ยัยเพื่อนสมัยเด็กอัจฉริยะที่พรากครั้งแรกของฉันไป [LN] 1.5

Now you are reading ยัยเพื่อนสมัยเด็กอัจฉริยะที่พรากครั้งแรกของฉันไป [LN] Chapter 1.5 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลักจากนั้น ฉันก็ตระหนักได้ว่าการที่ฉันพยายามต่อต้านการกระทำของโคมากินั้นมันโคตรไร้ประโยชน์สิ้นดี

ร่างกายของฉันค่อยๆอ่อนแรงลง ฉันเคยได้ยินมาว่าการเราสามารถผูกก้านเชอร์รี่ด้วยลิ้นได้นั้น

มันแสดงถึงการที่ว่าเรานั้นเป็นนักจูบที่ดี ฉันกับเพื่อนเคยคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนแล้ว

และตอนนี้ฉันก็กำลังนึกถึงเรื่องที่ฉันกับเพื่อนคุยกันเมื่อตอนนั้น

ฉันมั้นใจได้เลยว่าโคมากิสามารถทำมันได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยถ้าเธอต้องการจะทำล่ะนะ

ในขณะที่ฉันก็กำลังจมดิ่งไปกับความคิดของตัวเองอยู่นั้น โคมากิก็ได้บีบจมูกของฉันอย่างแรงราวกับว่าเธอไม่พอใจที่ฉันไม่สนใจเธอ

นี่เธอพยายามจะฆ่าฉันรึไงเนี้ย!

ฉันพยายามดิ้นเพื่อที่จะสลัดเธอให้หยุด ตามสัญชาตญาณเอาตัวรอดของฉัน

แต่ว่ามันยิ่งทำให้ฉันหายไม่ออกมากว่าเดิม ฉันพยายามกลั้นหายใจเพื่อที่จะให้ลมหายใจของฉันนั้นเพียงพอจะยื้อให้ฉัน

มีชีวิตนานขึ้นอย่างสิ้นหวังอยู่นั้น กลิ่นตัวของโคมาก็เข้ามาที่จมูกฉัน

 

————————————————————————————————-

 

จากผู้แปล: ตรงนี้ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆเลยนะครับเผื่อไครงงนะคือน้องโยชิซาวะพยายามจะกลั้นหายใจแต่ก็มีแอบหายใจนะครับ

 

————————————————————————————————-

 

ความรู้สึกในใจของฉันมันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจต่อโคมากิเป็นอย่างมาก ในขณะที่ฉันสูดหายใจกลิ่นตัวของเธอเข้ามาในตัวฉันมากขึ้น

ร่างกายของฉันมันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกเธอย้ำยีอย่างช้าๆ มันทำให้สติของฉันค่อยๆหายไป

ผ่านไปครู่หนึ่งริมฝีปากของพวกเราก็แยกออกจากกัน หลังจากที่ริมฝีปากของพวกเราแยกออกจากกันฉันก็รีบหันหน้าหนีและหายใจอย่างเร็ว

“เธอมันเลวที่สุด! ทำกันไกลเกินไปแล้วนะนี่เธอต้องกันทำขนานนี้เล-”

และนั่นก็คือจุดสิ้นสุดของจูบแรกที่สุดแสนยาวนานของฉัน ไม่ว่าหลังจากนี่หรือในอนาคตที่ฉันจะต้องจูบกับใครกี่คนก็ตาม

ฉันก็อดสงสัยว่าเมื่อถึงตอนนั้นฉันยังคงจะจำวันนี้ที่ฉันเสียจูบแรกไปได้รึป่าว แต่ฉันอาจจะจำไม่ได้ก็ได้ถ้าเกิดฉันได้จูบผู้คนจำนวนล่ะนะ

“ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ วาคาบะเธอเป็นคนบอกฉันเองหนิว่าเธอจะมอบศักดิ์ศรีของเธอให้ฉันเพราะงั้นก็หมายความว่าตอนนี้น่ะเธอไม่มีศักดิ์ศรีเหลืออยู่

อีกต่อไปแล้วไงล่ะ ดังนั้นไม่ว่าฉันจะทำหรือว่าสั่งอะไรกับเธอก็ตามเธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธฉันด้วยเข้าใจไหม?”

โคมากิพูดในขณะที่เธอจับฉันมาล็อกไว้ระหว่างขาของเธอ ฉันรู้สึกได้ว่าเหงือของฉันมันเริ่มซึมไปที่หลังของฉัน

“ฉันไม่ได้คาดหวังให้เธอจำหรอกนะวาคาบะเพราะเธอน่ะโง่เง่าเกินไป”

ฉันมองไปที่โคมากิด้วยความไม่พอใจในขณะเดียวกันสายตาของพวกเราก็ได้สบกัน ในแววตาสีน้ำตาลสดใสของเธอมีความความซาดิสต์อยู่

“ถ้างั้นเอาแบบนี้ละกัน จากนี้ไปถ้าเธอสามารถชนะการดวลกับฉันได้เพียงแค่ครั้งเคียวละก็ฉันจะคืนศักดิ์ศรีให้กับเธอ แต่ในทางกลับกัน

ถ้าเธอแพ้การดาลกับฉัน ฉันจะพรากเอาสิ่งสำคัญหนึ่งสิ่งไปจากเธอ ว่าไงล่ะเธอจะยอมรับข้อตกลงไหม?”

ยังกะว่าฉันจะพูดอะไรได้งั้นแหละเพราะยังไงซะมันก็คือคำสั่งและฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธขอเสนอของเธออยู่แล้วด้วย  

เพราะถ้าฉันปฏิเสธเธอ เธอก็คงจะบังคับให้ฉันทำตามสิ่งที่เธอต้องการหรืออาจจะทำแบบที่เธอทำกับฉันในวันนี้และฉันก็คงไม่มีวันได้ศักดิ์ศรีคืนมาแน่นอน

ฉันไม่ทางเลือกอื่นเลยหรือต่อให้มีก็มีแค่ตอบตกลงยอมรับคำท้าและพยายามเอาชนะเธอให้ได้

ฉันมองไปที่โคมากิ

“ได้ฉันยอมรับคำท้าของเธอ”

โคมากิยิ้มออกมาด้วยความพอใจ ภายนอกเธออาจดูราวกับเทพธิดาไม่ก็นางฟ้า แต่ในสารตาของฉันเธอคือยมทูต

“เยี่อมมากฉันชอบวาคาบะที่ซื่อตรงแบบนี้แหละ”

‘ชอบอะไรกันเล่นสั่งฉันซะขนาดนี้’

โคมาเรียกฉันด้วยชื่อของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังพยายามคุกคามฉันอยู่ยังไงยังงั้น ฉันมองเขม็งไปที่เธอทุกครั้งที่เธอทำแบบนั้น

แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สะทกสะท้านเธอเลย ราวกับว่าเธอพอใจกับรีแอคชั่นของฉัน และเธอก็คลายขาที่ล็อกฉันออก

ฉันจึงรีบถอยออกจากเธอทันทีและรีบคว้าเอากระเป๋านักเรียนที่ตกอยู่บนพื้นและรีบเดินไปที่ประตูห้องแล้ววางมือไว้บนที่จับเพื่อเปิดประตู

เพราะถ้าฉันอยู่นานกว่านี้ไม่แน่อาจเกิดสิ่งที่เลวร้ายกว่านี้ขึ้นกับฉันก็ได้

“นี่วาคาบะ”

ฉันได้ยินเสียงโคมากิเรียกฉันจากข้างหลังเมื่อฉันหันกลับไปมองเธอตามเสียงเรียก ฉันเห็นโคมากิมองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

แสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังตกได้ส่องผ่านหน้าต่างห้องเรียนได้ตกกระทบไปที่เธอราวกับเธอเป็นนางฟ้าผู้มากับแสงที่สูงส่งที่มาพร้อมกับแรงกดดัน

ทำให้หน้าอกของฉันรู้สึกตึงยังไงก็ไม่รู้

“รู้สึกยังไงกับการที่ได้จูบครั้งกับคนที่เธอไม่คิดจะชอบด้วยซ้ำ”

เสียงของโคมากิดังชัดเจนเหมือนกับระฆังจนทำให้ฉันอยากจะอุกหูตัวเองเลย

“แย่ที่สุดถ้าเป็นสมัยก่อนละก็ฉันจะฮารากิริตัวเองทันทีเลย”

“เธอพูดแบบนั้นทั้งที่สีหน้ามันบอกว่ารู้ดีมากเลยนะ เธออยากให้ฉันทำสีหน้าของเธอให้ดูมั้ย?”

โคมากิไม่รอแม้แต่คำตอบของฉันเลย เธอเริ่มแสดงสีหน้าที่สีหน้าที่รู้สึกดีแก้มของเธอก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงดวงตาของเธอเริ่มร่องรอยเหมือนพวกคนเมา

ฉันอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความในด้านการแสดงเธอไปชั่วครู่หนึง ผ่านไปไม่กี่วินาทีฉันรู้สึกว่าใบหน้าของฉันเริ่มร้อนขึ้นด้วยความเขินอายและโกรธ

“ฉันไม่ได้แสดงสีหน้าแบบนั้นนะ!”

“ใช่แล้วๆสีหน้าแบบนี้เลย…เดี๋ยวครั้งหน้าฉันจะถ่ายรูปไว้ให้เธอดูเป็นหลักฐานนะ”

“ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว!”

ฉันเปิดประตูเสียงดังลั่น

“มีสิก็เธอไม่เคยชนะได้สักครั้งเลยนี่นา”

ฉันไม่มีทางกลับมาเป็นแบบนั้นอีกครั้งแน่นอน ฉันเริ่มเดินออกจากห้องเรียนโดยไม่พูดอะไรอีกเพราะฉันตั้งใจจะเดินออกไปโดยหันหลังให้เธอ

แต่ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวโคมากิก็ได้มายืนอยู่ข้างหลังฉันและจับมือฉันไว้

“เธอรู้ไหมถ้านั่นทำให้เธอค่องใจนักละก็ทำไมเธอไม่ลองชนะดูฉันสักครั้งละแต่แน่นอนเธอไม่มีวันเอาชนะฉันได้หรอก”

โคมากิพูดพร้อมกับดึงตัวฉันเขาไปหาตัวเธอ เธอสวยงามราวกับนางฟ้า เนื่องจากเราอาศัยอยู่ใกล้กันบางครั้งฉันก็พยายามจะที่จะกลับบ้านโดยไม่มีเธอแต่ทุกครั้งโคมากิก็จะมากับฉันเสมอ

‘เมื่อเรียนฉันจบ ม.ปลาย ฉันจะต้องเข้าหมาลัยโตเกียวให้ได้เพื่อที่ฉันก็จะได้หลุดพ้นจากโคมากิ’

ฉันค้นพบเป่าหมายใหม่ของตัวเองแล้ว ฉันเผลอเลียลิมฝีปากตัวเองจมมันชุ่มไปด้วยน้ำลายจากลิ้นของฉันโดยไม่รู้ตัว

กลิ่นของโคมากิยังคงเหลืออยู่ในปากของฉันทำให้ฉันเผลอกัดปากตัวเองโดยไม่รู้ตัว

————————————————————————————————-
จากผู้แปล:ฝากติดตามเพจ แปลแต่เรื่องหว๊านหวาน甘い甘い  ด้วยน้ามีคำพิมพ์ผิดหรือพิมพ์ตกช่วยแจ้งที่คอมเม้นต์แล้วเจอกันในตอนที่2น้า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด