนื้อ​ที่สุด​ อย่างนั้น​สภาพ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​สภาพ​ที่​เหมาะกับ​อิทธิฤทธิ์​มาก​ที่สุด​

ใน​สภาพ​แบบนี้​ อิทธิฤทธิ์​ทั้งหมด​จะแสดง​อานุภาพ​ออกมา​ได้​มากกว่า​เดิม​สอง​ร้อย​เท่า​ และ​ก้อน​กลม​สีเทา​ใน​ตอน​สุดท้าย​ก็​ต้อง​มีสภาพ​นี้​เท่านั้น​ถึงจะสร้าง​ขึ้น​ได้​

ส่วน​ก้อน​สีเทา​ก้อน​นั้น​ แม้จะเป็น​ก้อน​เล็ก​ๆ ที่​เพิ่ง​จับตัว​กัน​ขึ้น​มา แต่​คุณสมบัติ​ด้านใน​ตัว​มัน​กลับเป็น​โครงสร้าง​อัน​น่า​หวาด​สะพรึง​ที่​หวนกลับ​ไป​ยัง​ต้นกำเนิด​และ​ทำลาย​ทุกสิ่ง​

พึง​ทราบ​ว่า​สภาพ​ของ​วัตถุ​ใดๆ​ ต่าง​เป็น​ผลลัพธ์​ทางธรรมชาติ​ที่​ได้​มาจาก​การวิวัฒนาการ​เป็นเวลา​หลาย​ปี​ ส่วน​การกลับคืน​สู่ต้นกำเนิด​เป็น​การวิวัฒนาการ​ชีวิต​ย้อนกลับ​ให้​กลายเป็น​อวัยวะ​ ย้อน​อวัยวะ​ให้​กลายเป็น​เนื้อเยื่อ​ ย้อน​เนื้อเยื่อ​ให้​กลายเป็น​เลือดเนื้อ​และ​เซลล์​ ย้อน​เซลล์​ให้​กลายเป็น​สิ่งมีชีวิต​ดั้งเดิม​ที่​มีขนาดเล็ก​กว่า​ จนกระทั่ง​ย้อนกลับ​เป็น​องค์ประกอบ​ธาตุ​ระดับ​พื้นฐาน​ที่สุด​

นี่​ก็​คือ​วิชา​สูงสุด​ที่​ลู่​เซิ่งพัฒนา​ออกมา​ผ่าน​โลก​รูป​จิต​ อันเป็น​พรสวรรค์​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​มาร​สวรรค์​มายา​พิศวง​

ผ่าน​การ​ใช้ความสามารถ​ต่างๆ​ เช่น​ ภาพหลอน​ การ​สะกดจิต​ การชักนำ​พลังงาน​ และ​การกระแทก​ด้วย​พลังงาน​ มาทำลาย​แรง​รวมตัว​ใน​เซลล์​ทั้งหมด​ของ​ร่าง​อีก​ฝ่าย​

กล่าว​ได้​ว่า​ ใน​ตอนที่​เห็น​ก้อน​กลม​สีเทา​โกลาหล​กลุ่ม​นี้​ การ​โจมตี​ก็ได้​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว​

เป็น​เพราะ​การ​มองเห็น​ก็​เป็น​ความสามารถ​โจมตี​ชนิด​หนึ่ง​เหมือนกัน​

‘อีก​ด้าน​ของ​การวิวัฒนาการ​ คือ​การวิวัฒนาการ​ย้อนกลับ​…’ ลู่​เซิ่งมอง​ก้อน​กลม​สีเทา​ตรงหน้า​ ‘การวิวัฒนาการ​กับ​การย้อนกลับ​ สอง​สิ่งคือ​วงจร​สุดท้าย​ที่​รักษา​ชีวิต​ทั้งมวล​เอาไว้​’

‘การวิวัฒนาการ​คือ​การ​ได้มา​ การย้อนกลับ​คือ​การละทิ้ง​ การวิวัฒนาการ​คือ​การ​รวมตัว​ การย้อนกลับ​คือ​การ​แยกตัว​ ใน​เมื่อ​เป็น​แบบนี้​ ก็​เรียก​ว่า​ประกาย​แห่ง​จุดเริ่มต้น​ก็แล้วกัน​ ประกาย​ที่จะ​ย้อน​ทุกสิ่ง​กลับ​สู่จุดเริ่มต้น​!’

มังกร​บน​แขนขวา​ของ​ลู่​เซิ่งคำราม​และ​งับ​ใส่ก้อน​สีดำ​

ก้อน​สีดำ​สาด​แสงใน​ปาก​มังกร​

ตูม​!

ลำแสง​สีดำ​อม​เทา​สาย​หนึ่ง​ถูก​ยิง​ออกจาก​ปาก​มังกร​ พุ่ง​ไกล​ออก​ไป​ใน​ความ​มืดมิด​

ลำแสง​ทะลวง​ทะเลสาบ​ดำ​ เจาะผา​หิน​ใน​ถ้ำใต้ดิน​ และ​พุ่ง​ต่อไป​ยัง​ท้องฟ้า​

ทุกสิ่ง​ที่​มัน​พุ่ง​ผ่าน​ต่าง​กลายเป็น​ผุยผง​ กลายเป็น​เม็ด​อนุภาค​นับไม่ถ้วน​แรก​สุด​ที่​ตา​เนื้อ​ไม่อาจ​มองเห็น​

ตอน​แรกเริ่ม​ บน​โลก​ไม่มีการ​แบ่งแยก​พลังงาน​และ​วัตถุ​ธาตุ​

มีแต่​ความว่างเปล่า​เท่านั้น​

ณ ส่วนลึก​สุด​ของ​ถ้ำทรงกลม​ ลู่​เซิ่งเงยหน้า​มอง​นภา​ดาว​ที่​ระยิบระยับ​ด้านนอก​ คล้าย​บรรลุ​อะไร​บางอย่าง​

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด