ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 963 เทือกเขา (1)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 963 เทือกเขา (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภายใต้​อิทธิพล​ของ​ขุม​กำลัง​ตระกูล​หวง​ คน​ส่วนหนึ่ง​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​เริ่ม​ดำเนิน​แผนการ​ลับ​สุดยอด​ที่​เรียก​ว่า​ “วิญญาณ​บริสุทธิ์​สัมบูรณ์​” เพื่อ​แข่ง​กับ​ลู่​เซิ่ง

 

เป้าหมาย​หลักการ​ การบ่ม​เพาะ​ลู่​เซิ่งหรือ​หวัง​ตง​จน​กลายเป็น​ราชา​วิญญาณ​ที่​แข็งแกร่ง​ถึงขีดสุด​ และ​กลายเป็น​ตัวตน​อัน​แข็งแกร่ง​ระดับ​เทพ​ทำลายล้าง​

ตอน​แรกเริ่ม​ลู่​เซิ่งค่อนข้าง​หงุดหงิด​ แต่​เพราะ​สวัสดิการ​มากมาย​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ที่​เพิ่มขึ้น​ บวก​กับ​หวง​ย่า​คอย​เกลี้ยกล่อม​ เขา​จึงทำเป็น​ลืมตา​ข้าง​ปิด​ตา​ข้าง​

อย่างไร​ก็​ไม่ได้​เป็น​อุปสรรค​อะไร​กับ​เขา​อยู่แล้ว​

หลังจากที่​เอาชนะ​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ใน​ตอนนั้น​ สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ก็​มีความรู้​ที่​ค่อนข้าง​กระจ่างแจ้ง​ต่อ​ค่า​พลัง​ต่อสู้​ของ​เขา​

แม้จะไม่มีผู้อาวุโส​ใช้พลัง​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ที่​สมบูรณ์​สู้กับ​เขา​มาก่อน​

แต่​เขา​เป็น​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​อย่าง​สมศักดิ์ศรี​ใน​หมู่​ลูกศิษย์​รุ่น​เดียวกัน​ ศิษย์​บางคน​บอ​กว่า​ หวัง​ตง​ไม่เคย​ลงมือ​สุดกำลัง​มาก่อน​เท่านั้น​ หาก​เขา​ระเบิด​พลัง​ทั้งหมด​จริงๆ​ อาจจะ​เป็น​ตัวตน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ก็ได้​

อย่างไร​พละกำลัง​กับ​ความเร็ว​อัน​น่ากลัว​นั้น​ก็​รับมือ​ได้​ยาก​จริงๆ​ ต่อให้​ปกคลุม​พลัง​วิญญาณ​ ศิษย์​ทั่วไป​ก็​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​พลัง​ห้าสิบ​เท่า​ของ​ขีดจำกัด​มนุษย์​เด็ดขาด​

ใน​ห้า​เมล็ด​วิญญาณ​ ลู่​เซิ่งได้รับ​การ​จัด​อยู่​ใน​อันดับ​แรก​สุด​ มีผู้​สอดรู้สอดเห็น​แอบ​เรียก​เขา​ว่า​ไน่ลั่วเอิน​ อัน​หมายถึง​ผู้​ถึงขีดจำกัด​ และ​ผู้​ทรงพลัง​ใน​ภาษาโบราณ​

อีก​สี่เมล็ด​วิญญาณ​หมก​ตัว​อยู่​บน​เขา​เกือบ​ทุกวัน​ คอย​ฝึกฝน​ป้อน​กระบวนท่า​กับ​เหล่า​ศิษย์​และ​ผู้อาวุโส​ของ​สำนัก​

มีแต่​ลู่​เซิ่งที่​เดี๋ยว​ก็​ขึ้น​เขา​ลง​เขา​ เวลา​อยู่​บน​เขา​ไม่นาน​เท่าไร​

เขา​ใช้เวลา​ส่วนใหญ่​ตรวจสอบ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​สีดำ​ที่​ได้รับ​มา หลังจากที่​ไปหา​นักโบราณคดี​ นักประวัติศาสตร์​ และ​พลิก​อ่าน​ข้อมูล​นับไม่ถ้วน​กี่​ยว​กับ​ของ​สิ่งนี้​

ในที่สุด​หลัง​ผ่าน​ไปหนึ่ง​เดือน​กว่า​ๆ เขา​ก็​เข้าใจ​ความลับ​ของ​มัน​คร่าวๆ​ แล้ว​

“สิ่งนี้​…น่าจะเป็น​ของ​ทำ​เลียนแบบ​ดวงตา​แห่ง​มี่อ้าย​ เครื่องมือ​ของ​เทพ​ผู้​กลับชาติมาเกิด​ใน​ตำนาน​”

ใน​ห้อง​หนังสือ​ ลู่​เซิ่งอุ้ม​หวัง​จิ้งนั่ง​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​หนังสือ​ อ่าน​ข้อมูล​เอกสาร​ฉบับ​พิมพ์​ที่​เพิ่ง​ได้มา​ก่อนหน้านี้​

“มัน​คือ​ อะไร​” หวัง​จิ้งซุก​อยู่​ใน​อ้อ​มอ​กลู่​เซิ่ง ขยับ​ร่างกาย​เบา​ๆ สอง​แขน​โอบกอด​เอว​ของ​ลู่​เซิ่งไว้​แน่น​

“ของ​น่าเบื่อ​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​ “ยัง​ไม่หลับ​หรือ​ พักผ่อน​เถอะ​”

“อื้อ​” ดวงตา​ของ​หวัง​จิ้งฉายแวว​ประหลาด​

ดวงตา​แห่ง​มี่อ้าย​ เธอ​เหมือน​จะรู้​ข้อมูล​ส่วนหนึ่ง​ของ​มัน​ ก่อน​การ​กลับชาติมาเกิด​ไม่รู้​กี่​ครั้ง​ เธอ​เคย​เห็น​สมบัติ​ชิ้น​นี้​มาก่อน​

เธอ​รู้จัก​จาก​บันทึก​ว่า​หนึ่ง​ใน​สถานะ​มากมาย​ที่​เธอ​เคย​เป็นมา​ก่อน​ เคย​สัมผัส​กับ​ดวงตา​แห่ง​มี่อ้าย​ดวง​นี้​

เธอ​ไม่รู้​ว่า​น้องชาย​สนใจ​มัน​เพราะอะไร​ แต่​เรื่อง​พวก​นี้​ไม่สำคัญ​ ขอ​แค่​เธอ​ได้​อยู่​กับ​เขา​ ที่​เหลือ​ก็​ไม่สำคัญ​แล้ว​

ลู่​เซิ่งกระชับ​ร่าง​เธอ​ ปรับ​ตำแหน่ง​ให้​ จากนั้น​ก็​อ่าน​ข้อมูล​ต่อไป​

ตึ๊ดๆๆ…​

มือถือ​บน​โต๊ะ​สั่น​

ลู่​เซิ่งหยิบ​มาดู​

“พี่​ อีก​เดี๋ยว​ผม​จะขึ้น​เขา​ เรื่อง​ครั้งนี้​ค่อนข้าง​สำคัญ​ แต่​ใช้เวลา​ไม่นาน​ เดี๋ยวเดียว​ก็​กลับ​”

“อื้อ​” หวัง​จิ้งขดตัว​เงียบๆ​ ลืมตา​เพ่งมอง​ใบหน้า​ของ​ลู่​เซิ่ง

“ระวังตัว​ด้วย​”

“อืม​ ไม่ต้อง​ห่วง​” ลู่​เซิ่งยิ้ม​

เขา​วาง​มือถือ​ลง​ บน​หน้าจอ​ระบุ​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ การ​ทดสอบ​ร่าง​สมบูรณ์​กำลังจะ​เริ่ม​ ผู้​ทดสอบ​ จอม​อาวุโส​ของ​สำนัก​—อัน​เฝินกั๋ว​

ลู่​เซิ่งพอ​จะทราบ​แผนการ​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​คร่าวๆ​ แม้จะไม่สนใจ​ แต่​อย่างไร​ก็​เป็น​แผนการ​ที่​มีเขา​เป็น​ตัวหลัก​ ดังนั้น​จึงเข้าใจ​เจตนา​ของ​เขา​ไม่มาก​ก็​น้อย​

พวก​คน​สื่อ​วิญญาณ​พวก​นี้​กำลัง​ทดลอง​รีด​เค้น​ศักยภาพ​ของ​เขา​ทีละขั้น​ๆ

ไม่ว่า​จะใช้พลัง​วิญญาณ​ก็ดี​ อย่าง​อื่น​ก็ดี​ พวกเขา​กำลัง​ทดสอบ​ประเมิน​ขีดจำกัด​สูงสุด​ของ​พลัง​ลู่​เซิ่ง

ครั้งนี้​น่าจะ​เป็นช่วง​สุดท้าย​ของ​การ​ทดสอบ​

ลู่​เซิ่งออกจาก​คฤหาสน์​ ระหว่างทาง​นั่ง​รถ​ไปยัง​สำนัก​ ร่างกาย​ยกระดับ​ขึ้น​หนึ่ง​เท่า​ จนถึง​ปัจจุบัน​ ระดับ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ร่างกาย​เขา​ไปถึงหนึ่งร้อย​สามสิบ​เท่า​ซึ่งคน​ทั่วไป​ไม่อาจ​จินตนาการ​ออก​แล้ว​

ถ้าหาก​บอ​กว่า​พละกำลัง​ใน​การ​ยก​ของ​หนัก​อันเป็น​ขีดจำกัด​ของ​คนธรรมดา​คือ​สามร้อย​กิโลกรัม​ อย่างนั้น​พละกำลัง​ใน​การ​ยก​ของ​หนัก​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ก็​อยู่​ที่​ราวๆ​ สี่สิบ​ตัน​

แค่​ยกน้ำหนัก​ก็​ยก​ได้​มาก​ถึงสี่สิบ​ตัน​แล้ว​ พลัง​กำปั้น​แบบ​ระเบิด​สามารถ​ไปถึงราว​หนึ่ง​ร้อยห้าสิบ​ตัน​ได้​

หมายความว่า​ ร่าง​สมบูรณ์​ที่แท้​จิรง​ของ​เขา​สามารถ​คว่ำ​รถบรรทุก​ และ​ถีบรถ​ชนิด​ต่างๆ​ ให้​กระเด็น​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

แม้จะเป็น​พวก​รถบรรทุก​ขนาดใหญ่​และ​รถถัง​ที่​หนัก​มากกว่า​ร้อย​ตัน​ เมื่อ​เผชิญ​กับ​พละกำลัง​หลาย​สิบ​ตัน​ที่​กด​ไว้​ใน​ร่างกาย​สูงราว​หนึ่ง​เมตร​แปดสิบ​เซนติเมตร​ ก็​ไร้ความสามารถ​ต้านทาน​อย่าง​ไม่มีข้อยกเว้น​

เป็น​เพราะ​พละกำลัง​ใน​ระดับ​เดียวกัน​ จะตัดสิน​ความ​แข็งแกร่ง​อ่อนแอ​ที่​แรงดัน​ใน​พื้นที่​สัมผัส​

และ​หาก​จะแสดง​พลัง​ที่​แข็งแกร่ง​ขนาด​นี้​ออกมา​ใน​ร่าง​ที่​เล็ก​ขนาด​นี้​ กาย​เนื้อ​ย่อม​ต้อง​แข็งแกร่ง​ถึงขั้น​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​

ขณะ​นั่ง​รถ​อยู่​ ลู่​เซิ่งก็​มอง​หวง​ย่า​ที่​กำลัง​ขับรถ​

“ช่วงนี้​สำนัก​เกิดเรื่อง​ไม่น้อย​ใช่ไหม​” ลู่​เซิ่งถาม

“อือ​ พวกเรา​เสียคน​ที่อยู่​ต่างประเทศ​ไปไม่น้อย​ การ​ไล่ล่า​ผู้ร้าย​เลือดผสม​นั่น​เข้าสู่​สภาวะ​ติดขัด​แล้ว​” หวง​ย่า​กล่าว​อย่าง​ขุ่นเคือง​อยู่​บ้าง​

“สิ่งที่​น่ารังเกียจ​ที่สุด​ก็​คือ​ ผู้ร้าย​คน​นั้น​จับกลุ่ม​กับ​คน​ที่​มีพลัง​ร้ายกาจ​หลาย​คน​ สร้าง​องค์กร​ชื่อ​เหมย​จันทร์​เพ็ญ​ขึ้น​มา อีก​ทั้ง​ผู้นำ​อันดับ​สามของ​องค์กร​ยัง​เคย​เป็นอดีต​นาย​น้อย​แห่ง​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ หรือ​ก็​คือ​ลุง​ของ​ข้า​นั่นเอง​…”

“ยุ่งยาก​จริงๆ​ ซะแล้ว​สิ” ลู่​เซิ่งเลิกคิ้ว​ เจอ​เรื่อง​ที่​เร่งด่วน​แบบนี้​ เกรง​ว่า​ทุก​ขุม​กำลังจะ​สะกด​สำนัก​ด้วย​เหตุผล​นี้​แล้ว​

แถมพวกเขา​ยัง​เพิ่ม​สวัสดิการ​ให้​ตน​อย่าง​ต่อ​เนื่องใน​สภาพ​ลำบากลำบน​แบบนี้​อีก​

“ไม่ต้อง​คิดมาก​ไปหรอก​ ใน​เมื่อ​ใต้เท้า​จอม​อาวุโส​ตอบรับ​แผนการ​ของ​นาย​แล้ว​ ก็​ไม่มีทาง​ยอมให้​นาย​ได้รับ​ผลกระทบ​อะไร​แน่​ แม้สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ของ​พวกเรา​จะไม่ใช่องค์กร​แข็งแกร่ง​ระดับโลก​ แต่​ก็​ไม่มีทาง​ถูก​ทำลาย​เพราะ​แรงกดดัน​แค่นี้​เหมือนกัน​”

หวง​ย่า​อธิบาย​เสียงทุ้ม​

ไม่มีความ​เดียงสา​ของ​นักเรียน​มัธยมปลาย​อยู่​บน​ตัว​เธอ​แม้แต่น้อย​ มีแต่​ความ​เย็นชา​ ความแน่วแน่​ และ​ความตั้งใจ​

ใน​เมื่อ​พูด​ถึงขั้น​นี้​แล้ว​ แม้ลู่​เซิ่งจะค่อนข้าง​สนใจ​องค์กร​เหมย​จันทร์​เพ็ญ​นั่น​ แต่​ก็​ไม่สะดวก​ถามต่อ​อีก​

ถึงอย่างไร​ลุง​ของ​เด็ก​คน​นี้​ก็​เพิ่ง​ทรยศ​หลบหนี​ไป เหตุการณ์​นี้​อาจ​สร้าง​การ​กระทบกระเทือน​ขนาดใหญ่​ให้​แก่​เธอ​ได้​

ผ่าน​ไปยี่สิบ​นาที​ รถ​ก็​หยุด​ลง​หน้า​ประตู​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​

ลู่​เซิ่งเปิด​ประตู​ลง​จาก​รถ​ แล้ว​เร่งฝีเท้า​เข้า​ประตู​ใหญ่​ภายใต้​การโค้ง​คำนับ​ของ​เจ้าหน้าที่​เฝ้าประตู​สำนัก​

ประตู​เหล็ก​หนักอึ้ง​ที่​กว้าง​สิบ​กว่า​เมตร​ค่อยๆ​ แง้มเป็น​ร่อง​แยก​ หลังจาก​พวก​ลู่​เซิ่งเข้าไป​ มัน​ถึงปิด​ลง​

กลุ่มคน​เดิน​ต่อไป​ สอง​ฟาก​ข้าง​มีระดับสูง​ของ​สำนัก​ที่มา​รอ​ชมดู​ไม่น้อย​

โครงสร้าง​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​เรียบง่าย​มาก​

ศิษย์​ธรรมดา​ ศิษย์​แกน​หลัก​ ผู้จัดการ​เรื่องราว​ และ​ผู้อาวุโส​

ผู้​ที่อยู่​สูงสุด​ก็​คือ​จอม​อาวุโส​ตั้งแต่​หนึ่ง​ถึงเก้า​ หวง​อวิ๋น​ซื่อ​หรือ​ตา​ของ​หวง​ย่า​ อยู่​ใน​อันดับ​สอง​

กล่าว​ได้​ว่า​เป็น​ตัวตน​แข็งแกร่ง​ที่​มีอำนาจ​และ​ตำแหน่ง​สูงส่งใน​ภูเขา​เคลื่อน​ภูผา​

เวลานี้​เขา​กับ​จอม​อาวุโส​อีก​เจ็ด​คน​ยืน​อยู่​ที่​ส่วนลึก​ของ​สิ่งก่อสร้าง​ รอคอย​อยู่​หน้า​ทาง​เข้าถ้ำ​ใต้ดิน​แห่ง​หนึ่ง​

 

จอม​อาวุโส​ทั้งหมด​ผูก​ริบบิ้น​สีเงิน​อย่าง​เป็นทางการ​ สวม​เสื้อคลุม​ยา​วสี​ดำ​ตัว​ใหญ่​ แม้แต่​ใบหน้า​ก็​ใส่หน้ากาก​สีดำ​ที่​วาด​เป็น​วังวน​สีดำ​สนิท​เอาไว้​

ลู่​เซิ่งเดิน​มาหยุด​อยู่​ที่​ประตู​ถ้ำภายใต้​การนำ​ของ​ผู้ดูแล​เรื่องราว​

กระแส​อากาศ​ร้อน​ลวก​พุ่ง​ออก​ไปด้านนอก​ปาก​ถ้ำเสียง​ฟู่ๆ แสดงให้เห็น​ว่า​ใจกลาง​ของ​เขา​แห่ง​นี้​อาจจะ​เป็น​ภูเขาไฟ​

“หวัง​ตง​” ผู้อาวุโส​ที่​ถือ​ไม้เท้า​ใน​มือ​ซึ่งอยู่​ตรงกลาง​ก้าว​ออกมา​ก้าว​หนึ่ง​ ส่งเสียง​ทรงพลัง​มีอำนาจ​

“ศิษย์​อยู่​”

ลู่​เซิ่งก้มหน้า​น้อย​ๆ แสดง​ความเคารพ​ อย่างไร​เขา​ก็​เป็น​ศิษย์​แกน​หลัก​รุ่น​สี่ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ในนาม​ อีก​ทั้ง​ยัง​ได้รับ​สวัสดิการ​และ​ผลประโยชน์​มากมาย​ที่​อีก​ฝ่าย​มอบให้​ ทั้ง​อีก​ฝ่าย​เอง​ยัง​คิด​เผื่อ​เขา​ด้วย​

“เดิมที​ผู้อาวุโส​คนอื่นๆ​ คิด​จะสู้หนึ่งต่อหนึ่ง​กับ​เจ้าเพื่อ​ทดสอบ​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ แต่​ฉัน​ปฏิเสธไปหมด​แล้ว​ การ​ทดสอบ​สุดท้ายนี้​ ฉัน​ตัดสินใจ​ว่า​จะดำเนินการ​เอง​” จอม​อาวุโส​เอ่ย​เสียงทุ้ม​

“ก่อนหน้า​นั้น​ เธอ​จะต้อง​พิจารณา​ให้​เข้าใจ​ก่อน​ว่า​”

“การ​ทดสอบ​นี้​ เป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ที่​เธอ​จะเจอ​การ​ทดสอบ​ที่​รุนแรง​ถึงขีดสุด​ แต่​เหล็ก​ที่​ไม่ผ่าน​การหลอม​ ไม่อาจ​กลายเป็น​อาวุธ​ ดังนั้น​…”

“ไม่เป็นไร​ครับ​ ผม​มั่นใจ​ใน​ตัวเอง​อยู่​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

ตาม​ความปรารถนา​เดิม​ของ​หวัง​ตง​ การกลายเป็น​คน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​โลก​เป็น​เป้าหมาย​ที่​ต้อง​ทำให้​สำเร็จ​

ดังนั้น​ใน​ฐานะ​กลุ่ม​เหนือธรรมชาติ​ที่​ดำรงอยู่​ในความเป็นจริง​ ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ สุดยอด​ผู้​เข้มแข็ง​นั้น​แข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​

นี่​เป็น​สิ่งที่​เขา​ต้อง​ทดสอบ​เอง​

จอม​อาวุโส​มอง​ดวงตา​ของ​ลู่​เซิงผ่าน​หน้ากาก​

จนกระทั่ง​แน่ใจ​ว่า​เขา​ไม่มีความลังเลใจ​ใดๆ​ และ​เตรียมการ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ ก็​พยักหน้า​ให้​กับ​ผู้อาวุโส​สอง​หวง​อวิ๋น​ซื่อ​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​

“ไปเถอะ​” เขา​หมุนตัว​เดิน​ไปยัง​ใน​ถ้ำ

ลู่​เซิ่งตาม​ไปติดๆ​

เดิน​เข้าไป​ใน​ถ้ำได้​ไม่ถึงร้อย​เมตร​ ลู่​เซิ่งกับ​จอม​อาวุโส​ก็​ขึ้น​ลิฟต์​สีดำ​ที่​กว้างใหญ่​และ​หนักอึ้ง​ แล้ว​ลง​ไปด้านล่าง​

ลิฟต์​ลง​ด้านล่าง​เป็นเวลา​สิบ​นาที​ก่อน​จะหยุด​ลง​

“ที่นี่​เป็น​ลาน​ฝึก​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​ใน​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ และ​เป็น​ลาน​ที่​พวกเรา​เหล่า​ผู้อาวุโส​ใช้สู้กัน​สุดกำลัง​” จอม​อาวุโส​เดิน​ออกจาก​ลิฟต์​ มองดู​ประตู​สีเงิน​หนักอึ้ง​หลาย​บาน​ใน​อุโมงค์​ที่​เปิด​ออก​โดยอัตโนมัติ​

“ไปเถอะ​ ที่นี่​มีแต่​ผู้ชนะ​เท่านั้น​ถึงจะออก​ไปได้​ ประตู​ใหญ่​พวก​นี้​ไม่ใช่ประตู​อัตโนมัติ​ หาก​ต้อง​เติม​พลัง​วิญญาณ​เข้าไป​ ถึงจะเปิด​กลไก​ได้​”

“ไม่เป็นไร​ อีก​เดี๋ยว​ผม​ค่อย​ประคอง​ท่าน​ขึ้น​มาก็ได้​” ลู่​เซิ่งไม่ตอบรับ​ไม่ปฏิเสธ

จอม​อาวุโส​พลัน​หัวเราะ​อย่าง​สาแก่ใจ​

“ฉัน​…ไม่ได้​ฟังคำพูด​น่าขำ​แบบนี้​มานาน​เท่าไร​แล้ว​นะ​”

เขา​ยัน​ไม้เท้า​ก้าว​ไปด้านหน้า​ ร่าง​พลัน​วูบ​ไหว​ ข้าม​ระยะห่าง​หลาย​สิบ​เมตร​ ไปปรากฏ​ใน​ถ้ำขนาด​ยักษ์​ที่​ปลายทาง​

ลู่​เซิ่งหัวเราะ​ ก่อน​สะกิด​เท้า​เบา​ๆ ร่าง​ลอย​ข้าม​ประตู​ใหญ่​ที่​เปิด​อยู่​หลาย​บาน​เหมือน​ธนู​หลุด​จาก​สาย​ ไปถึงด้านหน้า​จอม​อาวุโส​ห่าง​ออกมา​หลาย​เมตร​

เปรี้ยง​!

เปรี้ยง​!

เปรี้ยง​ๆๆๆ!

ประตู​ใหญ่​หนักอึ้ง​หลาย​บาน​พา​กัน​ตกลง​ ปิดผนึก​สภาพแวดล้อม​ของ​ที่นี่​เอาไว้​อย่าง​สิ้นเชิง​

แม้แต่​แสงสว่าง​ก็​หาย​ไป

ใน​ความ​มืดมิด​ จอม​อาวุโส​ค่อยๆ​ คลาย​ไม้เท้า​

“ขอ​ดู​หน่อย​ว่า​เธอ​ทำได้​ถึงขั้น​ไหน​”

ครืน​!

โพรง​ถ้ำขนาด​ยักษ์​ที่​กว้าง​ราวกับ​หอประชุม​ พลัน​มีแสงสีน้ำเงิน​เข้ม​สว่าง​ขึ้น​

ทั่ว​ร่าง​จอม​อาวุโส​มีเปลวไฟ​สีฟ้าลุกไหม้​ แสงไฟส่อง​สะท้อน​ผนัง​ถ้ำใต้ดิน​ทั้งหมด​

“ขั้น​ไร้​เทียมทาน​ มังกร​ทะยาน​!”

เสื้อคลุม​ดำ​ของ​จอม​อาวุโส​ลอย​ขึ้น​ด้านบน​ เผย​ให้​เห็น​ร่าง​สูงใหญ่​ที่​กำยำ​ถึงขีดสุด​ของ​จอม​อาวุโส​ที่อยู่​ด้านล่าง​

เขา​พลัน​กระทืบเท้า​ ตะปบ​สอง​มือ​ใส่บ่า​ของ​ลู่​เซิ่งด้วย​ความเร็ว​ที่​คนธรรมดา​ยาก​จินตนาการ​

แค่​เสียง​ที่เกิด​จาก​การ​ที่สอง​กรงเล็บ​วาด​ผ่าน​อากาศ​ ก็​มาก​พอ​จะทำให้​คน​ทั่วไป​หูหนวก​ได้​แล้ว​

ไฟสีฟ้าเหล่านั้น​ยิ่ง​มายิ่ง​เกี่ยว​กระหวัด​หมุน​วน​บน​แขน​จอม​อาวุโส​ มังกร​ดำ​อันเป็น​มายา​ที่​ดุร้าย​หมาย​ขวัญ​สอง​ตัว​ยื่น​ออกมา​

……………………………………….

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด