ยามดอกวสันต์ผลิบาน 438 เรื่องหยุมหยิม

Now you are reading ยามดอกวสันต์ผลิบาน Chapter 438 เรื่องหยุมหยิม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โจว​เสาจิ่น​พยักหน้า​หงึก​ไม่หยุด​ ใบหน้า​แต้ม​ยิ้ม​นั้น​เต็มไปด้วย​หยาด​น้ำตา​ สะอึกสะอื้น​กล่าวว่า​ “หาก​ท่าน​ไม่บอก​ข้า​ ต่อให้​ข้า​มีชีวิต​เท่า​ท่าน​ใน​ตอนนี้​ ก็​คงจะ​ยัง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​เดิน​ออก​มาหา​ถนน​เส้น​นั้น​ได้​อย่างไร​!”

ท่าทาง​มึน​ๆ งงๆ ของ​นาง​ทำให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เบิกบานใจ​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​หัวเราะ​ร่า​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ไป​พักผ่อน​เถิด​! หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ พรุ่งนี้​อา​เซวียน​ก็​คงจะ​มาเป็น​แขก​ที่นี่​แล้ว​ เจ้ายัง​ต้อง​รวบรวม​กำลังวังชา​เพื่อ​ให้การ​รับรอง​นาง​ให้​ดี​ อย่า​ให้​ข้า​ต้อง​เสียชื่อ​”

มิใช่ชื่อเสียง​ของ​ตระกูล​เฉิง มิใช่ชื่อเสียง​ของ​จวน​หลัก​ แต่​เป็น​ชื่อเสียง​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

โจว​เสาจิ่น​ดีดตัว​ลุกขึ้น​ ขาน​รับคำ​ “เจ้าค่ะ​” อย่าง​กระตือรือร้น​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ยิ้ม​น้อย​ๆ

โจว​เสาจิ่น​ออกมา​ได้​พบ​กับ​ฮูหยิน​รอง​เว่ย​พอดี​ เล่าเรื่อง​ทั้งหมด​ที่​นาง​จัดการ​ไป​ใน​วันนี้​ให้​ฮูหยิน​รอง​เว่ย​ฟัง ฮูหยิน​รอง​เว่ย​รีบ​กล่าวว่า​ “ลำบาก​เจ้าแล้ว​” แล้วไป​ส่งนาง​ที่​ประตู​ชั้นใน​ด้วยตัวเอง​ จากนั้น​ถึงได้​หมุน​กาย​ไป​ที่​เรือน​เฮ่อ​โซ่ว​ถังที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​พักผ่อน​อยู่​ พูด​เรื่อง​การเรียน​ของ​เฉิงรั่ง​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ “…ไม่ไป​สำนักศึกษา​หลวง​ แต่กลับ​ไป​ที่​สำนักศึกษา​ซาน​หมิง​ ได้ยิน​มาว่า​สำนักศึกษา​ซาน​หมิง​แห่ง​นั้น​สู้สำนักศึกษา​ซวง​เฮ่อ​มิได้​ด้วยซ้ำ​เจ้าค่ะ​”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กล่าว​อธิบาย​อย่าง​ใจเย็น​ว่า​ “ที่​สำนักศึกษา​หลวง​นั้น​ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​คน​ที่​คิด​จะประสบความสำเร็จ​ใน​เส้นทาง​ขุนนาง​ ชอบ​พูด​เรื่อง​พื้นเพ​เดิม​ของ​ครอบครัว​ พูด​เรื่อง​คุณสมบัติ​ และ​พูด​เรื่อง​อำนาจ​ อีก​ทั้ง​โดยปกติ​ก็​ต้อง​พบปะ​เข้าสังคม​สังสรรค์​กัน​มาก​ น้อย​คน​ที่จะ​นั่ง​อ่านหนังสือ​กัน​อย่าง​เงียบๆ​ ส่วน​สำนักศึกษา​ซวง​เฮ่อ​เป็น​สำนักศึกษา​ส่วนบุคคล​ อาจารย์ใหญ่​เป็น​บัณฑิต​ผู้คงแก่เรียน​ที่​มีชื่อเสียง​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​ ระบบ​การเรียน​การ​สอบ​นั้น​ไม่ต้อง​พูดถึง​ พื้นฐาน​ของ​นักเรียน​ก็​แน่นหนา​แข็งแกร่ง​ แต่​คน​ที่​มีพรสวรรค์​ด้าน​การเรียน​ก็​มาก​ตาม​ไป​ด้วย​ รั่ง​เก​อเอ๋อร์​นั้น​สุขภาพ​ไม่แข็งแรง​มาตั้งแต่​เด็ก​ กำลังวังชา​ไม่ค่อย​ดี​นัก​ หาก​ไป​สำนักศึกษา​ซวง​เฮ่อ​ เกรง​ว่า​การเรียน​จะหนักหนา​จน​ยาก​ที่จะ​ผลักดัน​ตัวเอง​ไป​อยู่​ข้างหน้า​ได้​ เมื่อ​เวลา​ยาวนาน​ไป​ ความสนใจ​ต่อ​การเรียน​ก็​จะลดน้อยลง​ ไม่สู้ไป​สำนักศึกษา​ซาน​หมิง​จะดีกว่า​ เมื่อ​เทียบ​กับ​สำนักศึกษา​ซวง​เฮ่อ​แล้ว​ ไม่ว่า​จะเป็น​ขนาด​ความ​ใหญ่​หรือ​นักเรียน​ล้วน​ด้อย​กว่า​มาก​ ทว่า​ส่วน​ที่​ดีกว่า​ก็​คือ​บรรดา​อาจารย์​ต่าง​สอนหนังสือ​ด้วย​ความอดทน​และ​ใส่ใจ ทั้ง​ยัง​ชื่นชอบ​เด็ก​ที่​ถึงแม้จะหัว​ช้าแต่​ก็​ขยันขันแข็ง​เหล่านั้น​อีกด้วย​ จึงเหมาะสม​กับ​รั่ง​เก​อเอ๋อร์​ที่สุด​แล้ว​…

…สำนักศึกษา​แห่ง​นี้​เป็น​ลุง​ของ​เจ้าที่​แนะ​นำมา​ให้​ เขา​ไม่มีทาง​ปล่อย​ศร​โดย​ไร้​ทิศทาง​อย่าง​แน่นอน​ พวก​เจ้าวางใจ​เถิด​…

…ทาง​ด้าน​ของ​เจ้ารอง​ เจ้าก็​ต้อง​ไป​พูด​กับ​เขา​สักหน่อย​ หากว่า​ที่ทำการ​ไม่มีธุระ​อะไร​ ก็​ให้​อยู่​บ้าน​มาก​สักหน่อย​ อยู่​คอย​ชี้แนะ​การเรียน​ให้​รั่ง​เก​อเอ๋อร์​ ให้ความสนใจ​เขา​เป็นพิเศษ​สักหน่อย​ ด้วย​ความรู้​ความสามารถ​ของ​เจ้ารอง​แล้ว​ รั่ง​เก​อเอ๋อร์​ควรจะเป็น​นักเรียน​ที่​โดดเด่น​ที่สุด​ใน​สำนักศึกษา​ถึงจะถูก.​..

…วันนี้​พวกเรา​กับ​ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​ตระกูล​กัน​แล้ว​ ต่อไป​กิ่งก้าน​ที่​จิงเฉิงนี้​ก็​ต้อง​อาศัย​เจีย​ซ่าน​และ​รั่ง​เก​อเอ๋อร์​เป็น​คน​นำ​เกียรติ​มาให้​ตระกูล​แล้ว​ รั่ง​เก​อเอ๋อร์​จะเอาแต่​หลบ​อยู่​หลัง​เจีย​ซ่าน​ต่อไป​เหมือน​เมื่อก่อน​ไม่ได้​อีก​ ต่อให้​อนาคต​จะมิอาจ​สอบผ่าน​จน​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ได้​ ทว่า​ก็​ไม่อาจ​ละทิ้ง​การเรียนหนังสือ​ เจ้ากล้า​ตัดสิน​โดยพลการ​หรือ​ว่าการ​ที่​รั่ง​เก​อเอ๋อร์​เรียนหนังสือ​ได้​ธรรมดา​สามัญนั้น​บุตรชาย​ของ​เขา​ก็​จะเป็น​เหมือนกับ​เขา​ด้วย​”

ฮูหยิน​รอง​เว่ย​พยักหน้า​หงึก​ๆ ยืน​มือ​แนบ​ลำตัว​สกัดกั้น​ความรู้สึก​ซาบซึ้งใจ​อยู่​ข้างๆ​ ขาน​รับคำ​อย่าง​นอบน้อม​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​

มีสาวใช้​เด็ก​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ “นาย​ท่าน​สี่มาเจ้าค่ะ​”

เกรง​ว่า​พอ​ได้ยิน​ว่า​ฮูหยิน​ใหญ่​เลี่ยว​และ​ฮูหยิน​รอง​ฟางพา​ฟางเซวียน​มาหา​นาง​ที่นี่​ ก็​เลย​ออกหน้า​มาช่วย​เสาจิ่น​กระมัง​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ร้อง​หึ​เสียง​เย็น​

ฮูหยิน​รอง​เว่ย​รีบ​ลุกขึ้น​กล่าว​ขอตัว​ลา​

แม้น​นาง​จะไม่ได้​เฉลียวฉลาด​เท่า​หยวน​ซื่อ​ ทว่า​ก็​มิใช่คนโง่​

เมื่อก่อน​เพียง​แม่สามีได้ยิน​ชื่อ​ของ​น้อง​สี่ดวงตา​ก็​เจือ​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​แล้ว​ แต่​ช่วงนี้​กลับ​ปฏิบัติ​ต่อ​น้อง​สี่อย่าง​เฉยชา​ไม่เย็น​และ​ไม่ร้อน​ เห็นได้ชัด​ว่า​ระหว่าง​มารดา​และ​บุตรชาย​นั้น​กำลัง​มีปัญหา​กัน​อยู่​ แต่​ไม่ว่า​ระหว่าง​พวกเขา​มีปัญหา​อะไร​กัน​ น้อง​สี่ก็​เป็น​บุตรชาย​ที่​แม่สามีโปรดปราน​ที่สุด​ นาง​จึงไม่อยาก​เข้าไป​ข้องเกี่ยว​ด้วย​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เผย​สีหน้า​เคร่ง​ นั่ง​รอ​ให้​เฉิงฉือ​เข้า​มาหา​อยู่​ตรงนั้น​เงียบๆ​

เฉิงฉือ​ทำความเคารพ​มารดา​เสร็จ​แล้วจึง​นั่งลง​บน​ตั่ง​ตรงข้าม​กับ​มารดา​ รอ​ให้​สาวใช้​เด็ก​นำ​น้ำชา​ขึ้นโต๊ะ​เรียบร้อย​แล้วก็​ไล่​ให้​คน​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ห้อง​ออก​ไป​ กล่าว​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ว่า​ “หลาย​วันก่อน​พี่ใหญ่​มาหา​ข้า​ ถามข้า​ว่า​ใน​บ้าน​ยัง​มีเงิน​ที่​ใช้ได้​จำนวน​เท่าไร​ บอ​กว่า​เจีย​ซ่าน​ใกล้​จะแต่งงาน​แล้ว​ ก่อนหน้านี้​ตั้งใจ​เอาไว้​ว่า​หลังจากที่​จัดงาน​ที่​จิงเฉิงเสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​จะให้​พวกเขา​สอง​สามีภรรยา​ไป​อยู่​ที่​จิน​ห​ลิง​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ หนึ่ง​เพื่อให้​พวกเขา​ได้​แสดง​ความกตัญญู​ต่อ​ท่าน​ สอง​เพื่อให้​พวกเขา​ได้​ไปมาหาสู่​กับ​ญาติพี่น้อง​ที่​บ้านเดิม​ของ​ตัวเอง​ เพื่อ​หลีกเลี่ยง​เรื่อง​ที่ว่า​สะใภ้คน​ใหม่​ไม่รู้จัก​ญาติพี่น้อง​ของ​ตัวเอง​แม้แต่​คนเดียว​ ด้วย​เหตุ​นั้น​บ้าน​ที่​ซอย​ซิ่งหลิน​จึงปรับปรุง​อย่าง​ง่ายๆ​ ครั้งหนึ่ง​และ​ซื้อ​ของ​มาเพิ่มเติม​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ตอนนี้​พวกเรา​กับ​ซอย​จิ่ว​หรู​แยก​ตระกูล​กัน​แล้ว​ ต่อไป​ทุกคน​ต่าง​ก็​ต้อง​มาอยู่​จิงเฉิง เรือน​หลัง​ใหม่​หลัง​แต่งงาน​ของ​เจีย​ซ่าน​จึงไม่อาจ​จัดเตรียม​อย่าง​ง่ายๆ​ เช่นนี้​ได้​แล้ว​ จึงถามข้า​ว่า​ใน​บ้าน​ยัง​มีเงิน​ที่​ใช้ได้​เป็น​จำนวน​เท่าไร​…บอ​กว่า​ครอบครัว​ต้อง​ประสบ​กับ​เรื่อง​เช่นนี้​ จะต้อง​ไม่มีเงิน​เหลือ​มากมาย​เป็นแน่​ เดิมที​เขา​อยาก​จะหารือ​กับ​ตระกูล​หมิ่น​ให้​จัด​งานแต่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​อย่าง​เรียบง่าย​สักหน่อย​ จึงเขียนจดหมาย​ไป​ให้​พี่สะใภ้​ใหญ่​ แต่​พี่สะใภ้​ใหญ่​ไม่เห็นด้วย​ บอ​กว่า​นาง​มีบุตรชาย​เพียง​คนเดียว​ อีก​ทั้ง​พี่ใหญ่​ยัง​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​ราชสำนัก​ คน​ที่​เกี่ยวดอง​ด้วย​ยัง​เป็น​ตระกูล​หมิ่น​ของ​ฝูเจี้ยน​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่อาจ​สร้าง​ความลำบาก​ให้​คุณหนู​ใหญ่​ตระกูล​หมิ่น​ได้​ ถ้าหาก​หาเงิน​จาก​กองกลาง​ไม่ได้​จริงๆ​ ค่าใช้จ่าย​สำหรับ​งานแต่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​ก็​ให้​ไป​เอาจ​ากของ​นาง​ก็แล้วกัน​ ไม่ต้อง​ใช้ของ​กองกลาง​แล้ว​…”

สีหน้า​ของ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​พลัน​ไม่น่าดู​เป็นอย่างมาก​ขึ้น​มาในทันที​ ถามว่า​ “เจ้าตอบ​ไป​ว่า​อย่างไร​”

เงิน​ที่​จ่าย​ให้​จวน​รอง​ล้วน​เป็น​เงินกองกลาง​ของ​จวน​หลัก​ มิได้​ยุ่ง​กับ​สิน​ติดตัว​ของ​หยวน​ซื่อ​เลย​แม้แต่​แดง​เดียว​

ตอนนี้​เฉิงสวี่​ใกล้​จะแต่งงาน​ ตาม​หลัก​แล้ว​เงิน​จำนวน​นี้​ก็​ควรจะ​หยิบ​ออก​มาจาก​เงินกองกลาง​ของ​จวน​หลัก​ ไม่มีเหตุผล​อะไร​ให้​ไป​ยุ่ง​กับ​สิน​ติดตัว​ของ​หยวน​ซื่อ​

แต่​หลักการ​มิได้​อยู่​นอกเหนือ​น้ำใจ​คน​

วันนี้​ครอบครัว​ประสบ​กับ​เรื่อง​ที่​ไม่เคย​พานพบ​มาก่อน​ ต่อให้​มีเงินกองกลาง​จำนวนมาก​เท่าไร​ แต่​ไม่มีการค้า​ ไม่มีที่นา​แล้ว​…มิใช่ว่า​ควรจะ​หา​ซื้อ​ทรัพย์สิน​ ให้​ผ่าน​ช่วง​เวลานี้​ไป​ให้ได้​ก่อน​หรอก​หรือ​ นี่​กลับ​เป็นห่วง​แต่​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​บุตรชาย​ตัวเอง​เท่านั้น​

ยัง​อยาก​จะจัด​อย่าง​ใหญ่โต​อีก​

กลัว​ว่า​กองกลาง​จะหาเงิน​มาให้​ไม่ได้​ ก็​จะให้​ไป​เอา​จาก​สิน​ติดตัว​ของ​ตัวเอง​

และ​บุตรชาย​หูเบา​ของ​นาง​ผู้​นั้น​ก็​ยัง​จะเชื่อฟัง​ มาปรึกษาหารือ​กับ​น้องชาย​ของ​ตัวเอง​อี​ก.​..

นาง​ช่างเลี้ยง​บุตรชาย​มาได้ดี​จริงๆ​!

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กำ​พัด​กลม​ใน​มื้อ​แน่น​จน​นิ้วมือ​ซีด​ขาว​เล็กน้อย​

เฉิงฉือ​ลอบ​ถอนหายใจ​ครั้งหนึ่ง​

ทั้งๆ ที่​พี่ใหญ่​รู้​ว่า​มารดา​มีเรื่อง​บาดหมาง​กับ​หยวน​ซื่อ​อยู่​ ก็​ยัง​จะพูด​เรื่อง​เช่นนี้​ออกมา​อีก​ เห็นได้ชัด​ว่า​เรื่อง​ระหว่าง​แม่สามีและ​บุตร​สะใภ้นั้น​ สามีผู้​เป็น​คนกลาง​จะช่วย​ไกล่เกลี่ย​วอ​ย่าง​ไร​นั้น​เป็น​สิ่งสำคัญ​ยิ่ง​

หวัง​ว่า​ต่อไป​เขา​จะไม่โง่งม ผลัก​ให้​เสาจิ่น​ไป​เผชิญหน้า​กับ​มารดา​

เขา​กุมมือ​ของ​มารดา​เอาไว้​ กล่าว​ปลอบโยน​นาง​เสียง​เบา​ว่า​ “ท่าน​แม่อย่า​ได้​เข้าใจผิด​ พี่ใหญ่​เอง​ก็​เข้าใจ​ความยากลำบาก​ของ​ครอบครัว​ดี​ แต่​สุดท้าย​แล้ว​ตำแหน่ง​ค้ำ​ตัว​เขา​อยู่​ตรงนั้น​ งานแต่ง​ของ​เจีย​ซ่าน​หาก​อัตคัด​เกินไป​ก็​ดู​ไม่ดี​นัก​ ตอนนั้น​ข้า​บอก​พี่ใหญ่​ไป​ว่า​ เรื่อง​นี้​ต้อง​กลับมา​หารือ​กับ​ท่าน​ก่อน​ แต่​เมื่อ​กลับมา​ถึงข้า​ก็​หา​วิธี​เตรียม​เงิน​เอาไว้​แล้ว​หนึ่ง​แสน​เหลี่ยง​ ข้า​คิด​ว่า​ถึงเวลา​นั้น​ให้​บอก​กับ​พี่ใหญ่​ว่า​เงิน​จำนวน​นี้​เป็น​เงิน​ส่วนตัว​ของ​ท่าน​ กล่าวคือ​ แทนที่จะ​ให้​พี่สะใภ้​ใหญ่​นำ​เงิน​ส่วนตัว​ของ​นาง​ออกมา​ให้​เจีย​ซ่าน​แต่งงาน​ มิสู้ให้​ท่าน​ออก​เงิน​เอง​จะดีกว่า​…”

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ หยวน​ซื่อ​ก็​จะไม่มีคำพูด​อะไร​ให้​พูด​ได้​แล้ว​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​กุมมือ​เฉิงฉือ​กลับ​อย่าง​แน่น​ ไม่เปล่งเสียง​ใด​กว่า​ครู่ใหญ่​ แต่​เมื่อ​เอ่ยปาก​ก็​ “แม้น​พวกเรา​กับ​ซอย​จิ่ว​หรู​จะแยก​ตระกูล​กัน​แล้ว​ แต่​พวกเรา​ต่างหาก​ที่​เป็น​สาย​หลัก​ของ​ตระกูล​เฉิง กฎระเบียบ​ภายในบ้าน​ก็​ย่อม​ต้อง​ปฏิบัติตาม​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​อย่าง​ที่​ซอย​จิ่ว​หรู​เคย​ปฏิบัติ​กัน​มา”

ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ของ​ซอย​จิ่ว​หรู​นั้น​ เวลา​แต่งงาน​บุตรชาย​ของ​ภรรยา​เอก​ใช้เงิน​หนึ่ง​พัน​เหลี่ยง​ บุตรชาย​ของ​อนุ​ใช้เงิน​ห้า​ร้อย​เหลี่ยง​ บุตรสาว​ของ​ภรรยา​เอก​ใช้เงิน​เจ็ด​ร้อย​เหลี่ยง​ บุตรสาว​ของ​อนุ​ใช้เงิน​สามร้อย​เหลี่ยง​ เพียงแต่ว่า​ซอย​จิ่ว​หรู​ร่ำรวย​มาเป็นเวลา​นาน​ จึงไม่ได้​ปฏิบัติตาม​กฎระเบียบ​นี้​มานาน​แล้ว​

เฉิงฉือ​หัวเราะ​อย่าง​ฝืด​เฝื่อน​ เกลี้ยกล่อม​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ว่า​ “พวกเรา​ก็​มิได้​ขาดเหลือ​เงินทอง​อะไร​ อีก​ไม่กี่​วัน​ข้า​ค่อย​ถ่ายโอน​เงิน​กลับมา​ให้​หนึ่ง​แสน​เหลี่ยง​ ท่าน​ไม่จำเป็นต้อง​ขุ่น​เคืองใจ​ด้วย​เรื่อง​นี้​ อารมณ์​เสียแล้ว​ ไม่คุ้มค่า​กัน​หรอก​ขอรับ​!”

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ไม่กล่าว​อะไร​

แต่​วันรุ่งขึ้น​เมื่อ​เจอ​หน้า​โจว​เสาจิ่น​แล้ว​ ก็​ต้องการ​ให้​โจว​เสาจิ่น​คัดลอก​สมุดบัญชี​ใน​เรือน​ชั้นใน​ของ​ซอย​จิ่ว​หรู​ ยัง​กำชับ​นาง​ด้วยว่า​ “รายจ่าย​แต่ละ​รายการ​เจ้าจงจำเอาไว้​ให้​หมด​ ต่อไป​มีเรื่อง​อะไร​ก็​ให้​ใช้จ่าย​ไป​ตามนั้น​”

โจว​เสาจิ่น​นั้น​ไม่รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ระหว่าง​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​และ​เฉิงจิง นาง​จึงรับคำ​อย่าง​เชื่อฟัง​ เริ่มต้น​คัดลอก​สมุดบัญชี​ของ​เรือน​ชั้นใน​ของ​ซอย​จิ่ว​หรู​

ตกบ่าย​ ฟางเซวียน​ก็​มาจริงๆ​

นาง​สวม​เสื้อกั๊ก​ปี๋​เจี่ย​ไร้​ลวดลาย​สีม่วง​อ่อน​ กระโปรง​จีบ​สีขาว​พระจันทร์​ รองเท้า​ผ้า​ปัก​ที่​สวม​อยู่​บน​เท้า​ประดับ​เอาไว้​ด้วย​ไข่มุก​ขนาดใหญ่​เท่า​เม็ด​บัว​ ดู​หรูหรา​และ​ไม่ขาด​ความงดงาม​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​จึงนั่ง​สนทนา​กับ​นาง​อยู่​ใน​ห้องรับแขก​

ส่วน​โจว​เสาจิ่น​นั่ง​คัดลอก​สมุดบัญชี​อยู่​ใน​ห้อง​ข้าง​

ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​รั้ง​ให้​อยู่​รับ​มื้อ​เย็น​ด้วย​ ทั้งสอง​ต่าง​รับประทาน​อาหารเย็น​เป็นเพื่อน​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ จากนั้น​ต่าง​คน​ต่าง​แยกย้าย​กัน​กลับ​จวน​

ฮูหยิน​รอง​ฟางรอ​นาง​อยู่​ใน​ห้องนอน​ของ​ฟางเซวียน​ เมื่อ​เห็น​นาง​ก็​ถามขึ้น​ว่า​วันนี้​อยู่​ตระกูล​เฉิงได้​ทำ​อะไร​บ้าง​

ฟางเซวียน​บอก​มารดา​ไป​ตามจริง​

ฮูหยิน​รอง​ฟางได้ยิน​แล้วก็​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ไม่หยุด​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “เจ้าบอ​กว่า​ คุณหนู​รอง​ตระกูล​โจว​ก็​อยู่​ด้วย​ แต่ว่า​ตอนที่​เจ้ากับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​สนทนา​กัน​อยู่​นั้น​ นาง​นั่ง​คัดลอก​สมุดบัญชี​อยู่​ใน​ห้อง​ข้าง​อย่างนั้น​หรือ​”

นี่​เห็นได้ชัด​ว่า​กำลัง​สอน​คุณหนู​รอง​ตระกูล​โจว​ว่า​การครองเรือน​นั้น​ต้อง​ทำ​อย่างไร​!

แต่​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ของ​แต่ละ​บ้าน​ล้วน​ไม่เหมือนกัน​ การ​ให้​คุณหนู​รอง​ตระกูล​โจว​คัดลอก​สมุดบัญชี​ของ​ตระกูล​เฉิงนั้น​หมายความว่า​อย่างไร​กัน​แน่​

เนื่องจาก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เป็น​มารดา​ของ​ขุนนาง​ใหญ่​ ยาม​อยู่​ต่อหน้า​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ฟางเซวียน​จึงไม่กล้า​ซุกซน​ ปรับ​อารมณ์​และ​จิตใจ​อยู่​เป็นเพื่อน​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ไป​ตลอดทั้ง​บ่าย​ จึงรู้สึก​เหน็ดเหนื่อย​เป็นอย่างมาก​ ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​อ้า​ปาก​หาว​ครั้งหนึ่ง​พร้อมกับ​ตอบ​ว่า​ “ใช่แล้ว​เจ้าค่ะ​! ฮูหยิน​รอง​เว่ย​บอ​กว่า​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ให้​นาง​คัดลอก​สมุดบัญชี​เหล่านั้น​ทั้งหมด​หนึ่ง​จบ​ จากนั้น​ให้​เก็บ​ไว้​ใน​ห้องเก็บของ​ บอ​กว่า​สมุดบัญชี​บางส่วน​ของ​เมื่อก่อน​สูญหาย​ไป​แล้ว​ จึงต้อง​เก็บ​สมุดบัญชี​เหล่านี้​เอาไว้​ใช้เป็น​อ้างอิง​ในอนาคต​”

นี่​ก็​มีความเป็นไปได้​!

จวน​หลัก​แยกตัว​ออก​มาจาก​ซอย​จิ่ว​หรู​ มีของ​บางอย่าง​ที่​อาจ​สูญหาย​ไป​บ้าง​ก็​เป็น​เหตุผล​ที่​เข้าใจ​ได้​

แต่​ใน​ใจของ​ฮูหยิน​รอง​ฟางยังคง​รู้สึก​ไม่วางใจ​ทั้งหมด​

ทุกครั้งที่​ฟางเซวียน​ไป​ตระกูล​เฉิงล้วน​ให้​นาง​สังเกต​ดู​ว่า​โจว​เสาจิ่น​ทำ​อะไร​บ้าง​มาอย่าง​ละเอียด​ ได้​รู้​ว่า​โจว​เสาจิ่น​นั่ง​คัดลอก​สมุดบัญชี​โดยตลอด​ ยัง​เรียก​ให้​ปี้​อวี้​สาวใช้​ใหญ่​ที่​เคย​รับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ไป​ช่วย​คัด​ด้วย​ ส่วน​ฟางเซวียน​ก็​ได้รับ​การ​ชี้แนะ​จาก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ เริ่ม​เรียน​เขียน​อักษร​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​แล้ว​ นาง​ถึงได้​วางใจ​ลง​ได้​

และ​แล้ว​ฤดูร้อน​ก็​ผ่าน​พ้นไป​อย่าง​รวดเร็ว​

เรื่อง​ที่​จิน​ห​ลิง​ก็​จัดการ​อย่าง​เหมาะสม​ลงตัว​หมด​แล้ว​

ข้าวของ​ต่างๆ​ ก็​ทยอย​กัน​ส่งมาจาก​เมือง​จิน​ห​ลิง​ ปี้​อวี้​และ​คนอื่นๆ​ ต่าง​วุ่นอยู่กับ​การกำกับ​บ่าว​ชาย​ป้า​รับใช้​ทั้งหลาย​นำ​ข้าวของ​ต่างๆ​ ไป​จัดเก็บ​ให้​เรียบร้อย​ใน​แต่ละ​ห้อง​

ต้นเดือน​แปด​ หยวน​ซื่อ​ก็​เร่ง​เดินทาง​กลับ​มาจาก​จิน​ห​ลิง​เพื่อ​ฉลอง​เทศกาล​ไหว้​พระจันทร์​

คน​ที่มา​ด้วย​ยังมี​บ่าวไพร่​ที่​ยินดี​ติด​ตามมา​ตั้งรกราก​อยู่​ที่​จิงเฉิงกับ​ตระกูล​เฉิงด้วย​อีก​สิบ​กว่า​ครอบครัว​ ยังมี​บางส่วน​ที่​ไม่อยาก​มาตั้งรกราก​อยู่​ที่​จิงเฉิงแต่​ก็​ไม่อยาก​ไป​จาก​ตระกูล​เฉิงเช่นกัน​ หยวน​ซื่อ​จึงจัดแจง​ให้​พวกเขา​ช่วยดูแล​หลุมศพ​ของ​บรรพบุรุษ​และ​สุสาน​ของ​ตระกูล​แทน​

แน่นอน​ว่า​พื้นที่​ที่​ซอย​ซิ่งหลิน​มีไม่เพียง​พอแล้ว​ ส่วนใหญ่​จึงถูก​จัด​ให้​มาอยู่​ที่​ประตู​เฉาหยาง​

หยวน​ซื่อ​ล้างหน้าล้างตา​ที่​ซอย​ซิ่งหลิน​ครั้งหนึ่ง​แล้วก็​เร่ง​เดินทาง​มายัง​บ้าน​ที่​ประตู​เฉาหยาง​

นาง​มอง​ต้นไม้​เก่าแก่​ที่​สูงเสียดฟ้า​ ทางเดิน​ที่​กว้างขวาง​ ตัว​บ้าน​ที่​งดงาม​ และ​น้ำ​ทะเลสาบ​ที่​เคลื่อน​เป็น​ริ้ว​สีทอง​ใน​บ้าน​แล้วก็​เบิก​ดวง​ตาโต​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​ เอ่ย​ถามมามาที่​นาง​ทิ้ง​เอาไว้​ให้​อยู่​ดูแล​เฉิงจิงที่​ซอย​ซิ่งหลิน​ว่า​ “นาย​ท่าน​สี่ซื้อ​บ้าน​หลัง​นี้​มาตั้งแต่​เมื่อใด​หรือ​”

หลัง​ใหญ่​กว่า​บ้าน​ที่​ซอย​ซิ่งหลิน​มาก​โข​

ก่อนหน้านี้​หยวน​ซื่อ​ได้ยิน​ว่า​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ใช้เงิน​ส่วนตัว​ซื้อ​บ้าน​ใกล้​ๆ กับ​ประตู​เฉาหยาง​ให้​เฉิงฉือ​หลัง​หนึ่ง​ นาง​ยัง​คิด​ว่า​อย่าง​มาก​ก็​คง​เป็น​บ้าน​ที่​มีขนาด​ไม่ต่าง​ไป​จาก​บ้าน​ที่​ซอย​ซิ่งหลิน​นัก​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะ…ใหญ่โต​ขนาด​นี้​

เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​มิได้​ด้อย​ไป​กว่า​พื้น​ที่พักอาศัย​ของ​จวน​หลัก​ที่​ซอย​จิ่ว​หรู​เลย​

มามาผู้​นั้น​กล่าว​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​ “ได้ยิน​ว่า​เป็น​บ้าน​สามหลัง​รวมกัน​ ต้อง​เจรจา​กัน​อยู่​นาน​กว่า​จะซื้อ​ทั้งหมด​มาได้​ ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​เริ่ม​ทำ​การปรับปรุง​ตั้งแต่​เมื่อใด​นั้น​ ข้า​ก็​ไม่ทราบ​แล้ว​…ตอนที่​นาย​ท่าน​สี่มาบอก​นั้น​ก็​เข้ามา​อยู่แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หยวน​ซื่อ​ขาน​รับคำ​เสียง​หนึ่ง​ว่า​ “อืม​” ด้วย​จิตใจ​เลื่อนลอย​ ได้​พบ​กับ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ที่​เรือน​หลัก​ของ​ลานบ้าน​หลัก​ ณ ถนน​ฝั่งตะวันออก​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด