ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 123 เทียมเซียน (ปลาย)

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 123 เทียมเซียน (ปลาย) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 123 เทียมเซียน (ปลาย)

บทที่ 123 เทียมเซียน (ปลาย)

ลู่หยวนปลอบคุณหนูตระกูลไป๋ ก่อนจะขอให้เหิงอีเจี้ยนดูแลพวกนาง แล้วพาจงซื่อและเสิ่นโตวกลับไปตระกูลเสิ่น

บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ปรากฏตัวที่ตระกูลเสิ่น แต่ให้เสิ่นโตวกลับไปเพียงลำพัง

เมื่อผู้นำตระกูลเสิ่นก้าวเข้าสู่ตระกูล สายตาก็แจ่มชัดขึ้นจนดวงตาแดงก่ำขึ้นมา

ชายวัยกลางคนรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น รู้เช่นกันว่าตนได้ต่อสู้กับบรรพชน ส่วนลูกหลานคนอื่นตายสิ้นแล้ว ตลอดจนเรื่องบรรพชนของเขาที่ล่วงลับอยู่ที่ยอดเขามังกรเร้นเช่นกัน

แต่หัวใจของเขาคล้ายกับถูกช่วงชิง ไม่อาจเค้นร่องรอยความเศร้าโศกได้แม้แต่นิดเดียว

หลังจากกลายเป็นหุ่นเชิดมาร เขาไม่มีอารมณ์พื้นฐานใดทั้งสิ้น

เหนือท้องนภาของตระกูลเสิ่นในเมืองหลวน มังกรสายฟ้าที่มาจากทัณฑ์อัสนีถูกกวาดล้างออกไปทันทีที่เสิ่นฉงตาย

ในคืนนั้น ทุกคนในตระกูลเสิ่นวุ่นวายเป็นอย่างมาก!

ตอนแรกทัณฑ์อัสนีปรากฏขึ้น ทุกคนรวมตัวในตำแหน่งที่เหมาะสม ยอดฝีมือบางคนก็ต้องการพึ่งพลังของทัณฑ์อัสนีเพื่อดูว่าจะสามารถบ่มเพาะบางสิ่งได้หรือไม่

แต่รอจนถึงเที่ยงคืน มังกรสายฟ้ายังคงว่ายวนไปมาในหมู่เมฆ ไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนลงมา

ชั่วเวลานั้นเองที่ถ้ำหมื่นกระบี่ของตระกูลเสิ่นถูกทำลาย! ค่ายกลรอบข้างที่คุ้มกันถ้ำหมื่นกระบี่เอาไว้ระเบิด เปลวเพลิงพวยพุ่งสู่ท้องนภา พวกเขาจึงมุ่งสู่ถ้ำหมื่นกระบี่คนแล้วคนเล่า หมายจะคว้ากระบี่ที่ตนสามารถสืบทอดได้ไป

หลังจากช่วยคนส่วนใหญ่ในคืนนั้น ท้องนภาก็สว่างขึ้นมา เปลวเพลิงมอดดับ กระบี่ทั้งหมดที่ยังใช้ได้ถูกย้ายไปที่จัตุรัส

ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลเสิ่นระดมสมาชิกทั้งหมดของตระกูล เพื่อตระเตรียมสิ่งต่าง ๆ ให้เพียบพร้อม

และแล้วเสิ่นโตวก็กลับมา

“ผู้นำตระกูลกลับมาแล้ว!”

สมาชิกของตระกูลเสิ่นคนหนึ่งตะโกนอย่างยินดี

สายตาของทุกคนเลื่อนตามมา พบว่าร่างของผู้นำตระกูลเสิ่นถูกย้อมไปด้วยโลหิต ในแววตามีความเศร้าสลด

สมาชิกตระกูลเสิ่นคนอื่นไม่อาจรับรู้ แต่ผู้อาวุโสที่มีอายุมากว่าหนึ่งร้อยปีย่อมรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง

พวกเขาโบกมือไล่ทุกคนทันที เพื่อให้กลับไปพักผ่อน

หลังจากทุกคนไปแล้ว มีเพียงเสิ่นโตวและผู้อาวุโสคนอื่นเท่านั้นที่ยังอยู่ในจัตุรัส

“ผู้นำตระกูล มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เสิ่นโตวเม้มริมฝีปาก แววตายิ่งดูเศร้าสร้อยมากขึ้น

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบ ผู้อาวุโสที่อารมณ์ฉุนเฉียวก็ขึ้นเสียง

“ผู้นำตระกูล มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้โปรดตอบมาด้วย!”

“ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้มีความโกลาหลและความตายเกิดกับตระกูล?!”

“เสิ่นหุนรับหน้าที่ดูแลตระกูล ทำเอาวุ่นวายใหญ่โต ซ้ำยังมาถูกเหิงอีเจี้ยนฆ่า!”

“ตอนนี้ท่านบรรพชนก็หายไปอีก! หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลเสิ่นจะต้องตกที่นั่งลำบากเป็นแน่!”

เสิ่นโตวระงับความเศร้าโศกในดวงตาเอาไว้ เขาเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวกับผู้อาวุโสจำนวนมากว่า “ข้าขอประกาศสองสามเรื่องให้ทราบ”

ทุกคนฟังอย่างตั้งใจ

“ข้อแรก นับจากวันนี้ไป ตระกูลเสิ่นจะไม่มีท่านบรรพชน!”

“ข้อสอง ตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูลเสิ่นจะตกเป็นของเสิ่นซูเหยียน!”

ทันทีที่กล่าวเช่นนี้ ผู้อาวุโสจำนวนมากก็ตกตะลึง พวกเขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ผู้นำตระกูลพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ถึงแม้ว่าท่านบรรพชนจะยึดตำแหน่งผู้นำตระกูลของท่านไปชั่วคราว แต่ก็ใช่เรื่องที่จะต้องมาโกรธเคืองกัน!”

“ท่านก็รู้จักเขาดีนี่ เขา…”

ผู้อาวุโสยังไม่ทันกล่าวจบประโยค เสียงของเสิ่นโตวก็ดังขึ้น “ท่านบรรพชนกลายเป็นมารไปแล้ว”

“เมื่อคืนนี้ ข้าเห็นมากับตา ท่านบรรพชนคนเดิม… ไม่มีอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว”

เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนในตระกูลเสิ่นได้ยินเช่นนี้ หัวใจของพวกเขาก็ล้วนว้าวุ่นเยี่ยงมรสุมพัดผ่าน

สิ้นท่านบรรพชนแล้ว ตระกูลเสิ่นก็ไร้ที่พึ่งสูงสุด!

ความอาดูรบนสีหน้าของเสิ่นโตวหายลับไปโดยพลัน “หากไม่เชื่อ จะไปดูที่ยอดเขามังกรเร้นก็ย่อมได้ ลูกหลานตระกูลเสิ่นของข้ามากมายก็ตายตกด้วยน้ำมือท่านบรรพชนที่นั่นเช่นกัน…”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งเหยียบกระบี่ทะยานสู่ทิศของยอดเขามังกรเร้นทันที

หลังจากหนึ่งถ้วยชาผ่านไป ผู้อาวุโสคนนั้นก็กลับมาด้วยใบหน้าซีดเผือด และค่อย ๆ เอ่ยว่า ‘ใช่’ ต่อหน้าสายตาไถ่ถามทุกคู่

หัวใจของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ในตระกูลสั่นสะท้าน หากบรรพชนสิ้นไป ตระกูลเสิ่นก็จะกลายเป็นดั่งลูกพลับนิ่ม ใครจะหยิกจะบี้เช่นไรก็ย่อมได้!

ไม่เพียงพวกเขาตระกูลเสิ่นจะถูกขับออกจากการเป็นสิบตระกูลสูงสุดแห่งแดนเหนือ แต่เมื่อไร้ท่านบรรพชนคุ้มกะลาหัว กระทั่งจะเทียบตนกับสำนักบางแห่งซึ่งเดิมไม่เคยอยู่ในสายตาก็ยังไม่ได้!

ขณะที่ผู้อาวุโสมากมายกำลังลนลานนั้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเคลือบแคลง “ขอบังอาจถามผู้นำตระกูล เหตุใดท่านและเหล่าทายาทจึงถูกโจมตี เป็นที่รู้กันทั่วว่าท่านบรรพชนเก็บตัวฝึกฝนอยู่ ทัณฑ์อัสนีก็มาแล้ว เขาจะออกมาเพื่อการใด เหตุใดทายาทมากมายจึงต้องตายอย่างอนาถ ทว่าท่านกลับรอดมาเพียงลำพัง?”

เมื่อผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็เริ่มรู้สึกเคลือบแคลงเช่นกัน

เสิ่นโตวเผยอปาก มีคำพูดอัดแน่นเต็มอก

เพราะเหตุใดน่ะหรือ

ก็เพราะลู่หยวนทั้งนั้น…

แต่เขาไม่อาจทรยศบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้เลย กระทั่งยามนึกถึงชื่อนั้นขึ้นในใจ ก็ยังอดครั่นคร้ามสั่นสะท้านไม่ได้

ทันใดนั้น เสียงของลู่หยวนก็ดังขึ้นในโสต “เหิงอีเจี้ยนจับตัวเจ้าไว้ เสิ่นฉงได้ข่าวจึงจะไปช่วย แต่เขากลับกลายเป็นมาร จึงฆ่าคนตระกูลเสิ่นจนสิ้นเหลือเพียงเจ้า ขณะที่เหิงอีเจี้ยนบาดเจ็บสาหัสหนีไป”

เสิ่นโตวผ่านประเด็นนี้ไปได้โดยใช้คำอธิบายของบุตรศักดิ์สิทธิ์

ผู้อาวุโสหลายคนเชื่อเขา แต่ละคนล้วนก่นด่าเหิงอีเจี้ยนกันยกใหญ่และหวนอาลัยถึงตระกูลเสิ่นก่อนหน้านี้

แต่ไม่มีผู้ใดไปเก็บศพเสิ่นฉงที่ยอดเขามังกรเร้นเลย เพราะถึงอย่างไรท่านบรรพชนเสิ่นก็กลายเป็นมารไปแล้ว ย่อมต้องถูกตัดขาดกับคนอื่น ๆ ในตระกูล

ทุกคนแยกย้าย เสิ่นโตวเองก็กลับสู่ตำหนักของเขา ที่ซึ่งลู่หยวนกับจงซื่อมารออยู่นานแล้ว

“นายท่าน!”

เสิ่นโตวประสานมือคำนับ หัวใจสั่นสะท้าน

ชายหนุ่มส่งเสียงรับ และกล่าวว่า “อย่าห่วงเลย ตระกูลเสิ่นจะไม่ถูกเขี่ยออกจากสิบตระกูลสูงสุดของแดนเหนือหรอก และข้าจะหาคนมาช่วยค้ำจุนพวกเจ้าให้เอง”

ผู้นำตระกูลเสิ่นฟังแล้วก็พยักหน้าหงึกหงัก “ขอบคุณนายท่าน!”

สาเหตุที่ลู่หยวนฟื้นสติให้อีกฝ่าย ไม่ทำให้เขาเป็นหุ่นเชิดซึ่งถูกควบคุมโดยพลังมารไปโดยสมบูรณ์ นั่นก็เพราะตระกูลเสิ่นยังต้องให้ผู้มีสายเลือดตระกูลเสิ่นค้ำจุนดูแล

จะให้หุ่นเชิดมารไร้ตาไร้สมองไปเป็นผู้นำตระกูลเสิ่นไม่ได้

ทว่า… บุตรศักดิ์สิทธิ์หากังวลไม่ว่าเสิ่นโตวผู้นี้จะหักหลัง

เพราะถึงอย่างไร ชายวัยกลางคนในยามนี้ก็เป็นหุ่นเชิดมารที่ถูกพลังมารแทรกซึม แต่มีสติอยู่นิดหน่อยเท่านั้น ไม่ว่าจะทำอันใด จิตสำนึกก็จะไม่หักหลังผู้เป็นนายแน่นอน

ยิ่งกว่านั้น เสิ่นซูเหยียนก็สิ้นอำนาจไปแล้ว ขอเพียงเสิ่นโตวไม่โง่ ย่อมรู้ว่าลำพังกำลังตระกูลเสิ่นไร้หนทางรักษาบุตรีได้แน่นอน

แต่หากสวามิภักดิ์กับลู่หยวน ก็ยังมีหวังฟื้นตัวได้อยู่!

ชายหนุ่มครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “มีอีกสองสามเรื่องจะให้เจ้าทำ”

“หนึ่ง ผู้อาวุโสที่เพิ่งถามเจ้าไปคนนั้น เขาสงสัยเจ้ามากเกินไป หาจังหวะฆ่าเขาเสีย”

“สอง จะมีผู้มาขออาศัยในตระกูลเสิ่นของเจ้า หาที่อยู่ให้พวกเขา ดูแลพวกเขาให้ดี คัมภีร์วิถีกระบี่อันใดของตระกูลเสิ่นก็ให้พวกเขาอ่านเสีย และถ้ามีโอสถสมุนไพรวิญญาณอันใดก็ให้พวกเขาไปด้วย”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *