ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 962 เบาะแส (2)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 962 เบาะแส (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สมบัติ​ครอบครัว​เหรอ​” ชาย​ชรา​ส่งเสียง​เผย​สีหน้า​สงสัย​

แต่​ลู่​เซิ่งสังเกตเห็น​ว่า​ พอ​ชาย​วัยกลางคน​ที่อยู่​ใน​วงล้อม​คน​หนึ่ง​ได้ยิน​คำพูด​นี้​พลัน​ผุด​สีหน้า​อับอาย​และ​โกรธเคือง​

“วันนี้​มีเรื่อง​ต้อง​จัดการ​ นี่​เป็น​คัมภีร์​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ เธอ​เอา​ไปดู​วิชา​ที่​เหมาะกับ​ตัวเอง​ก่อน​ จากนั้น​ค่อย​โทรศัพท์​หา​ฉัน​” หวง​อวิ๋น​ชื่อ​ส่งสมุด​เล่ม​เล็ก​เล่ม​หนึ่ง​ให้​ลู่​เซิ่ง

“พี่สาว​เธอ​รอ​อยู่​ที่​ตีนเขา​ใช่ไหม​ รีบ​กลับ​ไปเถอะ​”

เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​เปลี่ยนความคิด​กะทันหัน​ โดย​ให้​ลู่​เซิ่งผละ​ไปก่อน​

ลู่​เซิ่งเอง​ก็​ไม่ว่า​อะไร​ รับ​สมุด​มา แล้ว​มีคน​พา​เขา​ออก​ไปหน้า​หอคอย​อย่าง​รวดเร็ว​

เรื่องราว​ต่อจากนั้น​ บทสรุป​ของ​ชายหนุ่ม​ถือ​ขวาน​ผู้​นั้น​เป็น​อย่างไร​ เขา​ไม่รู้​และ​ไม่สนใจ​

พอ​ลง​จาก​เขา​ ลู่​เซิ่งก็​ไปหา​หวัง​จิ้งที่​นอนหลับ​อยู่​ใน​โรงแรม​ทันที​ จากนั้น​ก็​นั่ง​รถ​ไปจาก​ศูนย์​ใหญ่​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​

การ​มายัง​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ใน​ครั้งนี้​เหมือน​จะไม่ค่อย​ได้​อะไร​เท่าไร​ แต่กลับ​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ไม่น้อย​

ไม่พูดถึง​หวัง​จิ้งที่​ยังคง​เกาะแกะ​ หลัง​กลับบ้าน​ วัน​ต่อมา​ลู่​เซิ่งก็ได้​รับโทรศัพท์​จาก​หวง​ย่า​ เรื่อง​ของ​ชายหนุ่ม​คน​นั้น​เรียบร้อย​แล้ว​ แต่​เธอ​ได้รับบาดเจ็บ​ ต้อง​พัก​รักษาตัว​ อาจจะ​ติดต่อ​กับ​เขา​ไม่ได้​ชั่วคราว​

มองออก​ได้​ว่า​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​เหมือน​จะตก​สู่ปัญหา​ใหญ่​ ชายหนุ่ม​คน​นั้น​กล้า​บุก​ขึ้น​เขา​คนเดียว​ ทั้ง​ยัง​ทำร้าย​คน​ไปมากมาย​ แม้เปลือกนอก​ดูเหมือน​คนธรรมดา​คน​หนึ่ง​ แต่​ทำให้​หวง​ย่า​บาดเจ็บ​ได้​ เบื้องหลัง​ต้อง​ไม่ธรรมดา​แน่​

ลู่​เซิ่งไม่สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ เขา​สนใจ​แค่​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ของ​ตัวเอง​ และ​ข่าว​เกี่ยวกับ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​เท่านั้น​

เวลา​เลื่อนไหล​ไปทีละ​วัน​ๆ

ลู่​เซิ่งเลือก​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​ใช้โทรศัพท์มือถือ​ส่งข้อความ​หา​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​

ผ่าน​ไปไม่นาน​เท่าไร​ ก็​มีคน​ส่งต้นฉบับ​ของ​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​มา

ลู่​เซิ่งเข้าใจ​วิธี​ฝึกฝน​ของ​ที่นี่​อย่าง​คร่าวๆ​ แล้ว​

อันที่จริง​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ใช้จิตใจ​กระตุ้น​วิญญาณ​ เพื่อ​เรียก​ใช้สามจิต​เจ็ด​วิญญาณ​ โดย​ทำให้​สามจิต​เจ็ด​วิญญาณ​เกิด​การเคลื่อนไหว​ เหมือนกับ​การ​ออกกำลัง​

จากนั้น​ก็​สั่งสมวันแล้ววันเล่า​จน​บรรลุผล​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​แก่​วิญญาณ​

วิธี​การฝึกฝน​ที่​แตก​ต่างกัน​ ผล​ที่​เกิดขึ้น​ตาม​ธรรมชาติ​ก็​จะแตก​ต่างกัน​เช่นกัน​

ลู่​เซิ่งทำความเข้าใจ​คร่าวๆ​ ประเภท​ของ​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​แบ่ง​ออก​เป็น​หลายชนิด​ แต่​โดยรวม​แล้ว​มีสามประเภท​ใหญ่​ๆ

ชนิด​แรก​ เป็น​ประเภท​เน้น​อาศัย​ฝึกฝน​ด้วยตัวเอง​ เพื่อ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​แก่​วิญญาณ​

ชนิด​ที่สอง​ ประเภท​ที่​เน้น​พลัง​ภายนอก​ อย่างเช่น​โอสถ​ ยา​หลอน​ประสาท​ การ​กระตุ้น​วิญญาณ​จาก​ภายนอก​ ความสามารถ​ทาง​วิทยาการ​ เพื่อ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​ร่างกาย​

ชนิด​ที่สาม​ เป็น​สาย​ผสม​ที่​อาศัย​การฝึกฝน​ด้วยตัวเอง​เป็นหลัก​ ใช้พลัง​ภายนอก​เป็นตัว​เสริม​

ลู่​เซิ่งย่อม​เลือก​เส้นทาง​ที่​ดี​ที่สุด​ โดย​เลือก​สาย​ผสม​อันเป็น​ชนิด​ที่สาม​ที่​ทันสมัย​ที่สุด​

หลังจาก​ได้​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ที่​สมดุล​มา เขา​ก็​ทดลอง​ฝึกฝน​ดู​ พื้นฐาน​ไม่มีอะไร​ยาก​ ไม่นาน​ก็​ใช้ได้​อย่าง​ผ่อนคลาย​เพราะ​พลัง​วิญญาณ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​ตนเอง​

เพียงแต่​เขา​ไม่คิด​จะใช้ดี​ปบลู​ยกระดับ​วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ แค่​ความเร็ว​ใน​การฝึกฝน​นี้​ก็​ถือว่า​สูงมาก​แล้ว​

บวก​กับ​ตน​มีพละกำลัง​เพียง​พอแล้ว​ จึงไม่จำเป็นต้อง​ยกระดับ​วิชา​ธรรมดา​นี้​ต่อ​

กลับเป็น​ทาง​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ที่​ส่งสวัสดิการ​อันเป็น​เงื่อนไข​ที่​ควร​ได้รับ​มา

เมื่อ​มีเงิน​ ลู่​เซิ่งก็​คิด​จะพิจารณา​หา​ที่อยู่​ใหม่​ เพื่อ​เปลี่ยน​สภาพแวดล้อม​ให้​แก่​หวัง​จิ้ง

บ้านเดิม​เล็ก​เกินไป​ ไม่สะดวก​ต่อ​การเคลื่อนไหว​

ลู่​เซิ่งเดิน​เอื่อย​อยู่​บน​ถนนใหญ่​ หวัง​จิ้งเกาะ​แขน​เขา​อยู่​ใกล้​ๆ เดินตาม​ฝีเท้า​ของ​เขา​อย่าง​เงียบๆ​ และ​เชื่อฟัง​

บน​ถนน​เย็นเยียบ​อย่างยิ่ง​ กำลัง​อยู่​ใน​ช่วงเวลา​งาน​ ทั้ง​ยัง​ไม่ใช่วันหยุด​สุดสัปดาห์​ คน​ส่วนใหญ่​จึงกำลัง​ทำงาน​อยู่​

มีแค่​คน​ส่วนน้อย​ที่​มีเวลาว่าง​ออกมา​เดิน​เตร็ดเตร่​

“พวกเรา​จะไปไหน​เหรอ​” หวัง​จิ้งถามอย่าง​ฉงนใจ​

“ผม​เข้าร่วม​องค์กร​องค์กร​หนึ่ง​ พวกเขา​มีสวัสดิการ​ดี​ มอบ​เงิน​ให้​เยอะ​มาก​ เปลี่ยน​บ้าน​ให้​เรา​ได้​พอดี​ ดังนั้น​ผม​เลย​ดู​อยู่​ว่า​จะซื้อ​ที่ไหน​ดี​” ลู่​เซิ่งตอบ​อย่าง​สบาย​ๆ

ค่าตอบแทน​ปีละ​ร้อย​ล้าน​มาก​พอ​จะให้​เขา​ซื้อ​บ้าน​หลัง​ใด​ หรือ​คฤหาสน์​หลัง​ใด​ใน​ย่าน​คึกคัก​แห่ง​นี้​ได้​ทั้งนั้น​

“อ้อ​” ความจริง​หวัง​จิ้งไม่สนใจ​ว่า​จะต้อง​ไปที่ไหน​ เธอ​ชอบ​แอบอิง​ลู่​เซิ่งอย่าง​กระหาย​ สัมผัส​ความอบอุ่น​ที่​ส่งมาจาก​ตัว​เขา​เท่านั้น​

ขณะ​เดิน​บน​ถนนใหญ่​ ทันทีที่​คนเดินถนน​ที่​สวน​กับ​พวกเขา​เห็น​หวัง​จิ้ง ต่าง​ก็​ตกตะลึง​ จากนั้น​ก็​หัน​หนี​อย่าง​รังเกียจ​ หลบเลี่ยง​เธอ​เหมือน​หลบเลี่ยง​สัตว์ประหลาด​

ทำให้​ลู่​เซิ่งที่อยู่​ข้าง​เธอ​ถูก​สายตา​รังเกียจ​ที่​อธิบาย​ไม่ได้​กวาดตา​มอง​เช่นกัน​

นี่​เป็น​ความรู้สึก​ที่​ประหลาด​มาก​

ลู่​เซิ่งคิดในใจ​

ไม่นาน​เขา​ก็​เจอ​เขต​คฤหาสน์​หรูหรา​ที่อยู่​ใน​ทำเล​ไม่เลว​แห่ง​หนึ่ง​ เป็น​คฤหาสน์​แยก​เดี่ยว​ ไม่มีทาง​ได้รับ​ผลกระทบ​ใดๆ​

นอกจาก​รอบข้าง​ที่​เงียบ​ไปบ้าง​ และ​ทะเลสาบ​เย็นเยียบ​ด้านหลัง​แล้ว​ ที่​เหลือ​ก็​ไม่มีตรงไหน​ลำบาก​

“ที่นี่​เป็น​ยังไง​บ้าง​” เขา​ถาม

“ได้​สิ” หวัง​จิ้งยิ้ม​พลาง​หอม​แก้ม​เขา​

ลู่​เซิ่งลาก​หวัง​จิ้งเดิน​เข้าไป​ใน​สำนักงาน​ขาย​บ้าน​อย่าง​จนปัญญา​

พนักงาน​สาว​ขาย​บ้าน​หลาย​คน​เข้ามา​ต้อนรับ​ จากนั้น​ก็​ไม่มีการ​หักมุม​ใดๆ​ ลู่​เซิ่งจอง​คฤหาสน์​ที่อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ลับตาคน​ที่สุด​ เซ็นต์​สัญญา จ่าย​เงิน​ ดู​คฤหาสน์​ ได้​กุญแจ​มา แล้ว​เปลี่ยน​กุญแจ​

ไม่เกิน​สามชั่วโมง​ เขา​กับ​หวัง​จิ้งก็​เข้าไป​อยู่อาศัย​ใน​คฤหาสน์​สีขาว​ริม​ทะเลสาบ​หลัง​หนึ่ง​อย่าง​เป็นทางการ​

ยังมี​การ​จัดการ​สัญญาอยู่อาศัย​และ​โฉนดที่ดิน​อีก​ไม่น้อย​ เรื่อง​พวก​นี้​ทาง​โครงการ​กับ​คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​จะจัดการ​ให้​เขา​

สุดท้าย​ลู่​เซิ่งถึงทราบ​ว่า​ เขต​คฤหาสน์​แห่ง​นี้​เป็น​กิจการ​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​

หลังจาก​จัดการ​ปัญหา​ที่อยู่อาศัย​เสร็จ​ ก็​เป็นปัญหา​เรื่อง​ของกิน​ ลู่​เซิ่งได้​เปลี่ยน​ร้านอาหาร​ใหม่​ เพื่อ​กำหนดให้​เป็น​ห้อง​อาหารประจำ​ และ​ให้​พวกเขา​ส่งอาหาร​มา

ด้านหลัง​คฤหาสน์​มีสระว่ายน้ำ​ รอ​ลู่​เซิ่งโทรศัพท์​จัดการ​เรื่อง​อินเทอร์เน็ต​เป็น​อย่าง​สุดท้าย​ให้​เสร็จ​

ขณะ​ยืน​อยู่​หน้า​กระจก​ชั้นสอง​ เขา​มองผ่าน​กระจก​ไปเห็น​พี่สาว​หวัง​จิ้งเปลี่ยนเป็น​ชุดว่ายน้ำ​สีขาว​ ยืน​อยู่​ริม​สระน้ำ​ ก่อน​จะกระโดด​ลง​น้ำ​เบา​ๆ

ชุดว่ายน้ำ​สีขาว​ สอง​ขา​เรียว​ยาว​ เอว​อัน​บอบบาง​ กับ​ผม​ยาว​นุ่ม​สลวย​สีดำ​สนิท​ที่​เหมือนกับ​ดอกบัว​

หวัง​จิ้งว่ายน้ำ​อยู่​ใน​สระน้ำ​สีฟ้าใสเหมือนกับ​นาง​เงือก​

แค่​ยืน​มอง​อยู่​ไกลๆ​ ก็​สัมผัส​ความงาม​ที่​ชวน​ให้​คน​รู้สึก​สงบสุข​ได้​แล้ว​

ลู่​เซิ่งส่ายหน้า​ พ่น​ลมหายใจ​ ขณะ​กำลังจะ​ลง​ไปชั้นล่าง​นั่นเอง​

อยู่​ๆ หวัง​จิ้งที่อยู่​ใน​สระว่ายน้ำ​ก็​หันมา​มอง​ลู่​เซิ่ง

เธอ​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ดวงตา​ฉายแวว​คาดหวัง​ที่​อธิบาย​ไม่ถูก​ เกี่ยว​มือ​ปลด​ชุดว่ายน้ำ​ที่​หน้าอก​ เผย​ให้​เห็น​ทรวงอก​ที่​ขาว​เนียน​และ​งดงาม​ข้างใน​

“เฮ้ย​” ลู่​เซิ่งสะดุ้งโหยง​ รีบ​พุ่ง​ลง​ไปชั้นล่าง​ กระโด​ลง​สระน้ำ​ดัง​ตูม​ แล้ว​สวม​เสื้อ​ว่ายน้ำ​ให้​หวัง​จิ้งอี​กรอบ​

“ชอบ​ไหม​” หวัง​จิ้งซบ​ไหล่ลู่​เซิ่ง ยิ้ม​อย่าง​ได้ใจ​

“พี่​บ้า​ไปแล้ว​เหรอ​ไง เกิด​มีคนอื่น​มาเห็น​เข้า​จะทำ​ยังไง​” ลู่​เซิ่งตบ​สะโพก​เธอ​ พร้อมกับ​เอ่ย​อย่าง​ขุ่นเคือง​อยู่​บ้าง​

“ไม่เป็นไร​…” หวัง​จิ้งยิ้ม​ๆ

ถ้ามีคน​เห็น​ แค่​ฆ่าทิ้ง​ก็​พอ​

ประโยค​หลัง​เธอ​ไม่ได้​พูด​ แต่​ขุม​กำลัง​ของ​เธอ​จะช่วย​เธอ​จัดการ​เรื่องเล็ก​ๆ แบบนี้​เอง​

เธอ​เห็น​ฉาก​ที่​น่าสนใจ​มากมาย​จาก​ใน​หนังสือ​การ์ตูน​ที่หวัง​ตง​ซ่อน​ไว้​ จึงทราบ​ว่า​มุมมอง​ที่​น้องชาย​ชอบ​ที่สุด​เป็น​อย่างไร​

ดังนั้น​ทุกครั้งที่​จงใจทำ​แบบนี้​ แล้ว​เห็น​ท่าทาง​กระวนกระวาย​ และ​อาการ​วู่วาม​โดยสัญชาตญาณ​ของ​หวัง​ตง​ เธอ​จะรู้สึก​สนุก​มาก​

“ให้​มัน​ได้​อย่างนี้​สิ เสื้อ​เปียก​หมด​แล้ว​” ลู่​เซิ่งอุ้ม​หวัง​จิ้งเดิน​เข้า​โถงชั้นหนึ่ง​ ไปถึงห้องน้ำ​อย่าง​รวดเร็ว​ ราด​น้ำลง​บน​ตัวอย่าง​รีบเร่ง​ ก่อน​จะพัน​ผ้าเช็ดตัว​ออกมา​ทั้งสอง​คน​

“พี่​ไปเปลี่ยนเสื้อ​เถอะ​ เดี๋ยว​จะเป็นหวัด​” ลู่​เซิ่งกำชับ​

หวัง​จิ้งพยักหน้า​อย่าง​ว่าง่าย​ สวม​เสื้อ​ว่ายน้ำ​ กลับ​ไปเปลี่ยนเสื้อ​ที่​ห้องนอน​ตัวเอง​

ลู่​เซิ่งถอนหายใจ​ การ​ดูแล​พี่สาว​คน​นี้​ทั้งวัน​ช่างน่า​หน่าย​ใจจริงๆ​ ดู​เวลา​ ถึงเวลา​ที่​นัด​ว่า​จะไปรายงาน​ความก้าวหน้า​ที่​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​พอดี​

วิชา​สื่อ​วิญญาณ​ของ​เขา​ชื่อ​วิชา​วิญญาณ​จากลา​ มีทั้งหมด​สิบห้า​ระดับ​ ตอนนี้​เขา​ฝึก​ถึงระดับ​สามแล้ว​

ความจริง​สิ่งนี้​จะมอบ​การเคลื่อนไหว​ให้​แก่​วิญญาณ​ ลู่​เซิ่งแค่​ทำ​ครึ่งๆ กลางๆ​ จิตวิญญาณ​ก็​ยกระดับ​ขึ้น​อย่าง​ต่อ​เนื่องเพราะ​การ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​จาก​อัคคี​จิต​หงส์​เพลิง​และ​ปราณ​ปฐพี​

“พี่​ ผม​จะขึ้น​ภูเขา​ที่​ไปก่อนหน้า​ อีก​เดี๋ยว​ค่ำ​ๆ จะกลับมา​” เขา​เตือน​หวัง​จิ้งเสียงดัง​

ใน​ห้อง​ไม่มีเสียง​ แต่​ลู่​เซิ่งรู้​ว่า​หวัง​จิ้งได้ยิน​แล้ว​

เขา​ไม่ว่า​อะไร​ เปลี่ยน​เสื้อผ้า​ ก่อน​จะออกจาก​คฤหาสน์​ ด้านนอก​มีคน​จาก​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ขับรถ​มารอ​อยู่​นาน​แล้ว​

ที่​ห้องนอน​ชั้นสอง​ หวัง​จิ้งสวม​กระโปรง​ขาว​และ​ถุงน่อง​อีกครั้ง​ ยืน​มอง​รถ​ที่​ค่อยๆ​ แล่น​ห่าง​ออก​ไปอยู่​ข้าง​หน้าต่าง​

“เรา​ได้​กระตุ้น​ให้​คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​หา​เบาะแส​เจอ​แล้ว​ ของ​วาง​ไว้​บน​เส้นทาง​ที่​กลุ่ม​ตรวจสอบ​ของ​พวกเขา​ต้อง​ผ่าน​ ตอนนี้​พวกเขา​น่า​จะแจ้งหวัง​ตง​แล้ว​” เสียง​ผู้หญิง​ที่​แหลม​สูงดัง​มาจาก​ใน​ห้องนอน​

“ดีมาก​” หวัง​จิ้งละสายตา​ “อย่า​ให้​เขา​รู้​ล่ะ​”

“เข้าใจ​แล้ว​ค่ะ​”

“พัฒนาการ​ไม่เลว​ ดูเหมือน​ช่วงนี้​เธอ​จะขยัน​มาก​ทีเดียว​” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ยิ้ม​พลาง​ตบ​บ่า​ลู่​เซิ่งเบา​ๆ

“เพราะ​ไม่ได้​เรียนหนังสือ​แล้ว​ เลย​เหลือ​เวลา​เยอะ​น่ะ​ครับ​” ลู่​เซิ่งตอบ​สบาย​ๆ

“มีข่าวดี​มาบอก​” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​หยิบ​กล่อง​โลหะ​สีดำ​ทรงกลม​ใบ​หนึ่ง​จาก​โต๊ะ​ด้านหลัง​มาส่งให้​ลู่​เซิ่ง

“เจอ​ของ​ที่​เธอ​ต้องการ​แล้ว​”

“หือ​” ลู่​เซิ่งงุนงง​ รีบ​รับ​กล่อง​มาเปิด​ฝา

ไข่มุก​สีดำ​ที่​มีรูปร่าง​เหมือน​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​ฝังอยู่​กลาง​ฟองน้ำ​สีดำ​สนิท​ด้านใน​

“สีดำ​เหรอ​” ลู่​เซิ่งจำได้​ว่า​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​ควร​เป็น​สีเงิน​

“พวกเรา​เจอ​แค่​สีดำ​ แต่​ส่วน​อื่นๆ​ เหมือน​สิ่งที่​เธอ​วาด​ให้​ดู​ไม่มีผิด​ คิด​ว่า​ถึงจะไม่ใช่ของ​ที่​เธอ​ต้องการ​ ก็​น่าจะ​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​”

หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ไม่พูด​ถึงว่า​ต้อง​ใช้กำลังคน​และ​กำลัง​ทรัพยากร​เท่าไร​เพื่อ​ของ​สิ่งนี้​

“เอาล่ะ​ ใน​เมื่อ​ได้​ของ​มาแล้ว​ มาแสดง​ให้​ฉัน​ดูก่อน​ ฉัน​อยาก​จะเห็น​พัฒนาการ​ใน​ช่วงนี้​ของ​เธอ​ พัฒนาการ​ด้าน​วิชา​วิญญาณ​ไม่ได้​บ่งบอก​ว่า​จะสู้ได้​เก่ง​หรอก​นะ​”

หวง​อวิ๋น​ซื่อ​พา​ลู่​เซิ่งออกจาก​โถงทดสอบ​ มุ่งหน้า​ไปยัง​ส่วนลึก​ของ​หอคอย​

ทั้งสอง​มาถึงโถงฝึก​กว้างขวาง​แห่ง​หนึ่ง​อย่าง​รวดเร็ว​

“ที่นี่​แข็งแกร่ง​กว่า​สถานที่​ที่​เธอ​สู้กับ​เฮนรี่​เมื่อ​ก่อนหน้า​สิบห้า​เท่า​ ใช้พลัง​ทั้งหมด​เลย​ ไม่ต้อง​ห่วง​ ไม่เกิด​ปัญหา​อะไร​แน่​”

หวง​อวิ๋น​ซื่อ​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

ลู่​เซิ่งพยักหน้า​ ถอด​เสื้อ​บน​ตัว​ออก​ เผย​ให้​เห็น​เสื้อกล้าม​สีดำ​ที่​ใส่รอ​ไว้​แล้ว​

ยืน​อยู่​ตรง​ที่​เดิม​ ลาน​ฝึกฝน​ยังมี​คน​อยู่​ไม่น้อย​ พอ​เห็น​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​กำลัง​สู้กับ​ใคร​บางคน​ ส่วนใหญ่​ก็​หยุด​ลง​และ​ล้อมวง​เข้ามา​มุงดู​ทั้งสอง​สู้กัน​

อย่างไร​การ​ได้​เห็น​ผู้อาวุโส​ชี้แนะ​ ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ง่ายๆ​

“ขอ​คำ​ชี้แนะ​ด้วย​ครับ​” ลู่​เซิ่งก้มหน้า​น้อย​ๆ ผุด​สีหน้า​เคร่งขรึม​

นิ้ว​ของ​เขา​ประสาน​เป็น​มุทรา​ซับซ้อน​สิบ​กว่า​สาย​ด้านหน้า​ตัวเอง​เหมือน​พวงดอกไม้​

พลัง​วิญญาณ​ที่​เหนือกว่า​คนธรรมดา​สิบ​สามเท่า​ถูก​เรียก​ออกมา​ กลายเป็น​กระแส​อากาศ​ไร้​รูปร่าง​ วนเวียน​อยู่​รอบตัว​เขา​

“วิชา​วิญญาณ​ ทิ่มแทง​” ลู่​เซิ่งแทง​สอง​มือ​ไปด้านหน้า​

รอบตัว​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ปราก​ฎหนาม​แหลม​ไร้​รูปร่าง​สิบ​แท่ง​ แทง​ใส่ผิว​เขา​อย่าง​รุนแรง​

“ฉัน​ข่ม​พลัง​วิญญาณ​ให้​อยู่​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​เธอ​แล้ว​ ขอ​แค่​เธอ​ทำลาย​การป้องกัน​ของ​ฉัน​ได้​ ถือว่า​เธอ​ผ่าน​เกณฑ์​” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ยิ้ม​และ​กล่าว​เสียง​กระจ่าง​

“ได้​” ลู่​เซิ่งเพิ่งจะ​พูด​จบ​ หนาม​แหลม​จำนวน​มากกว่า​เดิม​ก็​แทง​ใส่หวง​อวิ๋น​ซื่อ​จาก​ทุก​ทิศ​ทุก​ทาง​

ท่ามกลาง​เสียง​แทง​ดัง​สวบ​ๆๆ หนาม​แหลม​ไร้​รูปร่าง​ทั้งหมด​ถูก​แสงโปร่ง​ใส่บาง​ๆ ชั้นหนึ่ง​ป้องกัน​ไว้​ได้​ทั้งหมด​

“อ่อนแอ​เกินไป​ ไม่ได้​กินข้าว​เหรอ​ไง!” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ตะโกน​

ลู่​เซิ่งเปลี่ยนแปลง​มุทรา​ พลัง​วิญญาณ​ใหม่​จับตัว​ใน​เวลา​สอง​วินาที​สั้น​ๆ

พลัง​จิตวิญญาณ​กลาย​เป็นลม​เย็นเยียบ​ หมุน​วน​รอบตัว​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ผิว​ของ​แสงที่​เป็น​การป้องกัน​ของ​เขา​เริ่ม​ปรากฏ​เกล็ด​น้ำแข็ง​และ​ชั้น​น้ำแข็ง​จำนวนมาก​

“ทลาย​” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​แค่น​เสียง​

เปรี้ยง​!

ชั้น​น้ำแข็ง​กับ​เกล็ด​น้ำแข็ง​แตกสลาย​ไปพร้อมกับ​ลม​อัน​เย็นเยียบ​สาย​นั้น​

“โง่เง่า! ใช้วิชา​วิญญาณ​ที่​ผลาญ​พลัง​วิญญาณ​มาก​ที่สุด​แบบนี้​มาโจมตี​ เธอ​กลัว​ตัวเอง​จะไม่ตาย​เร็ว​หรือไง​!?” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​พลัน​เอ่ย​ด้วย​เสียง​โมโห​

ลู่​เซิ่งหน้า​คร่ำเคร่ง​ขึ้น​เล็กน้อย​ เปลี่ยน​ตรา​หัตถ์​อี​กรอบ​ ท่ามกลาง​เสียง​ขวับ​ๆ สอง​มือ​เขา​แทบ​กลาย​เป็นเงา​หลงเหลือ​

มุทรา​สิบ​กว่า​สาย​จับตัว​ใน​เวลา​หนึ่ง​วินาที​ ทำให้​คน​อ้า​ปาก​ตาค้าง​

“ดาบ​ผนึก​วิญญาณ​! ไป!”

พลัง​จิตวิญญาณ​ทั้งหมด​สร้าง​ดาบ​ไร้​รูปร่าง​ที่​คมกริบ​สุด​เปรียบ​ปาน​ขึ้น​มาสาย​หนึ่ง​ แล้ว​ฟัน​ใส่หวง​อวิ๋น​ซื่อ​จาก​ด้านบน​

“เธอ​ปัญญาอ่อน​หรือไง​!? ยัง​กำหนด​พลัง​วิญญาณ​ทั้งหมด​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ คิด​จะวางไข่​ใน​ตะ​กล้า​ใบ​เดียว​หรือ​!? โง่! งั่ง! ไร้​ปัญญา! มั่วซั่ว​!”

หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ยก​มือขวา​ขึ้น​ขวาง​เบา​ๆ

ตูม​!

ดาบ​ผนึก​วิญญาณ​แหลก​สลาย​ พลัง​วิญญาณ​ไร้​รูปร่าง​กระจัดกระจาย​เหมือนกับ​กระแส​อากาศ​บ้าคลั่ง​

“ดู​ให้​ดี​ล่ะ​ นี่​ถึงจะเป็น​ ดาบ​สะกด​วิ​ญ…”

เปรี้ยง​!

โถงฝึก​สั่นสะเทือน​

ลู่​เซิ่งฟาด​ใส่ชั้น​ป้องกัน​ด้านหน้า​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​

แก​ร๊​ก.​..

รอยแตก​นับไม่ถ้วน​กระจาย​ตาม​ตำแหน่ง​ที่​ลู่​เซิ่งฟาด​ฝ่ามือ​ออก​ไป

ตูม​!

เกิด​เสียง​ดังสนั่น​

หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ขว้​แขน​บัง​ไว้​ด้านหน้า​ตัวเอง​ ร่างกาย​ลอย​ออก​ไป กระแทก​เข้าไป​ใน​กำแพง​หิน​สีดำ​ที่​แข็งแกร่ง​ด้านหลัง​

“ของ​อย่าง​วิชา​วิญญาณ​สร้าง​ขึ้น​มาเพื่อ​อะไร​กัน​” ลู่​เซิ่งชัก​ฝ่ามือ​กลับ​ หมุนตัว​เดิน​ไปยัง​นอก​โถง

“เธอ​…เธอ​ไม่ได้​อยู่​…ใน​ขีดจำกัด​สิบ​สามเท่า​เหรอ​!?” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​บน​กำแพง​ส่งเสียง​อย่าง​ยากลำบาก​ “เธอ​…ทำลาย​ ขีดจำกัด​แล้ว​เหรอ​!?”

ลู่​เซิ่งชะงัก​ฝีเท้า​

“ครับ​ สิบห้า​เท่า​แล้ว​”

ความจริง​เขา​พูด​ไม่หมด​ ต่อให้​เป็น​สิบ​สามเท่า​เหมือนกัน​ ทักษะ​การ​ส่งพลัง​ก็​ก่อให้เกิด​ผล​ทำลายล้าง​ที่​ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​ได้​

“ฮ่าๆๆๆ! ไม่…! พิธี​เรียก​วิญญาณ​…จะทำให้​เธอ​…แข็งแกร่ง​ได้​มากกว่า​เดิม​! เชื่อ​ฉัน​เถอะ​!” หวง​อวิ๋น​ชื่อ​ไม่เคย​นึก​มาก่อน​ว่า​กาย​เนื้อ​ของ​มนุษย์​จะแข็งแกร่ง​ถึงขั้น​นี้​ได้​

แต่​หวัง​ตง​กลับ​แข็งแกร่ง​ถึงขั้น​นี้​แล้ว​ ถ้าหาก​ผ่าน​พิธี​เรียก​วิญญาณ​ล่ะ​ ความ​แข็งแกร่ง​นั้น​…จะยาก​จินตนาการ​ทีเดียว​!

เขา​เหมือน​เห็น​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ กำลังจะ​ให้กำเนิด​ผู้​เข้มแข็ง​ที่​ทั้ง​น่ากลัว​และ​แข็งแกร่ง​ที่สุด​เท่าที่​ประวัติศาสตร์​เคย​มีมา

“ร่าง​วิญญาณ​ไม่ใช่แค่​สิงบน​อาวุธ​ได้​เท่านั้น​ ยัง​สิงกับ​เกราะ​และ​อุปกรณ์​ป้องกัน​ได้​ด้วย​!” ใน​ดวงตา​ของ​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​มีไฟแห่ง​ความ​คลั่งไคล้​กำลัง​ลุกโชน​

ลู่​เซิ่งหยี​ตา​

“โพรง​หมื่น​วิญญาณ​! เธอ​จะต้อง​ได้รับ​การ​ยอมรับ​จาก​โพรง​หมื่น​วิญญาณ​แน่​!” หวง​อวิ๋น​ซื่อ​พลัน​หัวเราะ​ลั่น​

ขณะ​มอง​ลู่​เซิ่ง เขา​ก็​หวน​นึกถึง​ตำนาน​เกี่ยวกับ​ราชา​วิญญาณ​ที่​เฝ้าใฝ่ฝันถึง​มาหลาย​สิบ​ปีตั้งแต่​ยัง​เด็ก​

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด