ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1407 ด้วยตนเอง / 1408 ภาพมายา

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 1407 ด้วยตนเอง / 1408 ภาพมายา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1407 ด้วยตนเอง / ตอนที่ 1408 ภาพมายา

ตอนที่ 1407 ด้วยตนเอง

นี่หมายความว่าจะไม่ให้นางเข้าไปหรือ!

เป็นไปได้อย่างใด?

ตอนนี้นางไม่มีที่ให้ไปแล้ว อีกทั้ง… ตระกูลเหลี่ยงจะต้องมาสร้างปัญหาให้นางเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน!

เจียงจื่อหยวนถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

“นี่… นี่เป็นคำพูดของซั่ง… พระชายาหรือ?”

ตอนที่นางถามออกไป นางตั้งใจมองไปทางผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก เพราะนางต้องการตามหาเบาะแสจากสีหน้าของเขา

เพราะความคิดของนางในก่อนหน้านี้นั้น ยังไม่ได้ถูกปฏิเสธทั้งหมด

นางมักจะรู้สึกว่าซั่งกวนเยว่ผู้นี้มีปัญหา

หรือว่าตอนนี้นางยังอยู่ที่พระราชวังเมฆาสวรรค์จริงๆ?

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน

“นี่เป็นคำพูดของผู้เฒ่าอย่างข้าเอง ท้ายที่สุดแล้วเรื่องเล็กน้อยแบบนี้…ไม่จำเป็นต้องรบกวนการบำเพ็ญเพียรของพระชายา ไม่ใช่หรือ?”

ร่างกายของเจียงจื่อหยวนสั่นสะท้าน

เรื่องเล็กน้อย…

เรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นความตายของนางในตอนนี้ สำหรับพวกเขาแล้ว กลับเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่มีค่าพอในการรบกวนซั่งกวนเยว่!

หึ!

ช่างน่าขัน!

หากไม่ใช่เพราะด้านข้างยังมีคนคอยจับตามองอยู่ เจียงจื่อหยวนก็อยากจะแค่นหัวเราะออกเสียงมา

หัวเราะให้กับซั่งกวนเยว่ที่อยู่สูงส่งคนนั้น และหัวเราะให้กับฐานะต้อยต่ำราวกับฝุ่นผงของตนเอง!

ในตอนนี้นางเพิ่งตระหนักได้อย่างชัดเจนเป็นครั้งแรกว่า… ตำแหน่งพระชายาของพระราชวังเมฆาสวรรค์ ถูกแม่นางคนนั้นยึดครองไปแล้วจริงๆ!

แค่การเรียกชื่อที่เรียบง่าย ก็สามารถแบ่งฐานะของพวกนางทั้งสองคนออกห่างจากกันอย่างชัดเจน!

ต่อให้นางไม่พอใจและภายในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่ตอนนี้ก็ทำได้เพียงมองไปยังอีกฝ่ายเท่านั้น!

หากอยากยืนในระดับที่เทียบเท่ากับอีกฝ่าย…

ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญความลำบากขนาดไหน!

“นางแค่อยากไปอยู่กับท่านประมุข ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพียงแค่ความกตัญญู ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก เหตุใดต้องสร้างความลำบากใจให้กับเด็กคนหนึ่งด้วย?”

ในที่สุดผู้อาวุโสอวี๋จิ้งที่ยืนอยู่ด้านข้างก็พูดขึ้น

เขายังมีความรู้สึกซับซ้อนต่อตระกูลเจียงอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ เจียงจื่อหยวนได้รับความรักและเอ็นดูจากท่านประมุข ทุกคนต่างคิดว่านางคือว่าที่พระชายาในอนาคต กอปรกับเซียนสุ่ยหลิงเป็นหนึ่งในยี่สิบแปดเผ่าที่มีฝีมือและรากฐานแข็งแกร่งมากที่สุด เขาจึงตีสนิทอีกฝ่าย และให้อีกฝ่ายมาใกล้ชิดกันมากขึ้น

แต่ใครจะรู้เล่าว่า ท่านประมุขปิดด่านฝึกแค่ไม่กี่ปี เจียงจื่อหยวนกลับไม่สามารถขึ้นตำแหน่งพระชายาได้ อีกทั้งตำแหน่งพระสนมนางก็ไม่ได้รับด้วยซ้ำ!

ยิ่งไม่ต้องพูดแล้วว่าตอนนี้นางได้ก่อเรื่องวุ่นวายมากมาย

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งก็ไม่อยากมีส่วนร่วมกับเรื่องเหล่านี้ แต่เขาติดต่อกับเซียนสุ่ยหลิงมาหลายปี อีกทั้งความสัมพันธ์ยังลึกซึ้งมาก

หากจะให้ยืนอยู่ด้านข้างไม่ยื่นมือเข้าไป ก็อาจจะทำให้ตระกูลเจียงลากเขาลงน้ำไปด้วย

เขาจึงต้องออกหน้าอย่างช่วยไม่ได้

เดิมทีมันก็ดีอยู่แล้ว หากเขาปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าไปก่อนหนึ่งก้าว คนอื่นก็ไม่สามารถพูดอันใดได้

แต่ใครจะรู้เล่าว่าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกจะปรากฏตัวออกมา!

อีกทั้งท่าทางของเขาเช่นนี้… เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วย!

“นั่นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ท่านประมุขเอ็นดูนางมากที่สุด ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่ง!”

“หากท่านออกจากด่านฝึกมา แล้วเห็นว่าเรื่องนี้ทำให้เจ้าต้องแต่งงานล่าช้า เขาจะยิ่งไม่ปวดใจกว่าเดิมหรือ?”

“ข้า…”

“ตามความคิดของข้าแล้ว เจ้าน่ะ ควรดูแลตนเองให้ดีก็พอ! เจ้าสบายดี ท่านประมุขจะมีความสุขอย่างแน่นอน!”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหัวเราะเสียงดังขึ้นกว่าเดิม คำพูดของเขาหนักแน่นอย่างยิ่ง ไม่อาจปฏิเสธได้

สีหน้าของคนที่อยู่ในที่นั้นเปลี่ยนสีไป

ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เจียงจื่อหยวนจะสบายดีได้อย่างใด?

นอกจากพระราชวังเมฆาสวรรค์ นางก็ไม่มีที่ให้ไปแล้ว!

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกต้องการจะบีบบังคับให้นางไปตาย!

ความกรุ่นโกรธที่อยู่ภายในใจของเจียงเห่อเทียนพวยพุ่ง แต่เขาไม่กล้าโมโหใส่ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกอย่างเปิดเผย ทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมหันไปมองทางผู้อาวุโสอวี๋จิ้งด้วยสายตาขอร้องอ้อนวอน

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งก็รู้สึกรำคาญอย่างมาก

“นางก็ต้อง…”

เจียงจื่อหยวนสาวเท้าเดินก้าวขึ้นไปด้านหน้าหนึ่งก้าว

“ในเมื่อผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดเช่นนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้น… ข้าขอเข้าพบพระชายาด้วยตนเอง และพูดคุยเรื่องนี้ต่อหน้า หากนางให้ข้าอยู่ ข้าก็จะอยู่ หากนางให้ข้าไป ข้าก็จะไป ไม่มีทางกล่าวคำยืดเยื้อ ท่านผู้อาวุโสมีความเห็นว่าอย่างใด?”

ตอนที่ 1408 ภาพมายา

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเหลือบสายตามองนางเล็กน้อย

สายตาราบเรียบ แต่กลับทำให้เจียงจื่อหยวนรู้สึกอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี

คนผู้นี้คือคนที่แข็งแกร่งเหนือใครในแผ่นดิน เหมือนเขากำลังเผชิญหน้ากับมดปลวกตัวเล็กจึงแสดงสีหน้าออกมา

เจียงจื่อหยวนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที

แม้ว่าจะไม่ได้มาจากตระกูลอันดับหนึ่งที่แท้จริง แต่หลายปีมานี้ นางได้รับความรักและความเอ็นดูมาโดยตลอด กอปรกับใบหน้าที่งดงาม พรสวรรค์ที่โดดเด่น นางจึงคิดว่าตนเองเป็นธิดาคนโปรดของสวรรค์

ทุกครั้งที่นางมาที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ นางจึงมีท่าทีหยิ่งผยองและสูงส่งเหนือใคร

นางไม่มีช่วงเวลาใดที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนเช่นนี้… ว่าเดิมทีตัวตนของนางนั้นต่ำต้อยกว่าทุกคนหนึ่งขั้น!

นางไม่ได้สูงส่งกว่าคนอื่นเลย!

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยพูดไปแล้วว่าเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องรบกวนพระชายา ข้าจัดการเองก็มีค่าเท่ากัน”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดขึ้นเสียงเบา

“แต่…”

เจียงจื่อหยวนอยากจะอธิบายเพื่อปกป้องตนเองอีกสักสามสองประโยค แต่เมื่อเห็นสายตาของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกที่มองมา

นางจึงเงียบเสียงลงอย่างกะทันหัน คำพูดติดอยู่ที่ลำคอ ไม่ว่าอย่างใดก็พูดไม่ออก

“หากคำนึงเรื่องไว้หน้ากันและกัน เรื่องบางอย่าง ข้าก็ไม่ได้พูดออกมาตามตรง แต่หากพวกเจ้ายังคงดื้อรั้น… ข้าก็ไม่จำเป็นจะต้องเกรงใจพวกเจ้าอีกต่อไป”

อาจจะเป็นเพราะคำพูดนั้นของเจียงจื่อหยวนทำให้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกขุ่นเคืองขึ้นมา

สีหน้าของเขามืดครึ้มลงไม่น้อย ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

“เจียงจื่อหยวน เรื่องที่เจ้าถูกไล่ออกจากสำนักหลิงเซียวดังกระฉ่อนไปทั่วเมืองแล้ว แต่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เจ้ากลับมาที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ เจ้ามาที่นี่เหตุใด… หรือเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”

นี่นางคิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่หรือไร?

สำนักหลิงเซียวเป็นสำนักอันดับหนึ่งของอาณาจักรเสิ่นซวี่ แม้ว่าจะสอบเข้าได้ยากมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะตัดชื่อศิษย์คนไหนออกด้วยเช่นกัน

หลายปีที่ผ่านมานี้ คนที่ถูกตัดชื่อออกล้วนเป็นคนที่กระทำความผิดจนไม่สามารถอภัยให้ได้ จึงต้องถูกไล่ออกจากสำนักไป

เหตุผลที่เจียงจื่อหยวนโดนตัดชื่อออกจากสำนัก สำนักหลิงเซียวไม่ได้ประกาศออกมา

แต่ถ้าคิดเล่นๆ ก็รู้ได้แล้วว่ามันจะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างแน่นอน!

ก่อนหน้านี้นางได้รับความนิยมอย่างมากภายในสำนักหลิงเซียว!

การที่จะทำให้สำนักหลิงเซียวตัดสินเช่นนี้ ก็สามารถจินตนาการได้เลยว่าเจียงจื่อหยวนนั้นไปทำอันใดมา!

คาดไม่ถึงว่าตอนนี้นางจะมีหน้ามาขอความคุ้มครองจากพระราชวังเมฆาสวรรค์?

ร่างกายของเจียงจื่อหยวนสั่นสะท้าน ริมฝีปากซีดขาวไม่มีสี

“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก”

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งขมวดคิ้วขึ้นมา

“บางครั้งหนุ่มสาวก็ทำความผิดเล็กน้อย นี่เป็นเรื่องปกติ แล้วอีกอย่างนาง…”

“ความผิดเล็กน้อย?”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหัวเราะออกมาเสียงดัง โดยไม่ปกปิดน้ำเสียงประชดประชันเลย

“ข้ากำลังอยากจะถามอยู่พอดีว่าเจ้าทำ “ความผิดเล็กน้อย” อันใดมาหรือ? ถึงสามารถทำให้ผู้อาวุโสตันชิงตัดขาดความเป็นศิษย์อาจารย์กับเจ้าได้?”

ต้องบอกก่อนว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ คนผู้นี้ดูแลเจียงจื่อหยวนเป็นอย่างดี!

แต่ว่าในตอนนี้เขากลับทำเช่นนี้มาได้…

มันจึงทำให้คนอื่นคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!

เจียงจื่อหยวนกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย

แต่น่าเสียดายที่นางไม่สามารถโต้เถียงได้เลยสักคำ

แน่นอนว่านางไม่สามารถพูดความจริงต่อหน้าสาธารณชนได้!

คำพูดเหล่านั้น ทำให้ชีวิตนี้ของนางจบสิ้นโดยสมบูรณ์!

“นี่มัน…”

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งก็พูดอันใดไม่ออกไปครู่หนึ่ง

“แต่ท้ายที่สุดแล้วนางก็เป็นคนของตระกูลเจียง อีกทั้งท่านประมุขก็ดีต่อนางมาโดยตลอด หากรู้ว่านางได้เผชิญสถานการณ์ดั่งเช่นตอนนี้ พวกเราจะยืนดูเฉยๆ ไม่เข้าไปช่วย… แล้วต่อไปเราจะอธิบายเรื่องนี้ต่อท่านประมุขอย่างใด?”

หลังจากครุ่นคิด เขาจึงทำได้เพียงยกท่านประมุขมาพูด

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหัวเราะออกมาหนึ่งคำ

“แน่นอนว่า… ก็ให้พวกเขาไปอธิบายเองน่ะสิ!”

คนเหล่านี้ทำความผิดแล้วยังจะมีข้อแก้ตัว?

“ยิ่งไปกว่านั้น… ตระกูลเจียง เป็นเพียงเผ่าที่อยู่ใต้อาณัติของพระราชวังเมฆาสวรรค์ไม่ใช่หรือ? เขาสามารถมาวางอำนาจบาตรใหญ่ที่นี่ได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? อวี๋จิ้ง วันนี้เจ้าช่วยเหลือพวกเขามากเกินไปแล้วละมั้ง?”

ขณะที่พูดผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็ใช้สายตาสำรวจอีกฝ่าย

ผู้อาวุโสอวี๋จิ้งถูกเขามองจนร่างกายรู้สึกชาหนึบ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว

“ข้าก็ทำเพื่อพระราชวังเมฆาสวรรค์ไม่ใช่หรือ? ท้ายที่สุดแล้วตระกูลเจียงก็เป็นหัวหน้าของทั้งยี่สิบแปดเผ่า ตอนนี้ท่านประมุขปิดด่านฝึก ฝ่าบาทก็ไม่อยู่ หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นมา…”

“ใครทำผิด คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ”

ท่าทีของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกแข็งกระด้างอย่างมาก

ทันใดนั้นเองความเงียบก็เข้าปกคลุม ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกัน

เจียงเห่อเทียนรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมา

ตำแหน่งของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกสูงกว่าผู้อาวุโสอวี๋จิ้ง หากอีกฝ่ายยืนกรานไม่ให้พวกเขาเข้าไปในพระราชวังเมฆาสวรรค์ เช่นนั้น… เกรงว่าหากมีผู้อาวุโสมาช่วยอีกสองสามคนก็ไม่มีหวัง!

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกหมุนตัวจากไป

เขาไม่มีเวลาให้กับเรื่องของคนเหล่านี้มากนัก

“ปิดม่านพลังซะ ถ้าไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามให้บุคคลภายนอกเข้ามาโดยเด็ดขาด”

“ขอรับ!”

ผู้คุ้มกันรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว

“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก! ได้โปรดช้าก่อน!”

เจียงจื่อหยวนเดินขึ้นมาด้านหน้าอย่างกะทันหัน

ขณะที่พูด นางก็ดึงของบางอย่างออกมาจากคอ แล้วกัดฟันพูดว่า

“ข้ามีตราลัญจกรของท่านประมุข!”

ทันใดนั้นอากาศบริเวณนั้นก็หยุดนิ่งไป

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกค่อยๆ หมุนตัวกลับมา มองเจียงจื่อหยวนอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เจ้าว่าอันใดนะ?”

เดิมทีเจียงจื่อหยวนไม่อยากจะเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะจะทำให้มีคนที่พัวพันเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก

แต่…

ในตอนนี้นางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!

นางกำตราลัญจกรนั้นเอาไว้ในมือแน่น แล้วพูดออกมาทีละคำ

“ข้า… ต้องการไปที่เขาว่านจง!”

สำนักหลิงเซียว

เขาเฝิงหมิน

ภายในเจดีย์ปกคลุมด้วยความเงียบ

เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านอย่างเชื่องช้า แม้กระทั่งเสียงสายลมอันแผ่วเบาก็ถูกซ่อนเอาไว้

ทุกสิ่งที่อยู่โดยรอบเหมือนถูกแช่แข็ง เหมือนว่ามีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเกิดขึ้น

ทันใดนั้นเองฉู่หลิวเยว่ก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง!

รูม่านตาดำขลับที่เหมือนหยกส่องประกายแวววาว เหมือนกับตะวันยอแสงที่อยู่ในดวงตาของอิสตรี ระลอกคลื่นพัดผ่านบางเบา แสงและเงาประสานกัน ทำให้รู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง

นางกะพริบตาปริบๆ ด้วยความมึนงง

เมื่อครู่นี้…

เหมือนมีแสงสว่างสายหนึ่งส่องประกายอยู่ “ตรงหน้า” ของนาง

แต่จะพูดเช่นนี้ก็ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อครู่นี้… นางหลับตาอยู่

แต่ลำแสงเล็กๆ นั้น นางก็มอง “เห็น” มันจริงๆ

เหมือนกับว่า… มีอันใดบางอย่างพัดผ่านเข้ามาในสมองของนาง!

ตอนที่นางลืมตาขึ้น ทุกอย่างกลับหายไป

ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วแน่น

นางไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน

แต่เพียงแค่ครั้งนี้ หลังจากนางมาอยู่ที่นี่แล้ว กลับรู้สึกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

อีกทั้ง…

นางรู้สึกว่าเมิ้งเหล่าไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้

นางพยายามควบคุมสีหน้าของตนเองให้สงบนิ่ง ก่อนจะกวาดสายตามองประตูทั้งหกบานที่อยู่ตรงหน้า

ทุกอย่างดูปกติ

เหมือนว่า… มันไม่เคยมีอันใดเกิดขึ้นมาก่อน

ฉู่หลิวเยว่หลับตาลงอย่างไร้เสียง

แต่หลังจากนั้นไม่นานลำแสงนั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง!

ในตอนนั้นฉู่หลิวเยว่ก็มั่นใจได้แล้วว่า ของสิ่งนั้นกำลังแทรกซึมเข้ามาในสมองของนางอย่างเงียบเชียบ!

ลำแสงนั้นเหมือนกับผีเสื้อโผบิน มันบินไปมา “ตรงหน้า” ของนาง เหมือนกับต้องการจะสื่ออันใดบางอย่าง

ในที่สุดฉู่หลิวเยว่ก็มองเห็นโครงร่างบางอย่างคลุมเครือ

ทันใดนั้นหัวใจของฉู่หลิวเยว่ก็เต้นระรัว!

เพราะว่า…

ลำแสงเหล่านี้กำลังวาดโครงร่างประตูบานหนึ่งภายในสมองของนาง!

เพียงแค่มองครั้งเดียวฉู่หลิวเยว่ก็มั่นใจว่านี่คือประตูบานที่นางเคยเข้าไป!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด