ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 958 ภัยพิบัติ (2)
“ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับหวังจิ้ง” ลู่เซิ่งเข้าใจบ้างแล้วว่าทำไมหวังจิ้งถึงไม่เป็นที่ต้อนรับ
คนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ได้อยู่กับเธอด้วยซ้ำ
ตอนที่เดินไปถึงบันได หมาจรจัดที่ออกหาอาหารหลายตัวก็ไม่ทราบว่าคลั่งขึ้นมาหรืออย่างไร พุ่งใส่เขาด้วยตาแดงฉาน
โฮ่งๆๆๆ!
หมาจรจัดน้ำลายย้อย นอกจากจิตสังหารในตอนแรกแล้ว ในสองตาก็มองไม่เห็นสิ่งใดอีก
เปรี้ยง!
ลู่เซิ่งฟาดขาออกไปดุจสายฟ้าแลบ หมาจรจัดตัวหนึ่งถูกถีบกระเด็นไปชนใส่หมาจรจัดอีกสองตัว หมาจรจัดทั้งสามตัวกระอักเลือดล้มลงกับพื้นแล้วลุกขึ้นพลางเห่าหอนอย่างไร้เรี่ยวแรง
จากนั้นลู่เซิ่งก็เดินเข้าลิฟต์และกดปุ่มอย่างเรียบเฉย
เดินเข้าลิฟต์ ประตูค่อยๆ ปิด เลื่อนขึ้นสู่ข้างบน
จากนั้นปุ่มของลิฟต์ก็กะพริบ เกิดความขัดข้อง
ลิฟต์ที่เดิมกำลังลอยขึ้นอย่างเชื่องช้า พุ่งขึ้นไปด้านบนพร้อมเสียงดังฟ้าว ขึ้นถึงชั้นสิบเอ็ดในทีเดียว จากนั้นแสงไฟปุ่มกดก็ดับลง
ชิ้ง
ลู่เซิ่งได้ยินเสียงลวดขาด
เอี๊ยด
ลิฟต์สั่นไหว
ตูม!
ตูม!ลิฟต์ตกลงอย่างเป็นอิสระ หล่นจากชั้นสิบ
กระแสอากาศรุนแรงพัดเข้ามาผ่านร่องประตูลิฟต์ พัดผมลู่เซิ่งจนพลิกไปเล็กน้อย
เขาคาดเดาชั้นที่ลิฟต์จะตกลงไป
จากนั้นก็ยื่นสองมือแทงไปด้านหน้าดุจสายฟ้าแลบ
ฟิ้ว!
ฝ่ามือแทงประตูลิฟต์ ฉีกประตูเหล็กเป็นรูใหญ่
ในชั่วเสี้ยววินาที ลู่เซิ่งขว้างถุงของใช้ประจำวันออกไป แล้วใช้สองมือจับกำแพงหนาของปากประตูลิฟต์บนชั้นสี่
เกิดเสียงดังเปรี้ยง ลิฟต์ที่เพิ่งหล่นลงมาอย่างรุนแรง ถูกพละกำลังมหาศาลยันเอาไว้ ลอยโคลงเคลงอยู่ตรงปากประตูลิฟต์ของชั้นสี่
ลู่เซิ่งใช้มือข้างหนึ่งตรึงลิฟต์เอาไว้เหมือนตะปู ชักมืออีกข้างออกมาจับประตูลิฟต์ แล้วฉีกรูให้กว้างขึ้นกว่าเดิม
จากนั้นเขาก็ย่อตัวก้าวออกมา พอลิฟต์ด้านหลังไม่มีแรงต้าน ก็ร่วงหล่นลงไปต่อ
จากนั้นก็เกิดเสียงดังตูม ลิฟต์ตกลงไปถึงชั้นหนึ่ง แทงบัญชีเป็นของชำรุดโดยสิ้นเชิง
ผู้อยู่อาศัยในแต่ละชั้นตกใจเพราะเสียงดัง เปิดประตูออกมาตรวจสอบสถานการณ์
ลู่เซิ่งผุดสีหน้าไร้อารมณ์ หยิบของขึ้นจากพื้นพร้อมเปิดประตูบ้านตัวเอง
หวังจิ้งนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบๆ พอได้ยินเสียง เธอก็เงยหน้ามองลู่เซิ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างเรียบเฉย
รอยยิ้มนั้นเหมือนความยินดีหลังจากเป็นกังวลมานาน แต่สุดท้ายก็ได้พบคนที่ตนให้ความสำคัญกลับบ้านอย่างปลอดภัย
“กลับมาแล้วครับ” ลู่เซิ่งพลิกมือปิดประตู วางของลงบนพื้น
“ลิฟต์พังซะแล้ว อาจจะต้องหาคนซ่อม อีกเดี๋ยวผู้ดูแลคงโทรหาบริษัทรับซ่อม ช่วงนี้พวกเราคงได้แต่ใช้บันไดแล้ว”
หวังจิ้งมองเขาอย่างสงบ ดวงตานิ่งขึ้น
“น้ำบ๊วยเปรี้ยวของพี่” ลู่เซิ่งโยนกระป๋องเครื่องดื่มให้หวังจิ้ง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ
“ผมจะไปอาบน้ำ”
การเปลี่ยนแปลงของวันนี้อลังการเกินไปแล้ว สัปดาห์ก่อนหน้านี้สองสามวันจะเกิดสักครั้งหนึ่ง แต่วันนี้วันเดียวกับประสบอุบัติเหตุมากมาย ดูเหมือนจะส่งผลเป็นรอบๆ
ลู่เซิ่งเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำ ฝักบัวพ่นสายน้ำออกมาชโลมร่างเขา ชะล้างดินโคลนจากแจกันดอกไม้จนหมดเกลี้ยง
จุดดีเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ในอาณาเขตระยะหนึ่งรอบตัวหวังจิ้งจะไม่เกิดอุบัติเหตุ
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจอยู่บ้างก็คือ คนของหมอกขาวไม่ได้มาหาเรื่องเขาแล้ว
เขาฆ่าพวกเขาไปสองคน
โถงอสรพิษแห่งเฮยหนิง สาขาของหมอกขาว
รูปสลักหินสีดำแปลกประหลาดที่บ้างนั่งบ้างยืนวางอยู่ทั่วโถงใหญ่ใต้ดินอันมืดสลัว
เงาคนสวมชุดคลุมสีขาวและใส่หน้ากากหลายกลุ่มกระจายอยู่ทั่วโถงใหญ่ สายตาจับอยู่บนร่างชายชราเคราขาวที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลาง
“เป็นน้องชายของท่านผู้นั้นนี่เอง มิน่าคนที่ส่งไปถึงหายไปอย่างอธิบายไม่ได้” ชายชราถอนใจเสียงแผ่วต่ำ
“ยืนยันแล้วหรือว่านายเป็นเหตุแห่งภัยพิบัติ” คนคนหนึ่งท่ามกลางคนสวมเสื้อคลุมขาวรอบๆ เอ่ยเสียงแผ่ว ใช้อุปกรณ์เปลี่ยนเสียง จึงมีเสียงอิเล็กทรอนิกส์อย่างชัดเจน
“ยันยืนแล้ว ข่าวมาจากนครเมอร์คิวรี ” ชายชราพยักหน้า
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้ถอนแผนการที่จะใช้กับหวังตงทั้งหมด เรียกทุกภาคส่วนออกจากสาธารณรัฐหลันเก๋อหลั่งหนี ใช้การเคลื่อนไหวแสดงท่าทีของพวกเรา” อีกคนหนึ่งใช้เนื้อเสียงผู้หญิงกล่าว
“โดยปกติ ขอแค่เราไม่หาเรื่องเอง เหตุแห่งภัยพิบัติก็จะไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ในอาณาเขตเล็กๆ เท่านั้น ในหมู่เทพแห่งการทำลายล้าง ท่านผู้นี้นับว่ารักสันติอยู่”
“เพียงหวังว่าท่านจะไม่โมโหพวกเราเพราะสาเหตุนี้” ชายชราเอ่ยเสียงต่ำ สีหน้าฉายแววกริ่งเกรง
ไม่มีใครต้านทานพลังของเทพแห่งการทำลายล้างได้ ต่อให้เป็นผู้สื่อวิญญาณก็ไม่ไหว เป็นเพราะนั่นคือพลังแห่งราชันของโลก ไม่มีใครขัดขืนได้
“ชดเชยให้มากพอก็ใช้ได้แล้ว”
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ คนคนหนึ่งเอ่ยเสียงสั่น
“สามสิบสามเท่า” ลู่เซิ่งลืมตาขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย หลังจากร่างกายยกระดับอีกครั้ง ก็เกิดความอิดโรยอย่างรุนแรง นี่เป็นความเหนื่อยที่เกิดจากการผลาญพลังมากเกินไป
แต่ด้วยพลังฟื้นฟูของเขา ขอแค่พักผ่อนสักพักก็ดีขึ้นแล้ว
เขาแค่ต้องหลับในเวลากลางคืน ก็จะยกระดับคุณสมบัติร่างกายหนึ่งเท่าได้อย่างสบายๆ
ลู่เซิ่งลุกขึ้น พลันรู้สึกว่าด้านข้างมีคนโผล่มาคนหนึ่ง
พลิกผ้าห่มขึ้นดู ถึงกับเป็นหวังจิ้ง!?
หญิงสาวคนนี้กำลังขดตัว เดรสสีขาวบนตัวปกปิดขาเรียวยาว ผมยาวสีดำสยายอยู่บนเตียงสีขาวอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนดอกบัวดำที่ล้ำลึก ทำให้คนละสายตาไม่ได้
แต่สิ่งที่ลู่เซิ่งใคร่ครวญในตอนนี้ไม่ใช่ปัญหานี้ หากแต่เธอเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่!?
ด้วยพลังสัมผัสของเขา แม้จะไม่ใช้พลังจากร่างหลัก แต่ร่างกายของหวังตงในตอนนี้ก็แข็งแกร่งขึ้นเป็นสามสิบสามเท่าของคนธรรมดาแล้ว
แต่กลับสัมผัสไม่ได้ว่า เธอมานอนด้านข้างตนตั้งแต่ตอนไหน
“จริงๆ เลย” ลู่เซิ่งสูดหายใจลึก แม้จะสัมผัสได้ว่าพี่สาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่ธรรมดาขนาดนี้
ต่อให้เป็นวิญญาณ เมื่อเข้าใกล้เขาขนาดนี้ ก็ไม่มีทางปกปิดเขาได้
หวังจิ้งลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างกะทันหัน ค่อยๆ ลุกขึ้น ม่านตาแวววาวงดงามมองเขานิ่ง
“นอนด้วยกัน”
“พี่ก็มีเตียงนี่” ลู่เซิ่งผุดสีหน้าไร้อารมณ์
“อยู่ไกลเธอเกินไป”
“แล้ว” ลู่เซิ่งหมดคำพูด
“พวกเราต้องการสายสัมพันธ์ที่มากกว่านี้” หวังจิ้งพลันเอ่ยคำพูดที่แปลกประหลาด แบบนี้ เธอถึงจะเป็นของฉันตลอดการ เธอคิดแบบนี้ในใจ
“?” ลู่เซิ่งไม่รู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร
“เธอเป็นของพี่” หวังจิ้งยื่นมือมาจับแขนเขา
มือบอบบาง แต่กลับจับแน่นมาก
ลู่เซิ่งเข้าใจความคิดของเธอทันที
นึกถึงอุบัติเหตุระดับถึงชีวิตที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้า ความสามารถภัยพิบัตินี้น่าจะไม่ใช่สิ่งที่เธอควบคุมได้ ดังนั้นทำให้ไม่มีใครกล้าอยู่รอบตัวเธอเป็นเวลานาน
แต่ตนคือข้อยกเว้น
เขาน่าจะเป็นคนเพียงคนเดียวที่อยู่กับเธอได้ตลอดเวลา ดังนั้นการที่ปรากฏสถานการณ์แบบนี้อาจเป็นเรื่องปกติมากก็ได้
“ช่างเถอะ ลุกขึ้นมาสิ” ลู่เซิ่งเอ่ยอย่างเอือมระอา
เขาลงจากเตียงไปเปิดม่านหน้าต่าง
หวังจิ้งเดินมาถึงด้านหลังเขาช้าๆ
เอาตัวบังไว้ด้านหลังลู่เซิ่ง ไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องต้องร่างเธอ
“ผมจะไปซื้อข้าวเช้า เดี๋ยวเดียวก็กลับ พี่รออยู่บ้านนะ” ลู่เซิ่งสั่ง ก่อนจะสวมเสื้อนอกออกไปจากบ้าน
หวังจิ้งยืนอยู่ในห้องนอนเพียงคนเดียว เหลียวมองรอบๆ อย่างช้าๆ
ไม่นานนัก เธอก็หลับตา สองสามวินาทีต่อมาลืมขึ้นอีกครั้ง
ตรงนี้
เธอเดินไปถึงหน้าตู้หนังสือ แล้วนั่งลงอย่างไร้สุ้มเสียง หยิบหนังสือการ์ตูนภาพสีหลายเล่มออกมาจากในซอกระหว่างด้านหลังตู้หนังสือกับผนัง
หวังจิ้งพลิกหนังสือการ์ตูน มองดูภาพวาดที่ทำให้คนหน้าแดงหูแดง ดวงตาฉายแววกระจ่างแจ้ง
“น้องเป็นของฉัน ใครแย่งคนนั้นตาย”
หวังจิ้งวางหนังสือลง แล้วปิดปกหนังสือเบาๆ
เกิดเสียงดังพรึ่บ หนังสือการ์ตูนทั้งหมดดำเกรียม บิดเบี้ยว กลายเป็นขี้เถ้าอย่างรวดเร็ว เหมือนกับถูกโยนเข้าเผาในกองไฟ
พริบตาเดียว ผ่านไปไม่กี่วินาที หนังสือการ์ตูนทั้งหมดก็กลายเป็นเถ้าถ่าน เถ้าถ่านกลายเป็นควันดำสลายหายไปกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นเหมือนกับบนโลกไม่เคยมีหนังสือเหล่านั้นมาก่อน ไม่เหลือร่องรอยไว้แม้แต่น้อย
ถึงขั้นไม่ได้กลิ่นควันในอากาศ
ลู่เซิ่งถือถุงใส่ของ อาหารเช้าอุ่นๆ กับเครื่องดื่มด้านในแนบกับกางเกง เขาหยิบโทรศัพท์ที่สั่นออกมา มองดูเบอร์ เป็นเบอร์ ที่ไม่มีการบันทึกไว้ในสมุดโทรศัพท์
เขากดวาง จากนั้นก็หยิบกุญแจขึ้นมาเปิดประตู
เพิ่งเปิดประตู เงาคนบอบบางสายหนึ่งพลันพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกลิ่นหอม
ทันทีที่ลู่เซิ่งเห็นคนมา ก็ข่มสัญชาตญาณไว้ โอบหวังจิ้งด้วยแขนข้างหนึ่ง มือของเขาวางลงบนสะโพกของหวังจิ้งโดยอัตโนมัติ ก่อนจะพบว่า เธอสวมถุงน่องเรียวยาวสีดำที่ชวนลุ่มหลงตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ
ถุงน่องสีดำเรียวยาวห่อหุ้มขาเรียวกับสะโพกของเธอไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ขาอ่อนกลมกลึงส่วนหนึ่งโผล่ออกมาใต้เดรสสีขาว
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” หวังจิ้งปล่อยลู่เซิ่ง หน้างามห่างจากเขาเพียงสิบกว่าเซนติเมตรเท่านั้น
“ฉันจะตอบสนองความต้องการทั้งหมดของเธอเอง”
“เธอแค่ต้องอยู่กับฉันตลอดไปก็พอ”
ผมดำยาวของหวังจิ้งส่ายไปมาเบาๆ ดวงตาที่น่าพิสมัยจ้องมองลู่เซิ่ง
“อะไรกัน” ลู่เซิ่งงุนงง “ยังมีพ่อกับแม่อีกไม่ใช่เหรอครับ”
“พวกเขาไม่ได้ให้กำเนิดเธอมา” หวังจิ้งเอ่ยอย่างราบเรียบ “นอกจากนั้น ตอนนี้ พวกเขา ก็หนีไปแล้ว”
ความจริงตั้งแต่วันที่รับเธอกลับบ้าน ทั้งสองก็ได้เตรียมเส้นทางหนีเอาไว้แล้ว
พ่อแม่คือคนที่รู้จักลูกสาวของตัวเองดีที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ความน่ากลัวของพลังพิเศษในตัวหวังจิ้งดีกว่าใคร
รอบตัวหวังจิ้ง ตัวตนที่มีเจตนาร้ายใดๆ จะถูกฆ่าทิ้งอย่างไร้สาเหตุ
ไม่ว่าจะเป็นใคร หากอยู่กับเธอเกินสองวัน ก็จะค่อยๆ เกิดความคิดอยากทรมานและฆ่าเธอให้ตาย
และขอแค่เกิดเจตนาร้ายเมื่อไหร่ สรรพมฤตยูก็จะโจมตีเข้ามา
และในช่วงที่ไม่มีเจตนาร้าย รอบๆ ตัวเธอจะมีการคุกคามที่ทำให้เจอวิกฤติการณ์เช่นกัน
เป็นเพราะตัวหวังจิ้งเป็นคนอารมณ์ปรวนแปร มักจะคลั่งเป็นระยะ มีความสุดขั้วเกินไป เกิดว่าไม่พอใจเมื่อไหร่ ก็จะระเบิดความสามารถออกมาเข่นฆ่าทันที
นี่ก็คือเทพทำลายล้าง
ตัวเธอคือการทำลายและภัยพิบัติ ไม่ว่าเธอจะทำสิ่งใด ความจริงก็ไม่อาจเปลี่ยนธรรมชาติของตัวเอง ไม่ว่าเธอจะเจตนาดีหรือเจตนาร้าย ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือการทำลาย
เป็นครั้งแรกที่หวังจิ้งอยู่ร่วมกับใครคนอื่นมาได้นานขนาดนี้ หลังจากผ่านมาหลายปี
ลู่เซิ่งปฏิบัติกับเธอเหมือนปฏิบัติต่อคนปกติ แต่กลับทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
ดังนั้นเธอจึงต้องการให้ความอบอุ่นนี้เป็นของเธอตลอดกาล
ชั่วกัลปาวสาน!
……………………………………….
Comments