ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 237-2 คืนแรก (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 237-2 คืนแรก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 237 คืนแรก (2)

“โรงเรียนเตรียมทหาร?”

ฟางผิงตะลึงไปเล็กน้อย เขาพอจะรู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง แต่ไม่ค่อยเยอะ เอ่ยทั้งครุ่นคิดว่า “ได้ยินว่าหน่วยทหารมีการเลือกคนหรือทหารอายุน้อยเข้าสู่โรงเรียนเตรียมทหารเพื่ออบรมสั่งสอน เรื่องนี้จริงหรือเปล่า?”

จ้าวเหล่ยเอ่ยอย่างแปลกใจ “ไม่มั้ง? หน่วยทหารมีผู้ฝึกยุทธ์เยอะขนาดนี้ ต้องมีคนที่โดดเด่นอยู่แล้ว ลูกของทหารระดับสูงเรียนในโรงเรียนทหารเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โรงเรียนเตรียมทหารมีไม่เยอะ ทั้งไม่รับนักเรียนจากข้างนอก เหมือนจะมีแค่สามโรงเรียนเท่านั้น พ่อของเหยาเฉิงจวินเป็นแม่ทัพคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก ดังนั้นเขาเข้าโรงเรียนเตรียมทหารจึงไม่น่าแปลกใจ…”

“ทำไมกู้สยงถึงไม่เข้าโรงเรียนเตรียมทหารล่ะ?”

จ้าวเหล่ยเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ทุกคนต่างมีทางเลือกของตัวเอง ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าโรงเรียนเตรียมทหารล่ะมั้ง? ยิ่งไปกว่านั้นเข้าโรงเรียนเตรียมทหารก็หมายความว่าจบการศึกษาแล้วต้องไปรับใช้ในหน่วยทหาร บางคนไม่ชอบถูกผูกมัดเหมือนกัน”

“งั้นตอนนี้เหยาเฉิงจวินก็เป็นอันดับหนึ่งในสามโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว?”

“ไม่รู้สิ ช่วงนี้ยังไม่มีการปล่อยอันดับขั้นสี่ออกมา พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน”

จ้าวเหล่ยส่ายหัว การจัดอันดับพวกนี้ตอนนี้ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีแค่อันดับปรมาจารย์บางส่วนและการจัดอันดับต่ำกว่าขั้นสามของนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เท่านั้น

ฟางผิงไม่ถามต่อ หันกลับไปมองประตูทางเหนือแวบหนึ่ง

ตอนนี้ประตูทางเหนือมีทหารที่สวมชุดลายพรางคนหนึ่งถือหอกยาว สาวเท้าเดินอย่างองอาจ ข้างหลังยังมีทหารอีกหลายนาย ในมือทุกคนถือสัมภาระ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล สามารถมองเห็นได้จากไกลๆ

“ทีมของโรงเรียนเตรียมทหาร?”

ฟางผิงพึมพำ ก่อนจะเอ่ยว่า “เป็นผู้บัญชาการกองทั้งหมด?”

ผู้บัญชาการกองของหน่วยทหารเทียบเท่ากับผู้บัญชาการบนโลก

ตอนแรกจางติ้งหนานรับปากว่าหลังจากฟางผิงเรียนจบ กลับไปอยู่หนานเจียงจะให้ตำแหน่งผู้บัญชาการกองเขาเหมือนกัน

จากที่จ้าวเหล่ยพูด เหยาเฉิงจวินแก่กว่าพวกเขาแค่สองปี ไม่รู้ว่าในโรงเรียนทหารนับปียังไง แต่น่าจะยังไม่จบการศึกษา

ตอนนี้เป็นถึงผู้บัญชาการกอง ถ้าเรียนจบแล้วล่ะ?

“ขั้นสี่สูงสุด…”

ฟางผิงพึมพำ ก้าวหน้าเร็วชะมัด นี่เพิ่งจะผ่านไปเท่าไหร่กันเชียว?

ยังเป็นครั้งแรกที่พบว่ามีคนก้าวหน้าเร็วกว่าเหล่าหวัง ก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ในการจัดอันดับขั้นสาม ฝีมือน่าจะอยู่ในขั้นสามสูงสุด

แต่เหล่าหวังอยู่ต่ำกว่าเหยาเฉิงจวินไปหนึ่งระดับ อ่อนแอกว่าเล็กน้อยก็พอจะฝืนยอมรับได้เช่นกัน

สำหรับเหยาเฉิงจวิน ฟางผิงไม่คิดมาก ทั้งไม่ได้ไปมุงดู

ในถ้ำใต้ดินผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขั้นห้าไม่ได้มีค่าขนาดนั้น ทางนี้มียอดฝีมือที่อยู่ขั้นหกไม่น้อย

ได้ยินว่ายังมีปรมาจารย์อีกหลายคน ปกติไม่ค่อยเผยหน้าค่าตาเท่านั้น

กลับมาถึงที่พักเล็กๆ นี้แล้ว คนอื่นๆ ก็ทยอยกลับมาเหมือนกัน

บอกว่าเป็นที่พักเล็กๆ อันที่จริงในสายตาฟางผิง ยังไม่สู้หอพักของบริษัทบางแห่ง ที่นี่เป็นเตียงนอนรวม สิบคนต่อหนึ่งห้อง

กลับมาพวกฟางผิงค่อยรู้ว่าในเขตที่พักมีโรงอาหาร สามารถกินฟรีได้

พวกฟางผิงกำลังจะเตรียมตัวออกไป อวี๋ซั่งหวาที่กำลังดูแผนที่เอ่ยว่า “อย่าไปเลย กินขนมปังแห้งให้อยู่ท้องดีกว่า ของที่โรงอาหารแทบจะเป็นแบบดิบๆ กระเดือกเกือบไม่ลง”

“ขี้เหนียวขนาดนี้เลย?”

“มีให้กินก็ดีมากแล้ว” อวี๋ซั่งหวาส่ายหัว “หน่วยทหารแย่ยิ่งกว่านี้ ไม่ใช่ว่าอยากจะให้พวกเขากินแบบไม่อร่อย แต่การทำอาหารในถ้ำเป็นเรื่องยากจริงๆ”

“งั้นทำไมไม่ขนอาหารปรุงสุกมาจากโลกข้างบนล่ะ” ฟางผิงสงสัยอยู่บ้าง

“ไร้สาระ คนเยอะเกินไป ทั่วเมืองมีหกเจ็ดหมื่นคน หรือหวังจะให้ขนมาจากบนโลกทั้งหมด? ทั้งทางเดินถ้ำไม่ใช่เปิดเพื่อจุดประสงค์นี้ น้อยนักที่หน่วยทหารจะใช้ทางเดินนี้ คนไปมาหาสู่มากขึ้นจะเกิดปัญหาได้ง่าย”

หน่วยทหารเคยพิจารณาแล้ว แม้จะเปิดทางเดินได้ แต่คนสัญจรไปมาจำนวนมาก ใครจะรู้ว่าจะมีปัญหาตามหรือเปล่า

อาหารของคนหลายหมื่นไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ขนมาจากโลกข้างบนทั้งหมด ทุกวันต้องไปกลับหลายเที่ยว ทั้งไม่อาจเหลือกำลังคนไว้น้อยเกินไปได้

แม้ฟางผิงจะไม่อาจเข้าใจได้ แต่ก็ละทิ้งความคิดที่จะไปกินข้าวที่โรงอาหารไป

รอจนยามเย็นมาถึง ถ้ำใต้ดินก็มืดลง!

ดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่อยู่บนท้องฟ้าในตอนกลางวัน เหมือนจะหายไปอย่างฉับพลัน

กลางคืนในถ้ำใต้ดิน มืดสนิทเป็นวงกว้าง!

ไม่มีโคมไฟ ไม่มีเทียน

เมืองความหวังไม่ได้มืดไปหมดทีเดียว ที่ประตูทางเหนือมีแสงส่องสว่างอยู่

นั่นเป็นหินพลังงานที่หน่วยทหารใช้คู่กับกระจกเงา ลดการสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อให้ประคองแสงสว่างได้นานขึ้น

ภายในเมืองประตูร้านค้าบางแห่งก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน

ก่อนหน้านี้เคยมีคนใช้พวกผงเรืองแสง อยากใช้ให้ความสว่างแทนหินพลังงาน ปรากฏว่าของพวกนี้พอมาถึงถ้ำใต้ดินกลับสูญเสียคุณสมบัติการแผ่รังสีไป ไม่นานก็สูญเสียประสิทธิภาพ สู้หินพลังงานไม่ได้ แต่ราคาไม่ใช่น้อยๆ เลย

ภายในห้อง มืดสนิทไปหมด

พวกฟางผิงที่เป็นผู้ชายอยู่ห้องเดียวกัน

ในความมืด ฟางผิงเห็นสิ่งของอย่างเลือนราง เอ่ยอย่างจนใจอยู่บ้าง “ตกเย็นถ้าอยู่ข้างนอก ไม่ใช่ว่าจะแยกเหนือใต้ออกตกไม่ได้หรอกนะ?”

“ทำความคุ้นชินสักหน่อยก็ดีแล้ว”

“พวกนายว่ามืดขนาดนี้ ถ้าลองข้ามไปหาฝั่งผู้หญิง พวกเขาจะรู้หรือเปล่าว่าคนที่ออกมาเป็นใคร?”

“นายลองดูสิ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่แทบจะมองทะลุความมืดได้ ไม่กลัวตายก็ไปเลย ถูกเตะมาขาพิการ อย่าหาว่าพวกฉันไม่เตือนนาย”

“ไม่ชินเลย!”

ฟางผิงถอนหายใจ ถ้ำใต้ดินอะไรก็ไม่มี ปกติอยู่บนโลกมีเวลาว่างยังเล่นอินเทอร์เน็ต ดูมือถือดูทีวีได้

อยู่ที่นี่ตกดึกแทบไม่มีอะไรให้ทำ

“ทำได้แค่ฝึกวิชาแล้ว”

ตอนเย็นไม่เหมาะจะฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้เท่าไหร่ ฟางผิงเริ่มเข้าสู่จวงกงหลอมร่างกาย

จากขั้นสามตอนปลายถึงขั้นสูงสุด อันที่จริงเป็นแค่กระบวนการหลอมร่างกายเท่านั้น

ฟางผิงคิดมาแล้ว หลอมร่างกายก่อน พอถึงขั้นสามสูงสุด หากปราณยังไม่ทะลุหนึ่งพันแคล เขาจะฝืนทะลวงขึ้นไปอีก

หากร่างกายแข็งแกร่งพอ คงไม่มีปัญหามากมายเท่าไหร่

แต่ตอนที่ทุกคนเริ่มฝึกวิชา จู่ๆ ทางเหนือกลับมีเสียงดังสนั่น!

“ศัตรูโจมตี! ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางมารวมตัวที่ประตูเหนือ ตั้งรับศัตรู! ต่ำกว่าขั้นสี่อยู่ในห้องทั้งหมด ไม่อนุญาตให้ออกจากห้องโดยพลการ!”

เสียงตะโกนแผ่กระจายไปทั่วเมืองเล็กๆ พวกฟางผิงต่างตกใจ รีบคืนสู่สภาวะปกติ

มีคนอยากจะออกไป อวี๋ซั่งหวาตะโกนทันที “ออกไปไม่ได้ โจมตีกลางดึกพวกเราแยกแยะศัตรูไม่ออก ทำได้แค่เพิ่มความวุ่นวาย ทั้งจะฆ่าผิดตัวได้ง่าย!”

ออกไปในเวลานี้ พวกยอดฝีมือสั่งห้ามผู้ฝึกยุทธ์ต่ำกว่าขั้นสามแล้ว หากถูกฆ่าผิดตัวคงจะอ้างเหตุผลไม่ได้อีก

‘ตู้ม!’

ทางเหนือมีเสียงดังไม่หยุดหย่อน

พวกฟางผิงนั่งแทบไม่ติดที่ ตอนนี้ทุกคนไม่กล้าออกไป ทั้งไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง ทำได้เพียงนั่งรออยู่ในห้องอย่างร้อนใจ ความรู้สึกทรมานเช่นนี้ สู้ให้พวกเขาออกไปโจมตีกับศัตรูยังดีซะกว่า

“ศัตรูที่มาจู่โจมแข็งแกร่งหรือเปล่า? มียอดฝีมือระดับสูงไหม?”

“พวกแม่ทัพสวี่รับมือได้หรือเปล่า?”

“พวกอาจารย์ถังคงไปช่วยสนับสนุนสินะ?”

“…”

ทุกคนทำได้เพียงพูดคุย คิดไปต่างๆ นานา

จนกระทั่งเหมือนจะผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง เสียงดังจึงค่อยหยุดลง

“ละวางการคุ้มกัน ศัตรูถอยไปแล้ว!”

“กลางคืนห้ามออกมาข้างนอกโดยพลการ!”

“…”

มียอดฝีมือตะโกนเสียงดังอีกครั้ง ทุกคนค่อยสงบใจลงได้ ถอยไปสักที

———————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด