ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 938 เผาไหม้ (2)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 938 เผาไหม้ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่​เซิ่งวาง​จอก​ลง​ ก่อน​จะช้อนตา​ขึ้น​มอง​ตวน​ฟางที่อยู่​ด้านหลัง​ไป๋เจ๋อ​อย่าง​เรียบ​นิ่ง​

“เร็ว​กว่า​ที่​ข้า​คาด​ไว้​ใน​ทีแรก​มาก​ ดูเหมือน​สาเหตุ​จะเป็น​เจ้ากระมัง​”

ตวน​ฟางที่​ถูก​สายตา​ของ​เขา​จ้องมอง​ราวกับ​ร่าง​ถูก​เพลิง​แผดเผา​ เพียงแค่​โดน​กวาดสายตา​ผ่าน​ บน​ร่าง​ก็​ร้อน​ลวก​และ​แดง​ขึ้น​ เหมือน​ถูก​ตรา​เหล็ก​ร้อน​นาบ​ใส่

เขา​อด​ที่จะ​ถอยหลัง​ไปก้าว​หนึ่ง​ไม่ได้​ หมาย​จะซ่อนตัว​หลัง​ไป๋เจ๋อ​ให้​มิดชิด​กว่า​เดิม​

“เป็น​เด็ก​ที่​น่าสน​ใจดี​” ลู่​เซิ่งหัวเราะ​

คำพูด​สอง​สามประโยค​ของ​เขา​เท่ากับ​ยอมรับ​คำถาม​ของ​เหล่า​เทพ​ปีศาจอย่าง​ไป๋เจ๋อ​

บรรยากาศ​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​พลัน​เปลี่ยนไป​ กลิ่นอาย​จิต​ปฐมอัน​ยิ่งใหญ่​ของ​เทพ​ปีศาจหลาย​สาย​พา​กัน​ระเหย​ออก​มาจาก​ร่าง​พวกเขา​

ตำหนัก​เล็ก​ๆ รองรับ​ความขัดแย้ง​ของ​กลิ่นอาย​จาก​เทพ​ปีศาจมากมาย​ขนาด​นี้​ไม่ไหว​

ผนัง​รอบข้าง​และ​เพดาน​ ปรากฏ​รอยร้าว​

สายตา​อันตราย​ของ​เทพ​ปีศาจที่​มีไป๋เจ๋อ​เป็น​ผู้นำ​หยุด​บน​ร่าง​ลู่​เซิ่ง แต่​เขา​กลับ​เหมือน​สัมผัส​ไม่ได้​

อวี่​ซวน​ผุด​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ แต่​ก็​ไม่กล้า​เคลื่อนไหว​ ต่อให้​นาง​เป็น​เทพ​ปีศาจ แต่​อยู่​ใน​บรรยากาศ​ที่​เกร็ง​ทะมึน​เช่นนี้​ ก็​ไม่กล้า​ขยับตัว​วู่วาม​ ไม่อย่างนั้น​หาก​ไม่ระวัง​แม้แต่​นิดเดียว​ สภาวะ​และ​กลิ่นอาย​ที่​ถูก​เหนี่ยวรั้ง​ไว้​เหล่านั้น​จะโจมตี​ใส่ตัวนาง​ทันที​

กลิ่นอาย​เทพ​ปีศาจมากมาย​ขนาด​นี้​มาก​พอ​จะทำให้​นาง​บาดเจ็บสาหัส​ภายใน​พริบตา​

เพียงแต่​เทียบ​กับ​กาย​ที่​สั่นเทา​แล้ว​ ความ​สั่นสะท้าน​น​ใจกลับ​ทำให้​นาง​ต้อง​ทน​ทรมาน​มากกว่า​

นาง​มอง​ลู่​เซิ่งอย่าง​งุนงง​ ไม่ทราบ​ควร​ใช้ท่าที​แบบ​ไหน​กับ​เขา​ดี​ ชาย​ที่​ตน​พา​มาจาก​โลก​เบื้องล่าง​ผู้​นี้​ เวลานี้​กลับ​ก่อ​ภัยพิบัติ​ใหญ่โต​ปานนี้​

จิตใจ​ขอ​งอ​วี่​ซวน​ปั่นป่วน​อยู่​ชั่วขณะ​ ใน​ห้วง​สมอง​ยังคง​มีเหตุการณ์​ที่​เคย​ตรวจสอบ​สายเลือด​ลู่​เซิ่งเล่น​ย้อน​ไปย้อน​มา

ใน​คันฉ่อง​สืบทอด​ เงาของ​หงส์​เพลิง​ที่​มีสายเลือด​บริสุทธิ์​ตัว​นั้น​ไม่มีทาง​เป็น​ของปลอม​

แต่​…แต่ว่า​…เหตุการณ์​นี้​ควร​อธิบาย​อย่างไร​

เขา​เป็น​ใคร​กัน​แน่​!? มีสถานะ​อะไร​กัน​แน่​ ทั้งหมด​นี้​คือ​เรื่อง​อะไร​กัน​แน่​

อวี่​ซวน​รู้สึก​ว่า​ข้อสงสัย​มากมาย​ใน​สมอง​สับสน​ปนเป​ไปหมด​

เผ่า​หงส์​เพลิง​คนอื่นๆ​ ก็​อยู่​ใน​อาการ​ตื่นตระหนก​และ​งงงวย​เฉก​เช่นเดียวกับ​นาง​

เสี่ยว​หนิง​นั่ง​ตัวสั่น​บน​พื้น​ มอง​ลู่​เซิ่งที่​มีสีหน้า​เรียบ​เฉย​ รู้สึก​ว่า​บุรุษ​ผู้​นี้​ทำให้​นาง​รู้สึก​แปลกหน้า​และ​อันตราย​อย่าง​ไม่เคย​มีมาก่อน​

“ตอนนี้​ควร​ทำ​อย่างไร​” เทพ​ปีศาจตน​หนึ่ง​ด้านหลัง​ไป๋เจ๋อ​ถามเสียงทุ้ม​ เขา​ชื่อ​มู่จุย​ เป็น​คน​ที่​มีพลัง​ฝึกปรือ​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​หมู่​เทพ​ปีศาจที่​เพิ่ง​เข้าร่วม​ ทั้ง​ยัง​เป็น​เซียน​ทองคำ​ขั้นสูง​ที่​แท้จริง​ จึงมีพลัง​ต่อสู้​กล้าแข็ง​

สีหน้า​ไป๋เจ๋อ​ไร้อารมณ์​ กวาด​จิต​ปฐมไปรอบ​ๆ หมาย​จะหา​กับดัก​และ​อันตราย​ที่​เป็นไปได้​ แต่​อาจ​เป็น​เพราะ​พวกเขา​มาเร็ว​เกินไป​ ทำให้​อีก​ฝ่าย​ทำ​อะไร​ไม่ทัน​

วัง​หงส์​เพลิง​แห่ง​นี้​ไม่มีการ​คุกคาม​ใดๆ​ ที่​เป็นไปได้​ทั้งสิ้น​

“ว่า​มา เจ้าเป็น​ใคร​กัน​แน่​ ทำไม​ถึงทำ​เช่นนี้​” ไป๋เจ่อ​มอง​ลู่​เซิ่งตา​เขม็ง​ ถามเสียง​เย็นเยียบ​

เขา​กับ​อิง​เจาเป็น​สหาย​ที่​สนิท​ที่สุด​ และ​ตอนนี้​ก็​เป็นไปได้​สูงมากว่า​สหาย​สนิท​ผู้​นี้​ตาย​ด้วยมือ​ของ​คนลึกลับ​ตรงหน้า​นี้​

การ​ที่​เขา​ข่ม​เพลิง​โทสะ​ไม่ลงมือ​ทันที​ ถือว่า​หา​ยาก​ถึงขีดสุด​แล้ว​

“ทำไม​ถึงทำ​แบบนี้​หรือ​” ลู่​เซิ่งเลิกคิ้ว​ ใบหน้า​หล่อเหลา​ยังคง​มีความงาม​อย่าง​น่าประหลาด​ คล้าย​กับ​ไม่แตกตื่น​หวาดกลัว​ต่อ​เหตุการณ์​ตรงหน้า​แม้แต่น้อย​นิด​

“สังหาร​อิง​เจา ควบคุม​เทพ​ปีศาจของ​อุทยาน​ปีศาจตั้ง​มากมาย​ เจ้ามีแผนการ​อะไร​กัน​แน่​!?” ไป๋เจ๋อ​เอ่ย​เสียง​เย็น​

“ยัง​ไปพูด​กับ​มัน​ทำไม​อีก​ ทำให้​พิการ​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​ ทำลาย​กาย​เนื้อ​ แล้ว​จับ​วิญญาณ​ไว้​” คุ​นเผิง​กล่าว​เสียง​เย็น​ขึ้น​ด้าน​ข้าง​

สำหรับ​เขา​ นี่​คือ​เรื่อง​ขำขัน​เรื่อง​หนึ่ง​

ลู่​เซิ่งกวาดตา​ผ่าน​ร่าง​คุ​นเผิง​ ไป๋เจ๋อ​ ตวน​ฟาง และ​มู่จุย​ ใบหน้า​ปรากฏ​รอยยิ้ม​จางๆ

“ลงมือ​!” ทันทีที่​ไป๋เจ๋อ​เห็น​รอยยิ้ม​ พลัน​ควบคุม​อารมณ์​ไม่อยู่​อีกต่อไป​ ยก​มือขึ้น​ จาน​ค่าย​กล​ที่​เหมือนกับ​จันทร์​เพ็ญ​สีขาว​ปรากฏ​กลางฝ่ามือ​

เทพ​ปีศาจทั้งหมด​พา​กัน​ใช้จิต​ปฐมโคจร​ของ​วิเศษ​เชื่อม​จิต​ของ​ตัวเอง​ แสงสีรุ้ง​หลาย​สาย​พุ่ง​ขึ้น​ฟ้า พลังงาน​ที่​ราวกับ​จับต้อง​ได้​ซึ่งยิ่งใหญ่​จน​บิดเบี้ยว​ระเบิด​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​เหมือน​ฟ้าร้อง​

“ฆ่า!”

มู่จุย​ที่อยู่​ด้านหลัง​ไป๋เจ๋อ​ยก​ของ​วิเศษ​ที่​เป็น​ค้อน​ไม้ใน​มือขึ้น​ กำลังจะ​กลายเป็น​หมอก​ควัน​พุ่ง​ใส่ลู่​เซิ่ง

ตูม​!

ทันใดนั้น​มีเสียง​ทึบ​ดัง​มาจาก​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​

อวี่​ซวน​หน้าซีด​ อด​ถอยหลัง​ไปหลาย​ก้าว​ไม่ได้​ ปิดปาก​จ้องมอง​เหตุการณ์​ตรงหน้า​อย่าง​สั่นสะท้าน​

ไม่เพียงแต่​นาง​เท่านั้น​ เผ่า​หงส์​เพลิง​คนอื่น​ก็​เช่นเดียวกัน​ ใบ​หน้าที่​เดิม​หวาดกลัว​กลายเป็น​ตก​ตะลึงพรึงเพริด​

ไป๋เจ่อ​เพิ่ง​พุ่ง​ออก​ไปได้​ไม่กี่​ก้าว​ รอบตัว​มีของ​วิเศษ​ใน​ลักษณะ​ต่างๆ​ โผล่​มาหลาย​ชิ้น​ ขัง​เขา​ไว้​ด้านใน​อย่าง​แน่นหนา​

เขา​ต้าน​ดาบ​ยาว​เล่ม​หนึ่ง​ที่​ฟัน​มา หันไป​มองดู​ เวลานี้​พวก​คุ​นเผิง​และ​ตวน​ฟางถูก​เทพ​ปีศาจอย่าง​พวก​มู่จุย​ล้อม​เอาไว้​ แสงวิเศษ​และ​อิทธิฤทธิ์​หลาย​สาย​กลายเป็น​ค่าย​กล​ โอบล้อม​พวกเขา​

การ​โจมตี​หลาย​สิบ​สาย​พุ่ง​ใส่ร่าง​คุ​นเผิงจน​อีก​ฝ่าย​รับมือ​ไม่ทัน​ มุมปาก​มีเลือด​ไหล​ สีหน้า​ฉายแวว​ตกใจ​และ​โมโห​

“ตอนนี้​ควร​จัดการ​อุปสรรค​สุดท้าย​ได้​แล้ว​” ลู่​เซิ่งลุกขึ้น​ สายตา​จับจ้อง​ที่​ไป๋เจ๋อ​ ใบหน้า​ยังคง​มีรอยยิ้ม​เช่น​เดิม​

เขา​ลุก​ออกจาก​ที่นั่ง​เดิน​ไปหา​สามคน​ที่​ถูก​รุม​จู่โจม

ย่างก้าว​ของ​เขา​เชื่องช้า​ ถึงขั้น​กล่าว​ได้​ว่า​ผ่อนคลาย​

เวลานี้​พวก​ไป๋เจ๋อ​และ​คุ​นเผิง​ผิดหวัง​จน​อยาก​กระอัก​เลือด​ พลัง​ของ​เทพ​ปีศาจที่​พวกเขา​พา​มากลุ่ม​นี้​เหมือนกับ​ผนึก​รวมกัน​ ทุกๆ​ ครั้ง​ที่​ลงมือ​จะทำให้​พลัง​ปีศาจของ​พวกเขา​สลาย​ไป ไม่อาจ​ต้านทาน​ซึ่งหน้า​ได้​

ถ้าไม่ใช่ตัว​คุ​นเผิง​มีพลัง​ปีศาจแทบ​ไร้​สิ้นสุด​ และ​ยังมี​กฎ​ของ​จอม​อริยะ​คอย​เพิ่ม​อานุภาพ​ เกรง​ว่า​พวกเขา​จะถูก​จัดการ​ใน​ทันทีที่​ลงมือ​แล้ว​

มู่จุย​มีสีหน้า​ไร้อารมณ์​ หนวด​หลาย​เส้น​มุด​อยู่​ใน​เจ็ด​ทวาร​ ร่วมมือ​กับ​เทพ​ปีศาจยี่สิบ​กว่า​ตน​ แสงวิเศษ​กับ​อิทธิฤทธิ์​ผสม​กัน​กลายเป็น​ลำแสง​หลาย​สาย​ เข้า​ปะทะ​กับ​ไป๋เจ๋อ​และ​คุ​นเผิง​

พลัง​ของ​พวกเขา​เหมือน​รวมกัน​เป็นหนึ่ง​ แข็งแกร่ง​หา​ใด​เทียม​

ลู่​เซิ่งเดิน​ถึงหน้า​ตวน​ฟาง มองดู​บุรุษ​หนุ่ม​ที่​ตกใจ​จน​ไร้​เรี่ยวแรง​

“ได้ยิน​มาว่า​เจ้าเคย​ลิ้มลอง​เปลวไฟ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​หรือ​”

ใน​ม่านตา​ของ​ตวน​ฟางเต็มไปด้วย​ความ​สะพรึงกลัว​

ลู่​เซิ่งกลับ​ไม่สนใจ​สภาพ​ของ​เขา​ เอ่ย​ถามเสียง​เบา​

“อย่างนั้น​เจ้าบอก​ข้า​ที​ว่า​ อัคคี​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​ฟ้าดิน​คือ​อะไร​”

“…เป็น​…เป็น​อัคคี​อาทิตย์​…!” เสียง​ของ​ตวน​ฟางสั่นเครือ​อยู่​บ้าง​ เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​เผ่า​ปีศาจร่าง​คน​ที่​ไม่นับว่า​สูงใหญ่​ตน​นี้​ แรงกดดัน​กับ​ความกลัว​ที่​เขา​เผชิญ​ใน​ใจแทบจะ​ถึงจุด​วิกฤต​

“อัคคี​อาทิตย์​หรือ​” ลู่​เซิ่งหัวเราะ​ “อีก​เดี๋ยว​ก็​จะไม่ใช่แล้ว​”

“หมาย​…หมายความว่า​อย่างไร​!?” ตวน​ฟางถามเสียงสั่น​ เขา​อยาก​ถอยหลัง​เพื่อ​อยู่​ให้​ไกล​จากลู่​เซิ่ง แต่​ไม่มีประโยชน์​ ร่างกาย​เหมือน​ถูก​อะไร​สัก​อย่าง​ตรึง​ไว้​ สอง​ขา​อ่อนระทวย​ เขา​ไม่อาจ​ผละหนี​ไปได้​

ลู่​เซิ่งยื่นมือ​ออกมา​ เปลวไฟ​สีขาว​กลุ่ม​หนึ่ง​ลุกไหม้​ขึ้น​บน​นิ้วชี้​อย่าง​ช้าๆ เปลวไฟ​นั้น​สว่างไสว​แยงตา​นัก​ ได้​ก้าว​ข้าม​นิยาม​ของ​สีขาว​ไปแล้ว​ แต่​เหมือน​เป็น​แสงกลุ่ม​หนึ่ง​ที่​สว่างไสว​ถึงขีดสุด​

เขา​ค่อยๆ​ ยื่น​เปลวไฟ​บน​นิ้วชี้​เข้าหา​หว่าง​คิ้ว​ของ​ตวน​ฟาง ความหวาดกลัว​กระวนกระวาย​บัง​เกิดขึ้นในใจ​บุรุษ​หนุ่ม​

เขา​เริ่ม​ดิ้นรน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ แต่​ไม่ว่า​จะทำ​อย่างไร​ ก็​ไม่อาจ​หยุดยั้ง​การ​เข้ามา​ของ​นิ้ว​ชี้นิ้ว​นั้น​ได้​

“จงรับรู้​เถอะ​”

เปลวไฟ​สีขาว​แทง​เข้า​หว่าง​คิ้ว​ตวน​ฟางเบา​ๆ

ฟ้าว!​

พริบตา​นั้น​เส้นสาย​สีทอง​สาย​หนึ่ง​พุ่ง​มาจาก​ด้านนอก​ตำหนัก​ใหญ่​ดุจ​สายฟ้า​ฟาด​ แทง​ใสนิ้วชี้​ของ​ลู่​เซิ่งด้วย​ความเร็ว​ที่​ไร้​สิ่งใด​เทียบเคียง​

พรึ่บ​!

เส้น​สีทอง​กับ​ไฟสีขาว​ปะทะ​กัน​ใน​พริบตา​ จากนั้น​ก็​ดับ​สูญหาย​ไปพร้อมกัน​

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ลู่​เซิ่งหาย​ไป เขา​หมุนตัว​มา ไม่ได้​มอง​ตวน​ฟางอีก​ แต่​มอง​ไปยัง​ทิศทาง​ที่​เส้น​สีทอง​เมื่อ​ครู่​พุ่ง​มา

ตรงนั้น​คือ​ประตู​ตำหนัก​ใหญ่​

เวลานี้​บุรุษ​หล่อเหลา​ที่​สูงใหญ่​และ​มีผม​ยาว​สยาย​คน​หนึ่ง​ยืน​นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​ กลาง​หว่าง​คิ้ว​เขา​มีสัญลักษณ์​สีแดง​ทอง​ อาภรณ์​ปีก​สีทอง​บน​ร่าง​ไม่เพียง​ไม่มีตรา​ตาม​ประเพณี​เก่าๆ​ กลับ​ให้​ความรู้สึก​สูงส่งศักดิ์สิทธิ์​น่าเกรงขาม​แก่​ผู้คน​

บุรุษ​ถือ​ไม้เท้า​สีดำ​ท่อน​หนึ่ง​ อีก​มือ​ค่อยๆ​ ลดลง​ ปลายนิ้ว​ยังคง​เห็น​สะเก็ด​ไฟสีทอง​หลาย​กลุ่ม​วนเวียน​อยู่​รอบ​ฝ่ามือ​ของ​เขา​เหมือนกับ​สิ่งมีชีวิต​

“ที่แท้​ก็​เป็น​ฝ่าบาท​ตี้ซ​วิน​” ลู่​เซิ่งชัก​นิ้ว​กลับ​ “พบ​เจอกัน​ครั้งแรก​ พระองค์​เรียก​ข้า​ว่า​ลู่​เซิ่ง หรือ​ราชา​หงส์​เพลิง​ก็ได้​”

ตี้ซ​วิน​ขยับ​ฝ่ามือ​ อัคคี​อาทิตย์​กลุ่ม​ใหญ่​ลุกไหม้​และ​ฟุ้งกระจาย​ออก​มาจาก​ด้านหลัง​

“จัดการ​มัน​!”

ดวงตา​ของ​เขา​เป็นประกาย​สีทอง​ ถอย​ไปด้านหลัง​ หาย​เข้าไป​ใน​กองทัพ​ปีศาจของ​อุทยาน​ปีศาจจำนวนมาก​ผ่าน​ร่อง​แยก​สอง​ด้าน​

อุทยาน​ปีศาจหยุดนิ่ง​ลง​พริบตา​หนึ่ง​ จาน​ศิลา​ทรงกลม​วง​หนึ่ง​ค่อยๆ​ ปรากฏ​เหนือ​ตำหนัก​นับไม่ถ้วน​ บน​นั้น​บันทึก​สัญลักษณ์​ลวดลาย​หลาย​กลุ่ม​เหมือนกับ​แสงดาว​เอาไว้​

ทัพ​ปีศาจจำนวน​หลาย​ร้อย​ล้าน​โอบ​ล้อมวัง​หงส์​เพลิง​ไว้​เป็นชั้นๆ​ พวกเขา​ดาหน้า​พุ่ง​เข้า​ตำหนัก​ภายใต้​การ​เสริม​พลัง​จาก​ค่าย​กล​จัตุรัส​เห​อ​ถูลั่ว​ซู

แสงไฟสีทอง​กะพริบ​กลางอากาศ​ ตี้ซ​วิน​พา​พวก​คุ​นเผิง​ ไป๋เจ๋อ​ และ​ตวน​ฟางไปปรากฏ​ด้านนอก​วัง​หงส์​เพลิง​ มองดู​กลุ่ม​ตำหนัก​ที่​โดน​รุมล้อม​ไว้​หลาย​ชั้น​

“เปลี่ยน​ฟ้าแปลง​ดิน​” ตี้ซ​วิน​ยื่นมือ​ออกมา​ เงาคัมภีร์​ที่​ลวงตา​พร่ามัว​เล่ม​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​กลางฝ่ามือ​ คัมภีร์​พลิก​เปิด​หน้า​กระดาษ​ส่งเสียง​พึ่บพั่บ​เบา​ๆ

ค่าย​กล​บน​วัง​หงส์​เพลิง​พลัน​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​อย่าง​รุนแรง​ คัมภีร์​ยักษ์​ที่​เหมือนกัน​เล่ม​หนึ่ง​ปรากฏ​เหนือ​กลุ่ม​ตำหนัก​อย่าง​ช้าๆ

“สรรพสิ่ง​สิ้น​สูญ!” ทันใด​นั้รตี้ซ​วิน​กำมือ​ สะเก็ด​ไฟสีทอง​ระเบิด​บน​มือ​เขา​

แก​ร๊​ก.​..

รอยร้าว​สีทอง​เล็ก​ๆ เริ่ม​โผล่​กลาง​วัง​หงส์​เพลิง​ มิติ​ตรงนั้น​เหมือนกับ​ต้านทาน​แรงกดดัน​สองชั้น​จาก​ค่าย​กล​และ​อัคคี​อาทิตย์​ไม่ไหว​ พา​กัน​แตกร้าว​

ใน​ตัว​ตำหนัก​

ภายใต้​ผล​ของ​ค่าย​กล​ เปลวไฟ​สีทอง​ลุกไหม้​ขึ้น​บน​ตัว​ทหาร​ปีศาจนับไม่ถ้วน​ พวกเขา​คำราม​และ​กลายเป็น​อีกา​อัคคี​ทอง​หลาย​ตัว​ กระโจน​เข้าใส่​ลู่​เซิ่งกลาง​ตำหนัก​ใหญ่​

แต่​ยัง​ไม่ทัน​เข้าใกล้​ แสงสีขาว​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ลอย​ขึ้น​ด้านหลัง​ลู่​เซิ่งอย่าง​ฉับพลัน​

“อัคคี​สวรรค์​ดับ​แสง สิบ​ทิศ​ระเหย​หาย​…”

ลู่​เซิ่งค่อยๆ​ หลับตา​ ลวดลาย​สีแดงฉาน​นับไม่ถ้วน​ไต่​ขึ้น​บน​แก้ม​เขา​

“หงส์​เพลิง​!”

เขา​ลืมตา​ใน​ทันใด​ แสงสีขาว​ไร้​สิ้นสุด​ระเบิด​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​โดย​มีเขา​เป็น​ศูนย์กลาง​

ส่วนลึก​ของ​แสงสีขาว​ หงส์​เพลิง​ยักษ์​ที่​ตัว​ใหญ่​สุดขีด​ตัว​หนึ่ง​ค่อยๆ​ ลืมตา​ขึ้น​ แก​ว๊ก!​

เปลวไฟ​สีทองขาว​นับไม่ถ้วน​ที่​มาก​พอ​จะทำลาย​ทุกสิ่ง​ทะลัก​ไปทั่ว​ราวกับ​คลื่น​ยักษ์​

บน​ผืนดิน​

เผ่า​เวท​

จู๋จิ่ว​อิน​ถือ​ไม้เท้า​ ยืน​อยู่​บน​ผืนดิน​แห้งผาก​ พลัน​เงยหน้า​มอง​ท้องฟ้า​

“นั่น​คือ​อะไร​…!?” เขา​สีหน้า​แปรเปลี่ยน​ จ้องมอง​ทิวทัศน์​ประหลาด​ที่​จู่ๆ ก็​ปรากฏ​ขึ้น​กลาง​ท้องฟ้า​

ตอนนี้​กลุ่ม​ตำหนัก​ของ​อุทยาน​ปีศาจที่อยู่​บน​ท้องฟ้า​ถูกนก​เพลิง​สีขาว​ที่​ตัว​ใหญ่​มโหฬาร​ตัว​หนึ่ง​ โอบล้อม​ไว้​ตรงกลาง​เบา​ๆ

อุทยาน​ปีศาจกำลัง​ลุกไหม้​

ไฟสีทอง​กับ​สีขาว​เกี่ยว​กระหวัด​กัน​ เผาไหม้​ และ​สูญสิ้น​

นก​เพลิง​สีทอง​ตัว​นั้น​ดู​เหมือนกับ​…

“นั่น​คือ​…หงส์​เพลิง​หรือ​” จู๋จิ่ว​อิน​กำ​ไม้เท้า​แน่น​โดยไม่รู้ตัว​

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด