ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 987 หลังฉาก (1)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 987 หลังฉาก (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หนาน​เก๋​อ​เดิน​ไปถึงด้านหน้า​ไค​ลน์​ก่อน​จะมอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ การ​ใช้เส้นด้าย​พลัง​วิญญาณ​ที่​หยาบกระด้าง​แบบนี้​เป็น​คนละ​แบบ​กับ​สิ่งที่​เธอ​ถนัด​ นี่​ทำให้​เธอ​โล่งใจ​เล็กน้อย​

หวัง​ตง​คน​นี้​แข็งแกร่ง​มาก​จริงๆ​

แข็งแกร่ง​ถึงขั้น​ไม่มีเพื่อน​

แม้จะเทียบ​เธอ​ไม่ได้​ แต่​ก็​คู่ควร​กับ​คำ​เรียกตัว​ประหลาด​ใน​หมู่​คนธรรมดา​แล้ว​

หนาน​เก๋​อ​สังเกตเห็น​ว่า​ พละกำลัง​และ​กาย​เนื้อ​ของ​หวัง​ตง​แข็งแกร่ง​เป็น​อย่างยิ่ง​ แทบจะ​อยู่​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​มาร​ยักษา​

‘ถ้าคำนวณ​ดี​ๆ นี่​แทบจะ​เป็น​มาร​ยักษา​ร่าง​มนุษย์​แล้ว​…น่าสนใจ​ ไม่เคย​เจอ​ตัวตน​แบบนี้​ใน​โลก​ใบ​นี้​มาก่อ​น.​..’

เธอ​จุติ​มาโลก​ใบ​นี้​ได้​สามสิบ​กว่า​ปีแล้ว​

ใน​วัน​เวลา​สามสิบ​ปีนี้​ เธอ​ทรมาน​อย่า​งอก​สั่น​ขวัญ​แขน​ใน​ช่วง​สร้าง​พื้นฐาน​เมื่อ​สิบ​ปีก่อน​แทบ​ทุกวัน​

หลังจาก​เฉียด​ตาย​มาหลายครั้ง​ ในที่สุด​เธอ​ก็​โดดเด่น​ขึ้น​มาใน​องค์กร​ชื่อ​สหพันธ์​กระดิ่ง​ดำ​โดย​อาศัย​ประสบการณ์​และ​ความรู้​เดิม​ของ​ตัวเอง​จน​สำเร็จ​ แล้ว​ได้รับ​การบ่ม​เพาะ​อย่าง​เฉพาะเจาะจง​จาก​ผู้​เข้มแข็ง​ระดับสูง​

จากนั้น​เธอ​ที่​ดูดซับ​การ​หล่อเลี้ยง​จาก​สหพันธ์​กระดิ่ง​ดำ​จน​หมด​ ก็​ฆ่าอาจารย์​ที่​คิด​จะปล้ำ​เธอ​ทิ้ง​ และ​ฆ่ายอด​ฝีมือ​มาก​กาย​ที่​ตาม​ไล่ล่า​รุม​โจมตี​เธอ​ จากนั้น​ก็ได้​ฉายา​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​โลก​มา

แม้จะมีการ​หักมุม​ที่​ยากลำบาก​อยู่​บ้าง​ แต่​สำหรับ​เธอ​แล้ว​ การ​จุติ​ครั้งนี้​นับว่า​ราบรื่น​มาก​

เธอ​ยัง​จำได้​ว่า​มีครั้งหนึ่ง​จุติ​ไปยัง​โลก​ระดับ​เดียวกัน​ เป็น​ไส้เดือน​อยู่​ที่นั่น​เกือบ​หมื่น​ปี อุตส่าห์​คืน​ร่าง​เป็น​มนุษย์​ได้​ สุดท้าย​เพราะ​ระดับชั้น​ของ​พลัง​ใน​โลก​ใบ​นั้น​เข้มงวด​ถึงขีดสุด​

ประสบการณ์​ทุกอย่าง​ใน​อดีต​ของ​เธอ​ไม่มีประโยชน์​ จึงได้​แต่​กล้ำกลืน​ปีน​จาก​ระดับ​ล่าง​สู่ระดับ​บน​

พริบตาเดียว​เวลา​ก็​ผ่าน​พ้นไป​อีก​สอง​สามหมื่น​ปี

ในที่สุด​เธอ​ก็​ไปถึงจุดสูงสุด​

แต่​เธอ​ตาบอด​ แขนขา​เอง​ก็​เหลือ​ข้างเดียว​ ลิ้น​ถูก​ทำลาย​ถาวร​ตอน​โดน​คู่แค้น​ทรมาน​ ทั้ง​ยัง​โดน​พิษ​จน​รักษา​ไม่ได้​

ใช้ชีวิต​อย่าง​ที่​เขา​เรียก​ว่า​อยู่​มิสู้ตก​ตาย​

หวนนึก​ถึงว่า​ตอนนี้​ดีมาก​แล้ว​

เป็น​หนาน​เก๋​อ​ที่​ยัง​สบายดี​

เวลานี้​คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​เริ่ม​เข้ามา​จัดระเบียบ​แล้ว​ แต่​เป็น​เพราะ​พวกเขา​มีคน​น้อย​เกินไป​ บางส่วน​จึงต้อง​กลับ​ไปโทรศัพท์​รายงาน​สถานการณ์​กับ​ทาง​สำนัก​

คน​ที่​เหลืออยู่​ไม่อาจ​รักษา​สภาพ​ที่เกิดเหตุ​ไว้​ได้​ ดังนั้น​พวก​โหย​ว​เหลียน​จึงขอให้​คน​ของ​สำนัก​บูรพา​ขาว​ช่วย​จัดระเบียบ​ด้วย​

อย่างไร​เมื่อ​ครู่​ก็​มีแต่​คน​ของ​สำนัก​บูรพา​ขาว​เท่านั้น​ที่​รบ​เคียงบ่าเคียงไหล่​กับ​พวกเขา​

ลู่​เซิ่งซึ่งย่ำ​พื้น​หิมะ​ไปถึงหน้า​หลุม​หลุม​หนึ่ง​ แล้ว​ทรุด​นั่งลง​พร้อมกับ​ยื่นมือ​ไปขุด​ดิน​โคลน​ที่​ก้น​หลุม​ออกมา​เบา​ๆ

‘สัดส่วน​โลหะ​เข้มข้น​มาก.​..ที่นี่​มีวัตถุดิบ​สำหรับ​สร้าง​อาวุธ​ภูต​แม้แต่​ใน​ดิน​!’

เขา​สนใจ​ที่นี่​ขึ้น​เรื่อยๆ​

เขา​เพียง​ถือโอกาส​จัดการ​เรื่องไร้สาระ​บน​ลาน​กว้าง​ให้​จบ​ๆ ไปเท่านั้น​ เป้าหมาย​ที่​แท้จริง​ของ​เขา​คือ​การฉวยโอกาส​นี้​กำ​จัดการ​คุกคาม​

ลู่​เซิ่งลุกขึ้น​ก่อน​จะกวาดตา​มอง​

ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ขั้น​ทองคำ​สิบ​กว่า​คน​ถูก​เขา​ใช้เส้นด้าย​วิญญาณ​มัด​ตัว​ไว้​

“มานี่​” ลู่​เซิ่งออกแรง​ดึง​ ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ทุกคน​พลัน​ถูก​เส้นด้าย​วิญญาณ​กระชาก​มายัง​ทิศทาง​ที่​เขา​อยู่​อย่าง​ไม่อาจ​ควบคุม​

มีคน​ทั้งหมด​สิบห้า​คน​รวมถึง​เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​ คน​ของ​สมาคม​หิมะ​น้ำแข็ง​หนี​ไปได้​หลาย​คน​ มีคน​ผ่าน​ทาง​สอง​สามคน​ที่​คิด​ฉวยโอกาส​เข้า​มาหา​โอกาส​ใน​ช่วง​ชุลมุน​ถูกจับ​มาด้วย​

ลู่​เซิ่งเขย่า​เส้นด้าย​ใน​มือ​ เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​พลัน​ยก​มือจับ​คอ​ เสียง​จาก​หลอดลม​ที่​ถูก​เจาะรั่ว​ดัง​ขึ้น​ เลือด​ทะลัก​ออกมา​เป็น​สาย​

“ฉัน​…ฮ่า…” เขา​ยัง​คิด​จะพูด​อะไร​สัก​อย่าง​ แต่​เรี่ยวแรง​หาย​ไปอย่าง​รวดเร็ว​ ทุกอย่าง​ไม่สำคัญ​อีกแล้ว​

ตุบ​

เจ้าขี้เมา​ไค​ลน์​ล้ม​ลง​กับ​พื้น​อย่าง​ไร้​เสียง​ ยอด​ฝีมือ​ระดับสูง​ที่​มีอันดับ​สูงกว่า​จอม​อาวุโส​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​เสียชีวิต​ลง​บน​ยอดเขา​อย่าง​เงียบเชียบ​เช่นนี้​

บน​กระบี่​สั้น​สีดำ​สนิท​ที่​โค้ง​งอ​เล็กน้อย​บน​ศพ​ของ​ไค​ลน์​ค่อยๆ​ ปรากฏ​เงาแขน​สีดำ​สี่ข้าง​ขนาด​ยักษ์​สาย​หนึ่ง​ เป็น​วิญญาณ​วีรชน​ใน​อาวุธ​ภูติ​ที่​เขา​ใช้นั่นเอง​

“เฮ้อ​…”

วิญญาณ​วีรชน​สี่แขน​ถอนใจ​ มอง​ศพ​บน​พื้น​ จากนั้น​ก็​ประสานมือ​ให้​ลู่​เซิ่งแล้ว​หด​ร่าง​กลับ​เข้าไป​ใน​กระบี่​สั้น​ทันที​

“นั่น​คือ​แอน​ดา​เซียส​ ราชา​ผู้ยิ่งใหญ่​ใน​ประวัติศาสตร์​ที่​เคย​รวม​อาณาเขต​มาซัน​ด้า​ทั้งหมด​เป็นปึกแผ่น​ ว่า​กัน​ว่า​เป็น​จอม​ราชา​ที่​ยุติธรรม​และ​เมตตา​ การ​ให้​คน​อย่าง​ไค​ลน์​ครอบครอง​ถือเป็น​ความอัปยศ​อย่างหนึ่ง​”

ชาย​ผม​เกรียน​เข้ามา​กล่าว​เบา​ๆ

“จริง​สิ นาย​วางแผน​จะจัดการ​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ขั้น​ทองคำ​พวก​นี้​อย่างไร​ ถ้า…ถ้าไม่สะดวก​ พวกเรา​ช่วย​นาย​จัดการ​ดี​ไหม​”

ลู่​เซิ่งคร้าน​จะตอบ​เขา​ เวลา​สู้กัน​ให้​เขา​อยู่​ด้านหน้า​ พอ​ถึงเวลา​เก็บเกี่ยว​ผล​จาก​ชัยชนะ​ ยัง​พูด​เหมือน​ช่วย​เขา​ กำลัง​ล้อเล่น​อยู่​หรือไง​

เขา​กวาดตา​มอง​รอบ​ๆ จากนั้น​ก็​เดิน​ไปทาง​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​ที่​ขอบ​ของ​ลาน​กว้าง​

ยอด​ฝีมือ​ขั้น​ทองคำ​สิบ​กว่า​คน​ถูก​เขา​ดึง​ไปยัง​ทาง​หนึ่ง​

ไม่นาน​นัก​ ลู่​เซิ่งก็​ยืน​อยู่​หน้าบ้าน​ขนาด​ปานกลาง​อีก​หลัง​

เปรี้ยง​!

เขา​ถีบ​ประตู​บ้าน​เปิด​ ประตู​พลัน​หลุด​ออกจาก​กรอบ​

ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ขั้น​ทองคำ​สิบ​กว่า​คน​ทยอย​ตาม​เขา​เข้าไป​

ลู่​เซิ่งบอก​กับ​คนอื่น​ว่า​ต้องการ​เรียกร้อง​เงินชดเชย​ แต่​ความจริง​เขา​คิด​จะฝังพลัง​เทพ​นอกรีต​ใส่ตัว​คน​พวก​นี้​

หลัง​ผ่าน​ไปราว​สอง​สามนาที​ ลู่​เซิ่งก็​เดิน​ออกมา​เป็น​คน​แรก​ ด้านนอก​มีขุม​กำลัง​เบื้องหลัง​ผู้​สื่อ​วิญญาณ​พวก​นี้​รอ​อยู่​ไม่น้อย​

พอ​เห็น​ลู่​เซิ่งเปิด​ประตู​ คน​พวก​นี้​ก็​ร่าง​แข็งทื่อ​ ไม่กล้า​ส่งเสียง​

คน​ที่​กำลัง​คุย​กัน​ได้ยิน​วีรกรรม​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ของ​ลู่​เซิ่งคร่าวๆ​ แล้ว​

สำหรับ​คน​ที่​มาถึงระดับ​นี้​ได้​ทั้งๆ ที่​เพิ่ง​อายุ​ได้​สิบ​แปด​ปี ทุกคน​ได้​ยกระดับ​ตำแหน่ง​ของ​ลู่​เซิ่งจาก​อัจฉริยะ​ขึ้น​เป็นตัว​ประหลาด​แล้ว​

ลู่​เซิ่งไม่เหลือบ​แล​คน​พวก​นี้​ หาก​หมุนตัว​จากไป​

คน​ของ​สำนัก​เคลื่อน​ภูผา​เข้าไป​ถามไถ่สอง​สามประโยค​ หลัง​ได้รับ​คำตอบ​บางอย่าง​ ต่าง​ก็​หลีกทาง​ให้​อย่าง​สบายใจ​

ถัด​จากนั้น​ราว​สอง​สามนาที​ ผู้​สื่อ​วิญญาณ​ขั้น​ทองคำ​สิบ​กว่า​คน​ที่​ถูก​จับตัว​ไว้​ก่อนหน้านี้​ก็​พา​กัน​เดิน​ออก​มาจาก​บ้าน​

สิ่งที่​ไม่มีใค​รู้​เลย​ก็​คือ​ บน​ท้ายทอย​ของ​พวกเขา​มีบางอย่าง​เพิ่ม​มา สิ่งนี้​หลอม​รวม​เข้ากับ​ร่าง​ของ​พวกเขา​ด้วย​ความเร็ว​สูง พร้อมกับ​เริ่ม​ปรับปรุง​และ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​กาย​เนื้อ​ของ​พวกเขา​

พลัง​เทพ​นอกรีต​ไม่ได้​มีแค่​การกลืน​กิน​และ​ควบคุม​เท่านั้น​ ยังมี​การ​แพร่เชื้อ​ด้วย​

ลู่​เซิ่งเรียก​การ​แพร่เชื้อ​นี้​ว่า​แปลง​เทพ​นอกรีต​

สิ่งมีชีวิต​ที่​ถูก​แปลง​เทพ​นอกรีต​จะได้รับ​การ​ยกระดับ​พลัง​คืนชีพ​อย่าง​ใหญ่หลวง​ ขณะเดียวกัน​คุณสมบัติ​ด้าน​จิตใจ​ก็​จะเพิ่มขึ้น​มาก​เช่นกัน​

ในเวลาเดียวกัน​ สิ่งมีชีวิต​แปลง​เทพ​นอกรีต​หลัง​ปนเปื้อน​จะสามารถ​แพร่เชื้อ​ใส่สิ่งมีชีวิต​อื่นๆ​ ต่อ​ได้​

แต่​เหมือน​จะไม่ได้​ราบรื่น​ใน​โลก​ใบ​นี้​เท่าไร​นัก​ อาจ​เป็น​เพราะ​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​

พอ​กลับ​ถึงค่าย​ ลู่​เซิ่งก็​หยิบ​แผนที่​ของ​โพรง​หมื่น​วิญญาณ​ซึ่งยึด​มาจาก​ยอด​ฝีมือ​พวก​นั้น​ขึ้น​มาดู​

หลัง​ศึกษา​ตำแหน่ง​อย่าง​เป็น​รูปธรรม​เสร็จ​ เขา​ก็​แอบ​มุ่งหน้า​ไปยัง​โพรง​หมื่น​วิญญาณ​คนเดียว​กลางดึก​

ตอนกลางวัน​เขา​สร้าง​ชื่อ​ใน​การต่อสู้​ครั้ง​เดียว​แล้ว​ เขา​ไม่อยาก​ให้​มีคน​มาชมดู​ด้านหลัง​เหมือน​ตอนนั้น​

เขา​เสียเวลา​ใน​โลก​ใบ​นี้​มานาน​แล้ว​

ต้อง​รีบ​จัดการ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ทิ้ง​ จากนั้น​หา​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​บน​ภาพ​สามเทพ​ที่​คนอื่น​มองไม่เห็น​ให้​เจอ​

เขา​เกิด​ลางสังหรณ์​อย่าง​รุนแรง​ เป็นไปได้​ถึงขีดสุด​ว่า​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​กับ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​จะมีความเกี่ยวพัน​กัน​อย่าง​ลึกซึ้ง​

กลางดึก​

 

ร่าง​สีดำ​ร่าง​หนึ่ง​ทิ้งตัว​ลง​เหนือ​กำแพง​สูงบน​กลุ่ม​สิ่งก่อสร้าง​ใกล้​ๆ ที่​ตั้งค่าย​อย่าง​แผ่วเบา​

เงาคน​เพิ่ง​กระโดด​ลงพื้น​ก็​พุ่ง​ลิ่ว​ตาม​พื้น​หิมะ​ไปยัง​ทาง​หนึ่ง​ด้วย​ความเร็ว​สูงโดย​ไม่มีอาการ​ลังเล​ใดๆ​

ลู่​เซิ่งเคลื่อนไหว​กลาง​พายุ​หิมะ​อย่าง​รวดเร็ว​

ยอดเขา​มีภูมิประเทศ​ซับซ้อน​เป็นพิเศษ​ หลาย​ส่วน​มีเสาน้ำแข็ง​ที่​เหมือนกับ​เสาหิน​และ​ที่ลุ่ม​ต่ำ​ซึ่งเหมือนกับ​เปลือกไข่​ครึ่งซีก​

ต่อให้​ลู่​เซิ่งจะมีแผนที่​ แต่​ก็​อาศัย​ป้ายบอกทาง​ที่​ตั้งอยู่​ริม​ทาง​ ถึงได้​เจอ​ทางเข้า​โพรง​หมื่น​วิญญาณ​เร็ว​ขนาด​นี้​

นั่น​คือ​ทางเข้า​เหมือง​ร้าง​

พูด​ให้​ถูกต้อง​คือ​ คนงาน​เหมือง​คน​หนึ่ง​เป็น​ผู้​พบ​โพรง​หมื่น​วิญญาณ​ใน​ตอนแรก​สุด​

ลู่​เซิ่งที่​ยืน​อยู่​หน้า​ทางเข้า​เหมือง​หยุดพัก​สักครู่​ ก่อน​จะสาวเท้า​เข้าไป​

สอง​เท้า​ของ​เขา​ย่ำ​พื้น​อย่าง​เงียบงัน​ ก้าว​เท้า​ข้าม​ระยะทาง​สิบ​เมตร​ได้​ใน​หนึ่ง​ก้าว​ แสดง​ความคล่องแคล่ว​และ​ว่องไว​เหมือนกับ​ภูต​พราย​

หลังจาก​กระโดด​ลง​หลุม​หลาย​แห่ง​ขณะที่​ลง​ลึก​เข้า​เหมือง​ไปเรื่อยๆ​ นั่นเอง​

ในที่สุด​ลู่​เซิ่งก็​ได้ยิน​เสียง​ที่​แว่ว​แผ่วเบา​มาจาก​ความมืด​

นั่น​เป็น​เสียง​ที่​เหมือน​คน​จำนวนมาก​กำลัง​ส่งเสียง​อะไร​กัน​สัก​อย่าง​อยู่​

เหมือน​เป็น​เสียง​ครวญคราง​ แต่​ก็​เหมือน​เสียง​โหยหวน​ ทว่า​ส่วนใหญ่​เป็น​เสียง​วิงวอน​ เสียงคำราม​ และ​เสียง​ตะโกน​

กุญแจ​สำคัญ​ที่​ทำให้​โพรง​หมื่น​วิญญาณ​โด่งดัง​ไปทั่วโลก​ก็​คือ​ ที่นี่​เคย​เกิด​เรื่องใหญ่​มาไม่น้อย​ ฝังสาวก​ลัทธิ​กางเขน​ผู้​ศรัทธา​ไว้​มากกว่า​หมื่น​คน​

ใน​หมู่​พวกเขา​มีสาวก​งมงาย​ที่​ภักดี​ที่สุด​เป็น​จำนวนมาก​ ยังมี​อัศวิน​ผู้​ปกป้อง​ศาสนา​อีก​มากมาย​ วิญญาณ​ที่​แข็งแกร่ง​เพราะ​ความ​คลั่งไคล้​พวก​นี้​ไม่ได้​สลายตัว​ไปหลังจาก​ตาย​ กลับ​ได้รับ​การ​หล่อเลี้ยง​จาก​ภูมิประเทศ​ที่​มีประโยชน์​อย่าง​บังเอิญ​ของ​ที่นี่​

ลู่​เซิ่งเคลื่อน​ที่อยู่​ใน​ความมืด​สักพัก​ ไม่นาน​ก็​เจอ​หลุม​แห่ง​หนึ่ง​ที่สุด​เส้นทาง​เหมือง​ด้านหน้า​

เสียง​นั้น​ลอย​มาจาก​อุโมงค์​ที่​มืดสนิท​แห่ง​นั้น​

ลู่​เซิ่งเดิน​เข้าไป​ แต่​ขณะ​กำลังจะ​กระโดด​เข้าไป​ด้านใน​ เขา​ก็​ชะงัก​ฝีเท้า​พลาง​ยื่นมือ​ไปลูบ​ขอบ​หลุม​

‘ตรงนี้​ยัง​อุ่นๆ​ มีคน​เคย​นั่ง​มาก่อน​ แถมเพิ่งจะ​จากไป​ไม่นาน​’ เขา​ลอง​ลูบ​ตำแหน่ง​อื่น​ดู​ สถาน​ที่อื่น​ต่าง​ก็​เย็นเยียบ​ มีแต่​ตรงนี้​เท่านั้น​ที่​อุ่น​อยู่​บ้าง​

ความจริง​ลู่​เซิ่งยัง​หา​วิธี​การกลายเป็น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ไม่เจอ​ การสนอง​เงื่อนไข​เป็นเรื่อง​หนึ่ง​ แต่​กุญแจ​สำคัญ​ก็​คือ​ควรจะ​ใช้ประโยชน์​จาก​เงื่อนไข​พวก​นี้​อย่างไร​

ลู่​เซิ่งลุกขึ้น​ ขณะ​กำลังจะ​กระโดด​เข้า​หลุม​ ร่างกาย​เขา​ก็​ชะงัก​ไปอีกครั้ง​

‘ความเร็ว​ใน​การฟื้นฟู​ของ​ที่นี่​สูงขนาด​นี้​เชียว​หรือ​’ เขา​นั่งขัดสมาธิ​อย่าง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​

ก่อนหน้านี้​เพื่อ​ยกระดับ​พลัง​ เขา​ได้​เลื่อน​ระดับ​วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ถึงระดับ​ที่​เจ็ด​ใน​คราว​เดียว​

ตอนนี้​พลัง​วิญญาณ​ใน​ตัว​มีจำนวน​ถึงสี่ร้อย​กว่า​ล้าน​ดูรา​แล้ว​ พลัง​วิญญาณ​ระดับ​นี้​เทียบ​เท่ากับ​มาร​ยักษา​มากกว่า​ร้อย​ตน​

แม้ว่า​จุด​ที่​แข็งแกร่ง​ของ​พวก​มาร​ยักษา​จะไม่ใช่พลัง​วิญญาณ​หาก​เป็นความ​อมตะ​ แต่​แบบนี้​ลู่​เซิ่งก็​คู่ควร​กลับ​ฉายา​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​โลก​แล้ว​

ว่า​กัน​ว่า​มีคน​ชื่อ​แมงมุมสวรรค์​ที่​ตอนนี้​ผู้คน​ยอมรับ​ว่า​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​โลก​ แต่​ลู่​เซิ่งไม่คิด​ว่า​เธอ​จะมาถึงระดับ​ตน​ได้​

การ​ที่​พลัง​วิญญาณ​ที่​แข็งแกร่ง​แบบนี้​บีบ​อัด​อยู่​ใน​กาย​เนื้อ​กาย​นี้​ สุดท้าย​จะทำให้​ร่างกาย​ร่าง​นี้​ค่อยๆ​ อิ่มตัว​

ก่อนหน้านี้​ร่างกาย​อิ่มตัว​แล้ว​ ตอนแรก​ลู่​เซิ่งนึก​ว่า​ครั้งนี้​ต้อง​รอ​อีก​นาน​ ร่างกาย​ถึงจะปรับตัว​เข้ากับ​พลัง​วิญญาณ​สาย​นี้​แล้ว​ค่อย​ยกระดับ​รอบ​ใหม่​ได้​

นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​…อากาศ​ใน​โพรง​หมื่น​วิญญาณ​เหมือน​จะมีกลิ่นอาย​บางอย่าง​ที่​เคลื่อนไหว​อยู่​เป็น​จำนวนมาก​

และ​กลิ่นอาย​นี้​ก็​มีผล​หล่อเลี้ยง​ที่​ดี​ถึงขีดสุด​ต่อ​พลัง​วิญญาณ​กับ​กาย​เนื้อ​

นี่​ทำให้​ระดับ​ความ​แข็งแกร่ง​ทางกาย​เนื้อที่​ก่อนหน้านี้​เขา​ต้อง​ปรับตัว​ ยกระดับ​ได้​อีกครั้ง​โดย​ไม่มีลางบอกเหตุ​

……………………………………….

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด