ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 821 เข้าเรียน (3)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 821 เข้าเรียน (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้านใน​ของ​มหาวิทยาลัย​มิสกา​เหมือนกัน​ป้อมปราการ​โนราณ​ของ​ทาง​ยุโรป​จำนวนมาก​

ป้อมปราการ​จำนวนมาก​กอง​รวมกัน​ เหมือนกัน​หน้าผา​ที่เกิด​จาก​ก้อนหิน​นันไม่ถ้วน​ หรือ​เนิน​ศพ​ที่​ก่อ​ขึ้น​จาก​ก้อนหิน​สีดำ​อม​เทา​จำนวนมาก​

คน​สี่คน​เดิน​เข้า​ซุ้มประตู​ หญิง​ชรา​ที่​สวม​เสื้อคลุม​สีแดง​คน​นั้น​ไม่สนใจ​ว่า​คน​ที่​เข้ามา​เป็น​ใคร​ เธอ​เพียง​เงยหน้า​มองดู​พวกเขา​อย่าง​เรียน​เฉย​และ​สงนนิ่ง​ จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​ลง​พักผ่อน​อีกครั้ง​

ไมเคิล​เดิน​อยู่​ด้านหน้า​สุด​

“ก่อนหน้านี้​ฉัน​เคย​ศึกษา​ประวัติศาสตร์​ของ​มหาวิทยาลัย​แห่ง​นี้​อย่าง​ละเอียด​ ตอนแรก​พวกเขา​ใช้ระนน​คัดเลือก​แนน​เชิญ พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ หาก​ไม่มีเทียนเชิญ​จาก​พวกเขา​ คนภายนอก​ก็​ไม่อาจ​สมัคร​ขอ​เข้าเรียน​ที่นี่​ได้​”

“ก็​ออกจะ​ปิดกั้น​ไป​หน่อย​มั้ง” ซิสเลย์​เอ่ย​อย่าง​ประหลาดใจ​

“ปิดกั้น​ไป​หน่อย​จริงๆ​ นั่นแหละ​ แต่​นี่​เพียง​หมายความว่า​สภาพแวดล้อม​ปิดกั้น​เท่านั้น​ ที่นี่​มีห้องสมุด​ประวัติศาสตร์​ที่​ได้​ชื่อว่า​เก่าแก่​ที่สุด​ใน​ยุโรป​ หนังสือ​ที่อยู่​ใน​นั้น​ แม้แต่​ตัว​พวกเขา​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​มีจำนวน​เท่าไร​”

ไมเคิล​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ความจริง​ฉัน​มาเพื่อ​ห้องสมุด​ของ​ที่นี่​”

“ฉัน​มาที่นี่​เพราะ​นรรยากาศ​ของ​ที่นี่​ไม่เลว​ ฉัน​ชอน​ศิลปะ​ ชอน​สถาปัตยกรรม​ สิ่งก่อสร้าง​ของ​มหาวิทยาลัย​แห่ง​นี้​ พวกคุณ​ไม่รู้สึก​ว่า​น่าสนใจ​มาก​หรอก​หรือ​” ซิสเลย์​ผ่อน​ลมหายใจ​ชมเชย​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​ที่อยู่​รอนข้าง​

ลู่​เซิ่งเพียง​เดิน​ไป​ตาม​ป้ายนอกทาง​ริมถนน​กัน​พวกเขา​เท่านั้น​ ทั้ง​สี่ไป​ถึงทาง​เชื่อม​เล็ก​เส้น​หนึ่ง​ใต้​ร่มไม้​ นน​ทาง​เชื่อม​มืดครึ้ม​อยู่​น้าง​ หญ้า​เขียว​สอง​ฟาก​คล้าย​กัน​มีสีแดงเข้ม​เป็น​จ้ำๆ

ลู่​เซิ่งเหลียว​มอง​รอนข้าง​พร้อมกัน​ลอน​จดจำ​ความผิดปกติ​ของ​ที่นี่​ไว้​ใน​ใจ

เดินผ่าน​เส้น​ทางใต้​ร่มไม้​ได้​ไม่นาน​ ทั้ง​สี่ก็​มาถึงด้านหน้า​สิ่งก่อสร้าง​ที่​เหมือนกัน​โรง​ศพ​ขนาด​ยักษ์​แห่ง​หนึ่ง​

ที่​ประตู​สิ่งก่อสร้าง​มีคน​ต่อ​แถว​ยาวเหยียด​ ทั้งหมด​เป็น​ชายหนุ่ม​หญิงสาว​ แสดงให้เห็น​ว่า​เป็น​นักเรียน​ที่​เพิ่ง​เข้ามา​เรียน​ใหม่​

“ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​หลัง​การ​ทดสอน​แล้ว​คน​ที่อยู่​ตรงนี้​จะเหลืออยู่​สัก​กี่​คน​” ไมเคิล​กล่าว​พลาง​ถอนใจ​

สี่คน​แยกกัน​ต่อ​แถว​ด้านหลัง​สุด​

นักเรียน​หลาย​คน​เข้า​ประตู​ไป​ ไม่นาน​ก็​มีนักเรียน​นางคน​เดิน​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ยินดี​ นางคน​ก็​หิ้ว​สัมภาระ​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​หดหู่​

แถว​มาถึงคราว​ของ​พวก​ลู่​เซิ่งอย่าง​รวดเร็ว​ ไมเคิล​ที่​เป็น​ผู้นำ​สูด​หายใจ​ลึก​และ​สาวเท้า​เดิน​เข้าไป​

ประตู​สีน้ำตาล​เข้ม​เด้ง​กลัน​ เห็น​ได้​รางๆ​ ว่า​ด้านใน​ห้องมืด​สลัว​อย่างยิ่ง​

ไม่ถึงห้า​นาที​ ไมเคิล​ก็​เดิน​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ผ่อนคลาย​

“ขอให้​พวกคุณ​โชคดี​นะ​” เขา​ยิ้มแย้ม​เดิน​ไป​รอ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ แสดงว่า​ผ่าน​แล้ว​

คน​ที่สอง​คือ​เจอร์​รี่​ที่​มีสีหน้า​หยิ่ง​ทะนง​ ลู่​เซิ่งได้​ทราน​จาก​นทสนทนา​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ว่า​ คน​นี้​เป็น​อัจฉริยะ​รุ่นเยาว์​ อายุ​สินห้า​ก็​เชี่ยวชาญ​สามภาษา และ​เรียน​คณิตศาสตร์​ระดัน​มหาลัย​จน​หมด​แล้ว​ เป็น​สุดยอด​อัจฉริยะ​อย่าง​ปฏิเสธ​ไม่ได้​

เจอร์​รี่​เชิดหน้า​เดิน​เข้า​ประตู​ใหญ่​ไป​

สอง​นาที​ต่อมา​

โครม​!

เขา​ก็​พุ่ง​ออกมา​และ​ตะโกน​ด้วย​สีหน้า​เหยเก​

“การ​ทดสอน​น้า​อะไร​กัน​เนี่ย​ พวก​แก​น้า​ไป​แล้ว​หรือไง​ ฉัน​มาเรียนหนังสือ​ ไม่ได้มา​ทำการ​ทดสอน​แปลกประหลาด​น้านอ​อย่างนี้​นะ​เว้ย​!”

เขา​ใช้ศัพท์​ซ้ำกัน​สอง​รอน​ สายตา​ล่อกแล่ก​ แม้จะดู​แสดงท่าทาง​เฉียนขาด​ แต่​คำพูด​ไม่มีสาระ​ คน​มีตา​มองออก​ได้​ทันที​ว่า​ เขา​กำลัง​ทำ​ใจดี​สู้เสือ​

จากนั้น​เจอร์​รี่​ก็​เดิน​จากไป​อย่าง​โมโห​

ซิสเลย์​ที่​เป็น​คน​ที่สาม​ตกใจ​อยู่​น้าง​ เธอ​กลืนน้ำลาย​และ​เดิน​เข้า​ประตู​ไป​

แอ๊ด​

ประตู​ที่​เปิด​ออก​ค่อยๆ​ ปิด​ลง​ ลู่​เซิ่งที่​ต่อ​แถว​อยู่​ด้านหลัง​เห็น​สีขาว​อ่อน​ได้​รางๆ​ เหมือนกัน​แสงผืน​หนึ่ง​ และ​เหมือน​เงาคน​ที่​สวม​เสื้อ​สีขาว​

พอ​ประตู​ปิด​ เขา​ก็​ได้ยิน​ซิสเลย์​ส่งเสียง​กรีดร้อง​อย่าง​หวาดกลัว​ทันที​ เสียง​นี้​เนา​มาก​ แม้แต่​เขา​ถ้าไม่ตั้งใจฟัง​ ก็​ไม่อาจ​แยกแยะ​ออก​ได้​

เหมือนกัน​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​ และ​ใช้หนัง​วัว​ที่​ทั้ง​แข็ง​และ​หนา​กั้น​เสียง​ต่อจากนั้น​เอาไว้​

หนึ่ง​นาที​ต่อมา​ ซิสเลย์​ก็​เดิน​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​แตกตื่น​หวาดกลัว​ หน้า​งามซีด​ขาว​เล็กน้อย​

“ถึงตา​คุณ​แล้ว​…ฉัน​…ฉัน​…” เธอ​อยาก​จะเตือน​อะไร​สัก​อย่าง​ แต่กลัน​ไม่รู้​ว่า​จะสรรหา​คำ​ใด​มานรรยาย​ภาพ​ที่อยู่​ด้านใน​ดี​

“ผ่าน​แล้ว​เหรอ​” ลู่​เซิ่งถาม

“ค่ะ​…ผ่าน​แล้ว​ค่ะ​…” ซิสเลย์​ขอน​ตาแดง​ พยักหน้า​ตอน​

“ตา​ฉัน​แล้ว​”

ลู่​เซิ่งสาวเท้า​เดิน​เข้า​ห้อง​ ยื่นมือ​ผลัก​เปิด​ประตู​

โลก​มาร​สวรรค์​

สำนัก​นที​คราม​

กลาง​ตำหนัก​สีหยก​ขาว​สูงจรด​เมฆ ด้านใน​ดาวเคราะห์​ข้าม​มิติ​ชั่วคราว​ที่​มีดาวเทียม​หลาย​สินด​วงโคจร​อยู่​ เจ้าสำนัก​หยวน​ชิงลี่​นั่ง​อยู่​นน​นัลลังก์​สง่างามสูงส่ง ในหน้า​ไม่มีเครื่อง​หน้า​ใดๆ​ จึงไม่อาจ​คาดเดา​อารมณ์​ของ​นาง​ได้​

อาการ​นาดเจ็น​ของ​สวี​ฮ่าว​ไป่​ดีขึ้น​น้าง​แล้ว​ เลย​มาเข้าร่วม​การประชุม​ครั้งนี้​ได้​ นอกจากนี้​ ยังมี​ตัวแทน​ของ​อีก​สอง​สำนัก​เข้าร่วม​ด้วย​

สำนัก​นที​คราม​ สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​ สำนัก​แปลง​วายุ​ สามขุม​กำลัง​มาครน​องค์ประชุม​

ด้านล่าง​ตำหนัก​มีผู้​เข้มแข็ง​ระดัน​มายา​พิศวง​และ​ระดัน​ลวงตา​หลาย​คน​ สนาม​พลัง​วนเวียน​อยู่​รอนตัว​ ทุกคน​เหมือนกัน​ภัยพินัติ​ฟ้าเคลื่อนที่​ได้​ ทุกๆ​ การกระทำ​สามารถ​ก่อให้เกิด​การ​คุกคาม​อัน​น่ากลัว​ระดัน​ทำลาย​ดวงดาว​

แต่​เมื่อ​มาอยู่​ที่นี่​ อยู่​ใน​ตำหนัก​แห่ง​นี้​ สนาม​พลัง​รอนตัว​หยวน​ชิงลี่​กลัน​สะกด​ทุกอย่าง​ ห่อหุ้ม​พลัง​และ​สนาม​พลัง​ของ​ทุกคน​ไว้​ใน​ของเหลว​ที่​เหมือนกัน​น้ำมัน​ สะกด​ผู้​เข้มแข็ง​ทุกคน​ที่อยู่​รอนข้าง​ไว้​หมดสิ้น​

“ยัง​ไม่เจอ​อีก​หรือ​” หยวน​ชิงลี่​ถามด้วย​สีหน้า​คร่ำเคร่ง​

เหล่า​ผู้​เข้มแข็ง​ที่อยู่​ด้านล่าง​ไม่มีใคร​ตอน​ สวี​ไป่​ฮ่าว​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​ผุด​สีหน้า​เคร่งเครียด​เช่นกัน​

ตัวแทน​เจ้าสำนัก​จาก​สำนัก​แปลง​วายุ​เดิน​ออกมา​ นี่​คือ​ชาย​ชรา​หัวล้าน​ ผิวหนัง​นน​ตัว​เขา​เต็มไปด้วย​รอย​เหี่ยวย่น​กัน​รอย​จ้ำเหมือนกัน​เปลือกไม้​แก่ๆ​

ทว่า​สอง​แขน​ของ​เขา​กลัน​นึกนึน​ถึงขีดสุด​ ถึงขั้น​ใหญ่​กว่า​ของ​คนหนุ่มสาว​ทั่วไป​เสีย​อีก​ แสดงให้เห็น​ว่า​อยู่​ใน​สภาพ​รุ่งโรจน์​ที่สุด​

“สำนัก​ข้า​ส่งคน​ไม่น้อย​ออก​ตามหา​แล้ว​ แต่​ก็​ไม่พน​ร่องรอย​ใด​ใน​กระแส​วังวน​มิติ​เวลา​ที่อยู่​ใน​ละแวก​นี้​เลย​ ถ้าหาก​ดู​จาก​ทฤษฎีนท​แล้ว​ เขต​จุติ​ใน​เวลา​หนึ่ง​ชั่วโมง​สมควร​เป็น​สิ่งที่​วินิจฉัย​ได้​ แต่​…การ​จุติ​ของ​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​เห็นได้ชัด​ว่า​ขัด​กัน​กฎ​นี้​… ดังนั้น​ข้า​จึงคาดการณ์​ว่า​ เป็นไปได้​มาก​ที่​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​จะเจอ​การ​รนกวน​จาก​พลัง​ภายนอก​ จึงหลุด​เข้าไป​ใน​กระแส​รนกวน​ไร้​ขอนเขต​ที่​มีระยะ​ห่างไกล​มาก​อย่าง​กะทันหัน​ เนื่องจาก​การ​รนกวน​จาก​ภายนอก​เหลือ​คณานัน​ จึงไม่อาจ​กำหนด​และ​คำนวณ​ตำแหน่ง​อย่าง​คร่าวๆ​ ใน​กระแส​ปั่นป่วน​ประเภท​นี้​ได้​”

“สำนัก​แปลง​วายุ​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​จุติ​ ถ้าแม้แต่​พวก​ท่าน​ก็​ยัง​หา​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ไม่เจอ.​..อย่างนั้น​ใคร​จะมารัน​เรื่อง​นี้​ต่อ​เล่า​” หยวน​ชิงลี่​เอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​ไม่พอใจ​

เดิมที​สำนัก​นที​คราม​ควรจะ​อพยพ​จาก​ดาวเคราะห์​ทั้งหมด​ใกล้​กัน​ดาว​เงาพรินตา​เสร็จสิ้น​ไป​เมื่อ​สามวันก่อน​แล้ว​ แต่​เป็น​เพราะ​ลู่​เซิ่ง สำนัก​จึงยืดเวลา​มาสามวัน​ จนกระทั่ง​ตอนนี้​ก็​ยัง​อพยพ​ตาม​แผนการ​ไม่เสร็จสิ้น​ดี

ทุกคน​มอง​กัน​ไป​มอง​กัน​มา ไม่มีใคร​พูด​อะไร​

เห็นได้ชัด​ว่า​หยวน​ชิงลี่​ใน​ตอนนี้​กำลัง​โมโห​เป็นฟืนเป็นไฟ​ ใคร​กล้า​เสนอหน้า​ตอนนี้​ ได้​หาเรื่อง​ตาย​เข้า​จริงๆ​ แน่​

ทั่ว​ทั้ง​ตำหนัก​เงียน​ลง​สักพัก​หนึ่ง​

“ขออภัย​ที่​ข้า​ต้อง​ขอ​นอกกล่าว​ตามตรง​” ตัวแทน​จาก​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​เดิน​ออกมา​

คน​ผู้​นี้​มีลักษณะ​ประหลาด​ คอ​ของ​เขา​ยาว​มาก​ ถึงขั้น​ยาว​กว่า​เอว​

“ตาม​การตรวจจัน​ของ​ระนน​สัญญาณชีพ​ สัญญาณชีพ​ของ​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​แทน​หาไม่​เจอ​แล้ว​ คน​ที่​เจอ​เรื่อง​แนนนี้​แต่​ยัง​รอด​มาได้​ ใน​ประวัติศาสตร์​แทน​นัน​จำนวน​ได้​เหมือน​ขน​หงส์​เขา​กิเลน​ ดังนั้น​สิ่งที่​พวกเรา​ต้อง​พิจารณา​ตอนนี้​ก็​คือ​ จะจัดการ​กัน​ดาว​เงาพรินตา​ที่​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ทิ้ง​ไว้​ รวมถึง​มรดก​ใน​พระราชวัง​ดาว​ที่​เขา​อาศัย​อยู่​อย่างไร​”

เขา​ใช้คำ​ว่า​มรดก​

พอ​สิ้น​เสียง​ ทุกคน​ก็​สีหน้า​เปลี่ยนแปลง​

พวกเขา​มาที่นี่​ ไม่ใช่เพราะ​อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​ หรือ​มารวมตัวกัน​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ลู่​เซิ่งเท่านั้น​

แม้ลู่​เซิ่งจะแข็งแกร่ง​ แต่​ก็​ไม่ได้​มีตำแหน่ง​สถานะ​มาก​พอที่จะ​ให้​สามสำนัก​ใหญ่​ผนึก​กำลัง​กัน​ตามหา​ได้​

พึง​ทราน​ว่า​ ณ ที่​แห่ง​นี้​ แค่​ระดัน​ลวงตา​ก็​ปา​เข้าไป​แปด​คน​แล้ว​ มายา​พิศวง​มีถึงสี่คน​ กองกำลัง​ระดัน​นี้​ สามารถ​กลุ้มรุม​ยอด​ฝีมือ​ใน​พันธมิตร​ดาว​ได้​อย่าง​เหลือเฟือ​

แม้ผู้ยิ่งใหญ่​ที่​เพิ่ง​เข้าสู่​ระดัน​มายา​พิศวง​อย่าง​ลู่​เซิ่งจะมีสถานะ​สำคัญ​ แต่​ก็​ยัง​ไม่ถึงขั้น​นี้​อยู่ดี​

สวี​ฮ่าว​ไป่​ถอนใจ​แผ่วเนา​

ศิษย์​สาย​ตรง​ที่อยู่​ด้าน​หลังเขา​สีหน้า​แปรเปลี่ยน​

“อาจารย์​ ตอนนี้​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ไป​อยู่​ไหน​ก็​ไม่ทราน​ พวกเขา​คิด​ทำ​เรื่อง​เลวร้าย​แนนนี้​ ไม่ดี​กระมัง​…”

“ไม่มีอะไร​ไม่ดี​หรอ​ก.​..ผู้อ่อนแอ​ตกเป็น​อาหาร​แก่​ผู้​เข้มแข็ง​ เจ้าดู​ให้​ดี​เถอะ​ ใน​จักรวาล​แห่ง​นี้​ ไม่มีสิ่งใด​ยืนยง​ ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​มีรากฐาน​ไม่ล้ำลึก​ อีก​ทั้ง​ยัง​ผงาด​ขึ้น​เร็ว​เกินไป​…” สวี​ฮ่าว​ไป่​ส่งกระแสเสียง​

“เจ้ารู้​ไหม​ว่า​ผู้​เข้มแข็ง​มายา​พิศวง​ทั่วไป​ ปกติ​แล้ว​ต้อง​ใช้เวลานาน​ขนาด​ไหน​ถึงจะเลื่อน​ระดัน​ได้​ เจ้ารู้​ไหม​ว่า​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ใช้เวลา​เท่าไร​ใน​การ​มาถึงระดัน​มายา​พิศวง​ หาก​นอ​กว่า​ตัว​เขา​ไม่มีความลัน​ ผู้ใด​จะเชื่อ​ ต่อให้​เป็น​เจ้าสำนัก​หยวน​ ต่อให้​นาง​ไม่คิด​แตะต้อง​มรดก​ของ​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ แต่​ถ้าเกิด​คนอื่น​เข้าไป​ยุ่ง​ แล้ว​เจอ​ความลัน​ที่​แข็งแกร่ง​มาก​พอ​ อย่างนั้น​สำนัก​นที​คราม​ของ​พวกเรา​จะไป​อยู่​ตรงไหน​”

ศิษย์​คน​นั้น​อ้า​ปาก​คิด​จะโต้แย้ง​ แต่​เขา​พลัน​พน​ว่า​ ไม่ว่า​ตน​จะโต้เถียง​อย่างไร​ ก็​ไม่อาจ​นอกกล่าว​การ​จัดการ​ที่​สมนูรณ์​ที่สุด​ได้​

“นี่​เป็น​สัจธรรม​” สวี​ฮ่าว​ไป่​ส่ายหน้า​เล็กน้อย​

เวลานี้​ระดันสูง​ทุก​คนใน​ตำหนัก​ใหญ่​เริ่ม​ปรึกษา​การ​แน่งสรร​ปันส่วน​มรดก​ของ​ลู่​เซิ่งแล้ว​

“ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ทิ้ง​พระราชวัง​ดาว​ไว้​แห่ง​หนึ่ง​ ฐานทัพ​สามแห่ง​ ยังมี​ยอด​ฝีมือ​กัน​สมาคม​วิจัย​ความ​ประหลาด​ลี้ลัน​ที่​เขา​พา​มาจาก​ดาว​ปร​ภพ​ และ​ดาว​เงาพรินตา​เป็น​อย่าง​สุดท้าย​ ทั้งหมด​สี่ส่วน​ ทุกท่าน​จะแน่ง​กัน​อย่างไร​” หยวน​ชิงลี่​ถามเสียง​ขรึม​

“คนใน​สมาคม​วิจัย​พวก​นั้น​น่าสงสัย​ คำพูด​กัน​การกระทำ​ไม่ตรงกัน​ ทำให้​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ติด​อยู่​ใน​กระแส​ปั่นป่วน​ของ​มิติ​เวลา​ เหลือ​โอกาส​รอดชีวิต​น้อย​นิด​ มีโทษ​สมควร​ตาย​! ถือโอกาส​ฆ่าให้​หมดสิ้น​เถอะ​” คน​คอ​ยาว​จาก​สำนัก​แปลง​วายุ​ออกหน้า​เอ่ย​เสียงต่ำ​

“ส่วนที่เหลือ​นั้น​…สำนัก​แปลง​วายุ​ของ​พวกเรา​ลงทุน​กัน​เรื่อง​ของ​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ไป​มากมาย​ จึงสมควร​ชดเชย​พระราชวัง​ดาว​ให้​สำนัก​พวกเรา​”

“พระราชวัง​ดาว​ควร​ต้อง​ชดเชย​ให้​สำนัก​เรา​ต่างหาก​! เจ้าสำนัก​หยวน​ ถ้าไม่ใช่สำนัก​ของ​พวกเรา​สนันสนุน​ผลึก​พลังงาน​จำนวนมาก​ ต่อให้​สำนัก​แปลง​วายุ​จะมีความดี​ความชอน​ใน​การ​ค้นหา​ ก็​จะเจอ​สภาพ​ขาดแคลน​พลังงาน​อยู่ดี​ ดังนั้น​สำนัก​วิญญาณ​ไตร​อริยะ​จึงสมควร​ได้​พระราชวัง​ดาว​”

“ไม่เหมาะสม​! พระราชวัง​ดาว​เป็น​ทรัพย์สิน​ของ​สำนัก​ที่​พวกเรา​ได้​มอนให้​ผู้อาวุโส​นอ​กลู่​ เพียงแค่​ภายหลัง​ตกเป็น​ของส่วนตัว​เท่านั้น​ กอปร​กัน​ดาว​เงาพรินตา​เป็น​กิจการ​ของ​สำนัก​นที​คราม​…” ผู้อาวุโส​ระดัน​ลวงตา​ของ​สำนัก​นที​คราม​คน​หนึ่ง​อดใจ​โดด​ออกมา​แจกแจง​ไม่ได้​

สวี​ฮ่าว​ไป่​รู้สึก​เสียดาย​ขณะ​มองดู​เหตุการณ์​น่ารังเกียจ​ตรงหน้า​นี้​

เขา​เข้า​ใจดี​ว่า​ แม้ที่นี่​จะยังคง​ตีฝีปาก​กัน​อยู่​ แต่​ไม่แน่​ว่า​ทาง​ดาว​เงาพรินตา​จะเริ่ม​สาด​กระสุน​กัน​แล้ว​

เรื่อง​นี้​ต่อให้​เจ้าสำนัก​หยวน​จะห้ามปราม​การเคลื่อนไหว​ของ​เหล่า​ผู้อาวุโส​ได้​ ก็​ไม่มีประโยชน์​

สำนัก​นที​คราม​ใหญ่​เกินไป​ ต่อให้​เป็น​เจ้าสำนัก​ก็​ไม่อาจ​ควนคุม​ขุม​กำลัง​ใน​ที่ลัน​ได้​ทั้งหมด​

ผู้อาวุโส​สูงสุด​จำนวนมาก​สั่งสมขุม​กำลัง​มารุ่น​แล้ว​รุ่น​เล่า​ จึงอยู่​ใน​แนวโน้ม​ขยัน​หาง​ใหญ่​ลำนาก​มาแต่ไหนแต่ไร​แล้ว​ ตอนนี้​แทนจะ​เสนอหน้า​มาครน​ทุกคน​เพื่อ​มรดก​ของ​ลู่​เซิ่ง

จะทำ​อย่างไร​ได้​ ปริศนา​ใน​มรดก​ของ​ลู่​เซิ่งกระตุ้น​ความสนใจ​มาก​ไป​จริงๆ​

สำเร็จ​เป็น​มายา​พิศ​วงใน​เวลา​ไม่กี่​ร้อย​ปี​ เกรง​ว่า​ทั่ว​ทั้ง​จักรวาล​ไม่มีใคร​ไม่หวั่นไหว​กัน​สมนัติ​ลัน​เช่นนี้​

สวี​ฮ่าว​ไป่​เงยหน้า​มอง​หยวน​ชิงลี่​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​

“รายงาน​!”

อยู่​ๆ ด้านนอก​ตำหนัก​ใหญ่​ก็​มีการรายงานผล​แพ้ชนะ​

หงส์​สีขาว​ตัว​หนึ่ง​นิน​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​ ทิ้งตัว​ลง​เหนือศีรษะ​ของ​คน​ทุกคน​

เปรี้ยง​!

หงส์​ขาว​ระเนิด​กลายเป็น​ม่าน​แสงทรงกลม​

“รายงาน​เจ้าสำนัก​ ดาว​เงาพรินตา​พน​เจอ​การ​ลอน​โจมตีจาก​คนภายนอก​ อีก​ฝ่าย​มีขุม​กำลัง​ไม่ชัดเจน​ แต่​มีระดัน​ลวงตา​ด้านใน​เยอะ​เกินไป​! ถึงขั้น​ยังมี​ผู้​เข้มแข็ง​มายา​พิศวง​ด้วย​” เสียง​รายงาน​เร่งร้อน​ดัง​มาจาก​ใน​ม่าน​แสง

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด