ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] 295 องค์ราชัน ชีพจรเซียนสามพัน
ตอนที่ 295 องค์ราชัน ชีพจรเซียนสามพัน
ในราชวงศ์เซียนฮวงเทียนมีชีพจรเซียนสามพันตั้งเด่นเป็นสง่าราวกับมังกรสามพันตัว สถานที่แห่งนี้มีพระราชวัง ศาลา หอคอยหยก และอาคารหยกมากมาย ทั้งหมดล้วนเปล่งแสงแห่งเซียนพร่างพราว
“โอ้!”
หนิงฝานติดตามจักรพรรดิอวี่เข้าไปด้านใน ใบหน้าของเขาอดไม่ได้ที่จะเผยความชื่นชม
ความสง่างามของราชวงศ์เซียนฮวงเทียนงดงามยิ่งกว่ากองกำลังอื่นที่เขาเคยได้พบ
สมกับที่ถูกเรียกขานว่าเป็นผู้ปกครองอาณาจักรเซียนฮวงเทียน!
เวลานี้จักรพรรดิอวี่กล่าวขึ้นว่า “สหายเสี่ยวหนิง ข้ามีชีพจรเซียนสามพันภายในราชวงศ์เซียนฮวงเทียน ความเข้มข้นของพลังเซียนนั้นแตกต่างออกไป แต่ด้วยเหตุผลว่าพรสวรรค์อันน่าสะพรึงของสหายเสี่ยวหนิงนั้นไม่มีผู้ใดทราบ เจ้าสมควรได้ครอบครองชีพจรเซียนอันแข็งแกร่ง แต่ข้าในฐานะอาวุโสแห่งราชวงศ์เซียนฮวงเทียนจำเป็นต้องกล่าวว่าทุกสิ่งมีลำดับขั้นตอน ชีพจรเซียนสามพันแต่ละเส้นล้วนแต่มีนายของตนเอง ดังนั้นข้าจึงต้องกล่าวขอโทษสหายเสี่ยวหนิง เวลานี้ข้าทำได้เพียงมอบชีพจรเซียนที่อ่อนแอที่สุดให้กับเจ้า!”
“เป็นเช่นนั้น!”
เมื่อได้ยินแล้ว หนิงฝานพยักหน้า เขาไม่รู้สึกขุ่นเคืองอะไร
ก่อนที่จะเข้าสู่สถานที่แห่งนี้ เขาทราบแล้วว่าในราชวงศ์เซียนฮวงเทียนนั้น ผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับความเคารพ และหากต้องการทรัพยากรที่ยอดเยี่ยม จึงต้องใช้ความแข็งแกร่งเพื่อเอาชนะ
“ขอบคุณที่สหายเสี่ยวหนิงเข้าใจ!”
จักรพรรดิอวี่พยักหน้าพร้อมกล่าวต่อว่า “สหายเสี่ยวหนิง ข้ายังมีเรื่องต้องไปจัดการ เช่นนั้นจึงไม่อาจร่วมทางไปกับเจ้าได้”
หลังกล่าวจบ เขาหันมองชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินที่ติดตามมา “ฮวาเฟิง พาหนิงฝานไปที่เส้นชีพจรเซียนสามพัน!”
“ทราบแล้ว!”
เมื่อได้ยิน ชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินเดินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หนิงฝานไม่ได้ออกไปพร้อมฮวาเฟิงทันที แต่หันมองจักรพรรดิอวี่พร้อมกล่าวถาม “ท่านจักรพรรดิอวี่ ข้ามีบางสิ่งสำคัญมากสำหรับข้าอยากถามไถ่ จึงอยากขอคำแนะนำจากท่านได้หรือไม่?”
“โอ้ กล่าวออกมาเถิด!” จักรพรรดิอวี่ตอบกลับ
“ข้าไม่รู้ว่าจักรพรรดิอวี่ทราบถึงความหมายของสัญลักษณ์นี้หรือไม่?” หนิงฝานเผยสัญลักษณ์ดอกบัวเซียนเก้ากลีบในอากาศ
“หือ?”
จักรพรรดิอวี่มองดอกบัวเซียนเก้ากลีบตรงหน้าพร้อมกับตกอยู่ในห้วงความคิด “ต้องขอโทษด้วยแล้ว ข้าไม่เคยเห็นสัญลักษณ์เช่นนี้มาก่อน”
“แม้แต่จักรพรรดิอวี่ยังไม่ทราบ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานที่ลอบคาดหวังพลันรู้สึกผิดหวังขึ้นมาในใจ
อย่างไรเสียในเวลาถัดมา จักรพรรดิอวี่ลูบเคราพร้อมยกยิ้มจาง “อย่างไรเสีย ชายชราคิดว่าคนผู้นั้นจะต้องทราบแน่!”
“โอ้? ผู้ใดหรือ!” หนิงฝานเผยแววตาเปล่งประกาย
“องค์ราชัน!” จักรพรรดิอวี่เปิดปากพร้อมกล่าวอธิบาย “องค์ราชันแห่งอาณาจักรเซียนฮวงเทียนและราชวงศ์เขตเซียนฮวงเทียนของข้าไม่เพียงแต่ได้รับการขนานนามว่า เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในที่แห่งนี้ ทว่าภายในเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ ตราบใดที่ดอกบัวเซียนเก้ากลีบนี้อยู่ภายในเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ ด้วยความรอบรู้ขององค์ราชัน เขาย่อมต้องทราบแน่!”
ได้ยินแล้ว หนิงฝานก็ยกยิ้มอย่างยินดี
ทว่าในช่วงเวลาถัดมา จักรพรรดิอวี่ส่ายศีรษะพร้อมกล่าวต่อ “แต่ว่าองค์ราชันคือผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรเก้าสวรรค์และอาณาจักรเซียนฮวงเทียน เขาจึงมากด้วยความเย่อหยิ่งตามธรรมชาติ เขาชื่นชมผู้ที่แข็งแกร่งและไม่คิดสนใจผู้อ่อนแอ หากเจ้าต้องการพบเขา เจ้าจะต้องดึงดูดความสนใจของเขาให้ได้ เฮ้อ สหายเสี่ยวหนิง เพื่อดึงดูดความสนใจจากองค์ราชัน เจ้าคงต้องทำงานหนักเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นกว่านี้!”
“ข้าเข้าใจแล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานจึงเลิกคิ้วสูงก่อนล้มเลิกแผนการที่จะเข้าพบองค์ราชันไว้ชั่วคราว
เขาตั้งเป้าหมายไว้ในใจ
นั่นก็คือ… สังหารองค์ราชัน!
ถูกต้อง!
เพราะจักรพรรดิอวี่กล่าวว่าองค์ราชันเคารพผู้แข็งแกร่ง และเหยียดหยามผู้อ่อนแอ เขาจะดึงดูดความสนใจของอีกฝ่ายอย่างไร เพื่อให้องค์ราชันสนใจในตัวของเขา หนิงฝานจะต้องแข็งแกร่งจนถึงจุดที่สามารถเอาชนะองค์ราชันให้ได้โดยเร็วที่สุด!
“ด้วยความแข็งแกร่งของสหายเสี่ยวหนิงจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะดึงดูดความสนใจขององค์ราชัน ชายชราผู้นี้จึงขอตั้งตาเฝ้ามองสหายเสี่ยวหนิงด้วยเช่นกัน!”
จักรพรรดิอวี่พยักหน้าพร้อมหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโบกมือให้กับชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงินนามว่าฮวาเฟิง
“พี่ชายหนิงฝาน ตามข้ามาเถิด” ฮวาเฟิงกล่าวคำ
“ขอบคุณท่านจักรพรรดิอวี่สำหรับคำแนะนำ ข้าขอตัวลา!”
หนิงฝานทำความเคารพจักรพรรดิอวี่ แล้วจากไปพร้อมกับฮวาเฟิง
ทั้งสองเดินไปด้วยกัน คนหนึ่งเดินนำหน้า อีกคนติดตามด้านหลัง ทั้งสองตรงเข้าสู่ชีพจรเซียนเส้นที่สามพัน
“พี่ชายหนิงฝาน นี่คือครั้งแรกที่ท่านเข้าสู่ราชวงศ์เซียนฮวงเทียน ข้าเกรงว่ายังมีหลายเรื่องที่ท่านอาจยังไม่ทราบ…”
ระหว่างทาง ฮวาเฟิงไม่รอให้หนิงฝานกล่าวถาม เขาก็เริ่มแนะนำสิ่งต่าง ๆ ในราชวงศ์แดนเซียนสวรรค์ให้อีกฝ่ายฟัง
ในหมู่พวกเขา มีเรื่องสำคัญอยู่สองประการ
ประการแรก แม้ว่าราชวงศ์เซียนฮวงเทียนจะไม่แต่งตั้งอาวุโสสูงสุดของนิกายชั้นในและนิกายชั้นนอกเช่นกองกำลังอื่น แต่ก็ยังมีลำดับขั้นชั้นสูง!
ในราชวงศ์เซียนฮวงเทียนจะแบ่งออกเป็น หนึ่งราชัน สิบจักรพรรดิ ร้อยเซียน และอื่น ๆ ตามลำดับ
ที่ถูกเรียกขานว่าหนึ่งราชันนั้นคือองค์ราชัน ผู้เป็นราชันแห่งอาณาจักรเซียนฮวงเทียนทั้งหมด ซ้ำยังเป็นผู้นำของราชวงศ์เซียนฮวงเทียน!
และจักรพรรดิทั้งสิบก็คือผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกภายในชีพจรเซียนสามพัน แน่นอนว่าจักรพรรดิอวี่เป็นหนึ่งในนั้น เขาอยู่ในอันดับที่เก้า!
สำหรับเหล่าร้อยเซียน พวกเขาคือหนึ่งในร้อยเซียนของชีพจรเซียนสามพัน
ทุกคนล้วนแต่มีพลังและทรงอำนาจ ชื่อเสียงล้นพ้นภายในราชวงศ์เซียนฮวงเทียน
หลังจากนั้นจะเป็นลำดับขั้นของบุคคลกว่าห้าร้อยคน
แน่นอนว่าสถานที่ใดมีลำดับขั้น สถานที่แห่งนั้นย่อมมีการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นร้อยเซียน หรือห้าร้อยอันดับผู้แข็งแกร่ง ผู้คนนับพันส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่อยู่ภายใต้อำนาจของจักรพรรดิทั้งสิบ
อย่างเช่นฮวาเฟิงที่อยู่ตรงนี้ เขาคือผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรพรรดิอวี่ ในขณะที่ฉินเจวี่ยหลิงที่ได้พบก่อนหน้าคือผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรพรรดิหลิง
และยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญนั่นคือ ป้ายเซียนฮวงเทียน!
ภายนอกราชวงศ์เซียนฮวงเทียน ป้ายเซียนฮวงเทียนอาจเป็นเพียงตราแสดงสถานะ แต่ภายในราชวงศ์เซียนฮวงเทียนนี้ ป้ายเซียนฮวงเทียนไม่เพียงแต่จะใช้เพื่อบอกกล่าวกันและใช้รับทรัพยากร ทว่ายังสามารถใช้มันเพื่อท้าทายเหล่าเซียนได้อีกด้วย!
ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนให้ความสำคัญกับผู้แข็งแกร่ง ดังนั้นการจัดอันดับของเซียนฮวงเทียนทั้งสามพันจึงไม่เคยหยุดนิ่ง ผู้ที่มีอันดับต่ำกว่าจะสามารถท้าทายผู้มีอันดับสูงกว่าได้ทุกเมื่อ และอีกฝ่ายจะไม่สามารถปฏิเสธได้!
เมื่อท้าทายสำเร็จ มันสามารถแทนที่อันดับของผู้ท้าชิง และยังครอบครองชีพจรเซียนกับทรัพยากรฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมกว่า!
แต่หากการท้าทายล้มเหลว อันดับก็จะไม่เปลี่ยนแปลง
แน่นอนว่าหากมีคนตาย อันดับจะถูกเลื่อนขึ้นโดยอัตโนมัติ และคนสุดท้ายจะกลายเป็นว่างเปล่า ส่วนป้ายเซียนฮวงเทียนที่ไร้เจ้าของจะถูกราชวงศ์เซียนฮวงเทียนโยนออกสู่โลกภายนอกเพื่อค้นหานายคนใหม่!
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมป้ายเซียนฮวงเทียนของหนิงฝานคือ ลำดับที่สามพัน!
นอกจากนี้ฮวาเฟิงยังกล่าวกับหนิงฝานในเรื่องเล็กน้อย เช่น ฉินเจวี่ยหลิงเป็นบุตรชายคนหนึ่งของเจ็ดปรมาจารย์แห่งตระกูลฉินภายใต้จักรพรรดิหลิง และยังมีพี่ชายอีกหกคน ซึ่งแต่ละคนมีพลังที่แข็งแกร่ง!
พวกเขาล้วนอยู่ในลำดับหนึ่งร้อยเซียนแรก ดังนั้นหนิงฝานจึงต้องระวังให้มาก!
ทว่าชายหนุ่มไม่คิดใส่ใจเรื่องนี้นัก
ภายใต้คำแนะนำจากฮวาเฟิง ไม่นานนักทั้งสองมาถึงชีพจรเซียนเส้นที่สามพัน เห็นชัดว่ามันอ่อนแอกว่าชีพจรเซียนอื่น ๆ สุดท้ายแล้วพลังเซียนภายในอ่อนแอมาก แต่มันก็ยังมากกว่าพลังเซียนของสภาพแวดล้อมภายนอก
“พี่ชายหนิงฝาน แม้เส้นชีพจรเซียนที่สามพันนี้จะไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับเส้นอื่น ๆ แต่ข้าเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ของพี่ชายหนิงฝาน พี่จะใช้เวลาน้อยกว่าสามพันปีเพื่อออกจากเส้นชีพจรนี้และครอบครองเส้นชีพจรเซียนที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า!” ฮวาเฟิงกล่าวกับหนิงฝานอย่างหนักแน่น
“ขอบคุณคำอวยพรของศิษย์พี่ฮวาเฟิง!” ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมหัวเราะ
ฮวาเฟิงพยักหน้ารับ จากนั้นจึงหันหลังกลับออกไป แต่หลังจากเดินมาได้ไม่กี่ก้าว เขาหยุดฝีเท้าก่อนจะหันกลับมาพูดว่า “พี่ชายหนิงฝาน วันนี้หลายคนในประตูสวรรค์เห็นความแข็งแกร่งของท่านด้วยสายตาของพวกเขาแล้ว ในอนาคตใครบางคนย่อมคิดต้องการท่านเข้าร่วมในกองกำลัง ไม่ว่าท่านจะเลือกหนทางใด แต่อย่าได้ลืมเลือนความเมตตาของจักรพรรดิอวี่ในวันนี้!”
“โอ้! ศิษย์พี่ฮวาเฟิง ท่านไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าจดจำสิ่งที่จักรพรรดิอวี่กระทำในวันนี้ได้แม่นยำ!” หนิงฝานกล่าวตอบด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ฮ่าฮ่า ตกลง หากสหายเสี่ยวหนิงกล่าวเช่นนี้ ข้าก็โล่งใจ! หากในอนาคตสหายเสี่ยวหนิงพบเจอปัญหาใด เจ้าสามารถติดต่อข้าผ่านป้ายเซียนฮวงเทียนได้เสมอ!”
เวลานี้ฮวาเฟิงเงยหน้าขึ้นฟ้าพร้อมยกยิ้มกว้าง ก่อนจะจากไป
หลังจากฮวาเฟิงจากไปแล้ว หนิงฝานก็หันกลับมาจับจ้องเส้นชีพจรเซียนตรงหน้า
เขาเห็นว่ามีพลังแห่งกฎเกณฑ์ทรงพลังครอบคลุมเส้นชีพจรเซียนเหล่านี้ แม้แต่จักรพรรดิและผู้แข็งแกร่งขอบเขตเซียนต้องการจะครอบครองมัน ก็ไม่อาจทำได้ ทั้งหมดต้องมีป้ายเซียนฮวงเทียนเพื่อเปิดประตูเท่านั้น
พรึ่บ!
ชายหนุ่มหยิบป้ายเซียนฮวงเทียนออกมาพร้อมก้าวเข้าสู่เส้นชีพจรเซียน
แม้มันจะเป็นเส้นชีพจรเซียนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาชีพจรเซียนสามพัน แต่มันก็ยังแข็งแกร่งกว่าโลกภายนอกมาก!
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เส้นชีพจรเซียน ปราณเซียนมากมายไร้ที่สิ้นสุดทะลักเข้าสู่ร่างกายของเขา ทำให้ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นยิ่ง
ภายในเส้นชีพจรเซียน ไม่เพียงแต่มีนกกระเรียนเรียงรายเป็นแถวยาว ยังมีฝูงวานรเซียนกระโดดไปมา และมีตำหนักอยู่ด้านบนของเส้นชีพจรเซียนด้วย
ตำหนักเหล่านั้นไม่มีชื่อเรียก มีเพียงตัวเลขสามพันสลักเอาไว้
หลังจากเดินสำรวจโดยรอบเส้นชีพจรเซียนแล้ว หนิงฝานก้าวเข้าสู่ตำหนัก
ภายในนี้มีที่รองนั่งโคมเขียว ศิลาวิถีกลิ่นกระจ่าง และมีอุปกรณ์ครบครัน!
พรึ่บ!
หนิงฝานนั่งขัดสมาธิบนที่รองนั่งพร้อมกับเริ่มลงชื่อเข้าใช้
“ระบบ ลงชื่อเข้าใช้!”
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนสำเร็จและได้รับ…]
Comments