ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 682 ถูกขโมย

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 682 ถูกขโมย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 682 ถูกขโมย

เจียงอวี่เฉิงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ข้าก็มาดูตามปกติ พวกเจ้าออกไปเถิด”

“ขอรับ!”

เมื่อได้ยินดังนั้นองครักษ์ที่รับผิดชอบเฝ้าเวรยามก็จากไปทันที

เจียงอวี่เฉิงหยิบกุญแจออกมา แล้วเปิดประตูเข้าไป

“แกร่ก”

เจียงอวี่เฉิงเดินเข้าไปในห้อง จากนั้นก็หมุนกายปิดประตูลง

ภายในเรือนฉินยังคงเงียบสงบดังเดิม

เขากวาดสายตามองไปรอบๆ

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

เหมือนกับว่าไม่เคยมีเรื่องอันใดเกิดขึ้น

จนสุดท้ายสายตาของเจียงอวี่เฉิงก็หยุดลงที่กู่ฉินหลังนั้น

ตอนนี้สายเอ็นที่ขาดก็ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม

ภาพเหตุการณ์วันนั้นย้อนกลับเข้ามาในสมองของเขาอีกครั้ง ราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงค่อยๆ มืดครึ้มลง ก่อนจะถอนสายตาออกมา แล้วเดินเข้าไปนั่งตรงเก้าอี้ตัวข้างๆ

จากนั้นก็หลับตาลงพร้อมถอนหายใจออกมายาวๆ

เมื่อวานเขานอนไม่ค่อยหลับ ฝันร้ายติดต่อกันทั้งคืน

ต่างจากความเจ็บปวดที่อยู่ท่ามกลางกองเพลิงที่แผดเผาเหมือนอย่างหลายครั้งก่อน ในฝันของเขาครั้งนี้มีอากาศดีมาก ลมพัดเอื่อยๆ เดิมทีมันน่าจะเป็นฝันที่ดีมาก

นอกจากคนคนนั้นที่พูดประโยคนั้นออกมา

นางบอกว่า นางมีคนที่ชอบแล้ว

ในฝันนั้น เจียงอวี่เฉิงยังได้ยินเสียงตัวเองถามซ้ำไปซ้ำมาว่า คนคนนั้นคือใคร และได้ยินเสียงตนเองพูดย้ำๆ ว่า การแต่งงานครั้งนี้จะยกเลิกไม่ได้เด็ดขาด!

ความจริงแล้วเขากับซั่งกวนเยว่ยังไม่ได้ตกลงเรื่องการแต่งงาน

ทั้งสองฝ่ายต่างมีแค่ความตั้งใจเท่านั้น แต่ยังไม่ได้เริ่มทำอันใดสักอย่าง

ช้าหรือเร็วองค์หญิงใหญ่ก็ต้องขึ้นครองราชย์ และไม่ว่าอย่างใดก็ต้องมีงานแต่งงาน

ทั่วทั้งราชวงศ์เทียนลิ่ง มีชายหนุ่มหล่อเหลาจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมายปองนาง

แต่สุดท้ายนางก็เลือกเขา

บางทีอาจจะเป็นเพราะฐานะของท่านพ่อของเขา หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเขานั้นโดดเด่นในทุกด้าน

ทุกคนต่างพูดว่าเขากับองค์หญิงใหญ่นั้นเกิดความรักลึกซึ้งต่อกัน แต่เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เช่นนั้น

คนผู้นั้น

เกิดมาสูงส่ง สมบูรณ์แบบ และไร้ที่ติ

ยกเว้น…ไม่รักเขา

ดูไปแล้วองค์หญิงใหญ่นั้นทำดีกับเขาอย่างมาก แต่ความจริงแล้วนางล้วนทำดีกับทุกคน

ดังนั้นสำหรับเจียงอวี่เฉิงแล้ว เขาไม่ได้รับความพิเศษที่ตรงไหน

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย

แต่ไม่ว่าเขาจะทำอย่างใด เหมือนว่าจะมีอันใดบางอย่างที่มองไม่เห็นกั้นรอบตัวนางอยู่ชั้นหนึ่ง

มองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แต่มันมีอยู่จริง

เขาคิดว่าไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้ ไม่สามารถสัมผัสนางได้ ดังนั้นเขาจึงปลอบใจตัวเองที่ว่าหากเขาได้แต่งงานกับองค์หญิงใหญ่ เช่นนั้นเขาจะได้ใกล้ชิดกับองค์หญิงมากกว่าคนอื่นสักหน่อย

เป็นเช่นนั้นก็คงไม่เลว

แต่ในวันนั้น เขาได้รู้ว่าเขาคิดผิด

บนโลกนี้ยังมีคนที่สามารถเข้าไปในหัวใจของนางได้อย่างง่ายดาย

และคนคนนั้น…ไม่ใช่เขา

ในความฝันเขาจึงซักถามไม่หยุด ด้วยท่าทีที่ดุร้าย รุนแรง

แต่ในความจริงแล้ว ในวันนั้นเขาไม่ได้ทำแบบนี้

เขาเพียงแค่แปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามว่าคนผู้นั้นคือใครด้วยท่าทีสงบนิ่ง

แต่ในความเป็นจริง ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าคนคนนั้นคือใคร

สุดท้ายแล้วในวันนั้น เขาก็แค่หัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า

“ได้”

ท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้แต่งงานกับ…

เจียงอวี่เฉิงนวดหัวคิ้วของตัวเอง แล้วมองไปที่กู่ฉินครู่หนึ่ง

ทันใดนั้นเองแววตาของเขาก็สว่างขึ้น

เขารีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปที่ด้านข้างของกู่ฉิน

เมื่อมองเพียงแวบแรก ก็ดูเหมือนว่ากู่ฉินตัวนี้จะไม่มีอันใดเปลี่ยนแปลง

แต่ว่า…

หลังจากเจียงอวี่เฉิงจ้องมองด้านบนของกู่ฉินนั้นอยู่สักพัก

ตรงนี้…มีประกายแสงสีทองม่วงปรากฏขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร?

กู่ฉินหลังนี้ เขามานั่งมองมันแทบจะทุกครั้ง ไม่มีใครคุ้นเคยมันมากกว่าเขาอีกแล้ว

เขายังจำได้เป็นอย่างดี ด้านบนของกู่ฉินไม่เคยมีร่องรอยเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาก่อน!

อย่างน้อยครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้!

เขายื่นมือไปทางกู่ฉินหลังนั้น

ทันใดนั้นเองลมเย็นๆ สายหนึ่งก็พัดเข้ามาจากทางด้านหลัง!

เสียงระฆังดังขึ้นในใจของเขาทันที เขารีบลุกขึ้นยืน!

เงาร่างสีดำขนาดมหึมาก็พุ่งเข้ามา! ก่อนจะผลักเขาล้มไปทางด้านข้าง!

เขายังไม่ทันมองอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายมีรูปลักษณ์อย่างใด แต่ตัวของเขาก็ถูกเหวี่ยงลงพื้นแล้ว!

ในขณะเดียวด้านหลังตู้ตัวหนึ่งก็มีเงาคนสีดำปรากฏตัวขึ้น!

เจียงอวี่เฉิงเบิกตากว้างขึ้นทันที!

คาดไม่ถึงว่าเมื่อครู่นี้เขาไม่สามารถสัมผัสได้เลยว่าในห้องนี้ มีอีกคนหนึ่งที่แอบซ่อนตัวอยู่!

จากนั้นก็เห็นว่าเงาคนร่างสีดำนั้นกอดกู่ฉินหลังนั้นเอาไว้!

เจียงอวี่เฉิงพูดอย่างโมโห

“เจ้ากล้าหรือ!”

เขากลั้นหายใจ พร้อมพลิกตัวลุกขึ้น แล้วชักดาบออกมา!

หลังจากนั้นก็ฟันลงไปในดาบเดียว!

เขาลงดาบทันที!

แต่คาดไม่ถึงว่าเงาคนสีดำนั้นจะหายตัวไปจากที่เดิมแล้ว!

ดาบของเจียงอวี่เฉิง ฟันลงที่ความว่างเปล่า!

เขาตกใจอย่างมาก จึงรีบหันกลับไปมอง แต่เขาก็เห็นเพียงปีกนกขนาดใหญ่พัดผ่านสายตาของเขาไป!

และหลังจากนั้นมันก็หายวับไปทันที!

เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที!

เมื่อเจียงอวี่เฉิงได้สติขึ้นมา ภายในห้องนั้นก็มีเพียงเขาอยู่คนเดียวแล้ว!

เลือดภายในอกของเขามันพลุ่งพล่านขึ้น ตอนที่เงาสีดำขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาหาเขา ทำให้เขาได้รับแรงกระแทกอย่างแรง

แต่ในตอนนี้เขาจะมาสนใจเรื่องนั้นได้อย่างใด?

กู่ฉินถูกขโมยไปแล้ว!

แล้วยังถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตาเขา!

เจียงอวี่เฉิงไม่อยากจะเชื่อ!

“ใครก็ได้!”

เขาตะโกนขึ้นอย่างโมโห!

เมื่อองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งเข้ามาทันที

“คุณชายใหญ่! เกิดอันใดขึ้นหรือขอรับ?”

“เป็นอันใด? พวกเจ้าดูเอาเองว่าเกิดอันใดขึ้น!”

เจียงอวี่เฉิงกลืนเลือดที่กระอักลงคอ เพราะว่าเขาโมโหอย่างมาก ใบหน้าแดงก่ำ เส้นเลือดสีเขียวปูดโปนคล้ายจะระเบิด

หน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย

“ข้าสั่งให้พวกเจ้าเฝ้าเรือนฉินให้ดี แล้วดูสิ่งที่พวกเจ้าทำสิ! คาดไม่ถึงว่าจะมีคนเข้ามาอยู่ด้านในอย่างไร้เสียง!? เช่นนั้นมีพวกเจ้าไว้มันจะไปมีประโยชน์อันใด?”

องครักษ์ที่เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็ต่างตกใจอย่างมาก รีบคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว

“คุณชายใหญ่ ข้ายืนเฝ้าอยู่ที่นี่มาตลอด ไม่ได้ออกห่างจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว ไม่ได้ปล่อยใครเข้าไปแม้แต่คนเดียวเลยขอรับ!”

เจียงอวี่เฉิงนึกถึงภาพที่คนผู้นั้นหายตัวไปต่อหน้าต่อตาขึ้นมาได้

เหมือนว่าจะไม่มีระลอกคลื่นออกมาจากความว่างเปล่าเลย อีกทั้งยังหายตัวไปภายในชั่วพริบตา

ลักษณะเช่นนั้น…เหมือนว่าจะไม่ได้ใช้วิธีธรรมดาทั่วไป

“พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าคอยเฝ้าอยู่ที่ด้านนอกประตูตลอด ไม่มีใครเข้าไป และไม่สังเกตเห็นถึงความเคลื่อนไหวใดๆ?” เจียงอวี่เฉิงถามขึ้นด้วยเสียงเคร่งเครียด

เหล่าองครักษ์ต่างตัวสั่นงันงก

“สิ่งที่ข้าน้อยพูดเป็นความจริงทุกประการขอรับ!”

เมื่อเห็นสีหน้าตกใจและหวาดกลัวของเหล่าองครักษ์ เจียงอวี่เฉิงก็เชื่อขึ้นมาหลายส่วน

แต่ว่า…หากเป็นเช่นนี้ ถ้าหากจะจับตัวคนร้ายให้ได้ละก็ เกรงว่าจะต้องยากกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

แล้วก็ปีกนกสีดำขนาดมหึมานั้น…

เหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นสัตว์อสูรที่มีลักษณะเช่นนั้นมาก่อน…

“พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด! เรื่องวันนี้ห้ามเจ้าพูดออกไปแม้แต่เพียงครึ่งคำ!”

เจียงอวี่เฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าย่ำแย่

องครักษ์ทั้งหลายต่างมองหน้ากัน

คุณชายใหญ่โมโหตั้งขนาดนั้น แล้วจะปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้น่ะหรือ?

เจียงอวี่เฉิงเหลือบสายตามองพวกเขา

“เหตุใด ฟังไม่รู้เรื่องหรือ?”

“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ!”

เมื่อพูดจบ องครักษ์เหล่านั้นก็รีบจากไปทันที

รอจนพวกเขาจากไปแล้ว เจียงอวี่เฉิงจึงมองไปยังตำแหน่งที่เคยวางกู่ฉินเอาไว้

ตอนนี้มันว่างเปล่าแล้ว

ทุกคนต่างรู้ว่า เรือนฉินที่สวนเทพเนรมิตนั้นเป็นสถานที่หนึ่งในไม่กี่ที่ที่องค์หญิงใหญ่โปรดปราน ถ้าข่าวกู่ฉินโดนขโมยแพร่กระจายออกไป จะต้องมีคนใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายนี้แน่

เมื่อถึงตอนนั้นเขาที่ทำหน้าที่เฝ้าเรือนฉินอยู่ตลอด จะต้องตกเป็นเป้าหมายของประชาชนอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตนเอง!

เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เหลือบสายตามองเหล่าองครักษ์ พร้อมจิตสังหารที่สว่างขึ้นในแววตา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด