ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 986 ลงมือ (2)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 986 ลงมือ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“สวะ​” ลู่​เซิ่งก้าว​เท้า​ข้าม​ตัว​โหย​ว​เหลียน​ เดิน​ไปหา​ไค​ลน์​ เทพ​เมฆา และ​แอนดี้​ที่​ยืน​อยู่​กลาง​ที่เกิดเหตุ​

เขา​เดิน​อย่าง​ผ่อนคลาย​ มอง​ไปเหมือน​ไม่ได้​ถูก​โซ่มัด​

“โอ​ มีเด็ก​เปรต​มาอีก​คน​แล้ว​ เหมือน​นาย​จะร้ายกาจ​อยู่​เหมือนกัน​นี่​ แต่​…ก็​งั้น​ๆ แหละ​”

เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​เลีย​ริมฝีปาก​พลาง​กล่าว​ “คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​เหรอ​ ตอนนี้​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ส่งเด็ก​อย่างนี้​มาช่วยเหลือ​เนี่ย​นะ​ เจ้าหนู​ มาที่นี่​ทำไม​ เวลา​คุกเข่า​ร้องไห้​วิงวอน​เสียง​จะได้​เพราะ​ๆ หน่อย​เหรอ​”

“ทำไม​ฉัน​มาที่นี่​ก็​ถามตัวเอง​ดู​สิ” ลู่​เซิ่งเงย​หน้ายิ้ม​ให้​อีก​ฝ่าย​

“แย่​ล่ะ​!” เทพ​เมฆาที่อยู่​ด้าน​ข้าง​สีหน้า​เปลี่ยนแปลง​ กระโดด​ถึงด้านหน้า​ไค​ลน์​ใน​พริบตา​ พลัง​วิญญาณ​สีเทา​มากมาย​ลุกไหม้​ขึ้น​บน​ฝ่ามือ​ แล้ว​สับ​มือ​ใส่ความว่างเปล่า​ด้านหน้า​ไค​ลน์​

ร่างกาย​ของ​ลู่​เซิ่งที่อยู่​ตรงนั้น​เปลี่ยน​จากลวง​เป็นจริง​ พลัง​อัน​น่ากลัว​วาด​ฝ่าอากาศ​มาพร้อมกับ​คลื่น​อากาศ​สีขาว​เส้น​หนึ่ง​

คลื่น​อากาศ​ที่มา​พร้อม​คลื่นเสียง​ระเบิด​คลื่น​สีขาว​ออก​ไปรอบ​ๆ แยกแยะ​ไม่ออ​กว่า​เป็น​พลัง​วิญญาณ​หรือ​คลื่น​โจมตี​

“วิชา​วิญญาณ​ วงแหวน​เสียง​!” เทพ​เมฆาเพิ่ง​สัมผัส​ก็​รู้​ว่า​แย่​แน่​ รีบ​กระตุ้น​พลัง​วิญญาณ​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ใน​ร่าง​ เติม​เข้าไป​ใน​ทีเดียว​

ตูม​!

คลื่น​กระแทก​ระเบิด​อย่าง​สะเทือน​เลื่อน​ลั่น​ เสียง​เหมือน​ขวด​แตก​ดัง​ออก​ไปรอบ​ๆ โดย​มีเทพ​เมฆาเป็น​ศูนย์กลาง​ ชั้น​น้ำแข็ง​ใต้​ฝ่าเท้า​ระเบิด​ออก​เป็น​รอยร้าว​มากมาย​

“แก​?!” เขา​ทั้ง​ตกใจ​ทั้ง​โมโห​ ยัง​คิด​จะพูด​อะไร​บางอย่าง​

แต่​วิญญาณ​วีรชน​ที่​รวมตัว​เป็นรูปเป็นร่าง​ด้านหลัง​กลับ​ตอบสนอง​เร็ว​กว่า​เขา​

ยักษ์​เมฆสีขาว​บริสุทธิ์​กลุ่ม​หนึ่ง​รีบ​ยื่น​สอง​มือ​ออกมา​กัน​ไว้​ด้านหน้า​เทพ​เมฆา

มือ​ยักษ์​สีขาว​บริสุทธิ์​เพิ่ง​ห้อย​ตกลง​ กลางฝ่ามือ​ก็​ระเบิด​เป็น​รอยแตก​สีดำ​กลุ่ม​หนึ่ง​อย่าง​แจ่มชัด​ทันที​

เปรี้ยง​!

รอยแตก​ขยายตัว​และ​ถี่ยิบ​ขึ้น​เรื่อยๆ​

ในที่สุด​ ลู่​เซิ่งที่​เพิ่ง​จับตัว​เป็นรูปเป็นร่าง​ก็​แหลก​สลาย​ มัน​เป็น​เพียง​ร่าง​วิญญาณ​จำลอง​ที่​เคลื่อนย้าย​พลัง​วิญญาณ​มาสร้าง​ขึ้น​เท่านั้น​!

ลู่​เซิ่งที่​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​มอง​เทพ​เมฆาอย่าง​ค่อนข้าง​เหนือ​ความคาดหมาย​ เขา​รู้ดี​ว่าการ​โจมตี​เมื่อ​ครู่​อยู่​ใน​ระดับ​ไหน​

แค่​พละกำลัง​ไม่มีทาง​สร้าง​อานุภาพ​ระดับ​นี้​ได้​ สิ่งที่​สำคัญ​ยิ่งกว่า​ก็​คือ​ ฝ่ามือ​นั้น​ผสาน​กับ​พลัง​วิญญาณ​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่​น่ากลัว​และ​หนาแน่น​ถึงขีดสุด​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​

ความ​แข็งแกร่ง​ทาง​ร่างกาย​และ​พลัง​วิญญาณ​ใน​ร่าง​เขา​เพิ่มขึ้น​แทบ​ทุก​วินาที​ เทียบ​กับ​หลาย​วันก่อน​แล้ว​ เขา​ใน​ตอนนี้​แกร่ง​ขึ้น​อีก​ระดับ​หนึ่ง​

ถ้าบอ​กว่า​เขา​ก่อนหน้านี้​มีพลัง​เหนือกว่า​มาร​ยักษา​ อย่างนั้น​เขา​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​จ้าว​แห่ง​พละกำลัง​นั่นเอง​

เป็น​เพราะ​เขา​ฝึกฝน​วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ถึงระดับ​เจ็ด​แล้ว​…

ภายใต้​การ​ปกคลุม​ด้วย​พลัง​วิญญาณ​ระดับ​นี้​ แม้เมื่อ​ครู่​จะเป็น​แค่​การ​โจมตี​แบบ​สบาย​ๆ แต่​ก็​ไม่ใช่ว่า​ใคร​จะป้องกัน​ได้​

ลู่​เซิ่งมอง​เทพ​เมฆาที่อยู่​ห่าง​ไปสิบ​กว่า​เมตร​ ด้วย​สีหน้าที่​เริ่ม​กระตือรือร้น​ขึ้น​มา

“ฉัน​คือ​หวัง​ตง​แห่ง​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ นาย​รับ​การ​โจมตี​ของ​ฉัน​ได้​ ถือว่า​มีสิทธิ์​ให้​ฉัน​รู้จัก​ชื่อ​นาย​แล้ว​”

แก​ร๊ก​

หอคอย​หิน​ที่อยู่​ด้านหลัง​เทพ​เมฆาหลาย​สิบ​เมตร​ ตรงกลาง​หัก​โค่น​ก่อน​จะถล่ม​ลงมา​

ส่วนกลาง​ของ​หอคอย​หิน​ปรากฏ​รอยประทับ​ฝ่ามือ​ที่​สมบูรณ์​และ​ชัดเจน​

เทพ​เมฆาไม่ได้​พูด​อะไร​ แต่ว่า​หัวกะทิ​ของ​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​กับ​พวก​ทหาร​รับจ้าง​ของ​กลุ่ม​ยักษ์​น้ำแข็ง​ ซึ่งเป็น​คน​ที่​มัด​โซ่พลัง​วิญญาณ​ไว้​บน​ตัว​ลู่​เซิ่งเมื่อ​ครู่​

สีหน้า​กลับ​เปลี่ยนแปลง​ไปโดย​มิอาจ​ควบคุม​

อานุภาพ​ระดับ​นี้​ได้​ก้าว​ข้าม​จินตนาการ​ของ​พวกเขา​ต่อ​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ไปแล้ว​

ขณะที่​หอคอย​เริ่ม​ถล่ม​ลงมา​นั่นเอง​

ลาน​น้ำพุ​ทั้ง​ลาน​เงียบงัน​เป็น​เป่าสาก​

เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​ที่​เพิ่งจะ​เล่น​เป็น​แมว​หยอก​หนู​พร้อม​หัวเราะ​ลั่น​อยู่​เมื่อ​ครู่​ ยังคง​อ้า​ปาก​อยู่​เหมือนเดิม​ หุบ​ไม่ลง​อยู่​ชั่วขณะ​ เพียงแต่​ดวงตา​ฉายแวว​ตกใจ​หวาดหวั่น​ สายตา​กลอก​ไปมาล่อกแล่ก​ แสดงให้เห็น​ว่า​คิด​หาทาง​หนี​อยู่​

แอนดี้​แห่ง​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​ผุด​สีหน้า​เคร่งขรึม​ จ้องมอง​ลู่​เซิ่งด้วย​แววตา​กริ่งเกรง​และ​ตื่น​ตะลึง​

เขา​จำชื่อ​หวัง​ตง​แห่ง​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ได้​ เป็น​สุดยอด​อัจฉริยะ​ที่​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ชิงรับ​เข้า​สำนัก​ตัดหน้า​ไปคน​นั้น​นั่นเอง​

แต่ว่า​…ต่อให้​เก่งกาจ​อย่างไร​ ก็​ต้อง​มีขีดจำกัด​ไม่ใช่หรือ​?!

เขา​เหลือบมอง​หอคอย​ที่​ตก​ใส่พื้น​เสียง​ดังสนั่น​ แล้ว​พัดพา​หิมะ​นับไม่ถ้วน​ให้​ฟุ้งขึ้น​มา ไม่ทราบ​จะอธิบาย​ความหวาดกลัว​ใน​ใจอย่างไร​ดี​

พละกำลัง​ที่​เอาชนะ​เทพ​เมฆา ทั้ง​ยัง​หัก​หอคอย​ด้าน​หลังเขา​เป็น​สอง​ส่วน​ได้​…พละกำลัง​แบบนี้​…ต่อให้​เป็น​มาร​ยักษา​เมื่อ​ก่อนหน้า​ก็​ยัง​ไม่อลังการ​ขนาด​นี้​เลย​มั้ง

อั่ก!​

เทพ​เมฆาที่​ยืน​อยู่กับที่​ อด​ก้มหน้า​กระอัก​เลือด​ออกมา​ไม่ได้​

เขา​อ้า​ปาก​อยาก​พูด​อะไร​สัก​อย่าง​ แต่​ทรวงอก​ปรากฏ​คราบเลือด​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ทำให้​เขา​ไม่กล้า​ขยับตัว​มากเกินไป​อยู่​ชั่วขณะ​

เค​ร้งๆๆๆ!​

โซ่พลัง​วิญญาณ​บน​ตัว​ลู่​เซิ่งพา​กัน​ขาด​ออก​ กลายเป็น​ฝุ่นผง​เล็ก​ๆ ตก​ลงพื้น​

หลังจาก​พลัง​วิญญาณ​ที่​เกาะติด​บน​โซ่ ถูก​พลัง​วิญญาณ​บ้าคลั่ง​ที่​แทบจะ​ป่าเถื่อน​ของ​ลู่​เซิ่งกระแทก​จน​แหลก​ โซ่โลหะผสม​ที่​เหลือ​ก็​ต้านทาน​แรง​ของ​เขา​ไม่อยู่​ ถูก​ทำลาย​แหลก​เป็น​เสี่ยง​ๆ ทันที​

โหย​ว​เหลียน​ที่อยู่​บน​พื้น​สับสน​กว่า​เดิม​

เธอ​จำได้​ว่า​หวัง​ตง​เป็น​เพียง​ศิษย์​ธรรมดา​ เขา​เป็น​อัจฉริยะ​จริงๆ​ แต่​ปัญหา​ก็​คือ​ตัว​ประหลาด​ที่​แข็งแกร่ง​จน​ทำลาย​ทุกอย่าง​ให้​ราพณาสูร​ได้​ตรงหน้า​นี้​ เธอ​ไม่แน่ใจ​ว่า​เป็น​หวัง​ตง​

หรือ​ควร​บอ​กว่า​เป็น​ใคร​สัก​คน​ที่​หน้าตา​เหมือน​หวัง​ตง​มากกว่า​

เทียบ​กับ​เธอ​แล้ว​ คนใน​สำนัก​ที่​สติ​ยัง​กระจ่าง​ใสและ​ชาย​ผม​สั้นเกรียน​ที่​ติด​ตามมา​ด้วย​ตลอดทาง​ทำ​หน้า​เหมือนกับ​เห็น​ผี​

แม้ก่อนหน้านี้​จะได้ยิน​มาก่อน​ว่า​หวัง​ตง​แข็งแกร่ง​มาก​ๆ แม้แต่​จอม​อาวุโส​ก็​สามารถ​สู้ได้​อย่าง​สูสี

เพียงแต่​ทุกคน​ไม่เคย​เห็น​กับ​ตา​ รู้​อย่าง​คร่าวๆ​ เท่านั้น​

กระนั้น​ตอนนี้​ หวัง​ตง​แข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​ กลายเป็น​คำถาม​ที่​ทุกคน​ซึ่งหาย​จาก​ความ​ตื่นตระหนก​สงสัย​มาก​ที่สุด​ไปแล้ว​

ความ​แข็งแกร่ง​นี้​มีตัว​เปรียบเทียบ​ให้​ดู​โดยตรง​แล้ว​

“ตะ​…ตัว​ประหลาด​!” ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ของ​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​คน​หนึ่ง​กรีดร้อง​ออกมา​อย่าง​ฉับพลัน​ ขนาด​ไม่ใช้อาวุธ​ภูต​สื่อ​วิญญาณ​กับ​วิญญาณ​วีรชน​ ก็​สามารถ​ทำร้าย​เทพ​จุติ​เทพ​เมฆา ผู้นำ​อันดับ​สอง​ของ​กลุ่ม​ทหาร​รับจ้าง​ยักษ์​น้ำแข็ง​ ด้วย​การ​โจมตี​ครั้ง​เดียว​ได้​ ถึงขั้น​แม้แต่​วิญญาณ​วีรชน​เทพ​เมฆาที่​โด่งดัง​ของ​เขา​ยัง​ถูก​เจาะทะลวง​

พละกำลัง​ที่​น่า​สะพรึง​แบบนี้​ ต่อให้​เป็น​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​ที่​มาก​ประสบการณ์​ก็​ยัง​ตัวสั่น​

ทหาร​รับจ้าง​ยักษ์​น้ำแข็ง​บางส่วน​แอบ​กระจาย​ตัว​ออก​ไป หลบหนี​ไปไม่น้อย​แล้ว​

พวกเขา​เป็น​ทหาร​รับจ้าง​ ไม่ใช่ตัวรับ​กระสุน​ที่​ยอม​ถวาย​ชีวิต​เพื่อ​ระดับสูง​ ต่อให้​หลบหนี​ในเวลานี้​ ก็​ไม่มีใคร​ด่าว่า​พวกเขา​ขี้ขลาด​

บน​ตัว​ลาน​ที่สอง​สามวินาที​ก่อนหน้า​ยัง​คึกคัก​เป็นพิเศษ​ เวลานี้​ลู่​เซิ่งเพียงแค่​ประมือ​กับ​เทพ​เมฆาหนึ่ง​กระบวนท่า​เท่านั้น​

สภาพการณ์​ก็​กลับตาลปัตร​ คน​ของ​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​กับ​ยักษ์​น้ำแข็ง​เริ่ม​แอบหนี​ นอกจาก​ยอด​ฝีมือ​หลัก​ที่​ร่วม​ต่อสู้​

ใคร​หนี​ได้​ล้วน​หลบหนี​หมดสิ้น​ เหมือนกับ​ตอน​รุม​โจมตี​แมงมุมสวรรค์​ใน​ตอนนั้น​นั่นเอง​

ต่อหน้า​ผู้​แข็งแกร่ง​ ทุกคน​อาจ​ยังมี​ความกล้า​เข้า​ปะทะ​ แต่​ต่อหน้า​ตัว​ประหลาด​ เข้าไป​ก็​มีแต่​ตาย​เปล่า​

ลู่​เซิ่งกวาดตา​มอง​ สายตา​คน​เกือบ​ทั้งหมด​ต่าง​จับจ้อง​อยู่​บน​ร่าง​เขา​

รวมถึง​โหย​ว​เหลียน​และ​หญิงสาว​จาก​สำนัก​บูรพา​ขาว​อีก​คน​ที่​เพิ่ง​ถูก​ประคองตัว​ขึ้น​จาก​พื้น​

คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​ที่​ก่อนหน้านี้​ตาม​โหย​ว​เหลียน​มา เวลานี้​พา​กัน​วิ่ง​มารวมตัว​ด้าน​หลังเขา​ด้วยตัวเอง​ สีหน้า​ของ​แต่ละ​คนใน​ตอนนี้​แดงก่ำ​เหมือน​คนเมา​ ดวงตา​เปล่งประกาย​

เมื่อ​ครู่​คน​ของ​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​กับ​ยักษ์​น้ำแข็ง​กำลัง​ทำตัว​ยโส​โอหัง​ เหมือน​ตัวเอง​เก่งกาจ​ที่สุด​ใน​โลก​ ตอนนี้​กลับ​ไม่ส่งเสียง​สัก​แอะ​

“ขอ​ฉัน​ถามหน่อย​” ลู่​เซิ่งเลื่อน​สายตา​ไปจับ​บน​ร่าง​เทพ​เมฆาที่​กึ่ง​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​

“เมื่อกี้​ใคร​เล่นงาน​คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​”

บรรยากาศ​ตึงเครียด​ทันที​

“แค่​กๆ”​

อสูร​ยักษ์​แห่ง​น้ำแข็ง​แอนดี้​ ระดับสูง​ของ​สมาคม​น้ำแข็ง​กระแอม​สอง​สามครั้ง​

“ใน​ฐานะ​ผู้จัดการ​หลัก​ของ​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​ ฉัน​ว่า​ฉัน​มีสิทธิ์​…”

ตูม​!

พละกำลัง​ยิ่งใหญ่​ไร้​รูปร่าง​สาย​หนึ่ง​กด​ทับ​บน​ร่าง​เขา​ทันที​

พลัง​วิญญาณ​ทั่ว​ร่าง​แอนดี้​หยุดชะงัก​ จากนั้น​ก็​ระเบิด​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ช่วย​ป้องกัน​แรงกดดัน​มหาศาล​ที่​ทะลัก​มาจาก​ด้านนอก​ให้​แก่​ร่างกาย​

“ฉัน​บอก​ให้​แก​พูด​หรือยัง​” เวลานี้​ลู่​เซิ่งสะบัด​แขน​ไปทาง​แอนดี้​ พลัง​วิญญาณ​สีเทา​หยาบ​ใหญ่​ที่​เหมือน​งูเหลือม​ยื่น​ออก​มาจาก​มือ​ แล้ว​พัน​แอนดี้​กับ​วิญญาณ​วีรชน​ซึ่งเป็น​สัตว์​ยักษ์​สีขาว​หิมะ​ซึ่งลอย​อยู่​ด้าน​หลังเขา​ไว้​

นั่น​คือ​วิญญาณ​วีรชน​สีขาว​ที่​คล้าย​กับ​สิงโต​ ตัว​สูงห้า​เมตร​กว่า​ๆ ร่างกาย​กำยำ​บึกบึน​ กล้ามเนื้อ​หนั่น​แน่น​บิดเบี้ยว​เหมือนกับ​ราก​ไม้แก่ๆ​

แม้สัตว์​ยักษ์​จะพยายาม​แผด​คำราม​อย่าง​ไร้​เสียง​ ภายใต้​การ​เกี่ยวพัน​ของ​พลัง​วิญญาณ​สีเทา​ แต่​ยังคง​ไม่อาจ​หลุด​ออกจาก​พลัง​วิญญาณ​สีเทา​ที่​แรงกดดัน​เพิ่มขึ้น​เรื่อยๆ​ ได้​

“วิชา​วิญญาณ​เหมันต์​ผสาน​! เก้า​หิมะ​!” แอนดี้​ดิ้น​พลาง​ส่งเสียง​ตวาด​ ด้านหลัง​ปรากฏ​เกล็ด​น้ำแข็ง​ทรง​ขนมเปียกปูน​สีขาว​หิมะ​ที่​แวววาว​เก้า​แผ่น​ จัดเรียง​กัน​เป็น​ทรงกลม​

เปรี้ยง​!

ทันใดนั้น​สัตว์​ยักษ์​แห่ง​น้ำแข็ง​ร้อง​คำราม​ ก่อนที่​ร่างกาย​จะระเบิด​เสียง​ดังสนั่น​กลายเป็น​กลุ่ม​แสงสีขาว​นับไม่ถ้วน​

กลุ่ม​แสงห่อหุ้ม​แอนดี้​ไปปรากฏ​เป็นรูปเป็นร่าง​บน​ที่โล่ง​อีก​แห่ง​ซึ่งอยู่​ห่าง​ออก​ไปหลาย​สิบ​เมตร​ ทว่า​ตา​ จมูก​ และ​ปาก​ของ​เขา​มีเลือด​ซึมออกมา​เพราะ​การปะทะ​ชั่วพริบตา​สั้น​ๆ เมื่อ​ครู่​

“รีบ​หนี​!” พวก​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​กับ​ยักษ์​น้ำแข็ง​ที่​เหลือ​ฉวยโอกาส​ที่​แรงกดดัน​ลดลง​ใน​ตอนที่​ลู่​เซิ่งสะกด​แอนดี้​ พา​กัน​หมุนตัว​หนี​โดย​ไม่เสียเวลา​

เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​ก็​คิด​หนี​เหมือนกัน​ แต่กลับ​ถูก​พวก​โหย​ว​เหลียน​ที่​อ่อนแอ​กว่า​ขวางทาง​ไว้​

ดวงตา​ที่​เคียดแค้น​ชิงชังของ​สอง​สาว​ทำให้​เขา​รู้​ว่า​ ถ้าไม่หนี​ตอนนี้​ รอ​อีก​เดี๋ยว​ต้อง​หมดโอกาส​แน่​

ไค​ลน์​ไม่พูด​อะไร​สัก​คำ​ หมุนตัว​พุ่ง​ไปยัง​ทาง​หอคอย​หัก​ทันที​

“จะหนี​เหรอ​!?” ชายฉกรรจ์​หัวล้าน​กับ​หนาน​เก๋​อ​ขวางทาง​เขา​ไว้​

ชายฉกรรจ์​ถูกำปั้น​ จ้องมอง​ไค​ลน์​อย่าง​อาฆาต​

“แก​ตาย​แน่​ ไค​ลน์”​

“เหลวไหล​!” ไค​ลน์​แค่น​เสียง​ “ถ้าไม่ใช่เพราะ​ตัว​ประหลาด​ตัว​นั้น​มา น้ำหน้า​อย่าง​แก​น่ะ​เหรอ​”

เงาแขน​ดำ​สี่ข้าง​ด้านหลัง​ไค​ลน์​จับตัว​เขา​เบา​ๆ ก่อน​จะโยน​ไปที่​ไกล​ทันที​

เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​พุ่งตัว​ออก​ไปหลาย​สิบ​เมตร​ แล้ว​ทิ้งตัว​ลง​บน​ซาก​หอคอย​หัก​อย่าง​มั่นคง​

เงาแขน​ดำ​สี่ข้าง​พังทลาย​ทันที​ ก่อน​จะไปรวมตัว​ขึ้น​ด้าน​หลังเขา​

“พวก​ปัญญาอ่อน​” ไค​ลน์​ยก​นิ้วกลาง​ให้​พร้อม​หมุนตัว​หนี​

ซู่…

ทันใดนั้น​บน​ร่าง​เขา​ก็​ถูก​เส้นสาย​พลัง​วิญญาณ​สีเทา​เส้น​หนึ่ง​ดึง​ไว้​โดยไม่รู้ตัว​

เส้นสาย​นั้น​พัน​บน​คอ​เขา​ตั้งแต่​เมื่อไร​ก็​ไม่ทราบ​ ที่มา​ของ​มัน​ก็​คือ​ลู่​เซิ่งที่​ยืน​นิ่ง​อยู่​ที่​เดิม​

กลางฝ่ามือ​เขา​มีก้อน​พลัง​วิญญาณ​สีเทา​ที่​เหมือน​รัง​ไหม​กลุ่ม​หนึ่ง​ เส้นสาย​แยก​ออก​มาจาก​ด้านใน​รัง​ไหม​กลุ่ม​นั้น​นั่นเอง​

นอกจาก​ไค​ลน์​แล้ว​ ยังมี​คน​อีก​สิบ​กว่า​คน​ที่​ถูก​เส้นสาย​พัน​ไว้​จน​ขยับ​ไม่ได้​เช่นกัน​

สถานการณ์​ใน​ตอนนี้​สับสนวุ่นวาย​ พวก​คน​ที่มา​มุงดู​หนี​ไปตั้งแต่​ศึก​ตะลุมบอน​เมื่อ​ครู่​ได้​พอประมาณ​แล้ว​ พวก​ที่​เหลืออยู่​ถ้าไม่ได้​ถูก​เส้นสาย​ของ​ลู่​เซิ่งดึง​ไว้​ ก็​เป็น​คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​และ​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​จาก​ขุม​กำลัง​อื่นๆ​ ที่​ถูก​รุม​โจมตี​

คน​ผม​เกรียน​พยุง​โหย​ว​เหลียน​เดิน​มาถึงตรงหน้า​ลู่​เซิ่งแล้ว​โค้ง​ตัว​ให้​เขา​อย่าง​จริงใจ​

“บุญคุณ​ใหญ่หลวง​ ไม่เพียงพอ​แค่​เอ่ย​คำ​ว่า​ขอบคุณ​” โหย​ว​เหลียน​กล่าว​อย่าง​จริงจัง​

“งั้น​ก็​ไม่ต้อง​ขอบคุณ​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​ไม่นำพา​ “ผม​แค่​เห็นแก่หน้า​หวง​ย่า​เท่านั้น​”

เส้นสาย​บน​มือ​เขา​ไม่เพียง​พันธนาการ​คน​ของ​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​เท่านั้น​ นอกจาก​คน​ที่อยู่​ฝั่งตน​ ยังมี​ทุกคน​ที่อยู่​รอบ​ๆ ด้วย​

ระดับ​ทองคำ​ทั้งหมด​ใน​ฝูงชน​ถูก​เขา​หยุด​ไว้​ทันที​

หิมะ​ปลิว​โปรยปราย​ ลาน​ที่​เมื่อ​ครู่​ยัง​สู้กัน​อย่าง​ดุเดือด​ ตอนนี้​ถูก​สีขาว​บาง​ๆ ชั้นหนึ่ง​ปกคลุม​ กลบ​ฝังสถานการณ์​การต่อสู้​เมื่อ​ครู่​เอาไว้​

เส้นสาย​ใน​มือ​ลู่​เซิ่งดึง​ขั้น​ทองคำ​ไว้​เกือบ​สิบ​กว่า​คน​

ใน​นี้​รวมถึง​เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​ด้วย​ ทุกคน​ยืน​นิ่ง​อยู่กับที่​ไม่กลับ​ขยับตัว​

มีคน​คน​หนึ่ง​ที่​กล้า​ขยับตัว​ แต่​ถูก​ตัด​ศีรษะ​ทันที​

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด