ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 379-2 มีฉันอยู่สบายใจได้ (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 379-2 มีฉันอยู่สบายใจได้ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 379 มีฉันอยู่สบายใจได้ (2)

หลายปีมานี้ ทางเดินอุบัติขึ้น ปกติจะเคลื่อนไหวแค่หนึ่งเมือง ทั้งน้อยนักที่จะเกิดเหตุการณ์ระดมกำลังออกมาทั้งเมือง

จ้าวซิ่งอู่สูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยทันที “รักษาบาดแผลก่อน เดี๋ยวค่อยไปคุยสถานการณ์คร่าวๆ กับพวกเราอีกที”

คนอื่นทำท่าอยากพูดอะไรสักอย่าง อยากสอบถามเรื่องราว แต่ก็กลัวว่าจะได้ยินข่าวที่ไม่อยากได้ยิน

อย่างน้อยตอนนี้สถานการณ์ก็ยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายที่สุด อู๋ชวนและโจวติ้งกั๋วยังมีชีวิตอยู่

แต่คนอื่นๆ ล่ะ?

เหล่าเจิ้งไม่คิดจะรีบรักษาอาการบาดเจ็บ เห็นพวกหนุ่มสาวกำลังเดินมาทางนี้ก็กระซิบว่า “ให้พวกเขาออกไปก่อน”

ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีทันที ผู้บัญชาการไป๋หมุนตัวกลับไปเอ่ยเสียงดัง “คนอื่นๆ ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้!”

สิ้นเสียงยอดฝีมือทหารจำนวนมากก็ขวางทางไว้

หลายคนที่อยู่รอบนอกเผยสีหน้าเป็นกังวล เหมือนสถานการณ์จะไม่ดีเท่าไหร่แล้ว

“เหล่าเจิ้ง ตกลงเกิดเรื่องอะไรกันแน่?”

“พวกเราเพิ่งจะออกมาจากทางเดินก็เจอกับขั้นเก้าหนึ่งคน ขั้นแปดสามคน ขั้นเจ็ดอีกเก้าคนล้อมฆ่าแล้ว หัวหน้าโจวระเบิดอาวุธวิเศษตัวเอง ท้ายที่สุดยังระเบิดตัวเองตาม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลี่ฉางเซิงสุดท้ายระเบิดกึ่งร่างทองตัวเอง ฟันดาบอมตะภายใต้การร่วมมือของพวกผู้ว่าจางจึงฆ่าขั้นแปดคนหนึ่งได้เช่นกัน อธิการเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ว่าจางก็สละชีวิตในสงคราม ผู้ว่าจางถูกทำลายพลังจิตใจกว่าครึ่ง ได้รับบาดเจ็บหนัก…เกรงว่าคงไม่อาจฟื้นฟูพลังต่อสู้ของปรมาจารย์แล้ว อธิการหลิวได้รับบาดเจ็บสาหัสเหมือนกัน ไม่สามารถสู้ต่อได้ ผู้อำนวยการหูก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ตอนนี้พาผู้ว่าจางและอธิการหลิวไปซ่อนตัว…ขั้นหกคนอื่นนอกจากฉันแล้ว ตายในสนามรบทั้งหมด…พวกเด็กวัยรุ่น…หลังจากฝ่าวงล้อมออกไปก็ไม่รู้เบาะแสร่องรอยอีก…อาจจะ…”

คล้อยหลังจากคำพูดของผู้เฒ่าเจิ้ง ใบหน้าของทุกคนก็ปรากฏความเศร้าสร้อย!

ปรมาจารย์หนานเจียงห้าคน สามคนเข้าไปในถ้ำ ตายในสงครามสองคน จางติ้งหนานก็ถูกทำลายพลังจิตใจไปกว่าครึ่ง นี่เป็นความสูญเสียของหนานเจียง!

ขั้นหกสิบแปดคน ตายในสนามรบสิบเจ็ดคน นี่เกรงว่าจะเป็นความสูญเสียที่มากที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่ถ้ำใต้ดินอุบัติมา!

เจอกับศึกครั้งนี้ กำลังของหนานเจียงเสียหายอย่างหนัก บาดเจ็บรุนแรง ยังจะสามารถคุ้มกันถ้ำใต้ดินหนานเจียงได้อีกงั้นเหรอ?

“อธิการเฉินและหัวหน้าโจว…ตายในสนามรบทั้งคู่แล้วเหรอ?”

ผู้บัญชาการไป๋พึมพำเบาๆ อธิการมหาวิทยาลัยหนานเจียงตายในสงครามแล้ว หัวหน้าเจ้าของหอศิลปะการต่อสู้ที่มีสาขามากที่สุดในหนานเจียงก็ตายแล้ว ผู้ว่าจางได้รับบาดเจ็บหนัก บางทีอาจไม่สามารถฟื้นฟูพลังต่อสู้ของปรมาจารย์ได้แล้ว

ตอนนี้นอกจากเขา ก็มีแค่ประธานหอการค้าหนานเจียงอีกคนที่ยังเป็นยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ แต่ประธานคนนั้นพลังต่อสู้ธรรมดา

หลังจากนี้จะทำยังไงกับถ้ำใต้ดินหนานเจียงอีก?

นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้นยังต้องต่อสู้กันอีก!

“หนานเจียง…”

สงครามครั้งนี้หนานเจียงสูญเสียอย่างหนักเกินไปแล้ว!

ทุกคนต่างหนักอึ้งในใจ ไม่อาจมาเศร้าโศกเสียใจได้อีกแล้ว

ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายจริงๆ จากคำพูดของเหล่าเจิ้ง อย่างน้อยอีกฝ่ายน่าจะระดมกำลังออกมาเกือบทั้งเมือง ก่อนหน้านี้พบเจอได้น้อยอย่างยิ่ง

จ้าวซิ่งอู่สูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยว่า “ผู้บังคับการอู๋เป็นยังไงบ้าง?”

“ผู้บังคับการอู๋กำลังต่อสู้กับขั้นเก้าอีกคนหนึ่ง เดิมทีทางเดินข้างนอกยังมีขั้นเก้าอีกหนึ่งคน แต่เช้าวันนี้ออกไปอย่างเร่งรีบ นี่ถึงเปิดโอกาสให้ฉันได้เข้ามา…”

“ไปล้อมฆ่าผู้บังคับการอู๋อย่างนั้นเหรอ?”

จ้าวซิ่งอู่หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เอ่ยทันที “สถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทุกคนหารือกันหน่อย จะเข้าไปพรุ่งนี้ตามแผนเดิม หรือเข้าไปสนับสนุนตอนนี้เลยดี?”

“เข้าไปตอนนี้เลยเถอะ!” ผู้บัญชาการไป๋เอ่ยทันที “ไม่ว่าขั้นเก้าจะกลับมาหรือไม่ก็ต้องเข้าไปตอนนี้ อาจจะสามารถลดความกดดันให้คนอื่นๆ ได้ หากรออีกคืนยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน…”

“กลัวก็แต่ว่าไม่เข้าไปตามเวลาที่วางแผนไว้ อีกฝ่ายละทิ้งการไล่ฆ่าผู้บังคับการอู๋ ตอนนี้ข้างนอกทางเดินอาจจะมีขั้นเก้าเฝ้าระวังอยู่สองคนแทน…”

มีคนเอ่ยอย่างกังวลออกมา หากขั้นเก้าสองคนเฝ้าระวังอยู่ข้างนอก ต่อให้จ้าวซิ่งอู่จะแข็งแกร่งก็ไม่อาจสกัดทั้งสองคนไว้ได้เสมอไป

ขั้นเก้าปะทะกับขั้นเจ็ดขั้นแปด แม้จะไม่ถึงกับตายในชั่วพริบตา แต่ยืดเวลาออกไปคงจะสังหารอีกฝ่ายได้แน่

เข้าไปตามเวลาที่นัดไว้ งั้นอู๋ชวนย่อมต้องคิดวิธีสกัดอีกฝ่าย ร่วมมือกับจ้าวซิ่งอู่คลี่คลายสถานการณ์

แต่ยืดออกไปอีกหนึ่งคืน หากอู๋ชวนถูกล้อมฆ่าจะทำยังไง?

ตอนนี้มียอดฝีมือตายไปมากพอแล้ว ถ้าเสียขั้นเก้าไปอีกหนึ่งคน นั่นคงแสนสาหัสเกินไป

อย่างอื่นไม่พูดถึง ยังมีปรมาจารย์อีกหลายคนได้รับบาดเจ็บหนัก ตอนนี้หลบซ่อนตัวอยู่ หากถูกค้นพบ นั่นย่อมเป็นอันตรายอย่างถึงที่สุด

ทุกคนพากันครุ่นคิด จู่ๆ จ้าวซิ่งอู่ก็เอ่ยว่า “คนอื่นๆ อย่าเข้าไปเลย ครั้งนี้ฉันจะเข้าไปคนเดียว แม้อีกฝ่ายจะมีขั้นเก้าสองคน ฉันฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ แต่สามารถหนีเอาตัวรอดได้ ไปร่วมมือกับผู้บังคับการอู๋แล้วย้อนกลับมาฆ่าอีกที!”

“ผู้เฒ่าจ้าว นี่จะอันตรายเกินไปแล้ว!”

อาจไม่ได้มีแค่ขั้นเก้าสองคนเสมอไป!

ถูกขั้นเก้าสองคนสกัดไว้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดขั้นแปดคนอื่นๆ สำหรับขั้นเก้าก็สร้างภัยคุกคามได้เหมือนกัน

หากจ้าวซิ่งอู่หนีไม่พ้น โชคไม่ดีถูกคนล้อมฆ่า นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน

ผู้บัญชาการไป๋เอ่ยอย่างครุ่นคิด “ผู้เฒ่าจ้าว ตอนนี้ทางเดินเพียงพอให้ขั้นเก้าสองคนเข้าไปหรือเปล่า?”

จ้าวซิงอู่ส่ายหัวเบาๆ เอ่ยว่า “ถึงจะทำได้ก็ไม่มีความจำเป็น ตอนที่ขั้นเก้าของพวกเราเข้ามาเยอะเกินไป อีกฝ่ายจะเพิ่มกำลังขึ้นเช่นกัน เดิมทีเป็นการต่อสู้แค่สองเมือง อาจจะขยายไปมากกว่านั้น แม้ครั้งนี้จะชนะ ภายหลังหนานเจียงอาจไม่ได้ครองอาณาเขตที่นั่นได้ง่ายๆ เหมือนกัน”

ตอนนี้เป็นการร่วมมือของสองเมือง หากหนานเจียงส่งขั้นเก้าเข้าไปสองคน ทางถ้ำใต้ดินจะมีกองกำลังมาเพิ่มอีกหนึ่งเมืองแน่

ถึงเวลานั้นถ้ำใต้ดินหนานเจียงต้องเผชิญกับการร่วมมือของสามเมือง

สงครามในถ้ำใต้ดินสามารถใช้กำลังคนมากรังแกกำลังคนน้อยได้ มนุษย์กลับไม่ทำแบบนั้น นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าของผู้อ่อนแอ

ทำได้แค่รอเป็นฝ่ายถูกกระทำ รออีกฝ่ายเคลื่อนไหวจำนวนยอดฝีมือที่สอดคล้องกัน มนุษย์ถึงค่อยเพิ่มยอดฝีมือให้เหมาะสมได้!

สิ้นเสียงของจ้าวซิ่งอู่ ทุกคนต่างเผยสีหน้าโมโหขึ้นมา

มีคนกัดฟันว่า “อย่างมากก็แค่ตายในสนามรบ! ครั้งนี้…พวกผู้อาวุโสเตรียมใจกันหมดแล้ว! ฉันก็เตรียมพร้อมแล้วเหมือนกัน!”

ถ้ำใต้ดินหนานเจียงอุบัติ ปรมาจารย์อาวุโสหลายคนเตรียมพร้อมจะสู้สุดชีวิตแล้ว!

เวลานั้นอธิการเฒ่าของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็อยู่ในกลุ่มคนพวกนี้เช่นกัน

น่าเสียดายที่ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้เกิดเรื่องขึ้นก่อน ภายใต้สถานการณ์ไร้ทางเลือก ปรมาจารย์เฒ่าหลายคนจึงต้องเข้าร่วมในสงครามครั้งนั้น

แต่ปรมาจารย์อาวุโสพวกนี้ ยังมีหลายคนที่เตรียมใจสู้จนตัวตาย รัฐบาลกลับออกโรงขัดขวาง หากไม่ถึงเวลาจำเป็นจริงๆ พวกเขาสามารถเข้าใจได้ แต่หากถูกฆ่าจนสูญเสียเยอะไปจริงๆ งั้นก็ต้องระเบิดสงครามใหญ่เหมือนที่ถ้ำใต้ดินปักกิ่งครั้งนั้น

ตอนนี้ประเทศจีนไม่สามารถทำสงครามแบบนี้ได้

ปรมาจารย์ตายในสนามรบนับสิบคน บางทีอาจจะมากกว่านั้น ไม่แน่ว่ายังจะทำให้เผ่าพันธุ์เยามิ่งเกิดการต่อต้านด้วย นี่ไม่เป็นผลดีต่อภาพรวม

เวลานั้นไม่ได้เข้าใจเรื่องถ้ำใต้ดินมากมาย นี่จึงทำให้เกิดสงครามใหญ่ที่ปักกิ่ง ผลปรากฏว่าทำให้เกิดความร่วมมือของเผ่าพันธุ์เยามิ่งและเยาจื๋อ เบื้องบนกังวลว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก สถานการณ์ของมนุษย์จะยิ่งลำบากมากกว่านั้น

คนที่อยู่ที่นี่ต่างเป็นปรมาจารย์ทั้งสิ้น ค่อนข้างเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์พวกนี้

แม้จะรู้สึกไม่ยินยอม แต่ก็รู้ว่าจุดประกายให้เกิดสงครามเป็นวงกว้าง จะเป็นปัญหามากกว่า ทั้งอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีก

จ้าวซิ่งอู่ไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากนั้นพักหนึ่งก็เอ่ยว่า “ฉันจะเข้าไปคนเดียวก่อน เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนกลับมาอีก ไม่งั้นคนอื่นให้รออยู่ที่นี่ทั้งหมด อย่าเข้าไปโดยพลการ!”

ทุกคนจำเป็นต้องรับปาก นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว

จ้าวซิ่งอู่ไม่ชักช้าเช่นกัน ไม่นานก็เข้าไปในห้องโลหะผสม สาวเท้าหายไปในน้ำวน

เขาไปแล้ว การเฝ้าระวังทางเดินรอบๆ ก็ผ่อนคลายลง มีคนพุ่งเข้ามาทันที

ทุกคนพากันล้อมอยู่รอบๆ พวกปรมาจารย์ เฉินอวิ๋นซีละล่ำละลักถามว่า “ฟางผิงเป็นยังไงบ้าง?”

พวกผู้บัญชาการไป๋เอ่ยด้วยท่าทีเช่นเคย “ทุกอย่างปกติดี ไม่ต้องกังวลอะไร!”

เวลานี้ไม่อาจเผยแพร่ข่าวพวกนี้ออกไปได้ หากรู้ว่าทางถ้ำใต้ดินตั้งแต่ขั้นเจ็ดลงไปตายแทบเกลี้ยงหมดแล้ว ทุกคนจะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ

แม้ผู้บัญชาการไป๋จะพูดแบบนั้น ทุกคนยังคงยากจะวางใจ พากันมองไปทางเหล่าเจิ้ง

แต่ตอนนี้เหล่าเจิ้งบาดเจ็บหนัก เริ่มไม่รู้สึกตัวอะไรแล้ว หมอทหารยกอีกฝ่ายเข้าไปในฐานทัพ อยากถามก็ไม่สามารถถามได้

พวกผู้บัญชาการไป๋ส่งคนพวกนี้ออกไปก่อนจะมองหน้ากันด้วยความรู้สึกขมขื่น

ถ้ำใต้ดินหนานเจียงมีอันตรายอยู่บ้างแล้ว

ภายในถ้ำใต้ดิน

ฟางผิงเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เอ่ยด้วยใบหน้ามั่นใจ “ครั้งนี้ถ้ำใต้ดินหนานเจียงมีผมอยู่สบายใจได้แล้ว!”

ตาเฒ่าหลี่เงียบกริบไร้สุ้มเสียง

“เหล่าหลี่ พวกเราร่วมมือกันทำลายหนึ่งเมืองให้คนได้เปิดหูเปิดตากับความสามารถพวกเราสักหน่อย!”

ตาเฒ่าหลี่ชำเลืองตามองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ฉันไม่มีความสามารถนั้น”

“ผมมี!”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ไม่มีคุณถ่วงแข้งถ่วงขา คุณดูเถอะว่าผมจะแฝงตัวเข้าไปในศัตรู จัดการพวกเขายังไง!”

“เธอจะไปจริงๆ?”

“แน่นอน”

ฟางผิงพูดด้วยความองอาจ “อย่างน้อยก็ต้องก่อกวนฐานทัพใหญ่ของพวกเขาสักหน่อย ให้ยอดฝีมือของพวกเขาไม่สามารถปิดผนึกทางเดินต่อได้ คนของพวกเราจะได้เข้ามาอย่างปลอดภัย”

ตาเฒ่าหลี่ไม่พูดมากอีก ฟางผิงครุ่นคิดเล็กน้อย “แต่ถ้าล่อต้นหลิวปีศาจนั่นออกไปได้จะดีที่สุด เหล่าหลี่ คุณพอจะลองดูได้หรือเปล่า?”

ตาเฒ่าหลี่เงียบเป็นเป่าสาก ฉันยังไม่อยากตายเร็วขนาดนั้น

“น่าเสียดาย”

ฟางผิงเห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้า ช่างเถอะ ไม่เข้าไปเมืองชั้นในแล้ว ก่อกวนรอบนอกก็เพียงพอแล้ว แต่ยังต้องระวังตัวหน่อย หากล่อต้นหลิวปีศาจออกมาได้จริงๆ นั่นคงต้องจบเห่แล้ว

———————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด