ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 846 โหมโรง (2)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 846 โหมโรง (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘นี่​คือ​รูปแบบ​ที่สี่​ของ​สายลม​แห่ง​การ​ประสาน​งั้น​หรือ​’ ลู่​เซิ่งนึกถึง​รูปภาพ​ใน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​

‘เทียบ​กับ​รูปแบบมาตรฐาน​ เกราะ​ของ​เรา​หนา​กว่า​อย่าง​เห็นได้ชัด​ เขา​บน​หัว​เอง​ก็​ยาว​กว่า​ มีรู​อากาศ​ซ่อนเร้น​บน​ตัว​มากกว่า​ น่าจะ​เกี่ยวกับ​คุณสมบัติ​ร่างกาย​’

แม้จะมาถึงรูปแบบ​ที่สี่​แล้ว​ แต่​เขา​ก็​เข้า​ใจดี​ว่า​โดยปกติ​แล้ว​ความสามารถ​ของ​สายลม​แห่ง​การ​ประสาน​นั้น​อ่อนแอ​มาก​ ดังนั้น​อานุภาพ​ของ​รูปแบบ​ที่สี่​ก็​ไม่นับว่า​แข็งแกร่ง​อะไร​

เขา​ยก​แขน​เล็ง​ไป​ที่​พื้น​

เปรี้ยง​!

บน​พื้น​ปรากฏ​รู​เล็ก​ๆ รู​หนึ่ง​

นี่​เป็น​อานุภาพ​ของ​กระแส​อากาศ​ที่​เขา​ยิง​ออก​มาจาก​รู​อากาศ​กลางฝ่ามือ​ที่​สร้าง​ขึ้น​สุดกำลัง​

‘ใกล้เคียง​กับ​ปืนพก​สำหรับ​ยิง​ใน​ระยะ​ประชิด​ แต่​บน​ตัวเรา​มีรู​อากาศ​ทั้งหมด​มากกว่า​พัน​รู​ สามารถ​ยิง​กระสุน​อากาศ​มากกว่า​พัน​สาย​ออกมา​ได้​ใน​เสี้ยว​วินาที​ อานุภาพ​นับว่า​ไม่เลว​ แต่​ความจริง​อานุภาพ​แบบนี้​เทียบ​ได้​กับ​อานุภาพ​หลังจาก​รูปแบบ​ที่หนึ่ง​ของ​นักศึกษา​สาย​ต้องห้าม​เติบโต​สมบูรณ์​ ความแตกต่าง​นี้​…จิ๊’

ลู่​เซิ่งขยับ​ข้อต่อ​ รู้สึก​ได้​ว่า​เกราะ​นี้​ไม่ส่งผล​ต่อ​การเคลื่อนไหว​ใดๆ​ ทั้ง​ยัง​สามารถ​ใช้การพ่น​อากาศ​จาก​ด้านหลัง​เร่งความเร็ว​และ​เพิ่ม​อานุภาพ​ขึ้น​ได้​อีก​

‘ดี​ป​บลู​’ เขา​เรียก​อินเตอร์​เฟซเครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ออกมา​เพื่อ​ดู​จำนวน​พลัง​อาวรณ์​

[พลัง​อาวรณ์​: 4,110,000]

‘ใช้ไป​ตั้ง​เยอะ​ แต่​พลัง​อาวรณ์​กลับ​เพิ่มขึ้น​ เหมือนว่า​ช่วงนี้​จะเก็บ​ได้​ไม่เลว​’ ลู่​เซิ่งแปลกใจ​เล็กน้อย​

ช่วงหลัง​ๆ ของ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​ใช้พลัง​อาวรณ์​สอง​พัน​กว่า​หน่วย​ต่อ​การ​ยกระดับ​หนึ่ง​ขั้น​ สิ้นเปลือง​เป็น​อย่างยิ่ง​ แต่​เมื่อ​คิด​อย่าง​ละเอียด​ ระดับ​สามสิบ​หก​ระดับ​ใช้พลัง​อาวรณ์​แค่​ไม่กี่​หมื่น​หน่วย​ เขา​ดูดซับ​หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​ก็​ชดเชย​ได้​แล้ว​

‘ต้อง​พักผ่อน​อีก​สักพัก​ถึงจะยกระดับ​ต่อ​ได้​ แต่​ต่อจากนี้​ ใน​เมื่อ​ฝึกฝน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​เสร็จ​แล้ว​ ก็​ควร​ถึงคราว​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​สี่ใน​ช่วง​ต่อไป​สักที​’

ลู่​เซิ่งกลับ​ไป​ถึงโต๊ะ​หนังสือ​ เปิด​ลิ้นชัก​และ​หยิบ​ต้นฉบับ​ปึก​หนึ่ง​ออกมา​ เป็น​เนื้อหา​สาระสำคัญ​จาก​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​สี่ที่​เขา​บันทึก​ไว้​

เขา​จัดระเบียบ​มัน​ โดย​ใช้เนื้อหา​ที่​มีความเสี่ยง​สูงจาก​ห้องสมุด​ราตรี​เป็น​แกน​หลัก​ และ​ใช้อย่าง​อื่น​เป็นตัว​เสริม​ ใน​การเขียน​ประมวล​กฎเกณฑ์​เล่ม​ใหม่​ขึ้น​มา

ลู่​เซิ่งตั้งชื่อ​มัน​ว่า​ ประมวล​กฎเกณฑ์​พร่างพราย​อนธการ​ นี่​เป็นการ​ผสมผสาน​ระหว่าง​สาระสำคัญ​ของ​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้น​สี่จาก​ห้องสมุด​ทิวา​และ​ห้องสมุด​ราตรี​ เป็น​เนื้อหา​ที่​เขา​ตั้งใจ​รวบรวม​ขึ้น​มาเพื่อ​ตัวเอง​

‘ประมวล​กฎเกณฑ์​พร่างพราย​อนธการ​แบ่ง​คร่าวๆ​ ออก​เป็น​เก้า​ระดับ​ แต่​ประมวล​กฎเกณฑ์​ต้องการ​เลือดเนื้อ​ของ​ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​ ยิ่ง​มีระดับสูง​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ดี​เท่านั้น​ เพราะ​ยิ่ง​มีระดับสูง​ก็​ยิ่ง​กระตุ้น​การวิวัฒนาการ​ของ​อวัยวะ​ได้​ง่าย​’

ลู่​เซิ่งใคร่ครวญ​ เกราะ​บน​ร่าง​พลัน​แหลก​สลาย​กลายเป็น​ขี้เถ้า​นับไม่ถ้วน​ ก่อน​จะหาย​ไป​ ส่วนตัว​เขา​กลับมา​อยู่​ใน​ร่าง​มนุษย์​ธรรมดา​อีกครั้ง​

จากนั้น​เขา​ก็​สวมใส่​เสื้อผ้า​ เงย​มอง​ท้องฟ้า​

‘อากาศ​ตอนบ่าย​พอใช้ได้​ เหมาะ​จะออก​ไป​ผ่อนคลาย​จิตใจ​พอดี​ ถึงยังไง​ตอนนี้​ก็​หมดเวลา​อ่านหนังสือ​ใน​ห้องสมุด​ทิวา​แล้ว​ ห้องสมุด​ราตรี​ก็​ยัง​ไม่เปิด​ จะไป​กินข้าว​ที่​โรงอาหาร​ก็​เร็ว​เกินไป​’

เขา​จัดระเบียบ​เครื่องแบบ​ ตรวจสอบ​ร่างกาย​อย่าง​ละเอียด​รอบ​หนึ่ง​ จน​แน่ใจ​ว่า​ไม่มีหนวด​หลุด​ออกมา​แล้วก็​เดิน​ออกจาก​ห้อง​

ลู่​เซิ่งเดิน​ออก​มาจาก​หอพัก​ ซื้อ​ไส้กรอก​กับ​นม​ที่​ร้าน​ขายของ​เล็ก​ๆ ข้างทาง​ จากนั้น​ก็​กิน​พลาง​เดิน​ไป​สวนสาธารณะ​ใต้​ร่มไม้​ที่อยู่​รอบ​มหาวิทยาลัย​

ช่วงเวลา​ปิดเทอม​มีนักศึกษา​หลาย​คน​ที่​ไม่ได้​กลับบ้าน​ สมาคม​เด​อลันด์​วาง​จุด​รับสมัคร​ระยะยาว​ใน​สวนสาธารณะ​ ประชัน​กับ​จุด​รับสมัคร​ของ​กลุ่ม​อัคคี​ม่วง​ ดูเหมือน​การเงิน​ของ​พวกเขา​จะดีขึ้น​แล้ว​ คน​สอง​กลุ่ม​ใช้เทคนิค​การ​รับสมัคร​ต่างๆ​ นานา​

ตอน​ลู่​เซิ่งผ่าน​ไป​ พวกเขา​กำลัง​เตรียม​จะใช้เครื่องขยายเสียง​เพื่อ​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​คน​รอบข้าง​

แต่​คล้าย​กับ​จะมีเจ้าหน้าที่​สั่งห้าม​ ลู่​เซิ่งมองดู​สักพัก​ก็​เดิน​ไป​ใน​สวนสาธารณะ​ต่อ​

ณ ส่วนลึก​สุด​ของ​สวนสาธารณะ​มีทะเลสาบ​เล็ก​สีเงิน​รอบ​ทะเลสาบ​เย็น​ชื้น​ เถาวัลย์​และ​วัชพืช​งอก​เต็ม​รอบ​ต้นไม้​ เดิน​ไม่ใคร่​สะดวก​นัก​ จึงไม่ค่อย​มีใคร​มา

ลู่​เซิ่งเดิน​เลียบ​ป่า​ไป​ถึงริ​มทะ​ล​สาบ​อย่าง​เบื่อหน่าย​ เถาวัลย์​กับ​วัชพืช​ที่​ชื้นแฉะ​ไม่มีผล​ใดๆ​ ต่อ​เขา​

จากนั้น​เขา​ก็​ยืม​แรง​จาก​ต้นไม้​กระโดด​ข้าม​ป่า​ชื้น​ผืน​ใหญ่​ไป​อย่าง​ง่ายดาย​

หลัง​ผ่านพ้น​ป่า​ที่​สัญจร​อย่าง​ยากลำบาก​ไป​แล้ว​ ด้านหน้า​ก็​เปิด​โล่ง​ แสงอาทิตย์​ส่องสว่าง​ ทะ​ล​สาบ​สีเงิน​เปล่งประกาย​ ลม​ชื้น​เย็นสบาย​พัด​มา นำพา​กลิ่น​ดอกไม้​กับ​กลิ่นไอ​น้ำ​ประหลาด​มาด้วย​

‘หือ​ กลิ่น​ดอกไม้​เหรอ​’ ลู่​เซิ่งมอง​ไป​ทางซ้าย​ตาม​ทิศทาง​ของ​กลิ่น​

ริม​ทะเลสาบ​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ เงาสะโอดสะอง​ที่​คุ้นเคย​กำลัง​ยืน​อยู่​หน้า​ขาตั้ง​กระดาน​วาดรูป​ คาบ​พู่กัน​ไว้​ใน​ปาก​ สอง​มือ​ระบายสี​ลง​บน​กระดาน​วาดภาพ​อย่าง​ช้าๆ กลิ่นหอม​ลอย​มาจาก​ตัว​เธอ​

‘นั่น​มัน​…อิส​ซาลา​ใช่มั้ย​’ ลู่​เซิ่งรู้จัก​อีก​ฝ่าย​เพราะ​เออร์นี​

อิส​ซาลา​ ฉายา​กุหลาบ​ม่วง​ ขณะเดียวกัน​ก็​เป็น​ผู้ก่อตั้ง​และ​หัวหน้า​ของ​กลุ่ม​อัคคี​ม่วง​อีกด้วย​

เขา​จำได้​ว่า​เห็น​อิส​ซาลา​ล่าสุด​ตอนที่​กำลัง​ตั้ง​เวที​คุมเชิง​กับ​เออร์นี​

อิส​ซาลา​เป็น​ผู้หญิง​ประเภท​รูปโฉม​งดงาม​ท่าทาง​เรียบร้อย​ แต่​นิสัย​ดุร้าย​จองหอง​ นัยน์ตา​สีฟ้าของ​เธอ​มีเปลวเพลิง​ร้อนแรง​ที่​พร้อม​ปะทุ​ได้​ทุกเวลา​ แฝงความก้าวร้าว​ที่​แข็งกร้าว​ เธอ​จึงสร้าง​ความประทับใจ​ให้​แก่​ลู่​เซิ่งใน​ตอน​ประจัญ​หน้า​กับ​เออร์นี​อยู่​ไม่น้อย​

นิสัย​ของ​เธอ​ค่อนข้าง​บีบบังคับ​คน​เช่นเดียวกับ​คำพูด​

แต่​อิส​ซาลา​ในเวลานี้​กลับ​แตกต่าง​กับ​คน​ที่​ลู่​เซิ่งได้​เห็น​ใน​ครั้งก่อน​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง​

ตอนนี้​ใน​ดวงตา​สีฟ้าน้ำทะเล​ที่​เหมือนกับ​อัญมณี​คู่​นั้น​ไม่มีความ​ร้อนแรง​แม้แต่น้อย​ มีเพียง​ความ​นิ่ง​สงบ​ที่​ล้ำลึก​ราวกับ​ทะเลสาบ​

หญิงสาว​สวม​เด​รส​สีแดงเข้ม​ ถุงน่อง​สีดำ​ เอว​คาดเข็มขัด​หนัง​สีน้ำตาล​ขลับ​เส้นใหญ่​ขับ​เน้น​เอว​เล็ก​คอด​

ผม​ลอน​สีน้ำตาล​ยาว​สยาย​ดุจ​คลื่น​ ดวง​หน้า​รูป​แตง​ขาวนวล​สงบ​เยือกเย็น​ เหมือน​กำลัง​ตั้งใจ​วาดภาพ​ตรงหน้า​อยู่​

ไม่ว่า​จะเป็น​มุมไหน​ รูปโฉม​ของ​หญิงสาว​ก็​ไม่อาจ​หา​ที่​ติ​ได้​

ลู่​เซิ่งมอง​เธอ​จาก​ไกลๆ​ ไม่ได้​เข้าใกล้​ เห็น​ว่า​อากาศ​ไม่เลว​ เขา​จึงถือโอกาส​นอน​พักผ่อน​บน​สนามหญ้า​ริม​ทะเลสาบ​

การ​ยกระดับ​พลัง​ใน​โลก​พลังงาน​สูงเชื่องช้า​กว่า​โลก​ธรรมดา​เหลือเกิน​ ซ้ำยัง​สิ้นเปลือง​มหาศาล​ เขา​จำไม่ได้​แล้ว​ว่าไม่ได้​นอน​อย่าง​สบายใจ​เช่นนี้​มานาน​เท่าไร​แล้ว​

ไม่รู้​ว่า​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าไร​ อาจจะ​เป็น​สักพัก​เดียว​ หรือ​หนึ่ง​ชั่วโมง​

“ตกดึก​ตรงนี้​จะเกิดเรื่อง​ที่​เกิน​กว่า​จะคาด​คิดได้​ ถ้าฉัน​เป็นคุณ​ คง​ไม่มาหลับ​อยู่​ที่นี่​ตามลำพัง​” เสียง​ผู้หญิง​นิ่ง​เรียบ​ลอย​มาเข้าหู​ลู่​เซิ่ง

เขา​ตื่นขึ้น​อย่าง​สะลึมสะลือ​

จากนั้น​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ พลัน​แปลกใจ​ที่​เห็น​อิส​ซาลา​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ตัวเอง​ กำลัง​ก้ม​มอง​เขา​อยู่​

เป็น​เพราะ​สภาพ​หมดสติ​ของ​เขา​แข็งแกร่ง​กว่า​เขา​ใน​สภาพ​ตื่น​เต็มตา​เสีย​อีก​ ดังนั้น​จึงไม่กังวล​ว่า​นอน​ๆ อยู่แล้ว​จะเจอ​อันตราย​

“อิส​ซาลา​หรือ​ อือ​…ขอบใจ​นะ​” เขา​ลุกขึ้น​ ก่อน​จะบิดขี้เกียจ​

เดิมที​หญิงสาว​กำลัง​แบก​กระดาน​วาดรูป​ขึ้น​จะจากไป​แล้ว​ แต่​เมื่อ​ได้ยิน​ลูเซิ่ง​เอ่ย​ เธอ​ก็​ชะงัก​เท้า​ เหมือน​นึก​อะไร​ขึ้น​ได้​ หัน​กลับมา​อีกครั้ง​

“ฉัน​ไม่ใช่อิส​ซาลา​ นั่น​คือ​พี่สาว​ของ​ฉัน​ คุณ​เรียก​ผิด​แล้ว​” เธอ​พูด​จบ​ก็​ดูท่า​ไม่ได้​อยาก​อธิบาย​เพิ่มเติม​ ร่าง​เดิน​เข้าไป​ใน​ป่าทึบ​ลึก​ ไม่นาน​ก็​หาย​ลับ​ไป​

ลู่​เซิ่งงุนงง​เล็กน้อย​ แล้ว​ฉีก​ยิ้ม​ จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​

ดู​นาฬิกา​พก​ เขา​เผลอ​หลับ​ไป​สอง​ชั่วโมง​ ดวงอาทิตย์​กำลังจะ​ลาลับ​ อุณหภูมิ​รอบข้าง​ลด​ต่ำ​ลง​กว่า​เดิม​

ทะเลสาบ​ที่​ตอนแรก​เปล่งแสง​สีเงิน​ระยิบ​ระยิบ​ เวลานี้​มีหมอก​ขาว​ลอย​วนเวียน​ หมอก​นั้น​คล้าย​จะขยับ​ได้​เอง​ราวกับ​มีชีวิต​

ลู่​เซิ่งยืด​เหยียด​ร่างกาย​ แล้ว​กลับ​หอพัก​ แต่​ที่​ที่​เหมาะกับ​การ​นอนหลับ​พักผ่อน​เป็นพิเศษ​แบบนี้​ เขา​ได้​จดจำ​เอาไว้​แล้ว​

ใน​ช่วง​ปิดเทอม​เขา​ไม่ได้​กลับบ้าน​ ถูก​โท​เลย์​ลาก​เข้า​ร่วมงาน​สัมมนา​และ​โครง​การศึกษา​อีก​มากมาย​

เขา​ได้​เห็น​การดำรงอยู่​ของ​โครงสร้าง​เร้นลับ​ใน​มหาวิทยาลัย​เช่นกัน​ โครงสร้าง​มากมาย​ถูก​ซ่อน​ไว้​เป็น​อย่าง​ดี​ อย่างเช่น​โครงสร้าง​หนึ่ง​ใน​นี้​คือ​สถานที่​วิจัย​ที่​ใช้วิจัย​ความสามารถ​ของ​นักศึกษา​สาย​ต้องห้าม​เป็นหลัก​ โดย​อยู่​ลึก​ลง​ไป​ใต้ดิน​มากกว่า​ร้อย​เมตร​

ดี​ที่​ร่างกาย​ของ​เขา​ต้องการ​เวลาพักผ่อน​ฟื้นฟู​ ร่าง​หลัก​เริ่ม​จะยกระดับ​พลัง​วิญญาณ​ขึ้น​อีกครั้ง​หลังจาก​ฝึกฝน​ประมวล​กฎเกณฑ์​ขั้นสูง​สำเร็จ​เช่นกัน​

เวลานี้​การ​แปลง​โลก​รูป​จิต​ให้​เป็น​รูปธรรม​ใกล้​สำเร็จ​แล้ว​ ทุกอย่าง​ดำเนิน​ไป​ตาม​ครรลอง​ที่​ถูกที่​ควร​

ทว่า​บางครั้ง​เขา​ก็​จะไป​ผ่อนคลาย​จิตใจ​ที่​ริม​ทะเลสาบ​ ทะเลสาบ​สีเงิน​ตรงนั้น​เหมือน​จะมีมนตร์​วิเศษ​บางอย่าง​ ที่​ทำให้​จิตใจ​อัน​ร้อนรุ่ม​ของ​เขา​สงบ​ลง​

การแข่งขัน​ระหว่าง​สมาคม​เด​อลันด์​กับ​กลุ่ม​อัคคี​ม่วง​ดุเดือด​ขึ้น​เรื่อยๆ​ กลุ่ม​อัคคี​ม่วง​ได้​ดึง​ตัว​รุ่นพี่​ปี​สอง​มาเข้าร่วม​ด้วย​

ทาง​แอนดี้​เหมือน​จะไป​เกี่ยวกับ​ปัญหา​ใหญ่​เข้า​ เนื่องจาก​พบ​ว่า​ผู้​เป็น​พ่อ​หายตัว​ไป​ตอน​กลับบ้าน​ ใน​ช่วง​ปิดเทอม​เขา​จึงเริ่ม​ออก​สืบเสาะ​ตามหา​

ใน​ยุคสมัย​ที่​ไม่มีโทรศัพท์มือถือ​แบบนี้​ ลู่​เซิ่งถึงขั้น​ไม่รู้​ว่า​เขา​ไป​ถึงที่ไหน​ ได้รับ​เพียง​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ โดย​แอนดี้​ขอให้​เขา​ช่วย​ลาป่วย​แทน​หาก​เขา​ไม่กลับมา​ตอน​เปิดเทอม​

เวลา​เคลื่อน​คล้อย​ผ่าน​ไป​ ลู่​เซิ่งมาริม​ทะเลสาบ​บ่อย​ขึ้น​ จึงค่อยๆ​ คุ้นเคย​กับ​หญิงสาว​ที่​หน้าตา​เหมือน​อิส​ซาลา​คน​นั้น​

เธอ​มีชื่อว่า​เอียน​ เป็น​น้องสาว​แท้ๆ​ ของ​อิส​ซาลา​ แต่​แตกต่าง​จาก​พี่สาว​ที่​เปี่ยมล้น​ด้วย​ความเก่งกาจ​ เธอ​เป็น​เพียง​หญิงสาว​ธรรมดา​ที่​ชื่นชอบ​การ​วาดภาพ​เท่านั้น​ อวัยวะ​ที่หก​ก็​เป็น​แค่​พลัง​เสริม​สัมผัส​เช่นกัน​

ที่​ลู่​เซิ่งทำความรู้จัก​กับ​เธอ​ เป็น​เพราะ​ทักษะ​วาดรูป​อัน​เก่งกาจ​ของ​หญิงสาว​นั่นเอง​

ลู่​เซิ่งที่​เคย​อยู่​ใน​โลก​จิตรกร​มาก่อน​มีทักษะ​วาดรูป​ชนิด​ทำลาย​ล้างโลก​ เขา​ที่​อดีต​เคย​เป็น​นายใหญ่​ของ​องค์กร​จิตรกร​ใต้ดิน​ กล่าว​ได้​ว่า​มีความรู้​ความเข้าใจ​อย่าง​ล้ำลึก​ถึงขีดสุด​ต่อ​การ​วาดรูป​ใน​ระดับ​ปรมาจารย์​

ตอนที่​ทั้งสอง​คุย​กัน​ยาม​ว่าง​ การ​ชี้แนะ​ของ​ลู่​เซิ่งทำให้​หญิงสาว​เหมือน​ได้รับ​สมบัติ​ล้ำค่า​ นี่​ทำให้​เธอ​เริ่ม​ใกล้ชิด​กับ​ลู่​เซิ่งมากขึ้น​ และ​ลู่​เซิ่งก็ได้​ทราบ​สถานการณ์​เกี่ยวกับ​ทะเลสาบ​ผืน​นี้​จาก​เธอ​ไม่น้อย​เช่นกัน​

ทะเลสาบ​ผืน​นี้​มีชื่อว่า​ทะเลสาบ​ไน​ติง​เกล​ เป็นหนึ่ง​ใน​พื้นที่​ต้องห้าม​ที่ทาง​มหาวิทยาลัย​กำหนด​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ ไม่อนุญาต​ให้​นักศึกษา​ทั่วไป​เข้ามา​

แต่​เอียน​เคย​ถามพี่สาว​ของ​ตัวเอง​ จึงทราบ​ว่า​ที่นี่​ปลอดภัย​ใน​ตอนกลางวัน​ ดังนั้น​จึงมาวาดภาพ​ที่นี่​ทุกครั้ง​ตอน​ยังมี​แสงสว่าง​

ไม่นาน​นัก​ ลู่​เซิ่งก็​เข้า​ร่วมกับ​ชมรม​ที่​มีชื่อว่า​เตา​หลอม​หลัก​ด้วย​การ​แนะนำ​ของ​โท​เลย์​ ไม่ใช่ห้อง​วาง​กลยุทธ์​

แผนก​นี้​มีคน​ทั้งหมด​แค่​สามคน​ ทุกคน​เป็น​นักวิจัย​ หัวหน้าแผนก​เป็น​ศาสตราจารย์​ชรา​ชื่อ​ดาห์ล​ มีหน้าที่​ศึกษา​ตัวอย่าง​เนื้อเยื่อ​ของ​สิ่งมีชีวิต​กับ​นิสัย​ของ​สิ่งมีชีวิต​ปนเปื้อน​

งานวิจัย​น่าเบื่อ​อย่าง​ที่สุด​ แต่​สำหรับ​ลู่​เซิ่งแล้ว​ ถือว่า​มีโอกาส​ได้​สัมผัส​กับ​สิ่งมีชีวิต​ปนเปื้อน​กับ​ปีศาจ​จาก​ห้วง​ความว่างเปล่า​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่ได้​ทำ​เรื่อง​โยกย้าย​ ยืนกราน​จะอยู่​ที่นี่​ต่อไป​

กลับเป็น​ประมวล​กฎเกณฑ์​พร่างพราย​อนธการ​ของ​เขา​ที่​พัฒนา​ไป​ถึงระดับ​หนึ่ง​อย่าง​ราบรื่น​ และ​กำลังจะ​เลื่อน​สู่ระดับ​สอง​ด้วย​สาเหตุนี้​

“เป็น​อะไร​ไป​ มีเรื่อง​ใน​ใจหรือ​คะ​” เสียง​ของ​หญิงสาว​ลอย​มาเข้าหู​

หลัง​ออกจาก​สถาน​วิจัย​ใน​ตอนบ่าย​ ลู่​เซิ่งก็​มาพักผ่อน​ริม​ทะเลสาบ​อีกครั้ง​ และ​ได้​เจอ​กับ​เอียน​ หญิงสาว​คน​นี้​ถือ​กระดาน​วาดภาพ​แต่​ไม่ได้​วาด​อะไร​ นั่งเล่น​อยู่​ริม​ทะเลสาบ​ ปล่อย​ให้น้ำ​ซัด​ใส่หลัง​เท้า​ที่อยู่​ใน​รองเท้าหนัง​

ลู่​เซิ่งมอง​เอียน​

“เธอ​อายุ​ยัง​น้อย​ ไม่เข้าใจ​หรอก​” เขา​ลังเล​ โลก​รูป​จิต​กลายเป็น​วัตถุ​จับต้อง​ได้​แล้ว​ หมายความว่า​ เขา​สามารถ​เรียก​คน​จาก​โลก​รูป​จิต​ออกมา​ช่วย​ขยับขยาย​ขุม​กำลัง​ของ​ตน​ใน​ตอนนี้​ได้​

แต่​ก็​มีข้อเสีย​เช่นเดียวกัน​ เดิมที​คนอื่น​สังหาร​เขา​นับ​หลาย​สิบ​ครั้ง​ก็​ไม่แน่​จะฆ่าเขา​ตาย​ได้​ เพราะ​มีพลังงาน​และ​ทรัพยากร​อัน​มหาศาล​ของ​โลก​รูป​จิต​เป็นตัว​หนุน​เสริม​

แต่​หาก​แปลง​โลก​รูป​จิต​เป็น​รูปธรรม​แล้ว​ปล่อย​บริวาร​ออกมา​ อย่างนั้น​ก็​เป็นไปได้​มาก​ที่จะ​ถูก​คน​ล่วงรู้​ถึงตำแหน่ง​ของ​โลก​รูป​จิต​ผ่าน​การ​เชื่อมต่อ​กับ​บริวาร​ที่​ถูก​ทำให้​มีตัวตน​ขึ้น​มา

เมื่อ​ไม่มีการ​สนับสนุน​จาก​โลก​รูป​จิต​ กาย​อมตะ​พัน​เท​วะ​ของ​เขา​ก็​เป็น​แค่​ตึก​โบ๋​กลวง​เท่านั้น​

“ฉัน​เข้าใจ​ทุกอย่าง​นั่นแหละ​ เหมือน​คุณ​กำลัง​ลังเล​อยู่​นะ​ ลังเล​ว่า​จะเลือก​ตัดสินใจ​สิ่งสำคัญ​อะไร​สัก​อย่าง​” เอียน​เพ่งมอง​ลู่​เซิ่งอย่าง​จริงจัง​

“คุณ​ลืม​ความสามารถ​ของ​ฉัน​ไป​แล้ว​หรือ​”

พลัง​เสริม​สัมผัส​ก็​มีการ​แบ่ง​ออก​เป็น​หลาย​ประเภท​เช่นกัน​ ของ​เอียน​คือ​สัมผัส​วิญญาณ​ เป็น​ประเภท​ที่​ค่อนข้าง​ร้ายกาจ​ทีเดียว​

ถ้าหาก​เปลี่ยนเป็น​ศัพท์​ทั่วไป​ ก็​คือ​ความสามารถ​ล่วงรู้​จิตใจ​หรือ​อ่านใจ​

เธอ​สามารถ​มองเห็น​ความคิด​ความ​อ่าน​ของ​คนอื่น​ได้​อย่าง​พร่ามัว​

จะว่า​ไป​ ตอนแรก​ที่​เธอ​เข้าหา​สนใจ​ใน​ตัว​ลู่​เซิ่ง เป็น​เพราะ​เธอ​ไม่เห็น​การเคลื่อนไหว​ทาง​ความคิด​ของ​ลู่​เซิ่ง สัมผัส​ได้​เยง​สภาพ​คร่าวๆ​ ของ​เขา​อย่าง​พร่ามัว​เท่านั้น​

“ใช่แล้ว​…” ลู่​เซิ่งฉุก​นึกถึง​ความสามารถ​ของ​เธอ​ “ฉัน​กำลัง​ลังเล​อยู่​จริงๆ​ ฉัน​มีพี่น้อง​มากมาย​ กำลัง​คิด​อยู่​ว่า​ จะเชิญเขา​มาเที่ยว​วันหยุด​ด้วยกัน​ดี​ไหม​ ประเด็นหลัก​คือ​มีคน​เยอะ​เกินไป​ เธอ​น่าจะ​เข้าใจ​ คน​เยอะ​เกินไป​ ก็​มักจะ​ไม่สะดวก​นั่น​สะดวก​นี่​ ถ้าให้​พวกเขา​มากัน​หมด​ ฉัน​กลัว​ว่า​ของกิน​จะไม่พอ​ พวกเขา​ชอบ​เล่น​สนุก​ทั้ง​ยัง​อยู่ไม่สุข​ และ​มักจะ​สร้าง​ความวุ่นวาย​…”

“…” เอียน​ไม่เข้าใจ​อยู่​บ้าง​ “พี่น้อง​ของ​คุณ​อายุ​เท่าไร​กัน​แล้ว​…” เธอ​เบิกตา​กว้าง​พร้อม​เอ่ย​อย่าง​หมด​คำพูด​

“มีทั้ง​เด็ก​ทั้ง​ผู้ใหญ่​ มีทุก​ช่วง​วัย​” ลู่​เซิ่งตอบ​ตาม​ความจริง​

“อย่างนั้น​…คุณ​ก็​ไป​เหมา​โรงแรม​อิมพีเรียล​ทั้ง​ชั้น​ต้อนรับ​พวกเขา​ไป​เลย​สิ ส่วน​เรื่อง​เล่น​สนุก​…ชวน​พวกเขา​ไป​สวนสนุก​ก็​เป็นอัน​ใช้ได้​แล้ว​นี่​” เอียน​ตั้งใจ​ตอบ​

“หลัก​ๆ มัย​คือ​ของกิน​น่ะ​สิ” ลู่​เซิ่งถอนใจ​ “ถ้าแก้ปัญหา​นี้​ได้​ อย่าง​อื่น​ก็​ง่ายดาย​แล้ว​”

“มหา​’ลัย​มีของกิน​ตั้ง​เยอะแยะ​…ยัง​ไม่พอ​เหรอ​” เอียน​ถามอย่าง​ซื่อๆ​ “ขอ​บอก​ความลับ​คุณ​อย่างหนึ่ง​นะ​ ความจริง​ด้านหลัง​โรงอาหาร​มีอสูร​มิติ​ตัว​ใหญ่​มาก​ตัว​หนึ่ง​ กระเพาะ​ของ​มัน​เชื่อมต่อ​กับ​พ่อครัว​จาก​สถานที่​ต่างๆ​ ทุกวัน​จะมีอาหาร​ถูก​ส่งเข้ามา​ไม่ขาดสาย​ สามารถ​เลี้ยง​คน​มากมาย​ใน​มหา​’ลัย​พร้อมกัน​ได้​”

“คน​มากมาย​ใน​มหา​’ลัย​เหรอ​ มีเยอะ​ไหม​ จำนวน​เท่าไร​ได้​” ดวงตา​ของ​ลู่​เซิ่งฉาย​ประกาย​เย็นเยียบ​

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด