ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 899 ไสหัวไป

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 899 ไสหัวไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 899 ไสหัวไป

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น พร้อมยกกระบี่หลงหยวนที่อยู่ในมือขึ้นมา คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งที่อยู่ด้านข้างก็บินออกไปทันที!

ฟิ้ว!

ได้ยินแค่เสียงลมที่หวีดแหลมดังขึ้น ทันใดนั้นใบมีดสีดำนั้นก็ได้ปะทะเข้ากับคทาอาญาสิทธิ์เทียน

ลิ่งอย่างแรง!

ก่อนที่พวกมันจะได้สัมผัสตัวกัน พลังของทั้งสองฝ่ายก็ได้ปะทะกันแล้ว!

พื้นที่โดยรอบถูกฉีกออกเป็นหลุมดำ ความโกลาหลกระจายออกไปทั่วทุกหนทุกแห่ง!

ใบมีดสีดำเย็นยะเยือก แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถต้านทานพลังของคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่ง สุดท้ายแล้วก็มีเสียงมังกรคำรามลั่น

ซั่งกวนหว่านฉวยโอกาสนี้รีบลุกขึ้นยืนทันที นางแหวกอากาศ แล้วก็หนีไปในที่สุด!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ก็ขยับข้อมือแล้วส่งกระบี่หลงหยวนออกไป! มันพุ่งตรงไปที่ซั่งกวนหว่านอย่างรวดเร็ว!

ลมที่ดูอันตราย พาดพัดมาจากทางด้านหลังศีรษะ ซั่งกวนหว่านขนลุกชูชันขึ้นทั้งร่างกาย และนางกำลังจะหนีออกไปทันที!

นางเคลื่อนที่ได้เร็ว แต่กระบี่หลงหยวนนั้นเร็วกว่า!

ปราณกระบี่ที่น่าหวาดกลัวได้ปกคลุมทั่วทั้งร่างของนางทันที!

นางถูกบังคับจนไร้หนทางสู้ ซั่งกวนหว่านหมุนตัวกลับ สองมือประสานขึ้น!

ทันใดนั้นอักขระยันต์สีดำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของนาง!

พรึ่บ!

ทันทีที่ปลายแหลมของกระบี่หลงหยวนสัมผัสกับอักขระยันต์นั้นมันก็ระเบิดขึ้นเสียงดัง!

ระลอกคลื่นกระจายตัวออกไปอย่างรุนแรง!

แกร๊ก!

บนพื้นมีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นทันที!

“นั่นไม่ใช่พลังของซั่งกวนหว่าน!”

ไม่รู้ว่าใครในกลุ่มคนได้ตะโกนโพล่งขึ้นมา

ในตอนนั้นเองทุกคนก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าพลังที่ซั่งกวนหว่านได้ปลดปล่อยออกมานั้น ไม่ใช่พลังของนางเอง!

ในตอนนี้นางนับได้ว่าเป็นจอมยุทธ์ขั้นเจ็ด หากเมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วถือว่าไม่เลวเลย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่หลงหยวน มันย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน

ต้องบอกก่อนว่า แม้กระทั่งจอมยุทธ์ระดับเจ็ดขั้นสูงอย่างเจียงอวี่เฉิง เมื่อครู่นี้เขายังไม่สามารถทนรับแรงกดดันของกระบี่เล่มนั้นได้เลย! จนทำให้ต้องสูญเสียแขนข้างหนึ่งไป!

ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ซั่งกวนหว่านที่บาดเจ็บสาหัสล่ะ?

ในขณะเดียวกัน ปราณที่แผ่ออกมาจากร่างกายของนางนั้นก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

หากจะหลุดออกจากแรงกดดันนั้นได้ อย่างน้อยต้องเป็นจอมยุทธ์ระดับแปดเท่านั้น!

ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง

ก่อนหน้านี้นางเคยสงสัยความผิดปกติภายในร่างกายของซั่งกวนหว่าน ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

นางสาวเท้าขึ้นไปด้านหน้า แต่กลับถูกองค์ปฐมกษัตริย์ขวางเอาไว้

“เยว่เอ๋อ ช้าก่อน!”

ฉู่หลิวเยว่ชะงักฝีเท้าครั้งหนึ่ง และเมื่อมองกลับไปยังองค์ปฐมกษัตริย์ ก็เห็นว่าเขากำลังจ้องซั่งกวนหว่านตาเขม็ง สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นหลายส่วน

“องค์ไท่จู่ ท่านมองเห็นอันใดหรือ?”

ราวกับว่าองค์ปฐมกษัตริย์มีเรื่องประหลาดใจเล็กน้อย เขาบ่นพึมพำว่า

“อักขระยันต์นั้นหรือว่า…แต่มันจะเป็นไปได้อย่างใด….”

หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นสะท้านเล็กน้อย

เหมือนว่าองค์ปฐมกษัตริย์จะรู้ที่มาที่ไปของอักขระยันต์สีดำนั้นแล้ว!

แต่ไม่ต้องรอให้นางถาม องค์ปฐมกษัตริย์ก็ขยับตัวแล้วพุ่งไปด้านหน้าทันที!

เขาสะบัดแขนเสื้อหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นก็มีม่านพลังขนาดใหญ่ล้อมรอบตัวของซั่งกวนหว่านเอาไว้ทั้งสี่ด้าน!

ในที่สุดปราณที่บ้าคลั่งก็ถูกปิดกั้น ทุกคนล้วนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ภาพการโจมตีที่น่าตกใจเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็ตามจะสามารถต้านทานได้อย่างง่ายดาย!

ดวงตาของซั่งกวนหว่านกลายเป็นสีดำสนิท เจือความบ้าคลั่งเล็กน้อยด้วย

สีหน้าของนางในตอนนี้แข็งทื่อและแปลกประหลาดไปเล็กน้อยด้วย เห็นได้ชัดว่านางกำลังถูกใครบางคนควบคุมอยู่

องค์ปฐมกษัตริย์ยืนอยู่กลางอากาศ พร้อมจ้องมาทางข้างหน้าตาเขม็ง พร้อมถามเสียงต่ำว่า

“เจ้าคือคนของถ้ำปีศาจทมิฬใช่หรือไม่!?”

เมื่อฉู่หลิวเยว่ได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

ถ้ำปีศาจทมิฬ มันคืออันใดกัน?

เมื่อซั่งกวนหว่านได้ยินดังนั้น นางก็ผลักมือออก!

คาดไม่ถึงว่าอักขระยันต์สีดำนั้นจะเผาไหม้ไปในทันที!

นางมององค์ปฐมกษัตริย์ด้วยความเย็นชา ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น

“นับว่าเจ้ายังมีความรู้อยู่หลายส่วน”

เสียงนั้นทั้งแหบพร่าและแฝงด้วยความเกียจคร้าน เห็นได้ชัดว่านั้นไม่ใช่เสียงของซั่งกวนหว่าน!

“น้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ถ้ำปีศาจทมิฬนั้นอยู่ห่างจากเทียนลิ่งของข้าไปหลายหมื่นลี้ ที่เจ้าทำเช่นนี้ เจ้าต้องการจะทำอันใดกันแน่?”

ในตอนนั้นเองอักขระยันต์สีดำก็ถูกเผาทิ้งไปจนหมดแล้ว! ตอนนั้นเองประกายสีดำแสงสุดท้ายก็ระเบิดขึ้นทันที!

ตู้ม!

พลังปราณที่บ้าคลั่งได้กระจายไปทั่วสี่ทิศแปดทาง!

หินหยกที่ถูกปูอยู่ที่พื้น ก็กลายเป็นฝุ่นผงทันทีโดยไร้เสียง!

ลมกรรโชกแรงมากขึ้น!

ซั่งกวนหว่านเบนสายตาออกไปมองทางฉู่หลิวเยว่เพียงเล็กน้อย

“น่าเสียดายจริงๆ…”

แผนการเหลือแค่ส่วนสุดท้ายเท่านั้น!

แผนการที่วางเอาไว้ตั้งหลายปี กลายเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์!

เมื่อฉู่หลิวเยว่เห็นถึงการจ้องมองนั้น ทันใดนั้นหัวใจของนางก็สั่นสะท้านขึ้นมา!

ไม่รู้ว่าเหตุใด คำพูดประโยคนี้ นางจึงรู้สึกว่าพลังที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของซั่งกวนหว่าน กำลังยุให้นางอยู่อย่างใดอย่างนั้น!

น่าเสียดาย…

น่าเสียดายอันใด?

เหมือนว่าคนผู้นั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อชิงบัลลังก์ แต่มาที่นี่เพื่อนาง!

แต่ตัวของนางเองมีค่าอันใดที่ทำให้คนผู้นั้นใส่ใจ?

ในวินาทีต่อมา ประกายแสงสีดำก็ปรากฏขึ้น ทันใดนั้นเลือดก็ไหลทะลักออกมาจากหน้าอกของซั่งกวนหว่าน!

กระบี่หลงหยวนส่องแสงสว่างจ้า!

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ลำแสงสีดำนั้นก็หายไปจากในอากาศ!

วินาทีต่อมา คาดไม่ถึงว่ามันจะปรากฏตัวอยู่ด้านนอกม่านพลัง! มันกลายร่างเป็นลูกศรสีดำแล้วพุ่งตรงไปที่ฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็ว!

ทุกคนกลั้นลมหายใจขึ้นทันที!

คนผู้นี้สามารถทะลวงม่านพลังขององค์ปฐมกษัตริย์ออกมาอย่างง่ายดาย หรือว่ามันจะแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าองค์ปฐมกษัตริย์แล้ว!?

แต่ประเด็นที่สำคัญกว่าก็คือเป้าหมายในการโจมตีของมันอยู่ที่องค์หญิงใหญ่!

“เยว่เอ๋อระวัง!”

“องค์หญิงใหญ่!”

“หลิวเยว่”

เสียงอุทานจากความตกใจดังขึ้นทั่วทุกสี่ทิศแปดทาง!

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง แล้วจ้องประกายแสงสีดำที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว สัญญาณเตือนอันตรายในใจของนางก็ดังลั่นขึ้น!

ในตอนนั้นเอง กระบี่หลงหยวนและคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็พุ่งออกมาพร้อมกัน!

แต่อันตรายนั้นมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม!

ทันใดนั้นไข่มุกธาราที่อยู่ในเถียนตันของฉู่หลิวเยว่ก็เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว ราวกับกำลังดูดรับพลังอันใดบางอย่างเข้ามา ก่อนจะเริ่มโคจรมันด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น!

ในตอนที่ฉู่หลิวเยว่กำลังจะตัดสินใจลงมือ นางก็ต้องตกใจที่พบว่า ไข่มุกธารานั้นไม่ได้ระเบิดพลังออกมา แต่กลับควบแน่นกลายเป็นหน้ากระดาษหนังสือโปร่งแสง!

เหมือนกับตอนแรกเริ่มเลย!

ทันใดนั้นนางก็ตระหนักอันใดได้บางอย่าง นางเงยหน้าขึ้นมอง

น้ำเสียงแหบพร่าและเย็นชาก็ดังก้องภายในหูของนางอย่างชัดเจน

“เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะครอบครองของชิ้นนี้!”

พรึ่บ!

ทันทีที่สิ้นเสียง นางก็รู้สึกว่าหน้ากระดาษหนังสือโปรงแสงแผ่นนั้น มีแรงกระตุกปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย!

ราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็น ต้องการจะแย่งของชิ้นนี้ออกจากร่างกายของนาง!

ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าถอยหลังทันที แต่กลับเพิ่งค้นพบว่าตนเองนั้นไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย!

ชั่วพริบตาเดียว ลำแสงสีดำนั้นก็มาอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว!

แรงดึงนั้นก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

พลังดั้งเดิมที่อยู่ในกายของฉู่หลิวเยว่ก็ไหลออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง แสงสีเงินสายหนึ่งก็สว่างวาบตรงด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่! ก่อนจะลอยออกไปอย่างรวดเร็ว!

ตู้ม!

ทันใดนั้นเองแสงสีดำก็ถูกแยกออกไปในทันที!

พลังควบคุมที่น่าประหลาดนั้นก็พลันสลายหายไป!

ฉู่หลิวเยว่จ้องมองไปอย่างตั้งใจ และเห็นว่าสิ่งที่กำลังขวางอยู่นั้นคือ กริชเล่มหนึ่ง!

และกริชเล่มนั้นเป็นกริชที่หรงซิวมอบให้นาง!

ในตอนนั้นกริชเล่มนั้นก็ส่องแสงสว่างขึ้น พร้อมสัญลักษณ์แปลกๆ ที่ปรากฏขึ้นตามมา จากนั้นก็กดพลังที่หนักหน่วงเอาไว้!

น้ำเสียงแหบพร่าและเย็นชาก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้น้ำเสียงแฝงไปด้วยความประหลาดใจอีกด้วย

“นี่มัน…เป็นไปได้…”

เขายังพูดไม่ทันจบ กริชเล่มนั้นก็ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง!

ด้านนอกทะเลทรายจันทราสีชาดหมื่นลี้ หรงซิวเบิกตากว้าง สายตาของเขามีประกายเย็นชาแผ่ออกมา!

“ไสหัวไป!”

————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด