ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 999 อพยพ

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 999 อพยพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 999 อพยพ

วิถีทั้งหกเส้นโจมตีลงมาพร้อมกัน!

อานุภาพนั่นช่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร!

พร้อมพลังเสียงอันน่าทึ่ง!

ทว่าในขณะที่ลำแสงพร่างพราวนั่นกำลังกลืนกินร่างของฉู่หลิวเยว่ ก็พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากบนยอดเขา!

จากนั้น ยอดเขาหลักที่สูงตระหง่านก็ถูกผ่าออกจากตรงกลางในทันที ภายใต้สายตาหวาดกลัวของทุกคน!

หน้าผาครึ่งหนึ่งพังทลายลงในพริบตา!

ครืน…

ตามมาด้วยเสียงดังกึกก้องและเศษฝุ่นควันที่ลอยฟุ้งไปทั่ว!

“ถอยเร็ว!”

ผู้คนที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ ต่างรีบถอยออกไป!

พลังของวิถีสายฟ้าทั้งหกนั้นมหาศาลเกินกว่าที่คนธรรมดาจะต้านทานได้ และทางออกเดียวก็คือต้องรีบอพยพเท่านั้น!

เดิมทีจวินจิ่วชิงเองก็จะหนี แต่กลับไม่ทันการณ์!

สายฟ้าเหล่านั้นฟาดลงมาพร้อมพลังอันน่าเกรงขามที่ไม่มีใครเทียบได้!

เขาแน่นหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก ก่อนจะเห็นว่ารอยร้าวบนยอดเขานั้นแตกกระจายออกไปอย่างว่องไว

และในจังหวะที่ชะง่อนเขาถล่มลงไป เขาก็กระดกปลายเท้าแล้วบินขึ้นไปอย่างรวดเร็ว!

แต่ในขณะที่เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้า ร่างของเขาก็เจอกับแรงกระแทกอันน่าสะพรึงกลัวจากสายฟ้าเข้าเสียก่อน!

รูม่านตาของเขาหดลง พลันรีบจะถอยหลังกลับ!

ทว่าถึงเขาจะเร็วมากเพียงใด แต่ร่างกายของเขาก็ยังได้รับผลกระทบจากแรงกระแทกนั่นอยู่ดี ร่างสูงใหญ่สั่นสะท้านและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก!

หลังจากบินห่างออกมาช่วงหนึ่ง เขาก็แทบทรงตัวไม่อยู่!

เขาเงยหน้าขึ้นทันที ก่อนจะเห็นว่ายอดเขาที่เหลือเพียงครึ่งเดียวนั้น ได้ถูกสายฟ้าสีเงินเหล่านั้นปกคลุมไว้หมดแล้ว!

และร่างเพรียวบางที่เคยอยู่ตรงนั้น ก็ได้หายไปจากครรลองสายตาอย่างสมบูรณ์!

“จิ่วชิง!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น!

ท่าทีของจวินจิ่วชิงเปลี่ยนไปทันที!

เสียงนี้มัน…ท่านพ่อ!

เขาหันขวับไปมองทันที พลันเห็นจวินฉีจือที่ลอยอยู่ไกลออกไปนอกค่ายกล กำลังมองมาทางเขาด้วยท่าทางเคร่งเครียด

“วิถีสายฟ้าย่างกรายเข้ามาแล้ว พาทุกคนออกจากหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงทันที! แล้วปิดค่ายกลเสีย!”

ใจจริงจวินฉีจือก็ไม่ได้อยากทำเช่นนี้

แต่ตอนที่เห็นวิถีทั้งหกปรากฏขึ้นพร้อมกันเมื่อครู่ เขาก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทีละนิด

ทว่าในตอนนั้น เขายังอยากเชื่อในความหวังสุดท้าย และคิดว่ามันคงไม่สายเกินไปหากจะรอให้จวินจิ่วชิงคว้าเอาพลังปราณดั้งเดิมอันไร้ขีดจำกัด และพลังปราณศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองกลับมาได้เสียก่อน แล้วค่อยแจ้งให้ทุกคนอพยพ

แต่ใครจะคิดว่าซั่งกวนเยว่จะบ้าถึงขนาดกลืนพลังทั้งหมดเข้าไปแบบนั้น!

มีแต่คนวิปลาสเท่านั้นที่ทำแบบนี้!

นางอยากตายแล้วอย่างใด แต่จวินจิ่วชิงไม่อยากให้นางลากคนอื่นไปลงนรกด้วย!

ดังนั้นเมื่อเห็นว่าวิถีสายฟ้าทิ้งตัวลงมาแล้ว และเริ่มบังเกิดหายนะทั่วทุกพื้นที จวินฉีจือจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและแจ้งจวินจิ่วชิง รวมทั้งคนอื่นๆ ให้ออกจากหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงทันที!

เมื่อได้ยินคำสั่งนี้ จวินจิ่วชิงพลันขมวดคิ้วฉับและกำลังจะปฏิเสธ

“ท่านพ่อ ดูเหมือนว่าตอนนี้มีบางอย่างผิดปกติกับหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวง…”

“เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง”!

แต่ก่อนจะได้พูดจบ สายฟ้าเหล่านั้นก็เริ่มขยายออกไปยังบริเวณโดยรอบ!

ยอดเขาที่อยู่รอบๆ ถูกผ่าออกทั้งสิ้น!

ชะง่อนผามากมายถล่มลงมา!

เศษหินนับไม่ถ้วนกลิ้งหล่นตามแรงโน้มถ่วง!

พร้อมเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นท่ามกลางความอึกทึกครึกโครมนี้

เห็นได้ชัดว่าพอสายฟ้าเหล่านี้มารวมกัน พลังของพวกมันก็ยิ่งแพร่กระจายออกไปเร็วกว่าเดิม!

แม้แต่ผู้ที่เริ่มอพยพแล้วก็ยังได้รับผลกระทบอยู่บ้าง!

เละเทะไม่มีชิ้นดี!

จวินฉีจือมองภาพเหล่านั้นและพูดอย่างเย็นชา

“เหตุการณ์บานปลายเช่นนี้แล้ว ถ้ายังไม่รีบอพยพ เจ้าคิดจะฝังพวกเจ้าไว้ที่นี่ตลอดชีวิตหรือไร?!”

จวินจิ่วชิงเป็นถึงจอมยุทธ์ระดับเก้าและอาจทนกับแรงปะทะนั่นได้ระยะหนึ่ง แต่คนอื่นๆ ที่อยู่ที่นี่ไม่ได้แข็งแกร่งเช่นนั้น

และถ้าฝืนอยู่ต่อไป ก็มีแต่จะถูกคุกคามมากขึ้นเท่านั้น!

“ใช่แล้ว! ตอนนี้พลังปราณในหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงกำลังปั่นป่วน พวกเราอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้!”

กงซุนเซียวเองก็บินขึ้นไปยืนข้างจวินฉีจือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เขาไม่ต้องการให้ผู้คนในราชวงศ์ของเขา มาจบชีวิตอย่างไร้ค่าในสถานที่แบบนี้!

อย่างใดเสียทั้งสามหยวนรวมยอด พลังปราณดั้งเดิมอันไร้ขีดจำกัดและพลังปราณศักดิ์สิทธิ์ ก็ล้วนถูกซั่งกวนเยว่ครอบครองไว้ทั้งหมดแล้ว!

แล้วจะให้คนที่เหลืออยู่ในนั้นต่อไปเหตุใด?

มีแต่จะเป็นการบังคับให้พวกเขาสู้กับหายนะนี้ไปด้วยกันน่ะสิไม่ว่า!

จวินฉีจือเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง และมองไปที่จวินจิ่วชิงด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

“จิ่วชิง นอกจากพวกเจ้าแล้ว อัจฉริยะระดับแนวหน้าของราชวงศ์อื่นๆ ก็ยังคงอยู่ข้างใน ถ้ามีอันใดเกิดขึ้น เจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือไม่!?”

แม้ว่าในที่แห่งนี้ สถานะของราชวงศ์เป่ยหมิงจะสูงที่สุด แต่ก็ไม่สามารถแบกรับภาระหนักอึ้งเช่นนี้ได้!

ในสถานการณ์เช่นนี้ การอพยพเป็นวิธีเดียวที่ดีที่สุดแล้ว!

จวินจิ่วชิงค่อยๆ กำมือใต้แขนเสื้อแน่นขึ้น นัยน์ตาคมหรี่ตาลง

ถ้าออกไปตอนนี้ นางจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว…

“จิ่วชิง เจ้ายังลังเลอยู่ไยอีก?”

จวินฉีจือจ้องมองเขา พลันอ่านความคิดของเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง พลันส่งตายตาเป็นเชิงเตือนกลายๆ

“จงอย่าลืมสถานะของเจ้า!”

ก่อนหน้านี้เขาเองก็แอบคิดว่าจวินจิ่วชิงอาจมีใจให้ซั่งกวนเยว่ผู้นั้น

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความคิดนั้น จะลึกซึ้งกว่าที่เขาคาดไว้ก่อนหน้านี้มาก…

และสิ่งนี้ทำให้จวินฉีจือตื่นตัวอย่างมาก

จวินจิ่วชิงคือองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์เป่ยหมิง และจะเป็นจักรพรรดิองค์เดียวของราชวงศ์เป่ยหมิงใน

อนาคต!

การที่ชื่นชอบในตัวสตรีนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าชื่นชอบหลงใหลหัวปักหัวปำเกินไป ย่อมมิใช่เรื่องดี

จวินจิ่วชิงสามารถโจมตีซั่งกวนเยว่ได้ตั้งแต่แรกเริ่ม และไม่ปล่อยให้นางมีโอกาสได้โต้กลับ

ทว่าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่กลับทำตามใจตัวเอง จนส่งผลให้ซั่งกวนเยว่มาถึงจุดๆ นี้!

ทั้งพลังปราณดั้งเดิมอันไร้ขีดจำกัดที่สะสมมานับพันปี และพลังปราณศักดิ์สิทธิ์ที่องค์ไท่จู่ทิ้งไว้ให้ ควรเป็นของเขาตั้งแต่แรก!

แต่ตอนนี้พวกมันกลับถูกคนอื่นแย่งไป!

สิ่งนี้ทำให้จวินฉีจือไม่พอใจอย่างมาก

เขาหันไปมองเล็กน้อย ตอนนี้บนยอดเขาที่เสียหายนั้นไร้ซึ่งร่องรอยของนางแล้ว

บางทีการที่นางจากไปนั้น อาจเป็นจุดจบที่ดีที่สุดในตอนนี้!

และในขณะเดียวกัน ก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว

คนผู้นั้นคือชิงไต้

เห็นได้ชัดว่านางได้รับบาดเจ็บสาหัสและโชกไปด้วยเลือด

นางกัดริมฝีปากแน่นและคำนับจวินฉีจือจากระยะไกล

“ฝ่าบาท หลายคนที่อยู่เบื้องล่างไม่สามารถอดทนต่อไปได้แล้ว”

จวินจิ่วชิงเหล่ตามองนาง นางพลันหรี่ตาลง แล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว

อันที่จริง ถึงชิงไต้จะไม่พูดเช่นนี้ เขาก็รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ส่วนใหญ่ในตอนนี้

พลังปราณที่แฝงอยู่ในวิถีสายฟ้านั้นน่ากลัวเกินไป ไม่เพียงแต่ยอดเขาหลักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยอดเขาโดยรอบเองก็อาจจะถูกทำลายไปด้วย!

แต่การที่นางกล่าวเช่นนั้น ก็ยิ่งเป็นการยืนยันให้เขารีบตัดสินใจ

จวินฉีตือกระตุ้นเขาอีกครั้ง!

“จิ่วชิง”

ไม่จำเป็นเอ่ยอันใดให้มากความ แค่น้ำเสียงเย็นชาที่เต็มไปด้วยคำเตือนนี้ ก็เพียงพอที่จะอธิบายทุกอย่างได้แล้ว

จวินจิ่วชิงมองชิงไต้ด้วยแววตาลึกล้ำ

จู่ๆ ชิงไต้ก็รู้สึกผิดขึ้นมา พลันรีบก้มศีรษะลงทันที และไม่กล้าหันไปสบตาเขาอีก

แววตาขององค์ชายในตอนนี้มัน…

นางไม่เคยเห็นองค์ชายมองนางด้วยสายตาเช่นนี้มาก่อนเลย!

ชิงไต้รู้สึกวิตกและหวาดกลัว แต่ก็แอบไม่พอใจนิดๆ

…ฝ่าบาทและคนอื่นๆ ได้ร้องขอให้อพยพ และพวกเขาควรจะรีบดำเนินโดยเร็ว!

หรือเพียงเพราะซั่งกวนเยว่คนเดียว คนอื่นๆ ถึงต้องมาจบชีวิตลงที่นี่ด้วยกันหรือ!?

“ลูกรู้แล้ว”

หลังจากถูกต้อนให้จนมุม ในที่สุดจวินจิ่วชิงก็ยอมเอ่ยปาก

“พวกเจ้าทุกคนจงรีบออกไปจากหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงทันที! หลังจากนี้หนึ่งเค่อ ข้าจะทำการปิดค่ายกลของหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงถาวร!”

เสียงที่แหบแห้งนั่นดังทะลุเข้าไปถึงแก้วหูของทุกคนอย่างรวดเร็วและชัดเจน!

ทันใดนั้น เขาก็สะบัดแขนเสื้อ พลันปรากฏสะพานยาวสีน้ำเงินขึ้นกลางอากาศ!

สะพานยาวสายนี้เชื่อมต่อไปยังทางออกของค่ายกล!

ไม่นาน ร่างเงาหลายชีวิตก็ปรากฏตัวขึ้นจากทุกหนทุกแห่ง แล้วกระโดดขึ้นไปบนสะพานยาว และมุ่งตรงไปที่ทางออก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด