ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 167 หลิงอวิ๋นแพ้หรือ?

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 167 หลิงอวิ๋นแพ้หรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 167 หลิงอวิ๋นแพ้หรือ?

บทที่ 167 หลิงอวิ๋นแพ้หรือ?

หลิงอวิ๋นรู้อยู่แล้วว่า การต่อสู้ในวันนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่านางจะพูดอย่างไร เจียงเชียนชิวก็ไม่เชื่อ

ถ้าเป็นเช่นนั้น… ก็มีแต่ต้องเข้าปะทะ

การต่อสู้เพื่อยุติข้อข้องใจ!

บรรพชนหอกสะบัดแขนเสื้อ จนเกิดแรงลมพัดพาหยางอวิ๋นออกไป

บรรพชนหอกกวัดแกว่งอาวุธจนลำแสงพุ่งออกไปรอบข้าง ปกคลุมทั่วทั้งจัตุรัส

ทุกคนถูกกันออกไป มีเพียงเจียงเชียนชิวกับหลิงอวิ๋นเท่านั้นที่เหลืออยู่

นางถือหอกเอาไว้มั่น “เจียงเชียนชิว หากวันนี้ใครชนะก็มีสิทธิ์ตัดสินใจ หลังจบการต่อสู้ครั้งนี้ เป็นตายให้ฟ้าตัดสิน ไม่เกี่ยวว่าเจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่ …ว่าอย่างไร?”

เจียงเชียนชิวตั้งใจไว้แบบนี้เช่นกัน ถึงอย่างไรหญิงใจง่ายอย่างหลิงอวิ๋น เขาก็ไม่ต้องการอยู่แล้ว!

“ตามนั้น!”

ทันทีที่สิ้นเสียง หลิงอวิ๋นถือหอกตั้งตรง ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า และร่างของนางพลันหายไปในชั่วพริบตา ด้วยความเร็วนี้ แม้แต่เหล่าผู้ชมที่เป็นศิษย์สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ก็มีน้อยคนนักที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน

พริบตาต่อมา อากาศตรงหน้าเจียงเชียนชิวผันผวน สตรีในอาภรณ์สีแดงปรากฏขึ้นพร้อมหอกยาวในมือ ปราณหอกนานาชนิดพุ่งออกมา กระหน่ำเข้าใส่เจียงเชียนชิวทันที

เจียงเชียนชิวยืนขึ้นแล้วขยับ มือทั้งสองข้างตรงเข้าจับปลายหอกของคู่ต่อสู้

ลู่หยวนเห็นดังนี้ก็อดที่จะเบิกเนตรเทวะไม่ได้ ทุกสิ่งที่เป็นภาพอยู่ไกลออกไปกลายเป็นภาพระยะประชิด แม้กระทั่งร่องรอยขนาดเล็กก็ฉายอยู่ในดวงตาคู่นี้อย่างชัดเจน

เขาเห็นพลังสีแดงทั่วร่างเจียงเชียนชิว มันรวมตัวไปยังฝ่ามือที่จับปลายหอกเอาไว้

ตูม!

ปลายหอกปะทะเข้ากับฝ่ามือจนเกิดเสียงดังสนั่น เกิดคลื่นอากาศแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง กระแทกเข้าใส่โล่แสงสว่างโดยรอบในทันใด

เจียงเชียนชิวจับปลายหอกสะบั้นนิลกาฬเอาไว้อย่างมั่นคง รัศมีสีแดงเคลื่อนไปตามตัวหอก ก่อนลามไปถึงร่างหลิงอวิ๋น บรรพชนหอกขมวดคิ้ว นางพลิกมือหมุนหอกสะบั้นนิลกาฬทันที จนเกิดคลื่นอากาศหมุนวน ดูดกลืนรัศมีสีแดงรอบ ๆ จนสลายไปหมดสิ้น

หลิงอวิ๋นฉวยโอกาสดังกล่าวรีบถอยกายออกมาอย่างรวดเร็ว จนมาหยุดอยู่ที่อีกฝั่งในทันที พลังวิญญาณทั้งหมดในร่างกายสูบฉีดขึ้นมารวมอยู่ในฝ่ามือ ก่อนหลอมรวมเข้าไปในหอก

วิ้ง!

หลังจากหอกสะบั้นนิลกาฬได้รับพลังแล้ว ทั่วตัวหอกสั่นสะท้าน พลังยังคงถูกถ่ายจากมือของหลิงอวิ๋นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดแรงกระแทกมหาศาลเข้าปะทะคู่ต่อสู้ทันที

เจียงเชียนชิวเพียงรู้สึกว่าปากพยัคฆ์ของเขาปวดจากแรงกระแทก แต่ยังไม่ทันถอย ก็เห็นหอกยาวพุ่งตรงเข้ามาหา พลังทั้งหลายกระจายออกไปในทันที

ตูมมม!!

ร่างของเจียงเชียนชิวถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปหลายสิบจั้ง จนกระทั่งถึงขอบของจัตุรัส ท้องฟ้าโดยรอบสั่นสะเทือน ราวกับกำลังจะพังทลายในพริบตาต่อมา ห้วงอากาศบริเวณที่ปลายหอกชี้ไปหาเริ่มบิดเบี้ยว ราวกับจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์

หลิงอวิ๋นพาดหอกสะบั้นนิลกาฬไว้ด้านหลังด้วยสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม นางอยู่ในชุดสีแดงดุจเปลวเพลิง ยืนตระหง่านกลางท้องนภา ราวกับเทพธิดาแห่งดวงตะวัน

“เจียงเชียนชิว เรื่องนี้เป็นอันจบ… ว่าอย่างไร?”

หลิงอวิ๋นก้าวเข้าสู่ปรมาจารย์ยุทธ์ไปครึ่งก้าวแล้ว ยังคงมีพลังในการเป็นปรมาจารย์ยุทธ์อยู่ แน่นอนว่ายากที่คนอย่างเจียงเชียนชิวผู้อยู่ในขั้นเทียมเทพจะเทียบเคียงได้

ผลการต่อสู้ในวันนี้เป็นที่ประจักษ์

เจียงเชียนชิวผู้หาทางประคองร่างขึ้นมาได้หอบระรัวเหมือนวัวควาย ร่างกายปวดร้าว มือชุ่มไปด้วยโลหิต หากพินิจอย่างละเอียดย่อมสามารถมองเห็นกระดูกสีขาวจำนวนมาก พวกมันทั้งหมดมาจากฝีมือการโจมตีของหลิงอวิ๋นเมื่อครู่

“ไม่!”

เจียงเชียนชิวตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วพุ่งเข้าหาหลิงอวิ๋นกลางท้องนภา รัศมีพลังสีแดงหลอมรวมตัวในมือ จนเกิดเป็นกระบี่ยาวสีแดง

คุณชายเจียงพุ่งขึ้นฟ้าไปพร้อมกระบี่ หลังทะยานผ่านกระแสลมอย่างบ้าคลั่งไม่กี่อึดใจ เขาก็พุ่งมาถึงหน้าหลิงอวิ๋น แล้วฟาดฟันกระบี่ออกไป

หลิงอวิ๋นยังคงมีท่าทีสงบ ในสายตานาง การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ดูช้าลงหลายสิบเท่า อีกทั้งกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามายังเต็มไปด้วยช่องโหว่

บรรพชนหอกถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ก่อนยื่นมือซ้ายออกไป เจตจำนงหอกกลุ่มหนึ่งปกคลุมรอบตัวนาง หลิงอวิ๋นใช้มือแทนหอก ทะลวงฝ่าอากาศเข้าหากระบี่สีแดงที่รุกคืบเข้ามา

พลังที่แตกต่างกันทั้งสองเข้าปะทะกัน! แสงสีขาววาบขึ้นปกคลุมทั่วสวรรค์และโลก ผู้คนที่อยู่ด้านล่างหรี่ตาเพราะแสงสว่างเจิดจ้า จนไม่อาจมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ทว่าด้วยเนตรเทวะของลู่หยวน แสงสว่างพร่างพรายทั้งหมดนี้ล้วนเปล่าประโยชน์ เขายังคงจ้องมองขึ้นฟ้าตาไม่กะพริบ

หลังจากเห็นทั้งสองต่อสู้กันสองถึงสามครั้ง เจียงเชียนชิวดูเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด กระบี่สีแดงในมือเริ่มแตกร้าว กำลังจะพังทลายในไม่ช้า

แต่ความสนใจของลู่หยวนไม่ได้อยู่ตรงนี้ สายตาของเขาหรี่ลง เห็นว่ามือซ้ายของเจียงเชียนชิวอยู่ด้านหลัง

อีกฝ่ายคล้ายกับถือโอสถไว้ในกำมือ ครั้นขยับโอสถก็สลายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นพลังบนร่างของเจียงเชียนชิวพลันหายไปมหาศาล

แต่เห็นได้ชัดว่าหลิงอวิ๋นไม่คาดคิดว่าพลังของอดีตคู่หมั้นจะถูกกวาดล้างจนสิ้น ส่วนมือซ้ายยังคงมีไพ่ตายเหลืออยู่ อีกไม่ช้า ฤทธิ์ยาจะกระจายไปทั่วร่าง

นางทำลายกลิ่นอายพลังของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว หมายจะหยุดไพ่ตายในมือซ้ายของเขาเอาไว้

แต่ในพริบตาที่กลิ่นอายพลังถูกดึงกลับไป พลังที่เพิ่งหายไปกลับพวยพุ่งขึ้นมาบนบริเวณมือซ้ายของเจียงเชียนชิว มันแข็งแกร่งขึ้นหลายร้อยเท่า เต็มไปด้วยกลิ่นอายส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นของเขา

ร่างกายของเขาทะยานขึ้นมา ก่อนจะฟาดหนึ่งฝ่ามือออกไป ตรงเข้าที่ร่างของหลิงอวิ๋น

กลิ่นอายพลังแปลกประหลาดกระจายไปทั่วร่างบรรพชนหอก เหมือนกับหนอนที่คืบคลานไปทั่วร่างของผู้ถูกโจมตีในทันที

นางไม่สามารถเค้นการบ่มเพาะได้อีก

เจียงเชียนชิวสะบัดฝ่ามืออีกครั้ง ก่อนจะฟาดไปอย่างรุนแรง

อัก!

โลหิตสีแดงฉานทะลักออกมาจากปากของหลิงอวิ๋น ร่างของนางเหมือนกับว่าวสายป่านขาด ร่วงลงไปกับพื้น

ตอนนี้แสงสว่างสีขาวจางหายไป ทุกคนลืมตากว้างทันที พวกเขาพบว่าที่กลางท้องนภา ร่างในอาภรณ์แดงกำลังตกลงมา

มีเพียงประโยคเดียวที่ดังก้องในใจของทุกคน …บรรพชนหอกแพ้หรือ?!

อาจารย์สำนักหลิงอวิ๋นถึงกับพ่ายแพ้งั้นหรือ?!

เจียงเชียนชิวก้าวออกมากลางอากาศ หลังจากรัศมีพลังสีแดงที่รายล้อมจางหาย ทั่วร่างของเขาก็สั่นสะท้าน ราวกับเหนื่อยล้าจนหมดแรง

การโจมตีเมื่อครู่ ทำให้ร่างกายหมดแรงจริง ๆ

ทว่าเขามองอดีตคู่หมั้นที่ตกลงไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นในใจ

หลิงอวิ๋นหนอ…หลิงอวิ๋น เจ้าแพ้แล้ว… เจ้าแพ้ต่อหน้าทุกคน! แถมยังแพ้ให้กับยอดฝีมือขั้นเทียมเทพอีกด้วย!

อยากรู้นักว่าเจ้ายังจะกล้าบากหน้า กลับมาเป็นอาจารย์สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์อีกหรือไม่?!

หยางอวิ๋นผู้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเห็นอาจารย์ตกลงมา จึงรีบเค้นพลังเพื่อพุ่งขึ้นไปรับ ทว่าร่างในอาภรณ์สีชาดกลับเร็วยิ่งกว่า เขาฝ่ากลุ่มศิษย์จำนวนมากออกไปในเสี้ยวพริบตา

ชายหนุ่มก้าวไปสองสามก้าว ยื่นมือออกไปรับหลิงอวิ๋นมาไว้ในอ้อมแขน

พลังมังกรพุ่งทะยาน พันธนาการเจียงเชียนชิวไว้กลางอากาศ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *