ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 870 ล้มเหลวแล้วหรือ

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 870 ล้มเหลวแล้วหรือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 870 ล้มเหลวแล้วหรือ

ผู้อาวุโสอีกห้าคนคุกเข่าลงและพูดพร้อมกันว่า

“เรียนเชิญองค์หญิงสามหยิบคทา!”

ซั่งกวนหว่านมองไปยังคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งที่ลอยอยู่เหนือผลึกสีดำ พลันหายใจเข้าลึกๆ และเดินไปข้างหน้าช้าๆ

และในที่สุด นางก็ยืนห่างจากคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเพียงหนึ่งก้าว

ผู้คนทั้งหมดล้วนเงียบเสียงเพื่อดูฉากนี้

ขอเพียงแค่ซั่งกวนหว่านหยิบคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งได้สำเร็จ นางก็จะสามารถขึ้นครองบัลลังก์ในฐานะจักรพรรดิได้อย่างราบรื่น! จากนี้ไปนางก็จะเป็นผู้ควบคุมอำนาจทั้งหมดของราชวงศ์เทียนลิ่ง!

ตึกตัก!

ตึกตัก!

หัวใจของซั่งกวนหว่านเต้นดังถี่รัว! จนแก้วหูแทบแตก!

ร่างกายของนางร้อนผ่าวเสมือนว่าโลหิตในกายกำลังเดือดปุดๆ พลันแล่นพุ่งไปตามแขนขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!

ฝ่ามือของนางเหงื่อออกเพราะความกังวลที่เพิ่มมากขึ้น มือทั้งสองเปียกชุ่มและเหนียวเหนอะหนะ

คทาสวรรค์หนักหนึ่งหมื่นจุน!

คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งถือเป็นภาระอันหนักอึ้ง!

อีกทั้งแรงกดดันของพลังปราณที่อยู่ในนั้น ก็ทรงพลังเสียยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด!

และมันคือสิ่งสุดท้ายที่องค์ไท่จู่ทิ้งไว้ในตอนนั้น!

อย่างใดก็ตาม อย่าว่าแต่การหยิบยกมันขึ้นมาเลย แค่ยืนอยู่ต่อหน้ามันในตอนนี้ ซั่งกวนหว่านก็รู้สึกแน่นหน้าอกจนแทบจะทรุดลงกับพื้น!

การที่จะหยิบมันขึ้นมานั้น แค่ใช้พละกำลังอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ เพราะผู้ที่หยิบยกจะต้องมีสายเลือดของราชวงศ์เทียนลิ่งด้วย!

และสิ่งที่สำคัญที่สุด ผู้หยิบยกจักต้องได้รับการยินยอมจากคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง!

นี่คือเกณฑ์ที่รัชทายาทแห่งราชวงศ์เทียนลิ่งจะต้องข้ามผ่านให้ได้!

ซึ่งหากทำสำเร็จ นางก็จะกลายเป็นผู้คุมอำนาจสูงสุดที่อยู่เหนือผู้คนนับหมื่น!

แต่ถ้าล้มเหลว… นางจะกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งโลก และจะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตอย่างสง่าผ่าเผยอีกเลย!

ซั่งกวนหว่านพยายามปลอบประโลมตัวเองในใจ

นางทำได้… นางทำได้แน่นอน!

เพื่อวันนี้ นางได้เตรียมการทุกอย่างไว้อย่างดี มันจะไม่มีทางล้มเหลวแน่นอน!

ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน ท้องฟ้าสีครามแจ่มใส ไร้ซึ่งเมฆหมอกบังตา

ความร้อนแรงของแสงสุริยันสาดส่องลงมาใส่นางโดยตรง

ทำให้ซั่งกวนหว่านตอนนี้ได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน!

และในที่สุด นางก็ค่อยๆ ยื่นมือออกไป ก่อนจะเอื้อมไปคว้าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนั้น…

หึ่ง!

ทว่าในขณะที่นางอยู่ห่างจากคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเพียงครึ่งแขน ก็มีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้นจากด้านบน!

พลันชั้นแสงเรืองรองที่ปกคลุมที่ด้ามคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง ก็เปล่งแสงสว่างจ้ายิ่งขึ้น!

ซั่งกวนหว่านเป็นคนแรกที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังนี้ นางตกใจจนเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว!

นางตื่นตระหนกสุดขีด แต่ก็รีบทรงตัวกลับมายืนตรงอย่างรวดเร็ว สองเท้าทิ้งน้ำหนักลงบนพื้นด้วยความมั่นคง!

โชคดีที่นางตอบสนองได้ทันท่วงที การตื่นตูมเพียงครั้งหนึ่ง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อนางมากนัก

แต่สุดท้ายภาพถอยหลังหนึ่งก้าวนั้น ก็ตกอยู่ในสายตานับร้อยที่จับจ้องมองมาอยู่ดี!

ชั่วขณะหนึ่ง ทั่วทั้งจัตุรัสกว้างเงียบกริบลงกว่าเมื่อครู่มาก!

ต้องรู้ว่าตอนนี้ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังจับตามองการแสดงทั้งหมดของซั่งกวนหว่านนั้นอยู่!

ผู้อาวุโสเฉินเค่อผู้เป็นโฆษกในพิธีนี้เองก็พลอยขมวดคิ้วเช่นกัน

เขาเป็นผู้อาวุโสที่อายุมากที่สุด ในบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดของราชวงศ์ และเป็นผู้อาวุโสที่รับใช้ราชวงศ์มาถึงสามยุคสามสมัย

เขาได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วถึงสามครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่

ในความทรงจำของเขา ดูเหมือนว่าพิธีขึ้นครองราชย์สามครั้งแรกจะเป็นไปอย่างราบรื่น

คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งคือสัญลักษณ์แห่งอำนาจของจักรพรรดิ และยังเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นจุดศูนย์รวมของราชวงศ์ทั้งหมด อีกทั้งยังมีจิตวิญญาณสถิตอยู่ด้วย!

ในพิธีการยกคทาเมื่อครั้นในอดีต แน่นอนว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งจักระเบิดพลังปราณออกมา แต่โดยปกติมันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ รัชทายาทพยายามหยิบมันขึ้นมาจากผลึกสีดำเท่านั้น

ทว่าเมื่อครู่ มือของซั่งกวนหว่านยังไม่ทันจะแตะโดนคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง กลับเกิดความโกลาหลขึ้นแล้ว…

ผู้อาวุโสเฉินเค่อรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย และสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ในใจของซั่งกวนหว่านรู้ดีว่ามันอันตรายขนาดไหน เมื่อครู่นี้นางเกือบจะล้มลงไปแล้วด้วยซ้ำ!

แต่ดูเหมือนคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งด้ามนี้ จะควบคุมยากกว่าที่คิด

แค่เข้าใกล้มันยังยากขนาดนี้ ไม่รู้เลยว่าถ้านางยกมันขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็…

นางเม้มปากแน่น ก่อนจะรวบรวมพลังปราณดั้งเดิมในร่างกายขึ้นมาไว้ที่มือขวา!

พลันก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง!

ทว่าคราวนี้นางระมัดระวังมากกว่าเดิม! นางใช้พลังปราณดั้งเดิมห่อหุ้มมือของตัวเองไว้ แล้วเอื้อมมือไปหาคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง!

กึก กึก!

คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งสั่นเบาๆ! และเริ่มขยับเขยื้อนมากขึ้น!

โชคดีที่ก่อนหน้านี้ซั่งกวนหว่านได้รับบทเรียนไปแล้ว ทำให้ครานี้นางจึงยอมกัดฟันอดทนคว้ามันมาให้ได้!

ทว่ายิ่งเข้าใกล้ แรงกดดันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น!

ทั่วทั้งมือขวาของนางเจ็บแปลบ ราวกับกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ!

ใบหน้าของซั่งกวนหว่านซีดเผือด มือเรียวบางสั่นระริก แต่นางก็ยังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง!

…ไม่ว่าอย่างใด วันนี้นางก็ต้องทำให้สำเร็จ!

ผู้อาวุโสเฉินเค่อเฝ้ามองภาพนั้นจากด้านข้าง พร้อมความรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แปลกมาก…

เหตุใดคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งถึงต่อต้านซั่งกวนหว่านถึงเพียงนี้?

เขาไม่เคยเห็นอันใดแบบนี้มาก่อนเลย

ผู้อาวุโสคิดพลางขมวดคิ้วอย่างกังวล

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปต้องไม่ดีแน่ๆ ถึงซั่งกวนหว่านต้องการจะหยิบมันแค่ไหน แต่ก็เกรงว่ามันจะยากเกินกว่านางจะรับไหว!

ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ของราชวงศ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน พวกเขาหันหน้ามองกันอย่างพร้อมเพรียง และแอบสบตากัน

หากว่าตามหลักเหตุผลแล้ว ซั่งกวนหว่านเองก็มีเชื้อสายของราชวงศ์ ทั้งพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของนางก็อยู่ในระดับดี ดังนั้นนางควรจะทำมันได้สำเร็จสิ…

แต่ดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว…

เจียงอวี่เฉิงยืนอยู่ข้างหลังซั่งกวนหว่าน และอยู่ห่างจากนางเพียงสิบก้าว

แม้จากตรงนี้เขาจะมองไม่เห็นสีหน้าของซั่งกวนหว่าน แต่ก็สามารถเดาสถานการณ์ได้จากปฏิกิริยาของนาง

หัวใจของเขาพลันสิ้นหวังราวถูกจับแขวนไว้กลางอากาศ

ทุกคนที่อยู่ด้านล่างบันไดเก้าขั้นกำลังมองดูภาพนี้อย่างลุ้นระทึก

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

จากตรงนี้ นางสามารถมองเห็นใบหน้าของซั่งกวนหว่านได้เพียงครึ่งเดียว

สีหน้าของนางดูไม่ดีนัก

ดูแล้วว่า การยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งนั้น จะไม่ง่ายสำหรับซั่งกวนหว่านเสียแล้ว

หลังจากทนกับความเจ็บปวดและความทรมานอย่างยาวนาน ในที่สุดมือของซั่งกวนหว่าน ก็ทะลุเข้าไปในชั้นของแสงที่ส่องสว่างนั้น และคว้าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งได้แล้ว!

และเพียงพริบตา ก็มีลมปราณเย็นยะเยือกพุ่งออกมาจากมัน!

ซั่งกวนหว่านมองเห็นเต็มสองตาว่า มือขวาของนางกำลังถูกจับเป็นชั้นน้ำแข็ง!

และดูเหมือนว่าชั้นน้ำแข็งนี้ จะมีแนวโน้มว่ามันจะแผ่ขยายออกไปด้านนอกด้วย!

น่าตกใจจนผงะและเร่งใช้พลังปราณดั้งเดิมทันที เพื่อสกัดกั้นลมปราณอันเย็นยะเยือกนั่น!

ตอนนี้มือขวาของนางบวมแดงจากความเย็น! และชาจนแทบไม่รู้สึกอันใดแล้ว!

องค์ไท่จู่หลอมคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งจากไม้กระดูกน้ำแข็งอายุพันปี ที่มีต้นกำเนิดอยู่ในสถานที่เย็นจัดในชายแดนทางเหนือ

ไม้กระดูกน้ำแข็งอายุพันปีนี้ไม่ใช่ต้นไม้จริง แต่เป็นหินย้อยที่เกิดจากการควบแน่นของพลังแห่งสวรรค์และโลก จนกลายเป็นหินย้อยที่มีรูปร่างเหมือนต้นไม้

และมีข่าวลือว่าทุกๆ ร้อยปีมันจะโตขึ้นหนึ่งนิ้ว ทำให้ทุกคนล้วนจินตนาการได้ว่า พลังปราณที่บรรจุอยู่ในนั้นน่ากลัวเพียงใด!

ซั่งกวนหว่านรู้สึกแค่ว่าตอนนี้ความเย็นกำลังแผ่ซ่านจากฝ่ามือของนาง ไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายอย่างเงียบเชียบ!

แวบหนึ่ง นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งเสียแล้ว!

นางรู้ว่าต้องรีบหยิบมันขึ้นมา! ไม่อย่างนั้น ถ้าขืนทนต่อไปแบบนี้ ร่างกายของนางจักถูกแช่แข็งแน่ๆ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซั่งกวนหว่านก็กัดฟันกรอด แล้วเค้นพลังปราณทั้งหมดในร่างออกมา พลันกระชับคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไว้แล้วออกแรงดึง!

“จงออกมา!”

ซั่งกวนหว่านกรีดร้อง!

แต่นางกลับต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไม่ขยับเลย!

มันยังคงลอยอยู่เหนือผลึกสีดำเงียบๆ แม้ว่านางจะใช้พลังปราณดั้งเดิมมากมาย โจมตีมันอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ยังไม่แน่นิ่งไร้การเคลื่อนไหว!

ที่ด้านหน้าตำหนักหลางคุน ผู้คนที่กำลังดูฉากนี้ด้วยความกระวนกระวาย ก็พลันชะงักตัวแข็งกันทั้งหมด

ก่อนที่ใครบางคนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า

“นะ…นี่นาง ล้มเหลวหรือ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด