ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] 81 พายุสิ้นสุด ความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยาย!

Now you are reading ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] Chapter 81 พายุสิ้นสุด ความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 81 พายุสิ้นสุด ความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยาย!

พรึ่บ!

เหนือท้องฟ้าที่เคยถูกปกคลุมด้วยปราณกระบี่เริ่มจางหายไป บรรพชนทั้งสิบหลั่งโลหิตท่วมร่าง พวกเขาไม่ต่างอะไรจากมดปลวกที่กำลังจะตาย!

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว บรรพชนทั้งสิบถึงกับพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์!

ตอนนี้ทั้งบนท้องฟ้าและบนพื้นดิน ทุกผู้คนที่ได้เห็นฉากต่อสู้นี้ถึงกับนิ่งเงียบไปในบัดดล

เป็นเวลาเนิ่นนาน

ถึงค่อย ๆ มีเสียงกระซิบกระซาบขึ้นมา จากนั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นการสนทนาที่ดุเดือด ก่อนทั่วทั้งบริเวณจะกลายเป็นเสียงอื้ออึงไม่รู้จบ!

“โอ้สวรรค์! บรรพชนทั้งสิบพ่ายแพ้แล้ว!”

“เขาสังหารบรรพชนแห่งราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบในกระบวนท่าเดียว!”

“อ๊า! นั่นคือบรรพชนแห่งราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบที่กลืนกินเม็ดยาระเบิดศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ปราชญ์ยุทธ์ทั้งสิบหกคนจากราชวงศ์เทพขนนกยังไม่อาจต่อกร แต่เวลานี้พวกเขาพ่ายแพ้อีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียว!”

“จวินซ่างคือผู้ใดกัน ความแข็งแกร่งของเขาเกินกว่าจะคาดเดาได้แล้ว!”

“…”

ขณะนี้ทุกคนกำลังตื่นตระหนกและใบหน้าก็เผยความไม่เชื่อออกมา

“นี่มัน…!”

ราชวงศ์เทพขนนกและราชาทั้งสิบแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ถึงกับเผยสีหน้าโง่งมออกมา แน่นอนว่าสมาชิกของราชวงศ์เผยความยินดี ส่วนราชาทั้งสิบนั้นเผยความหวาดกลัว

การเผชิญหน้าระหว่างราชวงศ์เทพขนนกและราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่พลิกกลับไปมาเสมอซ้ำแล้วซ้ำเล่า!

จนถึงเวลานี้ ทุกคนทราบแล้วว่าสถานการณ์จบลงโดยสมบูรณ์ และไม่มีการพลิกผันใด ๆ อีก!

เพราะการมีอยู่ของจวินซ่าง!

“นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของอาวุโสจวินซ่างใช่หรือไม่?”

บนท้องฟ้า ปราชญ์ยุทธ์จากราชวงศ์เทพขนนกทุกคนไม่อาจควบคุมความคิดได้เลย ในฐานะปราชญ์ยุทธ์ พวกเขาล้วนเคยได้สัมผัสกับฝีกระบี่ที่ยิ่งใหญ่มามากมาย

แต่พลังกระบี่ที่ปรากฏเวลานี้กลับอยู่เหนือกว่าปราชญ์ยุทธ์สวรรค์ขั้นที่เจ็ดโดยทั่วไป!

“ขอบคุณอาวุโสสำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้!”

“อาวุโสจวินซ่างทำงานหนักเพื่อพวกเรา!”

“อาวุโสจวินซ่าง ข้าไม่ทราบว่าพวกเรามีโอกาสจะได้พบเจอตัวตนที่แท้จริงของท่านหรือไม่ พวกเราต้องการแสดงความขอบคุณท่าน!”

ปราชญ์ยุทธ์จากราชวงศ์ผลัดกันกล่าวถ้อยคำ ทั้งใบหน้าและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพ

“ไม่จำเป็น!”

“ข้าอยากอยู่ลำพัง และไม่ต้องการเป็นจุดสนใจของผู้ใด!”

หนิงฝานส่ายศีรษะพร้อมปฏิเสธคำขอของทุกคนโดยตรง

ทุกคนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมแพ้

หลังจากนั้น หนิงฝานเหลือบมองบรรพชนทั้งสิบที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้จะตายตกเต็มที หลังจากครุ่นคิดสักครู่ เขาก็กล่าวขึ้นว่า “สิบคนนี้ยังมีประโยชน์ พาพวกเขาเข้ามา!”

พรึ่บ!

เพียงแค่สะบัดมือ เชือกยาวก็พุ่งทะยานออกไปราวกับอสรพิษ มันมัดบรรพชนทั้งสิบเข้าด้วยกัน

แม้ว่าปราชญ์ยุทธ์จากราชวงศ์ต้องการจะสังหารบรรพชนทั้งสิบ แต่เป็นเพราะการตัดสินใจของหนิงฝาน พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะโต้แย้ง

ในชั่วครูต่อมา พวกเขาชี้ไปยังเหล่าราชาทั้งสิบและข้าราชบริพารด้านล่างทั้งสามพันคนก่อนจะกล่าวถาม “ท่านอาวุโสจวินซ่าง แล้วพวกเศษเดนเหล่านั้นจะทำอย่างไร ท่านคิดจะเก็บพวกเขาไว้ด้วยหรือไม่?”

“อ้อ พวกปลาซิวปลาสร้อยข้าไม่ต้องการ พวกเจ้าจัดการได้ตามใจ!”

หนิงฝานส่ายศีรษะอย่างไม่แยแส

จากนั้นเขาออกคำสั่งในใจ “ทาสหลิน พาพวกมันกลับไปที่สุสาน แล้วพลบค่ำข้าจะเป็นคนไปจัดการพวกมันเหล่านี้เอง!”

พรึ่บ!

หลังกล่าวจบ ร่างผู้พิทักษ์สุสานสั่นสะท้าน จิตสำนึกของหนิงฝานทะยานออกจากร่างกายนี้แล้ว

“ทราบแล้ว!”

ผู้พิทักษ์สุสานตอบรับคำ จากนั้นเขาก็เตรียมหันหลังกลับและพาบรรพชนทั้งสิบไปที่สุสานเทพด้วยกัน

“ผู้พิทักษ์สุสานอาวุโส!”

แต่ในตอนนี้เอง เมื่อทราบว่าอาวุโสจวินซ่างจากไปแล้ว ปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามว่า “ข้าไม่ทราบว่าท่านกับอาวุโสจวินซ่างมีความสัมพันธ์กันอย่างไร?”

“นาย… ท่าน!!”

ผู้พิทักษ์สุสานตอบกลับ หลังจากนั้นจึงหายลับไปพร้อมกับบรรพชนทั้งสิบ

เป็นนายท่านของข้า!

เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว ทุกคนพลันตื่นตระหนก

แม้จะสับสนอยู่บ้าง แต่ยังอยากทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของจวินซ่างอยู่ดี

“จักรพรรดิเก้ามังกร แล้วพวกเราจะจัดการกับพวกคนที่เหลือนี้อย่างไรหรือ?”

องค์ชายหลินเทียนเยวี่ยนกล่าวถามปราชญ์ยุทธ์ของราชวงศ์

“ฆ่า!”

จักรพรรดิเก้ามังกรคำรามลั่น

ราชาทั้งสิบกล้าเข้าสู่พระราชวังเทพขนนกเพื่อสร้างความวุ่นวาย แน่นอนว่าอาชญากรรมคราวนี้ไม่สามารถให้อภัย!

“ไม่! โปรดปล่อยพวกเราไป!”

“พวกเราไม่กล้าก่อเรื่องแล้ว!”

“ราชวงศ์เทพขนนกมีเมตตาเสมอมา โปรดยกโทษให้พวกเราสักครั้งเถิด!”

เมื่อบรรพชนทั้งสิบถูกจับกุม ราชาทั้งสิบจึงไร้ซึ่งความเย่อหยิ่งแบบในคราวแรก ใบหน้าของพวกเขาเผยความหวาดหวั่น ซ้ำแล้วยังคุกเข่าร้องขอความเมตตาด้วย

อย่างไรก็ตาม ราชวงศ์เทพขนนกไม่คิดสนใจ!

“อ๊าก—!”

เมื่อเผชิญหน้ากับปราชญ์ยุทธ์แห่งราชวงศ์ ราชาทั้งสิบและข้าราชบริพารสามพันคนก็ไร้ซึ่งพลังจะต่อสู้ พวกเขาทั้งหมดถูกสังหารในระยะเวลาสั้น ๆ

โลหิตหลั่งรินท่วมแผ่นดิน วังกระเรียนตะวันตกถูกฉาบไปด้วยสีแดง!

ริบบิ้นสีขาวเปรอะเปื้อนโลหิตพลิ้วไหว การต่อสู้ระหว่างราชวงศ์และราชากบฏทั้งสิบสิ้นสุดลงแล้ว

“ราชวงศ์เทพขนนกจงเจริญ! พวกเราจักจงรักภักดีต่อราชวงศ์ตลอดไป!”

ในขณะนี้ ขุนนางและกองทัพทหารจักรวรรดินับไม่ถ้วนต่างคุกเข่าลง หัวใจสั่นสะท้านด้วยความเคารพปนหวั่นเกรง

หลังจากการต่อสู้คราวนี้ผ่านพ้นไป เหล่าขุนนางและองค์ชายที่เคยหวาดหวั่นในคราวแรกกลับมาได้รับความเคารพและเชื่อมั่นอีกครั้ง

ราชวงศ์เทพขนนก แม้ว่าจะไม่มีองค์จักรพรรดิหลินไท่ซูคอยรับผิดชอบ แต่ก็ยังมีอาวุโสจวินซ่างคอยดูแล!

จากนี้ไป ตราบใดที่อาวุโสจวินซ่างยังอยู่ จะไม่มีผู้ใดกล้าหาญดูหมิ่นราชวงศ์เทพขนนก!

ในวันเดียวกัน

หลังจากผู้ชมนับไม่ถ้วนออกจากพระราชวังเทพขนนก การเผชิญหน้าระหว่างราชวงศ์เทพขนนกและราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบก็ได้แพร่กระจายออกไปทั่วเมืองเทพขนนก กระทั่งสามพันดินแดนอันไกลโพ้นเองก็ยังได้รับข่าวสารนี้

ความรู้สึกปลาบปลื้มนี้ยังไม่จบสิ้นง่าย ๆ

“นี่ ๆ ข้าได้ยินว่ามีการเผชิญหน้าอย่างที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์มาก่อนระหว่างราชวงศ์เทพขนนกกับราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบ!”

“ว่ากันว่ามีปราชญ์ยุทธ์กว่ายี่สิบหกคนในการต่อสู้คราวนี้!”

“ยี่สิบหกเชียวหรือ? ไม่ใช่แล้ว ควรจะเป็นยี่สิบเจ็ดคนมากกว่า เพราะมีบุรุษนิรนามผู้ยิ่งใหญ่อย่างจวินซ่างด้วย!”

“ใช่! ใช่แล้ว ข้าได้ยินว่าจวินซ่างสังหารบรรพชนทั้งสิบด้วยกระบวนท่าเดียว!”

“โอ้! เขาเอาชนะบรรพชนทั้งสิบด้วยหนึ่งกระบวนท่า ความแข็งแกร่งของจวินซ่างผู้นี้นับว่าน่าสะพรึงยิ่งแล้ว!”

“ถูกต้อง! ว่าแต่จวินซ่างผู้นี้คือใครกัน?”

“เรื่องนั้นข้าก็ไม่ทราบ รู้เพียงว่าครั้งหนึ่งเขาเคยสังหารอาชญากรสามคนให้กับราชวงศ์ และยังทำให้จักรพรรดิทั้งเจ็ดยอมศิโรราบ!”

“จวินซ่างผู้นี้ลึกลับและน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง!”

“…”

ข่าวเหล่านี้แพร่กระจายออก ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยเสียงตื่นเต้นและฮือฮา!

ในหมู่พวกเขา ผู้ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือนามของจวินซ่าง!

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของจวินซ่าง พวกเขาก็พยายามคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของจวินซ่างด้วยเช่นกัน

“การต่อสู้ในวันนี้เต็มไปด้วยความพลิกผันมากมาย หากไม่มีอาวุโสจวินซ่างช่วยกอบกู้สถานการณ์ ราชวงศ์ของข้าย่อมตกอยู่ในอันตราย!”

ระหว่างทางกลับสู่ตำหนักองค์หญิง หลัวชิงเซียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แน่นอนว่าความตกตะลึงยังคงฉายชัดอยู่ในแววตางดงามคู่นั้น

“เหตุใดผู้อาวุโสท่านนี้จึงคอยช่วยเหลือราชวงศ์ครั้งแล้วครั้งเล่ากันนะ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าราชวงศ์เคยมีเมตตาต่อเขา? หรือว่าเขา… มีแผนการใดกับราชวงศ์?”

“น่าเสียดายนัก ที่สุดท้ายแล้วเขาไม่คิดเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง!”

“…”

ระหว่างทาง หลัวชิงเซียนพึมพำกับตนเองตลอดทาง และคำพูดนั้นก็เต็มไปด้วยความเคารพ ชื่นชม และสงสัย

เมื่อกลับมาถึงตำหนักองค์หญิง หลัวชิงเซียนจึงหันศีรษะไปมองหนิงฝานอย่างรวดเร็ว “สามี ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าอาวุโสผู้นี้เป็นใครกัน?”

หนิงฝาน “…”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *