ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 364-2 สังหารขั้นหก (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 364-2 สังหารขั้นหก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 364 สังหารขั้นหก (2)

“จะตายแล้วยังพูดมากอีก!”

ฟางผิงแค่นเสียงในลำคอ ดาบผิงล่วนระเบิดประกายแสงเจิดจ้าแล้ว ชั่วพริบตาก็ฟันเข้าที่บานประตูด้านบนหัวของอีกฝ่าย!

หวังจินหยางไม่ชักช้าเช่นกัน ฟาดดาบตามลงมา

หลี่หานซงทะยานขึ้นบนฟ้า ซัดหมัดใส่หัวของอีกฝ่ายเช่นกัน

“พวกนายเป็นคนบีบฉันเอง!”

ยอดฝีมือขั้นหกคนนี้รับรู้ถึงวิกฤตอย่างร้ายแรง ตระหนักว่าครั้งนี้คงไม่รอดแล้ว

ครู่ต่อมาประตูหนึ่งในสามบานที่ใกล้จะปิดสนิทก็ระเบิดออกมาทันที!

เดิมทีเป็นแค่ประตูที่ไร้รูปร่าง เวลานี้ระเบิดออก กลับปะทุคลื่นพลังงานมหาศาลออกมา!

ฟางผิงสีหน้าเปลี่ยนทันที เพิ่มความเร็วฝีเท้า หนีออกไปอย่างว่องไว!

หวังจินหยางถลาตัวขึ้นอากาศไปอย่างไม่ลังเล

ส่วนหลี่หานซงนั้นอยู่ใกล้ที่สุด ก่นด่าอย่างโมโหแล้วก็รีบหนีตายพร้อมทั้งระเบิดแสงสีทองขึ้นมาคลุมร่างกายอย่างเข้มข้น!

“เปรี้ยง!”

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แม้จะเป็นพื้นที่ต่อสู้นอกทางเดินนั้นก็ยังได้ยินเสียงระเบิดเช่นกัน

ในเวลาเดียวกับที่ฝั่งของพวกฟางผิงเกิดระเบิดรุนแรงขึ้น

ใจกลางของพื้นที่ต่อสู้

ตอนนี้พวกตาเฒ่าหลี่รบตายไปหลายคนแล้ว ขั้นหกสิบแปดคน เหลือแค่เจ็ดแปดคนเท่านั้น

ได้ยินเสียงระเบิดมาจากทางทิศตะวันออก ชายชราผมสีดอกเลาก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มทันที “ทำได้ดี จัดการผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกได้!”

นั่นเป็นอานุภาพของการระเบิดประตูซานเจียวของตัวเอง!

ส่วนระดับสูง…อยู่บนฟ้ากันหมด ยังสู้ไม่รู้ผลแพ้ชนะกันเลย

แม้จะยิ้มไปอย่างนั้น ทุกคนกลับไม่ได้สบายใจ พวกฟางผิงบีบขั้นหกจนต้องระเบิดตัวเอง ฝีมือแข็งแกร่งจนถึงขีดสุดจริงๆ แต่ขั้นหกยังระเบิดตัวเอง เจ้าเด็กพวกนั้นจะมีคนตายด้วยหรือเปล่า?

ตาเฒ่าหลี่กวาดสายตามองแวบหนึ่ง เอ่ยทุ้มลึกว่า “ไม่อาจถ่วงเวลาได้อีกแล้ว ครั้งนี้พวกเราถือว่าคุ้มค่าแล้วเหมือนกัน สังหารขั้นหกของพวกเขาไปนับสิบ ระดับกลางนับร้อยคน! พวกนายหนีได้ก็หนีไปเถอะ หากหนีไม่พ้นก็ระเบิดตัวเองใส่พวกแม่งซะ!”

“แล้วนายล่ะ?”

ชายชราคนหนึ่งเพิ่งถามเสร็จ ด้านหลังก็มีประกายกระบี่วาบผ่านทะลุหัวใจของเขา!

ในเวลาเดียวกันตาเฒ่าหลี่ก็กวัดแกว่งกระบี่อมตะที่อยู่ในฝักด้วยความเร็วจนมองไม่ทัน ทะลวงหัวของคนที่ลอบโจมตีผู้นั้น

“ฉันจะไปจัดการตัวเป้งๆ!”

ตาเฒ่าหลี่พูดอย่างเงียบๆ น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่อาจได้ยินแล้ว

ด้านบนตอนนี้แสงสีทองของโจวติ้งกั๋วใกล้จะดับลงแล้ว

ไกลออกไปอีก ขั้นเก้าสองคนกำลังทำสงคราม ต่อสู้กันจนท้องฟ้าแทบจะระเบิด แม้ว่าอู๋ชวนจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นบดขยี้ได้ ตอนนี้ถูกคนสกัดตัวไว้

ส่วนที่อื่นๆ พวกขั้นเจ็ดกำลังร่วมมือกัน ประกายดาบของจางติ้งหนานพุ่งสูงเสียดฟ้า อาวุธวิเศษของโจวเจิ้งหยางก็ระเบิดพลังเช่นกัน ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นที่อันตราย

แต่คนพวกนี้ก็ไม่อาจปลีกตัวออกมาช่วยโจวติ้งกั๋วได้

“ยังต้องพึ่งฉันไปพลิกเปลี่ยนสถานการณ์สินะ!”

เวลานี้ทุกคนไม่อาจดึงตัวออกมาได้ หากโจวติ้งกั๋วตาย ยอดฝีมือร่างทองสามคนจะไร้คู่ต่อสู้ ไม่นานก็จะสามารถทำลายปรมาจารย์ขั้นเจ็ด คนพวกนี้ร่วมมือกัน แม้ว่าจะฆ่าอู๋ชวนไม่ตาย แต่อู๋ชวนก็หนีไปไหนไม่รอดเช่นกัน

หากยังโรมรันนานกว่านี้ ทหารกองหนุนไม่ทันมาถึง อู๋ชวนอาจจะถูกพล่ากำลังจนตายก่อนก็ได้ สูญเสียขั้นเก้า นี่เป็นราคาที่ประเทศจีนไม่อาจรับได้

ตาเฒ่าหลี่สูดลมหายใจลึก ไม่ได้รีบร้อนจะลงมือ ยังไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม

ครู่ต่อมาตาเฒ่าหลี่ก็ทะยานขึ้นฟ้าอีกครั้ง ฝ่าเข้าไปในวงล้อมการต่อสู้ของขั้นหก เวลานี้ยอดฝีมือขั้นหกที่ล้อมโจมตีเขามีมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว

ห่างออกไปสิบลี้

ฟางผิงสะบัดหัวเล็กน้อย รู้สึกมึนๆ อยู่บ้าง

ไกลออกไปนั้นหวังจินหยางร่วงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว เลือดหยดกระจายเต็มพื้น บาดเจ็บไม่ใช่น้อย

ด้านฉินเฟิ่งชิงดึงใบหน้าที่เปื้อนมอมแมมไปด้วยฝุ่นออกมาจากรูบนพื้นดิน กระอักเลือดที่ปนกับดินออกมา

ยอดฝีมือขั้นหกระเบิดประตูซานเจียวตัวเอง จำต้องพูดว่าอานุภาพรุนแรงจนน่าตกใจ พวกเขาแทบจะถูกระเบิดตาย

ทั้งสามคนมารวมตัวกัน ฟางผิงมองสอดส่องไปรอบๆ ขมวดคิ้วว่า “หลี่หานซงตายแล้ว?”

“ไม่รู้…”

หวังจินหยางตอบกลับอย่างไร้เรี่ยวแรง ไม่รู้จริงๆ ตายก็ตายสิ เข้ามาในถ้ำใต้ดิน ใครก็ไม่ได้คิดว่าจะรอดกลับไปได้ทุกคนอยู่แล้ว

เวลานี้แทนที่จะมาโศกเศร้า ยังไม่สู้วางแผนฆ่าศัตรูเพื่อล้างแค้นดีกว่า

“ไม่ตายมั้ง?”

ฉินเฟิ่งชิงส่ายหัวเบาๆ หอบหายใจว่า “ไม่ได้การแล้ว พวกเราต้องรีบหนี หากมีขั้นสี่ขั้นห้ามาอีก พวกเราตายกันหมดแน่ ปราณเกลี้ยงแล้ว อวัยวะภายในบาดเจ็บหนัก ไม่ไหวจริงๆ…”

ระหว่างที่พูด เจ้าหมอนี่ก็ควักยาฟื้นคืนชีวิตกลืนลงไปหนึ่งเม็ด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาขี้เหนียว

ส่วนก่อนหน้านี้ที่พูดว่าไม่มียาบำรุง…ต้องเป็นเรื่องโกหกอยู่แล้ว ใครจะเข้าถ้ำใต้ดินโดยไม่พกยาบำรุงมาบ้าง แม้จะไม่กลัวตายก็ไม่อาจรนหาที่ตายได้เช่นกัน

ฟางผิงคิดว่าตัวเองมียาฟื้นคืนชีวิตกว่าสิบเม็ดถือว่าเยอะแล้ว ตอนนี้หากทุกคนควักออกมาดู…เขาอาจไม่เยอะกว่าคนอื่นๆ เสมอไป

หวังจินหยางอัดยาบำรุงเข้าไปเช่นกัน ฟางผิงมองสำรวจรอบๆ อีกครั้ง ไม่พบหลี่หานซงก็เงียบไปพักใหญ่ เจ้าหลี่หัวเหล็กคงไม่ใช่ถูกระเบิดตายไปแล้วหรอกนะ?

ระหว่างที่กำลังคิด จู่ๆ ก็มีวัตถุบางอย่างตกลงมาจากท้องฟ้า!

ปัง!

เกิดเสียงดังลั่น พื้นดินปรากฏเป็นหลุมลึก

ทั่วร่างหลี่หานซงเต็มไปด้วยเลือด ค่อยๆ ปีนขึ้นมาจากหลุม เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “พะ…พวกนายหนี…เร็วกันจริงๆ…”

ในหมู่พวกเขา มีแค่หลี่หานซงที่วิ่งช้าที่สุด เกือบจะถูกคนระเบิดตายแล้ว

ฟางผิงเห็นเขายังมีชีวิตก็ไม่พูดมากอีก เอ่ยทันที “พวกเราแยกกันเคลื่อนไหว ฉันจะแฝงตัวกลับเข้าไปอีกครั้ง พวกนายสามคนวิ่งไปทางตะวันออก ถ้ามีโอกาสฉันจะไปตามหาพวกนาย ถ้าไม่มีผ่านไปสองสามวันพวกเราค่อยมารวมตัวแถวนี้ใหม่ อย่างมากคือหนึ่งเดือน หลังจากหนึ่งเดือนพวกเราต้องออกไปให้หมด! หนึ่งเดือนต่อจากนี้หากไม่สร้างฐานทัพก็ต้องผนึกทางเดิน ไม่ว่าจะยังไง ไม่ออกไปก็จะไม่มีโอกาสได้ออกไปอีกแล้ว!”

หวังจินหยางหอบหายใจว่า “นายแฝงตัวเข้าไปอันตรายเกินไป ตอนนี้เป็นช่วงสงครามไม่มีใครสนใจ หากสงครามสิ้นสุดแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางของถ้ำใต้ดินต้องค้นพบแน่…”

“งั้นระดับล่างล่ะ?”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “สามระดับล่างมีตั้งเยอะ ไม่มีใครรู้จักกันหมดหรอก ไว้ค่อยว่าเถอะ”

เขาสามารถปิดบังลมหายใจ แสร้งเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็ได้แล้ว

แต่แสร้งเป็นคนธรรมดาจะเตะตาเกินไป ที่นี่มีแต่ผู้ฝึกยุทธ์ คนธรรมดามาอยู่ตรงนี้ คนโง่น่ะสิจะเชื่อ

“จะต้องไปให้ได้?”

“ฉันจะไปดูสักหน่อย ไม่ต้องพูดมากแล้ว เปลืองเวลาเปล่าๆ”

ฟางผิงเอ่ยต่อทันที “เก็บสินสงครามซะ เอาไปได้เยอะเท่าไหร่ก็เท่านั้น!”

พูดจบฟางผิงก็เริ่มค้นสินสงคราม

ฉินเฟิ่งชิงรีบหาของเช่นกัน ครั้งนี้เขาขาดทุนหนักแล้ว ไม่หาของมาชดเชยสักหน่อยคงไม่ได้

ฟางผิงหาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าสัมภาระ ไม่ดูอย่างละเอียดอีก ค้นเจอป้ายสถานะขั้นสี่อันหนึ่งก็นำมาเปลี่ยนกับอันเก่าของตัวเอง แม้ว่าป้ายสถานะของถ้ำใต้ดินจะมีรูปแบบคล้ายๆ กัน แต่เดิมทีเขาใช้ของเมืองเทียนเหมิน ตราสัญลักษณ์เมืองด้านหลังไม่เหมือนกัน

จัดการเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว ฟางผิงก็เอ่ยว่า “ทางนั้นมีคนไล่ตามมาอีกแล้ว ระวังตัวด้วย พวกนายอันตรายกว่าฉันมาก!”

พวกเขาพยักหน้า แม้จะไม่รู้ว่าฟางผิงทำได้ยังไง แต่หมอนี่สามารถเก็บงำความผันผวนของปราณได้ นี่ถือว่าปลอดภัยมากแล้ว

แต่พวกเขา หากใช้พลังปราณขึ้นมาก็จะถูกค้นพบทันที

ทุกคนไม่ชักช้าอีก ทั้งสองคนช่วยพยุงกันไป ไม่ใช้พลังปราณอีก อาศัยกำลังร่างกายของตัวเองวิ่งอย่างบ้าคลั่งตามทางออกไปไกล

ฟางผิงถอนหายใจ ไม่ได้ย้อนกลับไปทางเดิม เวลานี้หากเจอคนเข้าก็พูดได้ยากแล้ว มีขั้นหกตายตั้งสองคน

เดินอ้อมไปเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งไปยังทิศทางที่พลังงานพลุกพล่าน

———————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด