ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 335 ขบวนรบที่สมบูรณ์แบบ (1)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 335 ขบวนรบที่สมบูรณ์แบบ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 335 ขบวนรบที่สมบูรณ์แบบ (1)

ฟางเหวินเสียงยังไม่โง่ถึงขั้นนั้น ย้ายไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่เรื่องเล็ก

แม้คำพูดของฟางผิง…จะทำให้เขาคล้อยตามอยู่นิดหน่อย แต่ฟางเหวินเสียงก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น ไม่กล้าพูดออกมาว่าจะไปเซี่ยงไฮ้จริงๆ

แต่ฟางผิงกำลังสั่นคลอนการฝึกฝนจิตใจของเขาอยู่ นี่ทำให้ฟางเหวินเสียงแวดระวังอย่างยิ่ง หลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกแล้ว

เข้าสู่หนทางแห่งการฝึกจิตใจต่อ

ยี่สิบนาทีต่อจากนั้น

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง

“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้า!”

“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นอันดับหนึ่ง ไร้คนต่อกร!”

“เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ จบอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้!”

ตอนที่พวกฟางผิงลงจากรถ เสียงเชียร์ คำพูดปลุกใจต่างๆ ก็ดังขึ้นทันที

ด้านนอกสนามกีฬามหาวิทยาลัยปักกิ่ง คนจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ ต่างงงเป็นไก่ตาแตก

ตกลงพวกเขาแข่งที่ไหนกันนะ?

คนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งล่ะ?

ไม่ได้มาผิดที่แน่นะ?

ตกลงใครเป็นเจ้าภาพกันแน่!

ภายในสนามกีฬา

พิธีกรไม่ใช่คนเดียวกับในการแข่งขันขั้นหนึ่งเมื่อครั้งก่อน แต่เป็นยอดฝีมือขั้นหกสองคน ชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคน

ตอนนี้ได้ยินเสียงเชียร์จากด้านนอก ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นพิธีกรงุนงงอยู่บ้างเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ด้านนอกมีเสียงเชียร์ดังเข้ามาแล้ว ทีมชนะเลิศการแข่งขันแลกเปลี่ยนปีที่แล้ว เสียงเชียร์จากมหาวิทยาลัยศิละการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ไม่ใช่น้อยๆเลย”

พิธีกรหญิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มประดับใบหน้า “ใช่แล้ว ความได้เปรียบที่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพ ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบเท่าไหร่แล้ว”

ภายในสนาม ตอนนี้มีผู้ชมมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์กันทั้งนั้น

การจัดวางตำแหน่งของสนามกีฬาปักกิ่งนั้นคล้ายกับเซี่ยงไฮ้ หรือจะพูดว่าอันที่จริงเซี่ยงไฮ้เหมือนกับปักกิ่งมาก เพราะปักกิ่งเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อันดับแรก มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่ก่อตั้งหลังจากนั้นจึงวางโครงร่างเหมือนกับปักกิ่ง

ตอนนี้ชั้นสองมียอดฝีมือปรมาจารย์ของปักกิ่งคนนั้นเอ่ยว่า “ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้รู้จักแต่ใช้ลูกไม้แบบนี้หรือไง?”

หวงจิ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คำพูดนี้ไปเอามาจากไหนกัน? มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้รับความนิยมอย่างมาก นี่เป็นเรื่องจริง เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน นี่ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล อยู่ในพื้นที่เจ้าบ้านอย่างปักกิ่ง พวกเรานั้นนับว่าโอนอ่อนให้แล้ว หากอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ นักศึกษาของพวกเราจะร่วมมือร่วมใจกว่านี้อีก กลับเป็นมหาวิทยาลัยปักกิ่ง…เหมือนว่านักศึกษาจะไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แห่งหนึ่งแค่แรงร่วมมือร่วมใจพื้นฐานยังไม่มี นี่เป็นความล้มเหลวของการศึกษามากที่สุด! นักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ ทุกคนต่างภาคภูมิใจในเซี่ยงไฮ้ แต่ในมหาวิทยาลัยปักกิ่งฉันกลับมองไม่เห็นเค้าลางแบบนี้เลย”

พวกอาจารย์ของปักกิ่งถูกหวงจิ่งพูดใส่แบบนี้ สีหน้าก็ดูไม่ได้อยู่บ้าง

นักศึกษาของปักกิ่งไม่กระตือรือร้นเท่าไหร่จริงๆ

หรือจะพูดว่าไม่มีคนรวมทีมขึ้นมาด้วยซ้ำ

ทางสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ก็สนใจแต่รวมทีมยอดฝีมือเข้าร่วมการแข่งขัน แทบไม่ได้กระตือรือร้นใช้งานนักศึกษาทั่วไป เป็นผู้ฝึกยุทธ์เหมือนกันทั้งนั้น เรื่องกองเชียร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่งกลับไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่

ใครจะรู้ว่ากลับปล่อยให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ไป

เสียงเชียร์ด้านนอกดังกระหึ่ม หากไม่รู้ยังจะคิดว่าเป็นการแข่งขันในถิ่นของเซี่ยงไฮ้

พวกอาจารย์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง รวมถึงปรมาจารย์สองคน ตอนนี้ก็ไร้คำพูดจะโต้แย้งอยู่บ้าง

เทียบกันแล้วความสามารถในการจัดการของมหาวิทยาลัยปักกิ่งด้อยไปกว่าเล็กน้อย

ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อันดับหนึ่งของประเทศ ปักกิ่งคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปจัดการเรื่องพวกนี้ น่าอายอยู่บ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดเหมือนพวกเขา

ผู้ชมในสนาม ตอนนี้ก็ถูกดึงดูดความสนใจเช่นกัน

ด้านล่างเวที มีเสียงกระซิบกระซาบเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ดังขึ้นไปทั่ว

ปรมาจารย์สองคนจากปักกิ่งมองหน้ากัน ต่างจนใจอยู่บ้าง พูดได้แค่ว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ชำนาญด้านธุรกิจและการใช้ประโยชน์จริงๆ นี่จึงค่อยปลอบใจตัวเองลงได้

การแข่งขันแลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่จริงจังแบบนี้ มาเสียงดังอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหน!

ด้านนอกสนาม

ฟางผิงสอดดาบไว้ที่เอว ประคองด้ามดาบด้วยมือเดียว พยักหน้าให้ทุกคนเล็กน้อย ดึงดูดเสียงเชียร์ขึ้นมาอีกครั้ง

จางอวี่สงสัยอยู่บ้าง เอ่ยเสียงเบาว่า “เหมือนหลายคนจะไม่ใช่คนของเซี่ยงไฮ้ พวกเรามีกองเชียร์ผู้ฝึกยุทธ์ที่ปักกิ่งเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”

ฉินเฟิ่งชิงหาวหวอด คร้านจะต่อบทสนทนา

เซี่ยเหล่ยไม่พูดอะไรเช่นกัน ทำราวกับไม่ได้ยิน

ฟางผิงชำเลืองมองแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ห้าแสน!”

“อะไรนะ?”

ฟางผิงไม่สนใจเขาอีก นายจะรู้อะไร เงินค่าเข้าชมของ ‘กองเชียร์ผู้ฝึกยุทธ์’ พวกนี้ ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นคนออกให้

มีเพียงเงื่อนไขเดียว คนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มาถึง ต้องตะโกนเชียร์

ในความเป็นจริง คนพวกนี้นับเป็นคนของเซี่ยงไฮ้เช่นกัน หลายคนเป็นผู้ปกครองของนักศึกษาเซี่ยงไฮ้

ดังนั้นคนพวกนี้จึงตะโกนออกมาจากใจจริง ยังไงผู้ปกครองก็หวังให้มหาวิทยาลัยของลูกหลานตัวเองมีชื่อเสียงยิ่งๆ ขึ้นไปอยู่แล้ว

นอกจากคนข้างนอก ข้างในก็มีเหมือนกัน

มหาวิทยาลัยปักกิ่งคิดว่าที่นี่เป็นถิ่นของพวกเขาหรือไง?

น่าขำ!

ปีนี้ใช้เงินเล็กน้อยก็น่าเชื่อถือกว่าพวกนายที่เป็นเจ้าภาพแล้ว

“เข้าไปกันเถอะ!”

ฟางผิงไม่พูดมากอีก นำทุกคนเดินเข้าประตูข้างไป ไม่ได้เข้าสู่สนามหลักโดยตรง พวกเขาต้องเข้าไปหลังเวที เพื่อรอพิธีเปิดอย่างเป็นทางการก่อน

ด้านหลังเวทีสนามกีฬา

เทียบกับด้านหลังเวทีของเซี่ยงไฮ้ ที่นี่ดูเรียบง่ายมากกว่า ด้านหลังเวทีเป็นส่วนเดียวกัน ไม่เหมือนกับเซี่ยงไฮ้ที่แยกออกเป็นหลายส่วน

ตอนนี้ด้านหลังเวทีมีคนจากมหาวิทยาลัยต่างๆ มาถึงแล้ว

เสียงเชียร์ข้างนอก ทุกคนได้ยินเช่นกัน

พวกหวังจินหยางที่เป็นยอดฝีมือไม่ได้พูดอะไร สมาชิกทีมสำรองจากมหาวิทยาลัยบางแห่งกลับอดใจไม่ไหว “ช่วงนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีชื่อเสียงจนน่าตกใจจริงๆ มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ไม่ให้ความสำคัญกับการต่อสู้เป็นหลัก กลับมาสนใจเรื่องพวกนี้ ไม่ช้าก็เร็วคงต้องถอยหลังลงคลอง…”

“เหอะ!”

เสียงแค่นหนักๆ ราวกับฟ้าร้อง สั่นสะเทือนจนผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามหลังเวทีบางส่วนหูอื้อตาลาย

ด้านนอกประตู ฟางผิงสาวเท้าเข้ามาด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย เอ่ยอย่างเยือกเย็น “มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะถอยหลังลงคลองหรือเปล่า ไม่ใช่สิ่งที่พวกนายจะตั้งคำถามได้! แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ก็ไม่กล้าบอกว่าเซี่ยงไฮ้สู้พวกเขาไม่ได้ ใจกล้าไม่น้อย ภาวนาให้ตัวเองอย่าเจอพวกฉันแล้วกัน! มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ซีซานสินะ? ถ้าเจอแล้ว เว้นเสียว่าพวกนายจะยอมแพ้ ไม่งั้นก็อย่าโทษว่าเซี่ยงไฮ้ลงมือหนักละกัน!”

“นาย!”

คนเมื่อครู่ที่เพิ่งถูกดูแลแบบจัดเต็ม ตอนนี้เลือดไหลออกจากหู แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บมากมาย แต่ตอนนี้รู้สึกว่าถูกหยามเกียรติอย่างยิ่ง!

ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยซีซานเป็นชายหนุ่มที่ดูค่อนข้างสุภาพสดใส ตอนนี้อดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ “ฟางผิง แค่พูดคุยกันเท่านั้น ลงมือกับพวกเขาก่อนการแข่งขัน…”

“แล้วจะยังไง?”

ฟางผิงกวาดสายตามองพวกเขา เอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่ง “คนอ่อนแอย่อมไม่มีสิทธิ์! ฝีมืออ่อนแอ งั้นก็หุบปาก หลักการนี้เข้าใจหรือเปล่า? ยั่วยุผู้แข็งแกร่ง นั่นต้องมีคุณสมบัติที่จะยั่วยุ มหาวิทยาลัยซีซานของพวกนายมีคุณสมบัตินี้หรือเปล่า?”

“ฟางผิง อย่าทำเกินไป!”

“เกินไปแล้วจะยังไง? เข้าใจความจริงซะ ฉันกำลังสอนหนทางรอดให้พวกนายอยู่!”

“นาย…”

“ฟางผิง”

หลี่หานซงที่เป็นทีมเจ้าบ้านเอ่ยปากขึ้น หลี่หานซงรูปร่างสูงใหญ่ อย่างต่ำคงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ฟางผิงไม่นับว่าสูงมาก ประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเท่านั้น

เทียบกับฟางผิงแล้ว หลี่หานซงดูกำยำและทรงพลังมากกว่า

แต่ตอนนี้ความเกรงขามของฟางผิงกลับไม่ด้อยไปกว่าเขา ฟังจบก็เบะปากว่า “ทำไม จะประนีประนอม? หรือมหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับคำพูดฉัน? คนอ่อนแอยั่วโทสะพวกนาย หลี่หานซงจะแสร้งหดตัวในกระดองทำเป็นไม่ได้ยินหรือเปล่าล่ะ?”

ฉินเฟิ่งชิงหัวเราะรับบทสนทนาทันที “เจ้าหัวเหล็ก หน้าคงจะหนา ไม่แน่ว่าอาจหดหัวอดทนไว้จริงๆ ก็ได้”

“ฉินเฟิ่งชิง!”

“นายอย่าเหิมเกริมเกินไป!”

“มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ใช่มหาวิทยาลัยซีซาน!”

“…”

หลี่หานซงยังไม่ทันเอ่ยปาก คนอื่นๆ ของปักกิ่งกลับโมโหขึ้นมา!

ฉินเฟิ่งชิงวางอำนาจอวดดีเกินไป!

ฉินเฟิ่งชิงทำหน้าดูแคลน เอ่ยอย่างอยากลองว่า “มหาวิทยาลัยโรงเรียนเตรียมทหารอะไร ฉันไม่สนใจหรอก อยากจัดการไอ้ลูกหมาอย่างพวกนายมากกว่า เช่นว่าออกไปลงสนามตอนนี้เลย ฉันชนะได้ รับความพ่ายแพ้ได้ แพ้แล้ว ฉันโขกหัวรับผิดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าชนะ ไอ้ลูกหมาอย่างพวกนายเลิกทำตัวสูงส่งกับฉันให้น้อยๆ หน่อย ขัดหูขัดตาฉันมานานแล้ว!”

สองมหาวิทยาลัยชื่อดัง นับตั้งแต่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้โดดเด่นขึ้นมา อีกฝ่ายก็มองกันเป็นศัตรูมาโดยตลอด เจอกันและกันแทบไม่มีคำพูดอะไรดีๆ ให้

คนของปักกิ่งทำตัวสูงส่ง ทนมองเซี่ยงไฮ้ที่คล้ายเป็นพวกเศรษฐีใหม่ไม่ได้

คนของเซี่ยงไฮ้ก็ดูแคลนปักกิ่งเช่นกัน คิดว่าปักกิ่งก่อตั้งมานาน แทบไม่มีอะไรดีแล้ว

รวมถึงทางใต้นั้นยึดมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นหลัก ทางเหนือก็ยึดมหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นหลัก การแบ่งเขตที่ซับซ้อนนี้ทำให้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั้งสองแห่งเจอหน้ากันก็แทบจะทะเลาะกันทุกครั้ง

เวลานี้มหาวิทยาลัยซีซานถูกทิ้งไปข้างหลังแล้ว

อันที่จริงทั้งสองมหาวิทยาลัยต่างดูแคลนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปพวกนี้

แม้ว่าจะเป็นหนานเจียง นอกจากหวังจินหยางที่ทำให้ทุกคนเกรงขามเล็กน้อยแล้ว อันที่จริงแทบไม่ถูกให้ความสนใจแต่อย่างใด รวมถึงโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งด้วย!

ทีมหลักของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง มีขั้นสี่สูงสุดสามคน ขั้นสี่ตอนปลายสองคน

มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ขั้นสี่สูงสุดสองคน ตอนปลายสองคน ตอนกลางอีกหนึ่งคน

โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่ง ตอนนี้มีแค่เหยาเฉิงจวินที่อยู่ขั้นสี่สูงสุด ตอนปลายสองคนและตอนกลางอีกสองคน

พูดถึงเรื่องลำดับขั้น มหาวิทยาลัยปักกิ่งมาเป็นอันดับหนึ่ง เซี่ยงไฮ้เป็นอันดับสอง ไม่ใช่สิ่งที่มหาวิทยาลัยอื่นเทียบได้

กลับมาดูที่ทีมสำรอง ทีมสำรองของปักกิ่งอยู่ในขั้นสี่ตอนกลางทั้งหมด เซี่ยงไฮ้ด้อยไปอยู่เล็กน้อย ขั้นสี่ตอนกลางสี่คน ตอนต้นอีกหนึ่งคน ถือว่าแข็งแกร่งแล้วเช่นกัน

โรงเรียมเตรียมทหารอันดับหนึ่ง ทีมสำรองขั้นสี่สามคน ขั้นสามสูงสุดอีกสองคน

นี่นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปอื่นๆ ทีมสำรองแทบจะต่ำกว่าขั้นสามตอนปลายทั้งหมด ฝีมือแบบนี้ ทีมหลักของมหาวิทยาลัยทั่วไปแทบจะสู้ทีมสำรองของพวกมหาวิทยาลัยชื่อดังไม่ได้ด้วยซ้ำ

ฉินเฟิ่งชิงทิ้งคำพูดไว้อย่างเจ็บแสบ หลี่หานซงมองฟางผิงแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “ฟางผิง การแข่งขันยังไม่เริ่ม จะรีบไปทำไม”

————————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด