ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 747 ฆ่านางเสียก็สิ้นเรื่อง

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 747 ฆ่านางเสียก็สิ้นเรื่อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 747 ฆ่านางเสียก็สิ้นเรื่อง

มือของซั่งกวนหว่านคว้าคอของฉู่หลิวเยว่เอาไว้อย่างแรง

ราวกับว่าแค่บีบเบาๆ ลำคอเรียวงามก็สามารถหักลงได้แล้ว และสามารถคร่าชีวิตของฉู่หลิวเยว่ลงได้ทันที!

ร่างของฉู่หลิวเยว่ถูกปกคลุมด้วยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัว จนทำให้นางไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อยเลย

ในแววตาของถวนจื่อมีประกายความอาฆาตแค้น มันรีบพุ่งเข้ามาทันที!

ซั่งกวนหว่านเงยหน้าขึ้นไปมอง ถวนจื่อด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ตาข่ายขนาดยักษ์ที่มันเพิ่งจะสลัดออกมา กลับขวางทางอยู่ด้านหน้ามันอีกครั้ง!

และเห็นได้ชัดว่าตาข่ายนี้ได้รับการซ่อมแซมแล้ว คาดไม่ถึงว่ามันจะหนาแน่นมากกว่าเดิมเสียอีก!

ความเร็วของถวนจื่อลดลง

อย่างใดก็ตาม ระยะห่างของซั่งกวนหว่านและฉู่หลิวเยว่ก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ

เล็บที่ตัดแต่งอย่างประณีตของซั่งกวนหว่านก็ข่วนลงผิวของฉู่หลิวเยว่จนเป็นรอย!

ทันใดนั้นพลังก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง

ในที่สุดใบหน้าของซั่งกวนหว่านก็แตกระแหง!

นางถอยไปด้านหลังด้วยความตกใจ แต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง!

“มิน่าล่ะเจ้าถึงกล้ากำเริบเสิบสานขนาดนี้…ที่แท้เพราะเจ้ามีไพ่ตายเช่นนี้นี่เอง!”

ปราณที่ปรากฏขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเป็นปราณของจอมยุทธ์ระดับเก้าขึ้นไป!

ภายในร่างกายของฉู่หลิวเยว่ คาดไม่ถึงว่าจะซ่อนพลังที่แข็งแกร่งระดับนี้อยู่!

แม้ว่าน้ำเสียงของซั่งกวนหว่านจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่มันก็ไม่ค่อยเหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้ ราวกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน

เมื่อไม่มีแรงกดดันและแรงควบคุมของนางอยู่ ฉู่หลิวเยว่ก็ตกลงมาจากกลางอากาศ

เมื่อเท้าทั้งสองข้างของนางเหยียบลงพื้นอีกครั้ง นางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้งว่า

“ขอบคุณเจ้าค่ะองค์ไท่จู่!”

นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น องค์ปฐมกษัตริย์จะลงมือด้วยตัวเอง

องค์ปฐมกษัตริย์ไม่ได้พูดอันใด แต่ก็คอยปกป้องฉู่หลิวเยว่อย่างแน่นหนาเคอยเปกป้องเ

ซั่งกวนหว่านมองมาที่ฉู่หลิวเยว่อย่างสงสัย

ฉู่หลิวเยว่ก็เงยหน้ามองฝ่ายตรงข้าม

ครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายต่างมองหน้ากันอย่างเงียบๆ

อากาศที่ควบแน่นทำให้ดูเหมือนจะหายใจไม่ออก

หากดูอย่างผิวเผินจะเห็นว่านี่เป็นการต่อสู้ของฉู่หลิวเยว่และซั่งกวนหว่าน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น

ทันใดนั้นท่ามกลางความว่างเปล่าก็มีระลอกคลื่นเกิดขึ้น!

ซั่งกวนหว่านรีบหันหน้าไปมอง! สีหน้าเย็นชามากขึ้น!

เหตุการณ์นี้จะให้คนอื่นเห็นไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

ขณะที่นางกำลังจะเคลื่อนไหว ทันใดนั้นที่ข้างหูของนางก็มีเสียงดังขึ้น

“แกร๊ก”

เหมือนว่า…มีเสียงอันใดแตก?

ฉู่หลิวเยว่มองลงไป

ทันใดนั้นก็เห็นว่าที่ช่องว่างของแท่นหินมีรอยแตกระแหงเกิดขึ้น

ฉู่หลิวเยว่เองก็เห็นภาพนี้เข้าเหมือนกัน

แต่ความจริงแล้วนางรู้อยู่ตั้งนานแล้วว่าด้านล่างมีรอยแตก เพียงแต่ตอนนี้มันขยายกว้างขึ้นก็เท่านั้น

“แกร๊ก”

รอยแตกนั้นค่อยๆ กระจายไปโดยรอบอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ความไม่สบายใจของฉู่หลิวเยว่ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

นางรีบเรียกให้ถวนจื่อบินกลับมา

มือข้างหนึ่งเพิ่งสัมผัสคอของถวนจื่อ ทันใดนั้นแสงสีเขียวก็พวยพุ่งออกมาจากรอยแยก!

หลังจากนั้นแท่นหินนั้นก็เต็มไปด้วยรอยร้าว! และเริ่มพังทลายในที่สุด!

ในขณะเดียวกันนั้นเองรากไม้ที่อยู่ด้านบนก็ค่อยๆ หล่นลงมา! พุ่งเข้าใส่พวกนางทั้งสองคน!

ฉู่หลิวเยว่รีบกระโดดขึ้นหลังของถวนจื่อ!

และในตอนนั้นเองแท่นหินทั้งหมดก็ได้พังทลายลงมาแล้ว!

แสงสีเขียวเข้มส่องสว่างไปทั่วพื้นที่!

แรงดึงดูดที่น่าหวาดกลัวก็พุ่งออกมาจากด้านล่าง!

เท้าของซั่งกวนหว่านเหยียบลงที่ความว่างเปล่า จากนั้นนางก็ล้มลงทันที! พริบตาเดียวนางก็โดนดูดกลืนลงไปแล้ว!

แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง รากไม้เส้นหนึ่งก็กวัดแกว่งไปมาที่ด้านข้างของฉู่หลิวเยว่! และต้องการจะคว้าข้อเท้าของนางเอาไว้!

ฉู่หลิวเยว่ต้องการจะปกป้องตัวเอง แต่ทันใดนั้นนางก็พบว่านางไม่สามารถโคจรพลังดั้งเดิมที่อยู่รอบกายของตัวเองได้!

พลังขององค์ปฐมกษัตริย์เองก็เป็นเหมือนกัน!

ในช่วงเวลาที่มึนงง ซั่งกวนหว่านก็คว้าตัวของฉู่หลิวเยว่เอาไว้

จากนั้นก็ออกแรงดึง!

เรื่องราวเหล่านั้นมันเกิดขึ้นเร็วมาก ก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะตอบสนองได้ทัน นางก็ถูกซั่งกวนหว่านดึงลงไปแล้ว!

ฉู่หลิวเยว่ยกขาขึ้นจากนั้นก็ถีบไปที่ซั่งกวนหว่านอย่างแรง!

ใบหน้าของซั่งกวนหว่านถูกเตะอย่างแรง! จนทำให้ฟันหลุดไปสองสามซี่!

ในช่วงเวลาที่ตื่นตระหนกของนาง ตอนนั้นนางจึงใส่เสื้อเกราะทันเท่านั้น จนลืมใส่หมวกไปเสียสนิท

แต่นางก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว!

ตราบใดที่นางไม่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหรือใบหน้า นางก็สามารถลากฉู่หลิวเยว่ลงไปด้วยอย่างสบายๆ !

ภายใต้แสงสีเขียวนั้น ทั้งสองคนจะไม่สามารถใช้ปราณดั้งเดิมได้เลย จึงต้องอาศัยเพียงการต่อสู้แบบประชิดตัวเท่านั้น!

สายตาของซั่งกวนหว่านโหดเหี้ยมอย่างมาก และจับข้อเท้าของฉู่หลิวเยว่แน่นไม่ยอมปล่อย จากนั้นก็ออกแรงดึงอย่างแรง!

ฉู่หลิวเยว่ล้มลง!

ปีกทั้งสองของถวนจื่อสยายขึ้น มันใช้กรงเล็บข่วนซั่งกวนหว่านอย่างโมโห!

กรงเล็บที่แหลมคมข่วนใบหน้าของซั่งกวนหว่านในทันที!

รอยข่วนเพียงไม่กี่รอยแต่ดูแล้วน่าตกใจอย่างมาก! เพราะมันลึกถึงกระดูก!

ซั่งกวนหว่านกรีดร้องเสียงแหลม ในตอนที่กำลังคิดจะหาวิธีโต้ตอบ แต่ถวนจื่อก็รีบบินไปหาฉู่หลิวเยว่ก่อนแล้ว!

เรื่องช่วยคนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด!

ส่วนซั่งกวนหว่าน…ถ้าได้เจอกันวันหน้า เขาจะต้องเอาคืนอย่างสาสม!

ร่างของถวนจื่อหายตามฉู่หลิวเยว่ไปในลำแสงสีเขียวที่อยู่ด้านล่าง

ซั่งกวนหว่านกอดรากไม้เอาไว้แน่น เพราะกลัวว่าจะผลัดตกลงไปถ้าไม่ระวัง

ไม่มีใครรู้ว่าด้านล่างมันจะมีอันใดบ้าง?!

และในตอนนั้นเองความว่างเปล่ากลางอากาศก็ถูกแหวกออก!

เงาร่างของคนสองคนก็เดินตามกันออกมา!

นั่นคือฉินอีและเชียงหว่านโจว!

อักขระยันต์สีดำที่อยู่ตรงกลางหน้าผากของซั่งกวนหว่านก็หายไปทันที!

ใบหน้าที่เย็นชาไร้อารมณ์ของนางก็ค่อยๆ จางหายไป ตอนนั้นสีหน้าของนางก็กลับมาโมโหระคนโกรธแค้นอีกครั้ง

ตัวนางสั่นสะท้าน

เมื่อครู่…

เมื่อครู่นางถูกคนผู้นั้นควบคุมร่างกายใช่หรือไม่?

“นางอยู่ที่นี่…”

เชียงหว่านโจวพูดขึ้น ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่ภาพเหตุการณ์ที่อยู่ด้านหน้า แววตาดูตกใจอย่างมาก จากนั้นเสียงก็หยุดลงทันที

ฉินอีนั้นมีปฏิกิริยาตอบรับเร็วกว่าเขา

ตอนที่เห็นว่าแท่นหินที่อยู่ตรงกลางพังทลาย พร้อมแสงสีเขียวที่ดูน่าอันตรายลอดผ่านมา เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จากนั้นเขาก็รีบสาวเท้าเข้าไปโดยเร็ว

สุดท้ายเขาก็เห็นเพียงซั่งกวนหว่านที่ปีนขึ้นมาอย่างยากลำบาก!

นอกจากนางแล้ว รอบข้างไม่มีใครอยู่เลย!

ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้อยู่ที่นี่!

สายตาของฉินอีมองไปยังเหวลึกด้านล่าง

นอกเสียจากแสงที่สบตาแล้ว เขาก็มองไม่เห็นอันใดเลย!

เขาแค่ยืนอยู่ที่ด้านข้างก็เหมือนกำลังถูกดูดกลืน!

“นางล่ะ?!”

เชียงหว่านโจวเดินตามขึ้นมา แล้วจ้องไปที่ซั่งกวนหว่านตาเขม็ง ก่อนจะถามขึ้นเสียงเย็น!

ซั่งกวนหว่านจำทั้งสองคนนี้ได้ นางกัดฟันพูดตอบว่า

“พวกเจ้ามาก็ดีแล้ว รีบช่วยข้าออกไปเร็ว!”

น้ำเสียงของเชียงหว่านโจวเย็นชาขึ้นกว่าเดิม

“ข้าถามว่านางล่ะ?”

ซั่งกวนหว่านจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้

“เจ้ากำลังพูดอันใดอยู่? นางคือใคร? ที่นี่มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้น! พวกเจ้ารีบลากข้าลงไปเร็วเข้าสิ!”

หากอาศัยเพียงแค่พละกำลังของตัวนางเองไม่มีทางยืนหยัดอยู่ได้นาน ดังนั้นจึงต้องยืมแรงคนนอกมาช่วยนางออกไป

จิตสังหารของเชียงหว่านโจวทะลักออกมา!

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าที่นี่ยังมีปราณของฉู่หลิวเยว่หลงเหลืออยู่!

ก่อนหน้านี้นางต้องเคยอยู่ที่นี่มาก่อนอย่างแน่นอน!

เมื่อเห็นท่าทางจนตรอกของซั่งกวนหว่านแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกนางเพิ่งต่อสู้กันอย่างดุเดือดมา!

พรึ่บ!

เชียงหว่านโจวหยิบกระบี่ออกมา!

เปลวเพลิงนกยูงสีฟ้าปรากฏขึ้น!

กระบี่เทพเมฆาสำริดปรากฏอยู่ที่กลางฝ่ามือของเขา! ทันใดนั้นเขาก็ฟันลงไปที่รากที่ซั่งกวนหว่านเกาะอยู่!

ในเมื่อซั่งกวนหว่านไม่ยอมพูดความจริง เช่นนั้น…

ก็ฆ่านางเสียก็สิ้นเรื่อง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด