ยอดหญิงอันดับหนึ่ง 227 ตามใจจนเสียนิสัยแล้ว (3)

Now you are reading ยอดหญิงอันดับหนึ่ง Chapter 227 ตามใจจนเสียนิสัยแล้ว (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“​ท่าน​อ๋อง​โปรด​ตรัส​เพ​คะ​”​ ​ดวงใจ​นาง​แทบจะ​กระเด็น​ออกมา

“​จากนี้ไป​อย่า​ได้​พูดเหลวไหล​ต่อหน้า​บิดา​ของ​เจ้า​ ​เพื่อ​ยุยง​สร้าง​ความบาดหมาง​อีก​”​ ​ทิ้ง​ไว้​ประโยค​หนึ่ง​ ​รถม้า​ก็​เคลื่อน​ไป​เบื้องหน้า​ต่อ​ ​ล้อรถ​แข็งแกร่ง​เยือกเย็น​ ​คล้าย​กับ​พระทัย​ของ​บุรุษ​ภายใน​รถ​ที่​มิ​อาจ​กอบกู้​คืน​มา​ได้

หัน​เซียง​เซียง​นิ่งงัน​ ​ราวกับ​ร่างกาย​ถูก​สูบ​เรี่ยวแรง​ไป​จน​หมด​ ​โชคดี​ที่​เสี่ยวถ​งมา​พยุง​ไว้​ได้​ทัน​ ​นาง​พิง​อก​สาวใช้​นิ่ง​ ​พึมพำ​ว่า​ ​“​พระองค์​ทรง​คิด​ว่า​ข้า​ฟ้อง​ท่าน​พ่อ​ ​จาบจ้วง​พระ​ชายา​ฉิน​อ๋อง​…​”

ยาม​เสี่ยวถ​งอยู​่​ใน​บ้าน​ก็ได้​ยิน​นายท่าน​เคย​บอกว่า​หลาย​วันก่อน​พระ​ชายา​เข้า​วัง​ไป​ถวายพระพร​ ​เนื่องจาก​ใน​งาน​มีพิ​ธี​ศพ​สวด​พระ​คัมภีร์​ถวาย​แก่​ฮองเฮา​ ​นายท่าน​จึง​ขวาง​พระ​ชายา​เอาไว้​ ​ทำให้​พระ​ชายา​ต้อง​คอย​อยู่​นอก​วัง​เสียนาน

คิดไม่ถึง​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ทำให้​ท่าน​อ๋อง​เกิด​ความ​พะวง​ใน​ใจอยู่​ตลอดเวลา​ ​แล้ว​เอา​โทสะ​มา​ลง​ที่​คุณหนู

บางที​นายท่า​นอาจ​จะ​จงใจ​กลั่นแกล้ง​ด้วย​เจตนา​ที่​เห็นแก่ตัว​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​เกี่ยวกับ​คุณหนู​เลย​สักนิด

เสี่ยวถง​รู้​ว่า​ไม่​ยุติธรรม​ ​แต่​ก็​ทำ​อัน​ใด​มิได้​ ​“​คุณหนู​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​ดู​ฉิน​อ๋อง​ผู้​นี้​ ​ใน​พระทัย​มี​แต่​แม่นาง​แซ่​อวิ​๋น​ ​ไหน​เลย​จะ​มีที​่​เหลือ​ไว้​ให้​คนอื่น​เข้ามา​แทรก​ได้​…​บ่าว​กลัว​ว่า​ท่าน​เข้า​จวน​ไป​แล้ว​จะ​โดน​รังแก​มากกว่า​นี้​นะ​เจ้า​คะ​”

หัน​เซียง​เซียง​ทำ​อัน​ใด​ไม่​ถูก​ ​ก็​ยิ่ง​ร้องไห้​หนัก​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​ขณะนั้น​เอง​ ​คน​เบื้องหน้า​ก็​ยื่น​แขน​เรียว​ยาว​ออกมา​ ​คล้าย​ว่า​ส่ง​บางอย่าง​มา​ให้

ท่ามกลาง​น้ำตา​ที่​คลอ​หน่วย​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ ​ไม่รู้​ว่า​มาตั​้ง​แต่​เมื่อใด​ ​นึกไม่ถึง​ว่า​จะ​ลง​จาก​รถม้า​มา​ ​ใน​มือถือ​ผ้าเช็ดหน้า​สีขาว​เอาไว้

“​ฝ่า​บาท​”​ ​เสี่ยวถง​ตกใจ​ ​รู้ดี​ว่า​คุณหนู​กลัว​เยี​่​ยน​อ๋อง​อยู่เล็ก​น้อย​ ​จึง​จับมือ​คุณหนู​ไว้​แน่น

“​เจ้า​วางใจ​เถิด​”​ ​เยี​่​ยน​อ๋อง​เหลือบมอง​ผ้า​ใน​มือ​ ​เอ่ย​เย้า​ว่า​ ​“​ครานี​้​มิใช่​ผ้า​ของ​ข้า​ ​เป็น​กระดาษชำระ​ผ้าแพร​ที่​สำนักพระราชวัง​ทำ​ขึ้น​ ​อ่อนนุ่ม​ฝ้าย​ละเอียด​ ​ดูๆ​ ​แล้ว​เหมือน​ผ้าเช็ดหน้า​ ​แต่​ความจริง​แล้ว​ใช้ได้​ครั้ง​เดียว​ ​ใช้แล้ว​ก็​ทิ้ง​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​กลุ้มใจ​ว่า​จะ​คืน​ข้า​อย่างไร​อีก​”

หัน​เซียง​เซียง​ก็​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​เช่นกัน​ ​บางที​วันนี้​ได้​พูดคุย​ส่วนตัว​กับ​ฉิน​อ๋อง​เป็น​ครา​แรก​ ​แต่​ผลลัพธ์​ที่​ได้​กลับ​โดน​โจมตี​อย่าง​สาหัส​ ​เจ็บปวด​นัก​ ​และ​ไม่​คิด​จะ​หลบเลี่ยง​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​นาง​ยื่นมือ​ออก​ไปรับ​ผ้า​มา​เอง​ ​สะอื้น​ว่า​ ​“​ขอบ​พระทัย​เยี​่​ยน​อ๋อง​เพ​คะ​”

ณ​ ​จวน​องค์​ชาย​สาม​ ​เหล่า​บ่าวไพร่​เห็นท่า​นอ​๋​อง​กลับมา​แล้วก็​รีบ​เข้ามา​ล้อมหน้าล้อมหลัง​ ​เทน​้ำ​ต้ม​ชา​ ​เกา​จ๋าง​สื่อ​เห็น​ใบหน้า​เขา​ไร้อารมณ์​จึง​สั่ง​ออก​ไป​ว่า​ ​“​ไป​ห้อง​สรง​ ​เตรียม​น้ำ​สรง​กลิ่นหอม​ให้ท่า​นอ​๋​อง​”

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิ​งค​ลาย​อาภรณ์​ลง​ ​รูด​แขน​เสื้อ​ไหม​สีทอง​ขึ้น​มาค​รึ​่ง​หนึ่ง​ ​เผย​ให้​เห็น​ข้อมือ​แกร่ง​ ​เอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ว่า​ ​“​ไม่​รีบ​ ​ข้า​จะ​ไป​เรือน​หลัก​ผลัดผ้า​ก่อน​”

เกา​จ๋าง​สื่อ​นิ่งอึ้ง​ไป​ ​เรียก​เสียง​เบา​ ​“​ท่าน​อ๋อง​…​”

เขา​สัมผัส​ได้​ถึง​ท่าทาง​ที่​แปลก​ไป​ของ​เกา​จ๋าง​สื่อ​ ​ใน​ใจ​ก็​พอ​จะ​คาดเดา​ได้​แล้ว​ ​“​ทำไม​รึ​”

เกา​จ๋าง​สื่อ​อ้อมแอ้ม​ว่า​ ​“​เหนียง​เหนียง​ของ​ท่าน​…​นาง​…​”

คิ้ว​เข้ม​ของ​เขา​ขมวด​มุ่น​ ​“​นาง​ทำไม​รึ​”

เกา​จ๋าง​สื่อ​รู้​ว่า​รายงาน​ให้ท่า​นอ​๋​อง​ฟัง​วันนี้​เป็นเรื่อง​ที่​จัดการ​ยาก​ ​แต่​เห็น​สีหน้า​ดูไม่ได้​ของ​พระองค์​แล้วก็​หวาดกลัว​อยู่เล็ก​น้อย​ ​ไม่กล้า​พูด​ให้​ชัดเจน​เท่าใด​นัก​ ​“​เหนียง​เหนียง​ยาม​นี้​ไม่อยู่​ที่​จวน​ขอรับ​…​”

สีหน้า​เขา​พลัน​เปลี่ยน​ ​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ก็​สาวเท้า​ยาว​ๆ​ ​ไป​ยัง​เรือน​หลัก​ ​ก้าว​ขึ้น​บันได​เรือน​มา​อย่างรวดเร็ว​และ​รุนแรง​ ​เดินผ่าน​ด้านนอก​มา​ ​เสียงเย็น​เยียบ​ดัง​ขึ้น​ทันที

เจิน​จู​กับ​ฉิง​เสวี​่ย​เห็น​เขา​กลับมา​แล้วก็​รีบ​เข้าไป​ต้อนรับ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​กลับมา​แล้ว​…​”

เขา​เดิน​ตรง​ไป​เบื้องหน้า​ ​เลิก​ม่าน​ขึ้น​ ​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องนอน​นาง​ ​เป็นไป​ดัง​คาด​!

โต๊ะ​เก้าอี้​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ ​โต๊ะ​หนังสือ​ติด​หน้าต่าง​ที่​ยาม​ปกติ​มี​หนังสือ​ด้าน​การแพทย์​กับ​บันทึก​ซ้อน​กัน​อยู่​ก็​สะอาดสะอ้าน​ ​ที่นอน​หมอน​มุ้ง​ไร้​ซึ่ง​ไออุ่น​แม้แต่น้อย​!

“​นาง​ล่ะ​”​ ​เสียง​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​อึมครึม​ขึ้น

ฉิง​เสวี​่​ยกับ​เจิน​จู​เดิน​เข้าไป​หา​ ​“​เหนียง​เหนียง​ปวดหัว​มา​หลาย​วัน​ ​ติดโรค​ระบาด​มานิด​หน่อย​เจ้าค่ะ​ ​เมืองหลวง​อากาศ​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​จึง​พาชูซ​ย่า​กลับบ้าน​สวน​โย่ว​เสียน​ที่​ชานเมือง​พัก​อยู่​สอง​วัน​”

หาก​ป่วย​จริง​ ​บ่าง​ไพร่​ใน​จวน​ก็​ต้อง​รีบ​ส่งจดหมาย​เข้า​วัง​มาบ​อก​ตน​แล้ว​ ​เกรง​ว่านา​งค​งงอ​นอ​อก​ไป​พาลเกเร​ด้านนอก​แน่​ ​นับ​ดูแล​้ว​ ​ก็​เป็น​สอง​วันที่​ทั้งคู่​มีปากเสียง​กัน

สตรี​นาง​นี้​นี่​ ​อารมณ์​เดือด​ยิ่งกว่า​เขา​อีก​!​ ​ปกติ​เขา​ก็​โอนอ่อน​ตาม​นาง​ ​ยอมให้​นาง​ ​สงสัย​คง​ตามใจ​จน​นาง​เสียนิ​สัย​แล้ว​จริงๆ​ ​แต่​จะ​ด่า​ก็​ไม่ได้​ ​แตะต้อง​ก็​ไม่ได้​อีก​!

ซือ​เหยา​อัน​ตาม​เข้ามา​ ​เห็นท่า​นอ​๋​อง​สีหน้า​ดำทะมึน​ ​จึง​ไกล่เกลี่ย​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​นี่​ ​เหตุใด​ไม่​บอก​สัก​คำ​ ​ให้​คน​ส่งจดหมาย​ไป​บอก​ที่​วัง​มัน​ยาก​นัก​รึ​!​”

เป็นไป​ดัง​คาด​ ​เจิน​จู​เอ่ย​ว่า​ ​“​เหนียง​เหนียง​ไม่​ให้​เรา​ส่งจดหมาย​เจ้าค่ะ​ ​บอกว่า​แค่​ไป​ชานเมือง​พัก​รักษาตัว​สอง​วัน​เท่านั้น​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่​ไกล​ ​อีก​เดี๋ยว​ก็​กลับ​แล้ว​ ​แล้วก็​ยัง​บอกอี​กว่า​หมู่นี้​ท่าน​อ๋อง​ไม่​กลับมา​ ​กระทั่ง​จดหมาย​ก็​ไม่​ส่ง​มา​ ​คง​เพราะ​ราชกิจ​ใน​วัง​ล้นมือ​แน่​ ​เรื่องเล็ก​น้อย​แค่นี้​ ​ไม่ต้อง​ส่งจดหมาย​ไป​ให้ท่า​นอ​๋​อง​ต้อง​เป็นห่วง​หรอก​เจ้าค่ะ​”

นี่​กำลัง​ข่มขู่​เขา​ชัดๆ​ ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​ยิ่ง​ถมึงทึง​มากขึ้น​กว่า​เดิม

เกา​จ๋าง​สื่อ​ก็​พยักหน้า​เห็นด้วย​อยู่​ข้างนอก​เช่นกัน

ซือ​เหยา​อัน​ขยับ​ไป​ใกล้​กระซิบ​ว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​เช่นนั้น​ไปรับ​เหนียง​เหนียง​ดี​หรือไม่​ขอรับ​”

ซ​ย่า​โหว​ซื่อ​ถิง​ใบหน้า​เกร็ง​เขม็ง​ ​ก้าว​ออกจาก​ห้องนอน​ไป​ ​“​ตัวเอง​ไป​เอง​ ​ออก​ไป​เอง​ได้​ก็​กลับมา​ได้​ ​นาง​บอกว่า​เดี๋ยว​ก็​กลับ​มิใช่​หรือ​ไร​!​”

ซือ​เหยา​อัน​ยู่​ปาก​ ​พูด​ได้​คล่องแคล่ว​นัก​ ​จะ​ดูซิ​ว่า​ท่าน​จะ​ทน​ได้​สัก​กี่​วัน

ณ​ ​บ้านสวน​โย่ว​เสียน

สภาพอากาศ​ชานเมือง​เร็ว​กว่า​ใน​เมืองหลวง​ ​เมืองหลวง​ยัง​เป็น​ฤดูใบไม้ผลิ​อัน​หนาวเย็น​ ​แต่​บ้านสวน​ของ​นาง​เริ่ม​อบอุ่น​ขึ้น​มา​แล้ว​ ​ทิวทัศน์​ที่​เต็มเปี่ยม​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​กรุ่น​ของ​สารท​และ​คิมหันตฤดู

หู​ต้า​ชวน​และ​ภรรยา​เห็น​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​มา​ ​รู้ดี​ว่า​สถานะ​ของ​นาง​ไม่​เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​ ​แต่​ก็​ยังคง​ใช้​นิสัย​ซื่อสัตย์​ของ​คนรับใช้​มาคบ​หากั​บนาง​ ​โดยเฉพาะ​ป้า​เว​่ย​ที่​เป็นห่วง​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​มา​เนิ่นนาน​ ​พอ​เห็น​ว่า​คุณหนู​เล็ก​มาก​็​ดีใจ​จน​ออกนอกหน้า​ ​ทุกวัน​จะ​มา​พูดคุย​กับ​นาง​ไม่​จบ​ไม่​สิ้น​ ​แต่​พอได้​ยิน​เรื่อง​ของ​คุณชาย​กับ​หง​เยียน​ก็​เช็ดน้ำ​ตา​อย่าง​โศกเศร้า​อาดูร

คุณชาย​เป็น​ทายาท​เพียง​หนึ่งเดียว​ของ​ตระกูล​สวี​่​ ​และ​เป็นคุณ​ชาย​ของ​บ้าน​ของ​ป้า​เว​่​ยอี​กด​้วย​ ​เรียก​ได้​ว่า​เห็น​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​ ​ย่อม​เสียใจ​อยู่​แล้ว​ ​ส่วน​แม่นาง​หง​เยียน​ผู้​นั้น​ ​มักจะ​มาบ​้าน​สวน​จัดการ​และ​เติมสิน​ค้า​ ​กระตุ้น​ให้​เร่งมือ​ทำงาน​อยู่​บ่อยๆ​ ​ป้า​เว​่​ยก​็​ชอบ​นาง​มาก​เช่นกัน​ ​ยาม​นี้​เห็น​ทั้งคู่​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​ย่อม​โศกเศร้า​ ​ถูก​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​พูด​ปลอบ​อยู่​สอง​สาม​ประโยค​จึง​ได้​หอบ​เอา​ความหวัง​มาบ​อก​กับ​ตัวเอง​ว่า​ในเมื่อ​มีคุณ​หนู​ใหญ่​อยู่​ ​แม่นาง​หง​เยียน​ต้อง​ไม่​เป็นอัน​ใด​แน่

สอง​สามีภรรยา​เห็น​นาง​แต่งกาย​เรียบง่าย​พาชูซ​ย่ามา​คนเดียว​พร้อม​รถม้า​อีก​คัน​ ​ก็​เดา​ว่า​คง​ไม่​อยาก​ให้​ใคร​รู้​ ​จึง​ไม่ได้​ถาม​ให้​มากความ​ ​จัดเก็บ​ทำความสะอาด​ห้อง​ที่นาง​เคย​พัก​อยู่​ให้​เรียบร้อย​ ​เพิ่ม​สิ่งของ​หลากหลาย​ประเภท​เข้าไป​ ​ให้​นาง​ได้​พัก​อยู่สบาย​ ​แล้ว​เรียก​รวมพล​คนใน​บ้านสวน​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​ห้าม​ไม่​ให้​ใคร​พูดเหลวไหล​ ​ปกติ​ก็​เรียก​นาง​ว่า​คุณหนู​ใหญ่​อยู่​แล้ว​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​จะ​ได้​ไม่​อึดอัด​ ​เพลิดเพลิน​ไป​กับ​ความสงบ​และ​ความสะดวก​สบาย​ใน​ระยะนี้

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​พัก​อยู่​สอง​สาม​วัน​ ​ตอนกลางวัน​ไป​ตรวจดู​แปลง​ดอกไม้​ ​พลิก​ดิน​ตัด​กิ่ง​ ​ตรวจ​เรือน​เพาะชำ​กับ​ต้า​หู​ชวน​และ​ภรรยา​ ​พอต​กก​ลาง​คืน​ก็​พิง​หน้าต่าง​อ่านหนังสือ​และ​บันทึก​ใต้​แสง​โคม

พอสาม​วัน​ผ่าน​ไป​ ​คืนนี้​อากาศ​อบอุ่น​ขึ้น​มามาก​แล้ว​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​จุด​เทียน​เล่ม​หนึ่ง​ ​กำลัง​พลิก​หน้า​หนังสือ​อยู่​ ​ก็ได้​ยิน​ชูซ​ย่า​ผลัก​ประตูเข้า​มาจาก​ด้านนอก​อย่าง​รีบร้อน

“​มี​อัน​ใด​รึ​”​ ​นาง​ปิด​หนังสือ​ลง

ชูซ​ย่า​ปิดประตู​ ​ล้วง​เอา​จดหมาย​หนัง​วัว​ที่​ถูก​ประดับ​ตรา​สีแดง​ร้อน​ๆ​ ​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ส่ง​ให้​นาง​ ​กระซิบ​ว่า​ ​“​จดหมาย​ที่​ส่ง​จาก​วัง​หลวง​เจ้าค่ะ​”

จาก​วัง​รึ​ ​จะ​มี​ใคร​ได้​อีก​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​คิ้ว​กระตุก​ ​“​พระสนม​ม่อ​รึ​”

ชูซ​ย่า​พยักหน้า

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​แกะ​จดหมาย​ ​เขย่า​หัว​จดหมาย​ให้​เปิด​ออก​ ​อ่านใจ​ความ​ทีละ​บรรทัด​ ​สีหน้า​ก็​เปลี่ยนไป​พลัน

“​ทำไม​รึ​ ​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​ชูซ​ย่า​เห็น​สีหน้า​นาง​แปลก​ไป​จึง​เอ่ย​ถาม​อย่าง​อด​ไม่อยู่

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่เดียว​ก็​ระงับ​อาการ​ตกใจ​ ​นาง​เดิน​ไป​ข้าง​โต๊ะ​หนังสือ​ ​รน​หัว​จดหมาย​กับ​ไฟ​เทียน​ ​จ้อง​เปลวไฟ​ที่​เหมือน​ดั่ง​งูพิษ​พ่น​ไส้​ตะเกียง​ ​กลืน​กิน​จดหมาย​ไป​จน​สิ้น​ ​“​ให้​คนขับรถ​ม้า​ลาก​รถ​ออก​ ​แล้วไป​แจ้ง​พ่อบ้าน​หูกับ​ภรรยา​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด