ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1406 เมื่อไรจะถึงคราวที่เจ้าทุกข์ใจ

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 1406 เมื่อไรจะถึงคราวที่เจ้าทุกข์ใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1406 เมื่อไรจะถึงคราวที่เจ้าทุกข์ใจ

หลังจากผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาแล้ว เดิมทีเจียงจื่อหยวนคิดว่าตนเองฝึกจิตมาดีแล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม ก็ยังไม่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

แต่หลังจากนางรออยู่ที่นี่มาเป็นเวลาสามวันสามคืน ในที่สุดนางก็อยู่ในสภาวะสิ้นหวังอีกครั้ง

นางไม่คิดเลยว่า พระราชวังเมฆาสวรรค์ที่นางสามารถเข้ามาได้ตั้งแต่เด็ก จะปิดประตูและกั้นนางไว้ด้านนอก!

อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความไร้ปรานี!

เจียงเห่อเทียนมีสีหน้าย่ำแย่ยิ่งกว่า

แต่ว่าเขาก็เคยเห็นผู้คนและผ่านเรื่องราวมามากมาย ดังนั้นจึงสงบกว่าเจียงจื่อหยวนมาก

เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า แล้วสาวเท้าก้าวเข้าไปด้านหน้า เดินเข้าไปถามผู้คุ้มกันว่า

“ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งยังไม่มาหรือ?”

ผู้คุ้มกันประสานมือ แต่สีหน้ากลับเย็นชาอย่างยิ่ง

“ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งงานยุ่งอย่างยิ่ง เขาจะกลับมาเมื่อไรนั้น พวกเราก็ไม่รู้”

เจียงเห่อเทียนจะมองไม่เห็นการกระทำที่ขอไปทีได้อย่างใด?

หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาจะกล้าแสดงท่าทางเช่นนี้นี้ได้อย่างใด?

แต่ว่าตอนนี้ พระชายาของพระราชวังเมฆาสวรรค์ถูกกำหนดแล้ว เจียงจื่อหยวนไม่ได้รับเลือก พวกเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องให้ความเคารพขนาดนั้นอีกต่อไป

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจียงจื่อหยวนถูกตัดชื่อออกจากสำนักหลิงเซียวดังกระฉ่อนไปทั่วแล้ว

ส่วนพระราชวังเมฆาสวรรค์ที่หลักแหลมขนาดนี้ จะต้องรู้มาก่อนอยู่แล้วแน่นอน

หากไม่ใช่เพราะเซียนสุ่ยหลิงเป็นหนึ่งในยี่สิบแปดเผ่าของพระราชวังเมฆาสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นที่หนึ่งในแผ่นดิน แต่ที่พวกเขามาในครั้งนี้ แม้กระทั่งโอกาสที่จะรอภายในยังไม่มี ถูกคนไล่ให้ออกมาโดยตรง!

เจียงเห่อเทียนเหลือบสายตามองเข้าไปด้านในอีกครั้ง

เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถามออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า

“พวกเจ้ารายงานว่าพวกเรามาอยู่ที่นี่แล้วหรือยัง?”

ผู้คุ้มกันขมวดคิ้วขึ้น

“ประมุขเจียงไม่เชื่อข้าหรือ?”

นี่เป็นการตั้งข้อสงสัยในพวกเขาอย่างโจ่งแจ้งใช่หรือไม่?

หัวใจของกระตุกวูบ แล้วรีบพูดขึ้นมาว่า

“เข้าใจผิดแล้ว ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งอาจจะกำลังยุ่งอยู่ละมั้ง… พวกเรารอต่อไปอีกหน่อยก็ได้”

หลังจากที่พูดจบ เขาก็ถอยหลังลงไปสองก้าว แล้วไปหยุดยืนอยู่ด้านข้าง

เมื่อเจียงจื่อหยวนเห็นฉากนี้ นางจึงกัดฟันจนฟันเกือบแตก

หากไม่ใช่เพราะนาง…

ท่านพ่อก็จะไม่ต้องมารู้สึกอัปยศอดสูเช่นนี้

“มีเรื่องอันใดกัน?”

ในตอนนั้นเอง เสียงที่เย็นชาและเคร่งเครียดก็ดังขึ้น

เจียงจื่อหยวนและเจียงเห่อเทียนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก จึงเงยหน้าขึ้นไปมอง!

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกำลังเดินออกมาจากม่านพลัง

คนผู้นั้นคือผู้อาวุโสอวี๋จิ้งที่พวกเขารอคอยมาอย่างลำบากยากเย็น!

“ผู้อาวุโสอวี๋จิ้ง…”

เจียงเห่อเทียนรีบเดินขึ้นไป และกำลังจะพูดขึ้น จากนั้นก็เห็นว่าผู้อาวุโสอวี๋จิ้งยกมือขึ้นมา

“ไม่ต้องมากความ เรื่องนี้ข้ารู้หมดแล้ว”

เมื่อเทียบกันแล้วน้ำเสียงของเขาเย็นชากว่าเมื่อก่อนไม่น้อย

แต่เมื่อเห็นเขาออกมาแบบนี้ สำหรับเจียงเห่อเทียนและลูกสาวของเขาแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจอย่างยิ่ง พวกเขาจะมาสนใจเรื่องอื่นอีกได้อย่างใด?

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งหันไปมองทางเจียงจื่อหยวนด้วยสายตาเคร่งเครียด

“เจ้าอยากจะเข้าไปในพระราชวังเมฆาสวรรค์เพื่อทบทวนตนเองหรือ?”

เจียงจื่อหยวนถูกมองจนเหงื่อเย็นๆ แตกพลั่ก พร้อมตอบรับเสียงต่ำ

“… เจียงจื่อหยวน ช่วงนี้เจ้า…ได้ทำความผิด และสร้างปัญหาให้กับทุกคนมากมาย ดังนั้น… เจ้าต้องทบทวนความผิดอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งรอท่านประมุขออกมาจากด่านฝึก”.

“ท่านประมุขปิดด่านฝึกมาหลายปีแล้ว ยังไม่รู้ว่าเขาจะออกมาเมื่อไร หากเจ้าไปในครั้งนี้… ก็ไม่รู้ว่าจะได้ออกมาเมื่อไร เจ้าแน่ใจหรือ?”

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งหรี่ตามอง

มือที่ประสานไว้ที่หน้าท้องของเจียงจื่อหยวนนั้นกำแน่น

หลังจากนั้นนางก็พูดขึ้นว่า

“ท่านประมุขให้ความรักต่อจื่อหยวนมาโดยตลอด นี่เป็นเรื่องที่จื่อหยวนสมควรทำอยู่แล้ว ท่านประมุขไม่ออกจากด่านฝึกหนึ่งวัน จื่อหยวนก็ไม่ออกจากเขาว่านจงหนึ่งวันเช่นกัน”

ภูเขาว่านจง เป็นสถานที่ที่ท่านประมุขปิดด่านฝึก

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งกวาดสายตามองเจียงจื่อหยวนขึ้นลงอยู่สักพัก

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็ไป…”

“โอ้ เหตุใดที่นี่ถึงคึกคักเช่นนี้เล่า?”

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงหนึ่งแฝงด้วยรอยยิ้มดังมาแต่ไกล

หลังจากพวกเขาได้ยินเสียงนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีไป

ชั่วพริบตาเดียว เงาร่างของชายคนนั้นก็ขยับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว

“คารวะผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก”

ผู้คุ้มกันทำความเคารพโดยพร้อมเพรียง

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหัวเราะขึ้นพร้อมโบกมือ สายตากวาดมองคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว แล้วถามขึ้นมาอย่างประหลาดใจ

“โอ้ ประมุขเจียง พวกเจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร? เหตุใดถึงไม่บอกล่วงหน้ากันล่ะ? ดูสิ เจ้าเดินทางมาไกลเช่นนี้ แต่ข้าไม่ได้เตรียมตัวต้อนรับอันใดเลย หากละเลยไปมันคงจะไม่ดี!”

ใบหน้าของเจียงเห่อเทียนเปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อย

คนผู้นี้มาได้อย่างใด!

อีกทั้งฟังจากคำพูดของเขา เหมือนเขาตั้งใจมาสร้างความวุ่นวายชัดๆ

เขาตั้งใจเปิดเผยความจริงให้กับผู้อาวุโสอวี๋จิ้งฟังเท่านั้น แล้วฉวยโอกาสก่อนที่เรื่องแพร่กระจายออกไป เข้าไปในพระราชวังเมฆาสวรรค์เสียก่อน

รีบเปลี่ยนไม้ให้กลายเป็นเรือ จะได้ไม่มีใครกระโดดออกมาคัดค้านได้

แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมาที่นี่แล้ว หากเจียงจื่อหยวนอยากจะเข้าไปในพระราชวังเมฆาสวรรค์ ก็เป็นเรื่องยากแล้ว

เขาหัวเราะออกมาอย่างฝืนๆ แล้วพูดว่า

“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมีธุระปะปังมากมาย ข้าไม่กล้ารบกวน พวกเราจึง… มาขอคำชี้แนะกับผู้อาวุโสอวี๋จิ้งแล้ว”

“เมื่อครู่นี้คนแก่อย่างข้าได้ยินพวกเจ้าพูดถึงท่านประมุข มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหัวเราะขึ้นแล้วพูดตัดบทเขา ก่อนจะเปิดเผยเรื่องราวนี้ทันที พร้อมมองไปทางเจียงจื่อหยวน

“เหมือนว่า… เรื่องนี้จะเกี่ยวกับเจ้าด้วย?”

ทั้งที่รู้ก็ยังถาม!

เจียงจื่อหยวนรู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ

ด้วยฐานะและฝีมือของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก เขาอยากจะรู้อันใด ก็สามารถรู้ได้ในทันที

เมื่อเขาพูดออกปากเช่นนี้ ก็มีแต่ตั้งใจทำให้นางลำบากใจและอับอายเท่านั้น!

แต่เจียงจื่อหยวนไม่กล้าพูดอันใดมาก นางจึงต้องพูดคำก่อนหน้านี้ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

แน่นอนว่า คำพูดของนางนั้น ทั้งเศร้าสร้อย น่าสงสาร และจริงใจอย่างมาก

“… เช่นนั้นก็หมายความว่า หลังจากนี้เจ้าจะอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์ตลอดไปหรือ?”

หลังจากนางพูดจบ ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็ถามขึ้นมา

เจียงจื่อหยวนสะอึกไป

คำพูดนี้ฟังดูแปลกประหลาดอย่างยิ่ง…

“หากท่านประมุขออกมาจากด่านฝึกโดยเร็ววัน เช่นนั้นจื่อหยวนก็สามารถ…”

“ท่านประมุขปิดด่านฝึกหลายปีแล้ว หากจะต้องรอไปอีกสิบปี ยี่สิบปี… อื้ม หากผู้เฒ่าอย่างข้าจำไม่ผิดแล้วละก็ จื่อ

หยวน ปีนี้อายุของเจ้า… ถึงวัยแต่งงานแล้วไม่ใช่หรือ? ช่วงวัยบานสะพรั่งจะหมดไปเช่นนี้ มันจะไม่กลายเป็นเรื่องที่สูญเปล่าหรือ?”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกทอดถอนหายใจออกมา

สีหน้าของเจียงจื่อหยวนเปลี่ยนเป็นน่าชมอย่างมาก!

แต่งงาน?

นี่ตั้งใจจะเยาะเย้ยนางว่านางไม่สามารถเป็นพระชายาได้อย่างใดหรือ?

หลายปีผ่านมานี้ ทุกคนต่างคิดว่า นางจะได้เป็นพระชายาแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้เป็นอันใดเลย!

เจียงจื่อหยวนหลุบตาลงต่ำ เพราะกลัวว่าเขาจะเห็นอารมณ์ที่พวยพุ่งออกมาจากในแววตาของนาง

นางกัดฟันกรอด แล้วพูดขึ้นว่า

“…เรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาไม่สามารถบังคับได้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องเหล่านี้สำหรับข้าเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องที่ประมุขจะออกจากการฝึก เรื่องนี้ไม่มีค่าพอให้พูดถึงด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นสิบปี ยี่สิบปี หรือว่าจะนานกว่านั้น ข้าก็สามารถรอได้!”

เพราะว่านี่คือทางออกเดียวของนางในตอนนี้!

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าจางหายไปเล็กน้อย

“ที่เจ้ายินดีทำเช่นนี้ ต้องดูว่าคนอื่นเห็นด้วยหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วพระราชวังเมฆาสวรรค์แห่งนี้… ก็ไม่ใช่ของตระกูลเจียง เจ้าว่าใช่หรือไม่?”

หัวใจของเจียงจื่อหยวนกระตุกวูบ จึงรีบอธิบายขึ้น

“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ข้าไม่ได้…”

“ยิ่งไปกว่านั้นท่านประมุขมีฐานะสูงส่งและพิเศษ เจ้าไปแล้ว… แล้วจะไปในฐานะอันใดเล่า?”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกลูบเคราของตนเอง

“ตอนนี้พระราชวังเมฆาสวรรค์อยู่ในความดูแลของพระชายา เรื่องทั่วไปนางจะเป็นคนจัดการ เจ้า… ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด