ยอดวิถีแห่งปีศาจบทที่ 988 หลังฉาก (2)

Now you are reading ยอดวิถีแห่งปีศาจ Chapter บทที่ 988 หลังฉาก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ประหลาดใจ​จริงๆ​ รีบ​ยกระดับ​ก่อน​ดีกว่า​’

ลู่​เซิ่งรีบ​นั่งขัดสมาธิ​

เขา​เข้าใจ​คร่าวๆ​ แล้ว​ว่า​สิ่งมีชีวิต​อย่าง​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​และ​มาร​ยักษา​กำเนิด​ ขึ้น​มาได้​อย่างไร​ บางที​อาจจะ​มีแต่​สภาพแวดล้อม​ที่​มีพลัง​ชีวิต​แข็งแกร่ง​ถึงขั้น​นี้​ เท่านั้น​ถึงจะอาจ​ให้กำเนิด​ตัว​ประหลาด​อมตะ​อย่าง​มาร​ยักษา​ออกมา​ได้​

เมื่อ​อยู่​ที่นี่​ เขา​สัมผัส​ได้​ชัดเจน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ว่า​ เซลล์​ทุก​เซลล์​ใน​ร่างกาย ย​ของ​ตัวเอง​กำลัง​กระโดดโลดเต้น​ และ​ดูดซับ​พลังงาน​ลึกลับ​ที่​ไม่ทราบ​ว่า​อยู่​ใน​สถานที ​แห่ง​นี้​มากี่​ปี

‘ดี​ปบลู​’ ลู่​เซิ่งเรียก​เครื่องมือ​ปรับเปลี่ยน​ออกมา​โดย​ไม่รีรอ​

เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ดวงตา​แห่ง​ความเลวทราม​ที่​ลี้ลับ​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ลู่​เซิ่งก็​รู้สึก​ว่ า​ยิ่ง​พลัง​ใน​มือ​ตน​แข็งแกร่ง​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ดี​เท่านั้น​

ดังนั้น​เขา​จึงวางแผน​ว่า​จะยกระดับ​อยู่​ตรงนี้​ให้​ถึงขีด​สูงสุด​ก่อน​ ค่อย​เข้าไป​สืบต่ อ​

ไม่นาน​นัก​ กรอบ​ของ​วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ก็​เด้ง​ออกมา​ ลู่​เซิ่งไม่อ่าน​ข้อมูล ล​คุณสมบัติพิเศษ​ที่​หนาแน่น​บน​นั้น​ด้วยซ้ำ​

‘ยกระดับ​วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ถึงระดับ​แปด​ จากนั้น​ให้​เรียนรู้​ไปเรื่อยๆ​! จนก กว่า​ฉัน​จะรองรับ​ไม่ไหว​’

ลู่​เซิ่งออกคำสั่ง​ จากนั้น​วิชา​วิญญาณ​แสงสีชาด​ที่​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​ร่างกาย ย​ก็​เตรียม​ยกระดับ​

คลื่น​พลัง​บน​ตัว​เขา​ทะลัก​และ​กระเพื่อม​อย่าง​รวดเร็ว​ใน​ความ​มืดมิด​เหมือนกับ​ภูเขาไฟ​

พลัง​อาวรณ์​มากมาย​กลายเป็น​พลัง​วิญญาณ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ พลาง​พรั่งพรู​เข้าไป​ใน​ร่าง​อย่า าง​ต่อเนื่อง​ไม่ขาดสาย​ พลัง​วิญญาณ​สีเทา​ซึมออก​มาจาก​ร่าง​อย่าง​เลือนราง​ กลายเป็น​งูตัว วเล็ก​ๆ จำนวนมาก​ที่​เหมือน​สายโซ่​ไต่​เลื้อย​ไปตามตัว​เขา​

 

ยิ่ง​มาถึงช่วงหลัง​ วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ก็​ยิ่ง​ยกระดับ​ได้​ยาก​

และ​ใน​ทาง​เดียวกัน​ ยิ่ง​ฐาน​พลัง​วิญญาณ​มีมาก​เท่าไร​ วิชา​เคลื่อน​ภูผา​แปลง​วิญญาณ​ก็​ ยิ่ง​ยกระดับ​ได้​ลำบาก​เท่านั้น​

หาก​คิด​จะยกระดับ​พลัง​วิญญาณ​จำนวน​สี่ร้อย​ล้าน​กว่า​ดูรา​ของ​ลู่​เซิ่งใน​ปัจจุบัน​ แค่​ พลัง​อาวรณ์​ที่​ต้อง​ใช้ก็​ปาไปมากกว่า​ล้าน​แล้ว​

ขณะ​พลัง​วิญญาณ​ที่​ยิ่งใหญ่​สุด​เปรียบ​ปาน​กระเพื่อม​ พริบตาเดียว​ก็​เลื่อน​ถึงขีด​สูงสุ ด​ ก้าว​สู่ระดับ​ที่​แปด​

พลัง​วิญญาณ​ผืนดิน​นับไม่ถ้วน​ทะลัก​สู่ร่าง​เขา​อย่าง​บ้าคลั่ง​

พลัง​วิญญาณ​สี่ร้อย​กว่า​ล้าน​ดูรา​ยกระดับ​ขึ้น​ตามลำดับ​ พริบตาเดียว​ก็​เพิ่ม​เป็น​ห้า​ร ร้อย​ล้าน​ หกร้อย​ล้าน​ เจ็ด​ร้อย​ล้าน​ แปด​ร้อย​ล้าน​…

พลังงาน​ลึกลับ​ที่​ใช้ฟื้นฟู​ร่างกาย​ใน​อากาศ​เหมือน​สัมผัส​สถานการณ์​ทาง​นี้​ได้​ จึงไหล ลบ่า​มาหา​ร่างกาย​ของ​ลู่​เซิ่ง เพื่อ​ช่วย​ต้านทาน​ร่องรอย​การ​พังทลาย​ของ​กาย​เนื้อ​ให้​แ แก่​เขา​เพราะ​พลัง​วิญญาณ​ที่​แข็งแกร่ง​เกินไป​

ลู่​เซิ่งค่อยๆ​ ลืมตา​ขึ้น​ใน​ความ​มืดมิด​ ดวงตา​สาด​แสงสีเทา​แวบ​หนึ่ง​

‘นี่​คือ​ระดับ​ที่​แปด​แล้ว​…’ ดี​ปบลู​เริ่ม​เรียนรู้​ พลัง​อาวรณ์​หลาย​ล้าน​หน่วย​ไหล​ ออกมา​เป็นระยะ​

แต่​เขา​ไม่เสียดาย​แม้แต่น้อย​

เป็น​เพราะ​การ​ยกระดับ​แหล่งกำเนิด​แกนกลาง​อย่าง​พลัง​วิญญาณ​ มีส่วนช่วย​ต่อ​ร่าง​หลัก​ขอ อง​เขา​ไม่น้อย​เช่นกัน​ การ​แปลง​พลัง​ไปให้​ร่าง​หลัก​ก่อน​ออกจาก​โลก​ใบ​นี้​ไม่ได้​สิ้นเป ปลือง​เท่า​ตอน​ยกระดับ​กาย​เนื้อ​

เขา​ลุกขึ้น​ พลัง​วิญญาณ​กระจาย​ออก​ข้าง​ใต้เท้า​ แล้ว​กลายเป็น​จาน​วิชา​วิญญาณ​ ผลัก​สอง ง​เท้า​ของ​เขา​ให้​ลอย​ขึ้น​

ลู่​เซิ่งควบคุม​ทิศทาง​ ก่อน​โดด​เข้าไป​ใน​หลุม​ พุ่ง​ดิ่ง​ลง​ด้านล่าง​อย่าง​ผ่อนคลาย​

ใน​ความ​มืดมิด​เหมือน​มีแต่​แสงสีเทา​หรือ​พลัง​วิญญาณ​ที่​กระจาย​ออกจาก​ร่าง​เขา​เป็น​แหล ล่งกำเนิด​แสงเพียง​หนึ่งเดียว​

ไม่รู้​ว่า​ร่วง​ลง​ไปนาน​เท่าไร​ ลู่​เซิ่งก็​รู้สึก​ว่า​เท้า​หยุดนิ่ง​

ปุบ​!

เขา​กระโดด​ถึงพื้น​อย่าง​มั่นคง​

เป๊าะ

จากนั้น​ก็​ดีดนิ้ว​

แสงไฟกลุ่ม​หนึ่ง​พลัน​สว่าง​ขึ้น​ด้าน​หลังเขา​ ส่อง​สภาพแวดล้อม​รอบข้าง​

นี่​เป็น​ถ้ำกว้างใหญ่​สูงสิบ​กว่า​เมตร​ เหนือศีรษะ​คือ​หลุม​ที่​ใช้เข้ามา​ ส่วน​ด้านหน้า​ คือ​ทาง​เข้าถ้ำ​

ลู่​เซิ่งเดิน​เข้าไป​โดย​ไม่ลังเล​แม้แต่น้อย​

ใน​ถ้ำไม่มีแหล่งกำเนิด​แสงเช่นกัน​ แสงไฟที่​ลู่​เซิ่งใช้วิชา​วิญญาณ​จุด​ขึ้น​กลายเป็น​แสง งสว่าง​เพียง​หนึ่งเดียว​

พอ​เข้าไป​ใน​ถ้ำ สิ่งที่​เขา​เห็น​ในทันที​ก็​คือ​ประตู​โลหะ​สีดำ​ขนาด​ยักษ์​บาน​หนึ่ง​

สัตว์ประหลาด​สีดำ​ดุร้าย​ที่​คล้ายๆ​ มังกร​สอง​ตัว​ถูก​ฝังอยู่​กลาง​ร่อง​แยก​ประตู​หนึ่ง​ ซ้าย​หนึ่ง​ขวา​

ร่างกาย​ของ​สัตว์ประหลาด​เหมือน​มีตัวหนังสือ​เล็ก​ๆ

ลู่​เซิ่งเดิน​เข้าไป​ใกล้​อย่าง​ช้าๆ

ก่อน​จะพบ​ว่า​เขา​ไม่รู้จัก​ตัวหนังสือ​ชนิด​นี้​สัก​ตัว​เดียว​ กระนั้น​สิ่งที่​น่าประหลาด ด​ก็​คือ​ แค่​มอง​ตัวหนังสือ​ เขา​ก็​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ตัวหนังสือ​โดยไม่รู้ตัว​

‘ทำการ​ทดสอบ​แห่ง​ความมืด​สามอย่าง​ให้​สำเร็จ​ ประตู​จะเปิด​ออก​ในทันที​’

‘การ​ทดสอบ​แรก​ ณ ส่วนลึก​ของ​ถ้ำทางขวา​มีสัตว์ประหลาด​สีดำ​ดุร้าย​ซึ่งมีสามหัว​หก​กร​ มั น​มีปาก​ใหญ่​ที่​กิน​ไม่มีวัน​อิ่ม​ หาก​เอาชนะ​มัน​ได้​ จะได้รับ​ตราประทับ​ประตู​’

‘การ​ทดสอบ​ที่สอง​ ใน​ถ้ำอีก​แห่ง​หนึ่ง​มีกระจก​ที่​ไม่อาจ​ทำลาย​ทิ้ง​บาน​หนึ่ง​ ส่องกระจ จก​แล้ว​ตามหา​…’

ตูม​!

เสียง​ดังสนั่น​สะท้อน​ใน​ถ้ำอย่าง​บ้าคลั่ง​เหมือน​เสียง​ระเบิด​

ลู่​เซิ่งเดิน​เข้า​ช่อง​บน​ประตู​

ด้านใน​คือ​ธาร​ลาวา​สีแดง​ กลาง​ลาวา​มีแท่น​สีดำ​ตั้งอยู่​แท่น​หนึ่ง​

มังกร​สีดำ​ตัว​ใหญ่​ตัว​หนึ่ง​หมอบ​อยู่​บน​แท่น​

มังกร​ยักษ์​สีดำ​ที่​มีปีกค้างคาว​

มังกร​ดำ​พ่น​เปลวไฟ​สีแดงก่ำ​หยาบ​ใหญ่​ออกจาก​จมูก​เป็นระยะ​ มัน​เหมือน​จะรู้สึกตัว​เพราะ ะ​เสียง​ดังลั่น​เมื่อ​ครู่​ จึงส่าย​ศีรษะ​และ​คืบคลาน​ขึ้น​จาก​แท่น​อย่าง​หงุดหงิด​งุ่นง่า าน​

ดวงตา​มังกร​ที่​มีสีเหลือง​ขนาดใหญ่​คู่​หนึ่ง​เต็มไปด้วย​ริ้ว​เลือด​สีเหลือง​สีแดง​ มอง​ล ลู่​เซิ่งที่​เดิน​เข้ามา​

“แมลง​ที่​คิด​จะแย่งชิง​พลัง​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​อีก​ตัว​หรือ​นี่​” มัน​อ้า​ปาก​พูด ด​ภาษาภัยพิบัติ​ที่​ลู่​เซิ่งรู้จัก​

นอกจากนี้​สำเนียง​ภาษาภัยพิบัติ​ของ​มัน​ยัง​ทำให้​เขา​คุ้นหู​อยู่​บ้าง​

“จงสั่น​กลัว​เถอะ​! เจ้าแมลง​ต่ำต้อย​ มังกร​มาร​ผู้ยิ่งใหญ่​คัน​ทู​รา​ที่​มาจาก​โลก​มาร​น นิรันดร์​ จะมอบ​การทำลายล้าง​อันเป็น​นิรันดร์​ให้​แก่​เจ้าเอง​!”

ลู่​เซิ่งชะงัก​ สีหน้า​งุนงง​เล็กน้อย​

“โลก​มาร​นิรันดร์​บ้าบอ​อะไร​กัน​!? เจ้ามาจาก​เขต​ดาว​เขต​ไหน​ของ​โลก​มาร​สวรรค์​ล่ะ​ ระบ บบ​ดาว​ปร​ภพ​ หรือว่า​นคร​ตราชั่ง​ส่วนกลาง​ สำเนียง​เจ้าเป็น​สำเนียง​ของ​เขต​ระดับ​ล่าง​ขอ อง​นคร​ตราชั่ง​ ผล​เก็บเกี่ยว​ใน​ปีนี้​ของ​ที่นั่น​ยัง​ดี​อยู่​ใช่ไหม​ ข้า​จำได้​ว่า​ตอน​ข ข้า​ไป ได้ยิน​ว่า​มังกร​ดินดำ​ของ​ที่นั่น​แอบหนี​ไปสิบ​กว่า​ตัว​เพราะ​ทน​ชีวิต​เกษตร​ไม่ได ด้​ หรือว่า​…”

ลู่​เซิ่งหวน​นึกถึง​เรื่อง​ใน​นคร​ตราชั่ง​เมื่อ​ก่อนหน้านี้​ สายตา​ที่​มอง​ไปยัง​มังกร​ดำ ำ​ประหลาด​ขึ้น​กว่า​เดิม​

“มังกร​ดิน​ใน​ชนบท​อย่าง​เจ้าไม่ไปทำนา​! แต่​มาทำตัว​เป็น​มังกร​มาร​แห่ง​โลก​มาร​บ้าบอ​อะ ะไร​กัน​หา​!?” ลู่​เซิ่งปวดหัว​จี๊ด​

เขา​จ้องมอง​มังกร​ดำ​ที่​ตกตะลึง​ ไม่รู้​จะสรรหา​คำ​อะไร​มาด่า​ดี​

“อีก​อย่าง​นะ​ เจ้าไม่รู้จัก​หนังสือ​และ​เข้า​ไม่ถึงอารยธรรม​ใช่ไหม​ ชื่อ​คัน​ทู​รา​ใน​ภา าษาภัยพิบัติ​แปล​ว่า​ขี้หมา​นะ​…” ลู่​เซิ่งใช้สายตา​มอง​คนปัญญาอ่อน​มองดู​มังกร​ดำ​

“มังกร​ดิน​ที่​ชื่อ​ขี้หมา​อย่าง​เจ้านอน​อยู่​นี่​ บอกชื่อ​ตัวเอง​กับ​ทุกคน​ที่​เจอ.​..กล ลัว​คนอื่น​ไม่รู้​เหรอ​ไงว่า​ตัวเอง​ชื่อ​ขี้หมา​…?”

เวลานี้​มังกร​ดำ​ตัวสั่น​…

ไม่ใช่สั่น​เพราะ​ความโกรธ​ แต่​เป็น​เพราะ​ความ​อับอาย​และ​หวาดกลัว​!

“ช่างเถอะ​ เจ้าคง​ไม่รู้​ ความจริง​มังกร​ดำ​ใน​โลก​มาร​เป็น​สวะ​ยิ่งกว่า​เสีย​อี​ก.​..” ล ลู่​เซิ่งไม่อยาก​พูด​อะไร​ต่อ​แล้ว​

เขา​ไม่มอง​มัน​อีก​ หาก​แต่​เหยียบ​ลง​ไปบน​ลาวา​ เมิน​ความร้อน​ของ​มัน​ แล้ว​ลุย​ผ่าน​ไปอ อย่าง​แผ่วเบา​เหมือน​ลุย​น้ำ​

ส่วน​มังกร​ดินดำ​ตัว​นั้น​หด​คอ​ไม่กล้า​โงหัว​ขึ้น​มาอีกแล้ว​

พอ​ได้ยิน​ลู่​เซิ่งพูด​เป็น​ชุด​ มัน​ก็​รู้​ว่า​ตัวเอง​เตะ​ใส่แผ่น​เหล็ก​เข้า​แล้ว​ อีก​ท ทั้ง​สิ่งที่​บังเอิญ​ก็​คือ​ คน​ผู้​นี้​มาจาก​เขต​ดาว​เขต​เดียว​กับ​มัน​ ทั้ง​ยัง​มอง​สถาน นะ​ของ​มัน​ก่อน​มาที่นี่​ออก​ในทันที​อีก​

คัน​ทู​รา​ตกใจ​หวาดกลัว​ทันที​

หาก​ผู้ยิ่งใหญ่​ระดับ​นี้​คิด​จะสู้กับ​มัน​ ย่อม​ง่ายดาย​เหมือน​ปลอก​กล้วย​เข้า​ปาก​ ดังน นั้น​มัน​จึงหลีกทาง​ให้​ลู่​เซิ่งผ่าน​ไปอย่าง​รู้ความ​ทันที​

ก่อน​จะหลีกทาง​ มัน​ยัง​ใช้หาง​ปัด​ก้อนกรวด​บน​พื้น​ทิ้ง​ให้​อย่าง​ใส่ใจอีกด้วย​ จากนั้น​ ก็​มอง​ลู่​เซิ่งลุย​ลาวา​จากไป​ ในขณะที่​ส่าย​หาง​ไปมาเหมือน​สุนัข​สายพันธุ์​ปั๊ก​

ไม่นาน​เงาร่าง​ของ​ลู่​เซิ่งก็​หาย​ไปจาก​ส่วนลึก​ของ​ถ้ำ

มังกร​ดินดำ​โล่งอก​เล็กน้อย​

เปรี้ยง​!

ทันใดนั้น​ด้านใน​ก็​เกิด​เสียง​ดังสนั่น​ เสียงคำราม​อัน​อึงอล​ลอย​มาจาก​ด้านใน​ แต่​ร้อง​ ไม่ทัน​จบ​ ก็​ถูก​พลัง​บางอย่าง​สะกด​ไว้​

ไม่นาน​ก็​เงียบ​ลง​โดย​สมบูรณ์​

มังกร​ดินดำ​รู้​ทันที​ว่า​ ผู้​เฝ้าด่าน​ที่สอง​จบสิ้น​แล้ว​

ลู่​เซิ่งยืน​อยู่​บน​งูยักษ์​ที่​มีหน้าเป็น​มนุษย์​ มองดู​ประตู​แสงทรง​รี​ที่​บิดเบี้ยว​แ และ​หมุน​วน​ด้านหน้า​

ใน​ประตู​แสงเหมือน​สร้าง​จาก​การ​ปรับ​สีฟ้านับไม่ถ้วน​ให้​เข้ากัน​ เดี๋ยว​ก็​หมุน​ตามเข็ม มนาฬิกา​ เดี๋ยว​ก็​หมุน​ทวนเข็มนาฬิกา​ หมุน​เปลี่ยน​ทิศทาง​ไปเรื่อยๆ​

“ตรงนั้น​คือ​โลก​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​” งูหน้า​คน​จมูก​เขียว​หน้า​บวม​ ตา​ปูด​เหมือน น​ลูก​ท้อ​ หน้าซีก​หนึ่ง​ถูก​ต่อย​จน​กลายเป็น​หัวหมู​ ไม่เหลือ​เค้า​มนุษย์​อีกต่อไป​

เวลานี้​มัน​กำลัง​แนะนำ​สถานการณ์​ของ​ที่นี่​ให้​ลู่​เซิ่งฟังอย่าง​ว่าง่าย​

“มีแต่​ชีวิต​ที่​เคย​ตาย​ไปแล้ว​ครั้งหนึ่ง​เท่านั้น​ถึงจะเข้าออก​โลก​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลา ายล้าง​ได้​ ดังนั้น​ เกรง​ว่า​ท่าน​จะเข้าไป​ไม่ได้​แล้ว​…”

“งั้น​เหรอ​” ลู่​เซิ่งเอ่ย​อย่าง​แปลกใจ​ “ต้อง​ตาย​ครั้งหนึ่ง​หรือ​”

“ถูกต้อง​ แต่​ท่าน​คือ​เจ้านาย​ ไม่แน่​ว่า​จะมีวิธีการ​อื่นๆ​” งูหน้า​คน​รีบ​ตอบ​

มัน​มาจาก​โลก​มาร​นิรันดร์​หรือ​โลก​มาร​สวรรค์​เช่นกัน​

แต่​มัน​มีสถานะ​สูงส่งกว่า​หน่อย​ เป็น​บุตร​ของ​งูยักษ์​ตัว​หนึ่ง​ซึ่งถูก​เลี้ยง​ไว้​ใน​ร ร้าน​ขาย​ชาที่​พวก​องครักษ์​เฝ้าประตู​ของ​นคร​ตราชั่ง​ชอบ​ไป

หลังจาก​ถูกลู่​เซิ่งอัด​ไปยก​หนึ่ง​ มัน​ก็​ยอม​ศิโรราบ​อย่าง​เจียมตน​

ก่อน​จะทำตัว​เป็น​มัคคุเทศก์​แนะนำ​ทุกอย่าง​ให้​แก่​เขา​เอง​

“ต้อง​เข้าไป​ใน​โลก​ของ​เทพ​แห่ง​ความเจ็บปวด​เท่านั้น​ ถึงจะผ่าน​ด่าน​ที่สาม​แล้ว​กลายเป็ น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ที่​แท้จริง​ได้​ นี่​เป็น​กฎ​ที่​ธรรมชาติ​สร้าง​ขึ้น​” งูหน้า​คน​ อธิบาย​อย่าง​ระมัดระวัง​

‘จะต้อง​ตาย​ครั้งหนึ่ง​…ถึงจะเข้าไป​ได้​…’ ลู่​เซิ่งครุ่นคิด​ ‘ไม่แน่​ว่า​เรา​เอง​ก็​ น่าจะ​ได้​เหมือนกัน​ ลอง​เข้าไป​ดูก่อน​’

พอ​เขา​นึกถึง​ตรงนี้​ ก็​เหิน​ร่าง​บิน​ไปยัง​วังวน​สีฟ้าโดย​ไม่รีรอ​ทันที​

ยิ่ง​เข้าใกล้​ เขา​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ได้​ถึงกลิ่นอาย​ของ​พลัง​แห่ง​ความลี้ลับ​อัน​เข้มข้น​ที ​กระจาย​ออก​มาจาก​ใน​วังวน​อย่าง​ต่อเนื่อง​

‘เป็น​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​จริงๆ​…’ ลู่​เซิ่งเข้าใจ​แล้ว​ เป็นไปได้​ถึงขีดสุด​ ที่​การ ร​ที่​ต้อง​ตาย​ก่อน​สักครั้ง​ เป็นการ​ปรับเปลี่ยน​วิญญาณ​ที่​จักรวาล​และ​โลก​แห่ง​นี้​ดำเน นินการ​ เพื่อ​ต่อสู้​กับ​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​

มีจักรวาล​บางแห่ง​ที่​มีจิต​ของ​สิ่งมีชีวิต​ ซึ่งต้านทาน​พลัง​ที่​เป็นปัญหา​อย่าง​พลัง​แห ห่ง​ความ​รกร้าง​ได้​โดยสัญชาตญาณ​

การ​สร้าง​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ขึ้น​มา เพื่อ​ดูดซับ​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​แล้ว​เปลี่ยน​ใ ให้​กลายเป็น​พลังงาน​อื่น​ เป็น​วิธีการ​หนึ่ง​ใน​นี้​

และ​การ​ที่​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​จะเปลี่ยนเป็น​คน​ใหม่​ ทุกๆ​ ช่วงเวลา​หนึ่ง​ นั่น​ก็​เพ พราะ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ต้านทาน​ไม่ไหว​นั่นเอง​

แม้วิญญาณ​ของ​พวกเขา​จะมีความ​พิเศษ​ เป็น​วิญญาณ​ที่​ได้รับ​การคัดเลือก​ และ​จะมีคุณสมบัต ติ​ต้านทาน​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​ที่สูง​มาก​หลัง​ถูก​ปรับเปลี่ยน​

แต่​ก็​ทน​ได้​ไม่นาน​นัก​

“พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​…” ลู่​เซิ่งมอง​งูหน้า​คน​ข้าง​ใต้เท้า​อี​กรอบ​

ใน​ร่างกาย​ของ​มัน​เอง​ก็​มีกลไก​เปลี่ยนแปลง​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​ที่​คล้ายๆ​ กัน​อยู่​ด ด้วย​

น่าจะเป็น​ฝีมือ​ของ​จักรวาล​แห่ง​นี้​

‘น่าสนใจ​…’ ลู่​เซิ่งรู้สึก​เหมือน​ตน​ได้​แตะต้อง​กับ​การต่อสู้​ใน​ระดับชั้น​ที่สูง​กว่ า​เดิม​เข้า​แล้ว​

‘ถ้าบอ​กว่า​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​เป็น​เพียง​ผลผลิต​ที่​ใช้ต่อสู้​กับ​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้ าง​โดยเฉพาะ​ อย่างนั้น​จะกลายเป็น​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ได้​หรือไม่​ ก็​ไม่สำคัญ​แล้ว​’

เขา​สัมผัส​พลัง​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่​แผ่​ตลบอบอวล​อยู่​ใน​ถ้ำ พลังงาน​ชนิด​นี้​น่าจะ​อยู่​ใน​ ระดับ​เดียว​กับ​พลัง​เทพ​นอกรีต​

มัน​กำลัง​หักล้าง​พลัง​แห่ง​ความ​รกร้าง​ที่​โลก​ของ​เทพ​แห่ง​การทำลายล้าง​ปล่อย​ออกมา​ เพ พื่อ​ไม่ให้​อีก​ฝ่าย​ทำลาย​โลก​ใบ​นี้​มากกว่า​เดิม​

‘แต่​ใน​เมื่อ​มาแล้ว​ ก็​ควร​ใช้จุดเด่น​ของ​ที่นี่​ฝึก​สักหน่อย​ ลองดู​ว่า​จะยกระดับ​ได้​ ถึงขั้น​ไหน​’

ที่นี่​เป็น​สถานที่​ที่​ดี​แห่ง​หนึ่ง​ ครั้งนั้น​ลู่​เซิ่งใช้ความพยายาม​และ​เวลา​ไปไม่น้อ อย​เพื่อ​เอา​พลัง​เทพ​นอกรีต​มาครอง​

ตอนนี้​ที่นี่​มีพลัง​ลึกลับ​สำเร็จรูป​มารวมตัวกัน​มากมาย​ ถ้าไม่กิน​เยอะ​ๆ หน่อย​ ก็​เสีย ยที​ที่​อีก​ฝ่าย​ให้การ​ต้อนรับ​เขา​แล้ว​

พอ​เขา​มาถึงที่นี่​ก็​สัมผัส​ได้​อย่าง​เลือนราง​ว่า​ การ​จุติ​มายัง​โลก​ใบ​นี้​เหมือน​จะม มีร่องรอย​ที่​โลก​ใบ​นี้​คอย​จัดการ​อยู่​เบื้องหลัง​ ตั้งแต่​สถานะ​ใน​ตอนแรก​มาถึงกระบวนกา าร​ใน​ปัจจุบัน​

เขา​ประหลาดใจ​มาก​ แม้โลก​ทั้ง​ใบ​จะแข็งแกร่ง​อย่างยิ่ง​ แต่​มัน​ก็​เป็น​จักรวาล​พลังงาน​ สูงอย่าง​โลก​มาร​สวรรค์​เช่นกัน​

ส่วน​จิต​จักรวาล​ที่ว่า​ก็​ไม่มีทาง​จับตาดู​เขา​คนเดียว​ แต่​ควรจะ​จับตาดู​องค์ประกอบ​รวม ม​อย่าง​พวกเขา​มากกว่า​

จาก​การ​วิเคราะห์​ของ​โลก​มาร​สวรรค์​ จิต​จักรวาล​น่าจะเป็น​สิ่งที่​พร่ามัว​และ​เกี่ยวข้อ อง​กับ​ผลกระทบ​ใน​พื้นที่​ใหญ่​

เหมือนกับ​มนุษย์​ที่​ไม่อาจ​ควบคุม​เซลล์​ทั้งหมด​ใน​ร่างกาย​ตัวเอง​ได้​อย่าง​เป็นอิสระ​

พวกเขา​ทำได้​แค่​ออกกำลังกาย​ เพื่อ​ทำให้​ร่างกาย​ของ​ตัวเอง​แข็งแรง​และ​พัฒนา​ขึ้น​ใน​ทิ ศทาง​ใหญ่​ๆ เท่านั้น​

ไม่ใช่ว่า​พอ​อวัยวะภายใน​สัก​ส่วนหนึ่ง​เกิด​โรค​ขึ้น​ เรา​จะหยุด​ส่วน​นี้​ไว้​แล้ว​กระตุ้ น​ระบบ​ภูมิคุ้มกัน​มาทำลาย​มัน​ทิ้ง​ได้​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด