ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 170 ใช้หน้าตาหากินไม่ได้ (1)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 170 ใช้หน้าตาหากินไม่ได้ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 170 ใช้หน้าตาหากินไม่ได้ (1)

เช้าวันปีใหม่ ครอบครัวของฟางผิงไม่ได้มีญาติที่ไหนต้องไปเยี่ยม

ครอบครัวของน้าเล็กโทรศัพท์มานัดแล้ว พวกเขาจะมาหยางเฉิงในวันพรุ่งนี้

วันนี้ฟางผิงขลุกตัวดูทีวีอยู่ที่บ้าน ถือโอกาสพูดคุยกับคนอื่นๆ ในกลุ่มไปด้วย

พวกอู๋จื้อหาวยังดี แม้ว่าญาติในบ้านจะมีเยอะ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาทุกคน

พวกฟู่ชางติ่งน่าอนาถยิ่งกว่า

ฟางผิงเห็นฟู่ชางติ่งบ่นอยู่ในกลุ่ม ขึ้นชื่อว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เป็นผู้ฝึกยุทธ์อย่างเป็นทางการ ฟู่ชางติ่งก็นับว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถรับผิดชอบกิจการของที่บ้านได้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นนับตั้งแต่ปีนี้ เขาต้องไปเยี่ยมเยียนพวกลุงป้าน้าอาของตัวเองตามลำพัง…

เจ้าหมอนี่ถือโอกาสส่งกำหนดการมาให้ดูด้วย ตารางอัดแน่นเต็มไปหมด!

ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่สิบ ในเวลาสิบวันเขายังต้องไปสวัสดีปีใหม่ผู้อาวุโสที่อายุเกือบถึงหนึ่งร้อย จำเป็นต้องไปเยี่ยมถึงประตูบ้านทำนองนั้น

พวกจ้าวเหล่ยสถานการณ์ไม่ต่างกันมาก ญาติเยอะ กิจการใหญ่โต แวดวงจึงกว้างตาม ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้น้อยล้วนต้องไปสวัสดีปีใหม่ถึงหน้าประตู

ฟางผิงไม่คิดจะไปสวัสดีปีใหม่ใคร เขาเป็นนักศึกษาคนหนึ่ง ไม่อาจมีใครมาสวัสดีปีใหม่ได้ด้วยเช่นกัน

แม้ว่าผู้มีอำนาจของหยางเฉิงหลายคนจะรู้ว่าฟางผิงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดก็ตาม

ฟางผิงอายุน้อยเกินไป ตอนนี้ทุกคนยังไม่เคยคลุกคลีกัน ไม่มีความจำเป็นต้องไปมาหาสู่กันเช่นนั้น

แต่ตระกูลฟาง วันนี้ยังมีคนมาเยี่ยมเยียน!

ตอนที่เห็นสาวน้อยเจ็ดแปดคนมาสวัสดีปีใหม่ฟางหยวนหน้าประตูด้วยสีหน้าดีใจ ฟางผิงแทบจะสำลักตาย!

“พี่หยวนหยวนสวัสดีปีใหม่!”

“ประธานสมาคม ไม่ได้เห็นตั้งหลายวัน วันนี้จะออกไปเที่ยวด้วยกันหรือเปล่า?”

“พี่หยวนหยวน พี่ใหญ่ฟางไม่อยู่บ้านเหรอ?”

“…”

ฟางผิงจ้องมองสาวน้อยทันที สายตาเธอนี่มันอะไรกัน!

ฉันอยู่ที่นี่ทั้งคน ยังถูกเธอมองข้าม?

ไม่แปลกใจที่คนอื่นจะมองข้ามเขา ฟางผิงขดตัวอยู่ในโซฟาแทบไม่ขยับเขยื้อน รวมทั้งคนพวกนี้มาหาฟางหยวน เขาจึงไม่ออกหน้าทักทาย

ผลปรากฏว่ากลับถูกมองข้ามไปเสียสิ้น!

ได้ยินคนเอ่ยถึงตัวเอง ฟางผิงจึงเผยรอยยิ้มอ่อนโยนยอมรับออกมา ยื่นหัวไปว่า “ฉันอยู่นี่!”

“ว้าว! พี่ใหญ่ฟางอยู่บ้าน!”

สาวน้อยคนนั้นร้องอย่างตกใจ

ก่อนครู่ต่อมาจะเกิดเรื่องที่ทำให้ฟางผิงหมดคำพูดอีกครั้ง

“วิ่งสิ พี่ใหญ่ฟางอยู่บ้าน!”

“รีบวิ่งสิ!”

“ไปล่ะพี่หยวนหยวน ค่อยโทรหากัน!”

“…”

ไม่ถึงห้านาที สาวน้อยเจ็ดแปดคนก็วิ่งไปแทบไม่เห็นเงาแล้ว!

กระทั่งลิฟต์ยังไม่ขึ้น วิ่งลงไปจากบันไดโดยตรง!

ฟางผิงอ้าปากค้าง เกิดอะไรขึ้นกัน?

ฉันไม่เป็นที่โปรดปราณของผู้หญิงขนาดนี้เชียว!

ที่เซี่ยงไฮ้ พวกหยางเสี่ยวม่านไม่ชอบขี้หน้าเขา ก่อนหน้านี้หลิวรั่วฉียังตกใจวิ่งตะลีตะลานออกไปอีก

ตอนนี้พวกเด็กๆ เห็นตัวเองอยู่บ้าง ปฏิกิริยาอย่างแรกไม่ใช่ขอลายเซ็น แต่เป็นวิ่งหนี!

“ดวงชะตาเรื่องผู้หญิงของฉันนี่มัน…”

ฟางผิงไร้คำจะพูดอย่างถึงที่สุด ทำไมกัน!

ฉันหน้าตาไม่ดี?

ฝีมืออ่อนด้อย?

หรือว่าไม่มีเงิน?

ก็ไม่ใช่นี่นา!

แต่เมื่อวานกับวันนี้แทบไม่เจอผู้หญิงที่ปกติเลยสักคน

ใบหน้าของฟางผิงนั้นดูไม่ได้ แค่นเสียงในลำคอ ก่อนจะหดตัวกลับไปในโซฟาดูทีวีต่อ นี่มันไม่สมควรชัดๆ!

ฟางหยวนมองฟางผิงอย่างระแวดระวัง เห็นสีหน้าเขาดำคล้ำราวกับก้นหม้อ จึงอดร้อนตัวขึ้นมาไม่ได้

“ฟางผิงคงไม่รู้ว่าฉันพูดให้ร้ายเขาหรอกนะ?”

“ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรขนาดนั้น แค่บอกว่าเขาชอบต่อยคน ชอบหั่นคนเป็นสองท่อน ชอบบีบแก้มคนอื่น บีบจนหน้ากลมดิ๊กแล้วถึงจะปล่อย…ฉันพูดเรื่องจริงทั้งนั้น!”

ฟางหยวนพึมพำเบาๆ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นชั้นสองไป เธอกลัวว่าอีกเดี๋ยวฟางผิงจะบีบแก้มเธออีก

เห็นได้ชัดว่าผอมลงแล้ว หลายวันนี้ฟางผิงอยู่บ้าน แก้มของเธอกลับบวมป่องขึ้นมาอีกครั้ง ฟางหยวนไม่ยอมรับหรอกว่าหลายวันมานี้กินของอร่อยๆ มาตั้งเยอะแยะ!

วันที่สองของปีใหม่ ครอบครัวของน้าเล็กมาหาที่บ้าน!

ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนมาด้วยเช่นกัน มีเด็กทโมนสองคนนี้อยู่ ฟางผิงปวดหัวยิ่งกว่าเดิม สองสามวันนี้แทบหาเวลาว่างไม่ได้

เรื่องที่ฟางผิงเข้าร่วมการแข่งขันแลกเปลี่ยน น้าเล็กและน้าเขยรู้เรื่องเหมือนกัน

หลายวันนี้เห็นฟางผิงครั้งหนึ่งก็จะชมครั้งหนึ่ง ชมจนฟางผิงแทบไม่กล้าอยู่ในบ้านแล้ว

บ้านใหญ่แค่นี้ วันหนึ่งต้องเจอกันเป็นร้อยครั้ง หากชมต่ออีก ฟางผิงคงจะระเบิดตัวเองทิ้งแล้วจริงๆ

จวบจบวันที่หกของปีใหม่ ฟางผิงไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนเด็กทโมนทั้งสามคนนั่นอีกแล้ว

งานชุมนุมผู้ฝึกยุทธ์ของหยางเฉิงเริ่มต้นแล้ว!

โรงแรมหยางเฉิง

งานชุมนุมผู้ฝึกยุทธ์หยางเฉิงครั้งนี้จัดที่ชั้นสองของโรงแรม

ตอนนี้ถานเจิ้นผิงถูกวางตัวให้รับหน้าที่ต้อนรับแขก

ผู้ฝึกยุทธ์ที่มาครั้งนี้ นอกจากจะเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ ยังมีบางส่วนที่ไปก้าวหน้าอยู่ต่างถิ่นเช่นกัน

ผู้ฝึกยุทธ์คุ้นหน้าคุ้นตายังพอว่า แต่ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ต่างถิ่น ทุกคนไม่สนิทกันเท่าไหร่ จึงจำเป็นต้องให้ทางหยางเฉิงหาผู้ฝึกยุทธ์มาออกหน้าต้อนรับ

ไม่ได้มีแค่ถานเจิ้นผิงเพียงคนเดียว ด้านข้างยังมีรองผู้อำนวยการหน่วยสืบสวนอีกคน

ทั้งสองคนต้อนรับแขก ทั้งพูดคุยกันไปพลาง

“จางเฟิ่งหยางถึงขั้นสองแล้วสินะ เมื่อครู่วางท่าไม่ธรรมดา เหมือนจะแข็งแกร่งกว่าพวกเราอยู่บ้าง”

“น่าจะอย่างนั้น”

ถานเจิ้นผิงพยักหน้า ก่อนจะส่ายหน้าว่า “พวกเราล้วนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่จบจากคลาสฝึก แม้จะอยู่ขั้นสองก็ไม่เป็นที่สนใจเช่นกัน”

“จะพูดแบบนี้ไม่ได้ การปฏิรูปนั้นเป็นเรื่องของเบื้องบน ในหยางเฉิงขั้นหนึ่งก็คือขั้นหนึ่ง ขั้นสองก็คือขั้นสอง…”

ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน รถแท็กซี่คันหนึ่งก็จอดลงที่หน้าประตู

ตอนแรกทั้งสองคนยังไม่ได้สนใจ รอจนมีวัยรุ่นลงมาจากรถ ถานเจิ้นผิงจึงยิ้มออกมาทันที “ฟางผิง ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาซะอีก”

“มีคนโบกรถกันเยอะ ผมแทบจะหารถไม่ได้แล้ว”

ฟางผิงเผยรอยยิ้ม เดินเข้าไปทั้งทักทายไปพลาง “ลุงถาน ทำไมถึงให้คุณมาต้อนรับอยู่ข้างนอกล่ะ?”

“วันนี้มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองถึงกระทั่งขั้นสามมาด้วยเลยต้องรักษาภาพพจน์สักหน่อย…”

ถานเจิ้นผิงหัวเราะ ก่อนจะช่วยแนะนำว่า “นี่คือสื่อเทา รองผู้อำนวยการหน่วยสืบสวนของหยางเฉิง…”

“สวัสดีผู้อำนวยการสื่อ!”

“คุณฟางประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ผมแทบจะจำไม่ได้ ยังเด็กอยู่เลย…”

สื่อเทาเกรงใจอย่างยิ่ง อัจฉริยะของเซี่ยงไฮ้ ไม่ใช่คนที่รองผู้อำนวยการอย่างเขาเทียบได้

พวกเขาทักทายพอเป็นพิธีแล้ว ถานเจิ้นผิงยังต้องทักทายคนต่อ แม้ว่าฟางผิงจะเป็นแขก แต่ถานเจิ้นผิงอาวุโสกว่าเขา เขาไม่อาจจะขึ้นไปแบบนี้ได้ด้วยเช่นกัน จึงยืนพูดคุยอยู่ด้านข้าง

เวลานี้ก็มีรถเก๋งสีดำจอดลงที่หน้าประตู

มีผู้ชายสองคนลงมาจากรถ คนหนึ่งแก่คนหนึ่งหนุ่ม

พอเห็นคน ถานเจิ้นผิงจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เหล่าเฉิน…”

“ถานเจิ้นผิง?”

พอเห็นถานเจิ้นผิง ชายกลางคนที่ลงจากรถก็ขมวดคิ้วทันที แค่นเสียงว่า “อะไรกัน เป็นเด็กเปิดประตูซะแล้ว? ตอนแรกใช้เล่ห์เหลี่ยมไล่ฉันออกมา ฉันยังคิดว่าตอนนี้ยังไงคงจะกลายเป็นผู้อำนวยการใหญ่ไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแค่คนเปิดประตู!”

“เฉินฉี่เทา!”

ถานเจิ้นผิงขมวดคิ้ว “อย่าได้ทำเกินไป เรื่องในอดีตใครผิดใครถูก ทุกคนรู้แก่ใจดี!”

“เหอะ รู้แก่ใจดี? ถานเจิ้นผิงคนอย่างนายเป็นยังไง ตัวเองยังไม่กระจ่างใจอีก? เช้าตรู่ก็เจอคนน่าสะอิดสะเอียนแล้ว ตอนที่ผู้บัญชาการไป๋เชิญฉัน ไม่เห็นพูดว่าถานเจิ้นผิงอยู่ที่นี่ด้วย! หากรู้ว่าอยู่ที่นี่ ฉันจะทิ้งกิจการมาเข้าร่วมงานชุมนุมไร้ประโยชน์อย่างนี้ได้ยังไง!”

———————

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *