ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 969 วิปโยค (1)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 969 วิปโยค (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลำแสง​สีแดง​อม​ม่วง​ถูก​ยิง​ออก​มาจาก​ดวงตา​ของ​โฮเซลัน​งูเหลือม​ยักษ์​ และ​ยิง​กวาด​ใส่ต้นไม้​ยักษ์​ต้น​หนึ่ง​เหมือนกับ​คม​ดาบ​

เกิด​เสียง​ระเบิด​ดัง​ตูม​ ต้นไม้​ยักษ์​ล้ม​ลง​

โฮเซลัน​หัวเราะ​พลาง​กวาดตา​มอง​อีก​ฝั่งหนึ่ง​

มนุษย์​หมอก​ดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​พา​กัน​ระเบิด​ออก​แล้ว​รวม​ร่าง​ขึ้น​ใน​สถานที่​อื่นๆ​

“เป็น​อย่างนี้​ต่อไป​ไม่ดี​แน่​! เนตร​พิษ​ของ​นาง​แข็งแกร่ง​เกินไป​! ถ้าพวกเรา​ไม่ถอย​ก็​ต้องหา​วิธี​สะกด​!” หมอก​ดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ส่งเสียงดัง​

มนุษย์​หมอก​ดำ​หลาย​กลุ่ม​พลิก​ไปมากับ​พื้น​ หลบ​พ้น​ลำแสง​ที่​เหมือนกับ​แสงเลเซอร์​สีแดง​

บน​พื้น​เต็มไปด้วย​รอยไหม้​ดำ​เกรียม​หลังจาก​ถูก​ลำแสง​กวาด​ผ่าน​

หมอก​ดำ​ร่าง​คน​ที่​เป็น​ผู้นำ​ไม่พูด​อะไร​สัก​คำ​ คอย​เร่งความเร็ว​หลบ​การกวาด​ยิง​ของ​ลำแสง​อย่าง​ต่อเนื่อง​

แผ่น​หลัง​ของ​เขา​มีวัตถุ​ทรง​รัง​ไหม​สีดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​กำลัง​เต้น​อย่าง​ช้าๆ เหมือน​หัวใจ​

เหมือน​กำลัง​บ่ม​อะไร​อยู่​

ตูม​!

มีหมอก​ดำ​ร่าง​คน​อีก​กลุ่ม​โดน​ลำแสง​กวาด​ยิง​ใส่ พลัน​ร้อง​โหยหวน​ ก่อนที่​ร่างกาย​จะสลาย​หาย​ไปอย่าง​สิ้นเชิง​

หัวหน้า​หมอก​ดำ​สูด​หายใจ​ลึก​เฮือก​หนึ่ง​ สะกดอารมณ์​ที่​ร้อนใจ​กว่า​เดิม​

“ข้า​นับ​ถึงสาม! ทุกคน​พร้อมกัน​!”

“หนึ่ง​…สอง​…สาม!”

เขา​หมุนตัว​ใช้แผ่น​หลัง​เล็ง​ไปที่​โฮเซลัน​ รัง​ไหม​ที่​เต้น​อยู่​บน​แผ่น​หลัง​ปริ​แยก​ออก​ ยิง​ของเหลว​สีแดงเข้ม​สาย​หนึ่ง​ออกมา​ใส่ลำแสง​พอดี​

ซู่!

ควัน​เน่า​เข้มข้น​พลัน​ลอย​ขึ้น​ด้านบน​ ปกคลุม​โฮเซลัน​เอาไว้​

“ไป!” หัวหน้า​หมอก​ดำ​ฉวยโอกาส​ตะโกน​

หมอก​ดำ​ทั้ง​กลุ่ม​ได้รับ​ความเสียหาย​มากกว่า​ครึ่ง​ เวลานี้​ต่าง​กระจาย​กัน​ออก​ไป

“ไปช่วย​หวัง​ตง​!” หัวหน้า​หมอก​ดำ​ร้อง​ขึ้น​

ซู่!

เสียงคำราม​อัน​บ้าคลั่ง​ของ​โฮเซลัน​ส่งมาจาก​ด้านหลัง​ด้วย​ความเร็ว​สูง

นาง​คำราม​พร้อมกับ​บิด​ลำตัว​พุ่ง​เข้าใส่​มนุษย์​หมอก​ดำ​ทั้ง​กลุ่ม​ด้วย​สอง​ตา​ที่​ยัง​เหลือ​เลือด​ติด​อยู่​

“อย่า​หนี​!”

สอง​ฝ่าย​หนึ่ง​ไล่​หนึ่ง​หนี​เป็น​ระยะทาง​มากกว่า​พัน​เมตร​ใน​พริบตา​

โฮเซลัน​เร็ว​ถึงขีดสุด​ ไม่นาน​ก็​ไล่ตาม​มนุษย์​หมอก​ดำ​สอง​กลุ่ม​สุดท้าย​ทัน​ นาง​งับ​ปาก​ไปด้านหน้า​ งับ​ร่าง​ครึ่ง​ท่อน​ของ​มนุษย์​หมอก​ดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​ไว้​

“ไม่ต้อง​สนใจ​ข้า​! รีบ​ไปช่วย​หวัง​ตง​ซะ! รีบ​ไป!” มนุษย์​หมอก​ดำ​ที่​ถูก​งับ​ตะโกน​

ทางขวามือ​ ลู่​เซิ่งหิ้ว​ตัว​แอนดี้​แหวก​พุ่มไม้​ออกมา​

“ใคร​เรียก​ฉัน​”

โฮเซลัน​กับ​มนุษย์​หมอก​ดำ​ทั้ง​กลุ่ม​งุนงง​ บรรยากาศ​กระอัก​ระ​อ่วน​อยู่​ชั่วขณะ​ แต่​ทันใดนั้น​ ฝั่งหนึ่ง​ก็​ตื่นตระหนก​ ส่วน​อีก​ฝั่งยินดี​

“รีบ​หนี​!”

“หนี​เร็ว​!”

“จัดการ​ทีเดียว​เลย​ก็แล้วกัน​! ฮ่าๆๆๆ!”

เสียง​ตะโกน​และ​เสียงหัวเราะ​อย่าง​ได้ใจ​ของ​โฮเซลัน​ระเบิด​ขึ้น​ข้าง​หู​ลู่​เซิ่ง ผสมผสาน​กัน​เป็น​เสียง​เดียว​

“พวก​แก​เงียบ​หน่อย​ได้​ไหม​” ลู่​เซิ่งขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ

“รีบ​หนี​!”

“หนี​สิ หนี​ไป!”

“มาอีก​คำ​! มาอีก​คำ​หนึ่ง​!!”

ทั้งสอง​ฝั่งยัง​ตะโกน​อยู่​

ลู่​เซิ่งหลับตา​ รู้สึก​ว่า​ขมับ​เต้น​ตุบๆ​

“อ๊ากกกก!”​

เสียง​แผด​ร้อง​อย่าง​บ้าคลั่ง​ระเบิด​ขึ้น​เหมือน​สายฟ้า​คำราม​ ลู่​เซิ่งก้าว​ไปด้านหน้า​สามก้าว​ แล้ว​กระแทก​ฝ่ามือ​ใส่โฮเซลัน​ที่​พุ่ง​เข้ามา​

ตูม​!

ร่าง​ของ​โฮเซลัน​เหมือน​ถูก​รถบรรทุก​หนัก​ชน​ใส่ เกล็ด​เปลี่ยน​รูปร่าง​และ​แตกหัก​เป็น​ชิ้นๆ​ นาง​แผด​เสียงร้อง​ ร่าง​ขด​เหมือนกับ​เชือก​ปลิว​ออก​ไป แล้ว​กระแทก​เข้ากับ​หน้าผา​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไปสิบ​กว่า​เมตร​

มอง​ไปไกลๆ​ เห็น​บน​หน้าผา​กลายเป็น​สีแดงฉาน​ ทั้งหมด​เป็น​เลือด​ที่​พุ่ง​ออกจาก​ร่าง​โฮเซลัน​…

เสียงคำราม​ดังสนั่น​ทำให้​เหล่า​มนุษย์​หมอก​ดำ​ที่​เมื่อ​ครู่​ยัง​โวยวาย​หุบปาก​

ใบไม้​โปรยปราย​ลงมา​ราว​กัย​สายฝน​ แมลง​และ​สัตว์​ตัวเล็ก​ตัว​น้อย​ใน​พุ่ม​หญ้า​ต่าง​หัวหมุน​ พวก​ที่​อ่อนแอ​หน่อย​ถูก​เสียง​สั่นสะเทือน​จน​ตายคาที่​

ลู่​เซิ่งเลีย​ริมฝีปาก​ ชัก​มือ​กลับ​ก่อน​ยืด​ร่าง​ขึ้น​

“เงียบ​ได้​สักที​ ฉัน​ไม่ชอบ​ให้​ใคร​ขัดใจ​ฉัน​ ดังนั้น​…” เขา​กวาดตา​มอง​หมอก​ดำ​ที่อยู่​ล้อมรอบ​

“ถ้าพวก​นาย​ไม่เชื่อฟัง​ ฉัน​จะพิจารณา​ให้​พวก​นาย​เจอ​แบบ​มัน​” เขา​มอง​โฮเซลัน​ที่​ฝังอยู่​บน​หน้าผา​ไกล​ออก​ไป

เมื่อ​ครู่​เป็น​เพราะ​เขา​ไม่ได้​กลับ​ร่าง​สมบูรณ์​ เพียง​ใช้แขนขวา​ปลดปล่อย​พละกำลัง​ออกมา​ส่วนหนึ่ง​ง่ายๆ​ ดังนั้น​โฮเซลัน​จึงรอดชีวิต​ได้​ ทว่า​ก็​พิการ​เสียแล้ว​

ไม่อย่างนั้น​ถ้าเขา​กระแทก​ฝ่ามือ​ด้วย​ร่าง​สมบูรณ์​ ต่อให้​เป็น​งูที่​มีผิวหนัง​หนา​ อย่างไร​ก็ได้​แต่​กลายเป็น​ซุปงูเท่านั้น​

แอนดี้​ยิ้ม​ฝืด​เฝือ​อยู่​ด้าน​หลังเขา​ จนถึง​ตอนนี้​ เขา​รู้​แล้ว​ว่า​น้องชาย​ของ​ราชา​เทพ​ของ​ตน​มีนิสัย​แบบ​ใด​

ควร​บอ​กว่า​สมกับ​เป็น​พี่น้อง​กัน​ล่ะ​มั้ง ท่าที​กับ​วิธีการ​ใน​ด้าน​นี้​แทบ​ไม่ต่างกัน​เลย​

สมกับ​คำ​พูดว่า​ไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน​ไม่เข้า​ประตู​บาน​เดียวกัน​จริงๆ​

“แอนดี้​ นาย​มาอธิบาย​ให้​พวกเขา​ฟัง” ลู่​เซิ่งไม่ชอบ​กล่าว​คำพูด​ไร้สาระ​ พอ​เห็น​มนุษย์​หมอก​ดำ​ด้านหน้า​เงียบ​ลง​แล้ว​ เขา​ก็​หมุนตัว​เดิน​ไปพักผ่อน​ใกล้​ๆ

แต่​พอ​เดิน​ไปได้​ครึ่งทาง​กลับ​ลังเล​เล็กน้อย​ เพราะ​ท้อง​กำลัง​ปั่นป่วน​

คำนวณ​เวลา​ดู​ ไม่ได้​กิน​อะไร​มาสี่ชั่วโมง​แล้ว​…

เขา​จึงเลื่อน​สายตา​ไปอยู่​บน​ร่าง​งูยักษ์​สีแดง​อย่าง​ไม่รู้ตัว​

พรุ่บ!​

กองไฟ​สีแดง​ลุกไหม้​ สะเก็ด​ไฟสีแดง​อ่อน​จางกระเด็น​ออกมา​เป็นระยะ​

ลู่​เซิ่งถือ​เนื้อ​เสียบ​ไม้สีแดง​ขนาดใหญ่​ไว้​ใน​มือ​ ทาง​หนึ่ง​ทา​เครื่องปรุง​ ทาง​หนึ่ง​คอย​พลิก​ไม้ไปมา

ข้างๆ​ มีมนุษย์​หมอก​ดำ​สิบ​กว่า​กลุ่ม​ยืน​รอ​เขา​กิน​จน​หมด​ภายใต้​การนำ​ของ​ผู้นำ​ที่​ชื่อ​มิน​เค​อ​

ไกล​ออก​ไป ผิวหนัง​ของ​โฮเซลัน​กอง​สุมกัน​อย่าง​ไม่เป็นระเบียบ​ ปรากฏ​เป็น​สีสัน​โปร่งแสง​เหมือนกับ​คราบ​งู

“ความจริง​ฉัน​สัมผัส​ได้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​พวก​นาย​คอย​ตาม​ฉัน​อยู่​ แต่​ขี้เกียจ​จะสนใจ​เฉย​ๆ นึกไม่ถึง​ว่า​พวก​นาย​จะเป็น​ลูกน้อง​ของ​พี่สาว​ฉัน​ เรื่อง​นี้​ชวน​ประหลาดใจ​จริงๆ​” ลู่​เซิ่งมองดู​เนื้อ​เสียบ​ไม้ น่าจะ​สุก​แล้ว​ จากนั้น​ก็​ยัด​ใส่ปาก​ทั้ง​เนื้อ​ทั้ง​ไม้

เขา​กิน​คำ​ละ​สิบ​กว่า​ไม้ ตัว​โฮเซลัน​ยาว​สิบห้า​เมตร​ เวลานี้​เหลือ​หาง​ที่​ยาว​สอง​เมตร​กว่า​ๆ บน​พื้น​ ส่วน​อื่นๆ​ อยู่​ใน​ท้อง​ของ​ลู่​เซิ่งไม่เว้น​แม้แต่​กระดูก​

“ฝ่าบาท​หวัง​ตง​ พวกเรา​ไม่ควรจะ​เสียเวลา​อยู่​ที่นี่​อีก​ มาร​ยักษา​กำลังจะ​ฟื้นคืนชีพ​ สิ่งที่​พวกเรา​เผชิญ​อยู่​ใน​ตอนนี้​ไม่ใช่แค่​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​องค์​เดียว​ หาก​มีถึงสอง​องค์​ ถ้าพวกเขา​ทั้งสอง​ถูก​ส่งมาพร้อมกัน​…”

หัวหน้า​มิน​เค​อ​เกลี้ยกล่อม​ แต่​ยัง​พูด​ไม่จบ​ก็​ถูกลู่​เซิ่งตัดบท​ก่อน​

“พวก​นาย​รู้​ไหม​ว่า​ฉัน​มาที่นี่​ทำไม​” ลู่​เซิ่งย้อนถาม​

“…”

หมอก​ดำ​ทั้ง​กลุ่ม​ส่ายหน้า​ พวกเขา​เหมือนกับ​มนุษย์​ที่​สวม​ผ้า​สีดำ​ ดังนั้น​จึงแสดง​การเคลื่อนไหว​ที่​ละเอียดอ่อน​อย่าง​การ​ส่ายหน้า​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

“เป็น​เพราะ​…โลก​สื่อ​วิญญาณ​อ่อนแอ​เกินไป​…” ลู่​เซิ่งถอนใจ​ “โลก​ช่างน่าเบื่อ​เหลือเกิน​ เมื่อ​ไม่มีคู่ต่อสู้​ มัน​ก็​จืดชืด​เหมือนกับ​บ่อ​ปลา​ที่​ไม่มีปลา​นั่นแหละ​ ดังนั้น​ฉัน​ถึงอยาก​จะมาหา​สิ่งที่​น่าสนใจ​”

“…”

คำด่า​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจมิน​เค​อ​ ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​ดี​หรือไม่​ พวกเขา​เสี่ยงชีวิต​ปกป้อง​เจ้าหมอ​นี่​อยู่​ค่อนวัน​ แต่​เจ้าหมอ​นี่​ดัน​มาเสี่ยงอันตราย​หา​ความตื่นเต้น​เหรอ​เนี่ย​

งั้น​ที่​พวกเขา​เสี่ยงชีวิต​ปกป้อง​อีก​ฝ่าย​จะมีความหมาย​อะไร​

รู้​แบบนี้​คง​ให้​เขา​ไปตาย​เอง​แต่แรก​

มิน​เค​อ​กับ​แอนดี้​ต่าง​ก็​ปวดหัว​เหมือนกัน​

ด้วย​ประสบการณ์​ตลอด​พันปี​ของ​พวกเขา​ มอง​แวบเดียว​ก็​ดูออก​ว่า​ลู่​เซิ่งเป็น​คน​จริงใจ​คน​หนึ่ง​

และ​ความจริงใจ​นี้​ก็​พิเศษ​มาก​

ชวน​ให้​คน​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่มีทาง​โกหก​เด็ดขาด​ เพราะ​ไม่มีเหตุผล​ให้​โกหก​

เหมือนกับ​ไม่ว่า​คนภายนอก​จะตอบสนอง​อย่างไร​ ก็​ไม่มีความหมาย​อะไร​สำหรับ​ตัว​เขา​

คล้าย​กับ​คนธรรมดา​ไม่มีทาง​พูดจา​โกหกพกลม​หรือ​พูด​เอง​เออ​เอง​กับ​อาหาร​ใน​จาน​ตัวเอง​

สำหรับ​ลู่​เซิ่งก็​คล้ายๆ​ กัน​ สิ่งมีชีวิต​ที่อยู่​ต่อหน้า​เขา​มีสอง​ประเภท​เท่านั้น​

ได้แก่​ ‘ของ​ดิบ​’ และ​ ‘ของ​สุก​’

ตอนนี้​มิน​เค​อ​รู้สึก​ว่า​สายตา​ที่​ลู่​เซิ่งใช้มอง​ตน​เป็น​อย่างนี้​

เขา​ชาไปทั้งตัว​ ถ้าเขา​มีหนัง​ศีรษะ​ของ​ชาติก่อน​ เขา​จะต้อง​เห็น​บน​ศีรษะ​ของ​ตัวเอง​มีตุ่ม​เล็ก​ๆ โผล่​ขึ้น​มาแน่นขนัด​แน่​

“พวก​นาย​บอ​กว่า​ที่นี่​อันตราย​มากสิ​นะ​” ลู่​เซิ่งใคร่ครวญ​ “เป็น​เพราะ​ที่นี่​จะปรากฏ​มาร​ยักษา​หรือ​แม่ทัพ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ใช่ไหม​”

“ขอรับ​! มาร​ยักษา​เป็น​อมตะ​และ​มีพลัง​น่ากลัว​ มีแต่​ตัวตน​ใน​ระดับ​เดียวกัน​เท่านั้น​ถึงจะขวาง​พวก​มัน​ไว้​ได้​ สำหรับ​มัน​ พวกเรา​ไม่มีความหมาย​แม้แต่น้อย​” มิน​เค​อ​แบกหน้า​อธิบาย​

“เป็น​อมตะ​เหรอ​ ร้ายกาจ​ขนาด​ไหน​ เผา​ให้​กลายเป็น​เถ้าได้​ไหม​” ลู่​เซิ่งเกิด​ความสนใจ​

“เอ่อ​…กาย​เนื้อ​ของ​มาร​ยักษา​มีคุณสมบัติ​ต้านทาน​สูงมาก​ขอรับ​ พวกเรา​ไม่เคย​ลอง​เผา​มัน​เป็น​เถ้ามาก​่อ​น.​..” มิน​เค​อ​ตอบ​เบา​ๆ

“เดี๋ยว​ค่อย​ลองดู​” ลู่​เซิ่งกล่าว​พลาง​พยักหน้า​

“แต่​ถ้าพวกเรา​ไม่รีบ​กลับ​ไป ทาง​นาย​ท่าน​จะ…”

“นาย​กลับ​ไปแล้ว​ช่วย​ปกป้อง​เธอ​ได้​ไหม​ล่ะ​”

“…” มิน​เค​อ​ตอบ​ไม่ได้​

ใน​การต่อสู้​ระดับ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ อย่า​ว่าแต่​ช่วยเหลือ​เลย​ ขอ​แค่​อย่า​เป็น​ตัวถ่วง​ก็​ถือว่า​ไม่เลว​แล้ว​

ครืน​…

ทันใดนั้น​ผืนดิน​ก็​เริ่ม​สั่น​ไหว​

ลู่​เซิ่งโยน​เนื้อ​เสียบ​ไม้ทิ้ง​แล้ว​ลุกขึ้น​

“มาแล้ว​เหรอ​ มาร​ยักษา​”

มิน​เค​อก​ลืน​น้ำลาย​ อยาก​จะเกลี้ยกล่อม​เขา​อีกครั้ง​

เปรี้ยง​!

ผืนดิน​ถูก​พลิก​เหมือนกับ​พรม​

สัตว์ประหลาด​ร่าง​กำยำ​ผิ​วสี​ดำ​สนิท​ที่​มีหัว​เป็น​กระทิง​ตัว​เป็น​คน​มุด​ออก​มาจาก​ดิน​ มัน​กระโดด​ลง​บน​พื้น​ระหว่าง​ลู่​เซิ่งกับ​มนุษย์​หมอก​ดำ​อย่าง​แผ่วเบา​

สัตว์ประหลาด​ตัว​นี้​มีหัว​เป็น​กระทิง​ สวม​เสื้อผ้า​เหมือน​ผ้าขี้ริ้ว​สีดำ​อม​เทา​ที่​เหมือนกับ​เสื้อคลุม​

มัน​สะพาย​ขวาน​ด้าม​สั้น​ที่​เรียบง่าย​และ​เต็มไปด้วย​สนิม​ไว้​บน​หลัง​

ตัว​มัน​สูงราว​หนึ่ง​เมตร​แปดสิบ​เซ็นติเมตร​ ใกล้เคียง​กับ​ผู้ใหญ่​ทั่วไป​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​หัว​ของ​มัน​ คง​ไม่มีใคร​คิด​ว่า​มัน​เป็น​แม่ทัพ​เสาหลัก​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ภายใต้​สังกัด​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​แพลทินัม​

“โฮเซลัน​กับ​บา​เนส​ล่ะ​” หัว​กระทิง​กวาดตา​มอง​รอบ​ๆ พร้อมกับ​สะบัด​ดิน​ที่​เปื้อน​ร่าง​ตน​ออก​ไปด้วย​

ตอนที่​เขา​เห็น​พวก​มิน​เค​อ​ซึ่งยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ใบหน้า​ก็​พลัน​ฉายแวว​แปลกใจ​อย่าง​เห็นได้ชัด​

“พวก​เจ้านี่เอง​…ไม่ได้​เจอกัน​มามากกว่า​พันปี​แล้ว​สินะ​” มนุษย์​หัว​กระทิง​ก้ม​มอง​มิน​เค​อ​

“ถ้าเดา​ไม่ผิด​ ตอนนี้​ อาณาเขต​นี้​น่าจะเป็น​ของ​ราชา​เทพ​แห่ง​ข้า​ใช่ไหม​” เขา​ยื่นมือ​ไปจับ​ขวาน​ด้าม​สั้น​ที่อยู่​บน​หลัง​

“โฮเซลัน​! ไสหัว​ออกมา​เดี๋ยวนี้​!” มัน​ร้อง​คำราม​ เสียง​ถึงกับ​กระเพื่อม​ขึ้น​กลาง​ป่าเหมือน​สายฟ้า​ฟาด​ คล้าย​กับ​ลู่​เซิ่งเมื่อ​ครู่​

พุ่มไม้​ที่อยู่​ใกล้​หน่อย​ถูก​กระแทก​จน​เปลือกไม้​แห้ง​หลุด​ร่วง​

แต่​น่าเสียดาย​ที่​ตอนนี้​โฮเซลัน​เหลือ​แค่​ผิวหนัง​แล้ว​

“มาร​ยักษา​อาย​ดี้…​เจ้าเพิ่งจะ​หลับ​ลึก​ไปไม่ใช่หรือ​ เวลานี้​ยัง​ไม่ถึงกลางดึก​เลย​…” มิน​เค​อก​ลืน​น้ำลาย​พร้อมกับ​ค่อยๆ​ ถอยหลัง​ ไม่กล้า​บอก​ความจริง​กับ​อีก​ฝ่าย​

ระดับ​มาร​ยักษา​กับ​เจ้าอนัตตา​ทั่วไป​เป็น​คนละ​สายพันธุ์​โดยสิ้นเชิง​

ต่อให้​เขา​เป็น​เจ้าอนัตตา​ระดับ​สูงสุด​ แต่​ก็​ยัง​แตกต่าง​จาก​มาร​ยักษา​ตรงหน้า​ราว​ฟ้ากับ​เหว​ ไม่มีโอกาส​ไล่ตาม​ได้​ทัน​

ไม่เพียงแต่​เขา​เท่านั้น​ มนุษย์​หมอก​ดำ​อีก​สิบ​กว่า​กลุ่ม​ที่​เหลืออยู่​ก็​พา​กัน​ถอยหลัง​อย่า​งอด​ไม่ได้​เช่นกัน​

นี่​คือ​แรงกดดัน​ทาง​สายเลือด​ของ​มาร​ยักษา​ที่​มีมาตั้งแต่​เกิด​ เป็น​พลัง​รังสี​ความกดดัน​ที่​มีเฉพาะ​ใน​หมู่​เครือญาติ​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​เท่านั้น​

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด