ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 266 บงกชพิโรธเพลิงสวรรค์! (รีไรท์)

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 266 บงกชพิโรธเพลิงสวรรค์! (รีไรท์) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 266 บงกชพิโรธเพลิงสวรรค์! (รีไรท์)

บทที่ 266 บงกชพิโรธเพลิงสวรรค์! (รีไรท์)

หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชา คลื่นอากาศก็เคลื่อนผ่านไป

ฮ่วนซิงไป๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ค่ายกลตรงหน้าของเขามีร่องรอยของปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง

เขาหลุบตาลง ก่อนจะพบรอยแตกสามสี่แห่งบนจี้หยกพิทักษ์ชีพ ราวกับถูกฟาดฟันจากทุกทิศทาง

ส่วนพื้นที่รอบข้างเหลือเพียงความว่างเปล่า

ทั่วทั้งดินแดนลับ นอกจากพื้นใต้เท้าของฮ่วนซิงไป๋กับจักรพรรดินี ส่วนที่เหลือก็ถูกทำลายล้างสิ้น

พลังกวาดล้างดังกล่าว ต่อให้เป็นขั้นจ้าวยุทธ์ เกรงว่ายังยากจะยืนหยัดได้!

ฮ่วนซิงไป๋เงยหน้า เห็นมู่พ่านซานถูกปราณกระบี่น้ำแข็งปิดล้อมอยู่กลางวงต่อสู้

ไกลออกไป ร่างที่โชกด้วยโลหิตของฉู่เชิ่งกำลังสั่นเทา เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บสาหัส!

สภาพประหนึ่งสุนัขใกล้ตาย กำลังพยายามยืนหยัดในห้วงอากาศอย่างยากลำบากด้วยลมหายใจรวยริน

ดาบยาวซึ่งเดิมมีเปลวไฟลุกโชนแตกหัก เปลวไฟรอบข้างอันเกิดจากวิชาเพลิงสวรรค์ผลาญภพยิ่งริบหรี่ราวกับจะมอดดับลงทุกเมื่อ

สภาพเช่นนี้ไม่ต่างจากการพ่ายแพ้!

แต่แววตาของฉู่เชิ่งหาได้มีร่องรอยความเจ็บปวดไม่ เขายังคงจับจ้องไปยังมู่พ่านซานผู้อยู่ไกลออกไป ประหนึ่งหมาป่าเดียวดายที่เดินอยู่ในพงไพร ดวงตายังคงทอประกายด้วยจิตสังหารแจ่มชัด

มู่พ่านซานกุมกระบี่น้ำแข็งไว้มั่น “ฉู่เชิ่ง ด้วยวัยของเจ้า การที่ครอบครองวิชาเพลิงสวรรค์ผลาญภพและต้านทานการโจมตีของข้าได้ นับว่าควรค่าแก่การเป็นผู้นำของรุ่นเยาว์แล้ว!”

“แม้ข้าจะหวงแหนผู้มีพรสวรรค์มากแค่ไหน แต่วันนี้เจ้าต้องตาย!”

เมื่อสิ้นคำ มู่พ่านซานก็ยกมือขึ้น ฟ้าดินมืดมิด เดือนตะวันถูกบดบัง อุณหภูมิรอบข้างลดต่ำลง

ห้วงอากาศเย็นเยือก น้ำแข็งจับตัวเป็นก้อนในอากาศ

วิ้ง!

เสียงกระบี่ร่ำร้องอย่างแผ่วเบา น้ำแข็งก่อตัวขึ้นในอากาศอย่างรวดเร็ว

เพียงชั่วพริบตา กระบี่น้ำแข็งนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น ปลายคมกระบี่หันไปทางฉู่เชิ่ง

มู่พ่านซานก็หันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน กระบี่ทั้งหลายในท้องนภาเกิดการสั่นไหว ก่อนจะเริ่มดูดกลืนปราณวิญญาณรอบด้านอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าปราณและอำนาจกระบี่ก็ผสานกันเหนือห้วงอากาศ

กลิ่นอายทั้งหมดพุ่งเป้าไปยังฉู่เชิ่ง

ทันใดนั้น มู่พ่านซานชี้ไปที่อีกฝ่าย

กระบี่น้ำแข็งนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกไปราวกับได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนาย

ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว!

กระบี่น้ำแข็งทะลวงผ่านอากาศ แล้วพุ่งลงมาอย่างบ้าคลั่งประหนึ่งดอกหลีที่โหมกระหน่ำ

ลู่หยวนยืนอยู่บนท้องนภาพลางเฝ้ามองทุกสิ่งตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา

เจิ้งชิงเทียนผู้อยู่ในหอคอยอสูรสวรรค์ก็ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างฉู่เชิ่งกับมู่พ่านซานในยามนี้เช่นกัน

นางจงใจเอ่ยว่า “นายท่านจะไม่ลงมือหรือเจ้าคะ? ความตายของฉู่เชิ่งเป็นที่แน่ชัดแล้ว หากเขาสิ้นลมวันนี้ แผนการเรื่องตระกูลชิวจะไม่ถูกขัดขวางเอาหรือ?”

ลู่หยวนคลี่ยิ้มเล็กน้อย ขณะมองค่าชะตาสองหมื่นแต้มซึ่งอยู่บนหน้าผากของอีกฝ่าย แล้วเอ่ยอย่างแผ่วเบา “ไม่ต้องห่วง ต่อให้มู่พ่านซานทุ่มสุดตัวในวันนี้ ฉู่เชิ่งก็ไม่ตาย!”

เจิ้งชิงเทียนไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงมั่นใจ ไม่ว่ามองอย่างไร ฉู่เชิ่งก็เป็นฝ่ายถึงฆาต!

ขณะที่สับสนอยู่นั้น นางก็เห็นลู่หยวนยืนเอามือไพล่หลัง สายตาของเขาจับจ้องไปยังอีกฝ่าย “เจ้าไม่เข้าใจ แม้บุตรแห่งชะตาเช่นฉู่เชิ่งจะทำอะไรไม่ได้ แต่ความอดทนของเขาเหนือกว่าผู้ใด!”

เจิ้งชิงเทียนไม่เข้าใจว่าลู่หยวนหมายถึงอะไร แต่นางไม่คิดจะสืบสาวราวเรื่อง พร้อมเบนสายตามองไปยังการต่อสู้

กระบี่น้ำแข็งนับแสนพุ่งลงมายังฉู่เชิ่งจากทุกทิศทาง

ขณะยืนอยู่ท่ามกลางพายุกระบี่มากมาย ฉู่เชิ่งคลี่ยิ้มแล้วเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นท่าทีโอ้อวดของตัวเอง

“มู่พ่านซาน เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หรอก!”

สายตาของฉู่เชิ่งมีแววความมุ่งมั่น เขายกมือขึ้นแล้วร่ายผนึกอย่างรวดเร็ว ใจกลางฝ่ามือมีเพลิงสวรรค์กำลังแผดเผาขณะผสานเข้ากับเพลิงเหมันต์สงัด

เปลวเพลิงทั้งสองพัวพันกันอย่างรวดเร็ว ก่อนพลังมหาศาลจะเคลื่อนเข้าสู่มือของเขา

ทั่วทั้งฟ้าดินเริ่มร้อนระอุ กลิ่นอายอันบ้าคลั่งสั่นไหวอย่างรุนแรง เมื่อกระบี่น้ำแข็งซึ่งกำลังทะลวงอากาศเข้าประชิดฉู่เชิ่ง ความเร็วของมันก็เริ่มช้าลง

ฟู่! ฟู่! ฟู่!

ปราณวิญญาณขดตัวแล้วทะยานมาที่มือของฉู่เชิ่ง

ปราณวิญญาณถูกบีบอัดอย่างต่อเนื่อง ก่อนพลังอันน่าสะพรึงจะรวมตัวกัน

ผ่านไปหลายอึดใจ ฉู่เชิ่งก็ยกมือขึ้น ดวงตาของเขาปรากฏรอยยิ้ม

สายตาของมู่พ่านซานชำเลืองมองมือซึ่งมีเปลวไฟสั่นไหวไปมาของอีกฝ่าย พร้อมรูปลักษณ์ของบงกชขนาดเล็กที่เริ่มก่อตัวขึ้น

ม่านตาของเขาพลันหดลง สายตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

“บงกชพิโรธเพลิงสวรรค์หรือ?!”

มู่พ่านซานสะบัดมือทันที กระบี่น้ำแข็งครึ่งหนึ่งถูกดึงกลับมา แล้วก่อตัวเป็นโล่น้ำแข็งขนาดใหญ่เพื่อปกป้องตัวเขา

พลังของฉู่เชิ่งยังคงถูกรวบรวมอยู่ในมือที่สั่นไหว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถควบคุมพลังได้

หากสังเกตอย่างละเอียด ก็จะพบว่ามือของเขาถูกเปลวไฟแผดเผาจนเผยให้เห็นเลือดเนื้อ

แต่ฉู่เชิ่งราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวด แววตาของเขาไม่สั่นคลอนและถึงขั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!

“มู่พ่านซาน!”

ฉู่เชิ่งแผดเสียงคำราม “เจ้าน่าจะรู้จักบงกชพิโรธเพลิงสวรรค์! สิ่งนี้ถูกสร้างโดยจักรพรรดิเพลิงผู้เคยปลิดชีพเซียนมาแล้วถึงสามคน จนทะลวงขั้นสู่เทพเซียน!”

“ว่ากันว่าเปลวเพลิงนี้สามารถแผดเผาผู้อยู่ขั้นครึ่งก้าวสู่อมตยุทธ์จนเป็นผุยผงได้!”

“วันนี้ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะป้องกันมันได้หรือไม่!”

อุณหภูมิรอบกายของฉู่เชิ่งยังคงเพิ่มขึ้น กระบี่น้ำแข็งที่หมายจะปลิดชีพเขาถูกหลอมละลายไปมาก

แต่ยังมีกระบี่อีกหลายเล่มรุกคืบเข้ามา แล้วทะลวงเข้าใส่ร่างของเขาอย่างรุนแรง

ร่างที่เดิมเต็มไปด้วยรอยแผลถูกกระบี่สร้างบาดแผลเพิ่มเข้าไป เจตจำนงกระบี่ของมู่พ่านซานจึงระเหยไปพร้อมกับกระบี่น้ำแข็งที่ทะลวงร่างของฉู่เชิ่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแทรกซึมไปตามแขนขาและกระดูก ความเจ็บปวดสุดทานทนแผ่ซ่านไปตามกล้ามเนื้อทุกส่วนของเขา

แต่ความเจ็บปวดดังกล่าวไม่ทำให้ฉู่เชิ่งคิ้วขมวดแม้แต่น้อย มุมปากของเขายังคงยกยิ้ม

วิ้ง!

เสียงท่องคาถาอย่างแผ่วเบาแว่วมาจากสวรรค์ทั้งเก้า บงกชเพลิงซึ่งอยู่ในมือของฉู่เชิ่งพลันหยุดนิ่ง

เปลวเพลิงรวมตัวกันที่ฝ่ามือของเขา จากนั้นกลีบบัวแย้มออกเล็กน้อย ก่อนกลิ่นอายนับไม่ถ้วนจะกระจายไปรอบข้าง

กระบี่น้ำแข็งเหล่านั้นซึ่งยังคงแทงเข้ามาต่างถูกทำลายไป

“บงกชพิโรธ! เพลิงสวรรค์!!!”

ไป!

ฉู่เชิ่งแผดเสียงคำรามต่ำแล้วใช้สองมือดันมันออกไป

บงกชเพลิงเคลื่อนเข้าหามู่พ่านซาน กลีบบัวซึ่งแย้มออกเล็กน้อยเริ่มผลิบาน

ฟู่! ฟู่! ฟู่!

เปลวไฟแผดเผาปราณวิญญาณในอากาศ ก่อนบงกชจะเริ่มผลิบาน

ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชน ฟ้าดินพลันหยุดชะงัก

วิ้ง!

บงกชเพลิงพลันเคลื่อนไหว ตรงเข้าหามู่พ่านซานผู้อยู่กลางอากาศ

เพียงหนึ่งอึดใจ ก็มาถึงตรงหน้าเป้าหมายก่อนจะเข้าปะทะกับโล่น้ำแข็ง

ตูม! ตูม! ตูม!

โล่น้ำแข็งไม่อาจต้านบงกชเพลิงได้ ทำให้ถูกทำลายกลายเป็นไอน้ำท่ามกลางเปลวไฟ

ใบหน้าของมู่พ่านซานเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อยก่อนจะทำการสังเวยกระบี่สามเล่ม

หากบงกชพิโรธเพลิงสวรรค์เกิดจากเปลวเพลิงธรรมดา เขาย่อมไม่หวาดกลัว

แต่บงกชเพลิงตรงหน้าในยามนี้ถือกำเนิดจากเพลิงสวรรค์!

มู่พ่านซานรู้สึกวิตกอยู่ภายใน เพลิงดังกล่าวยังคงรุกคืบเข้ามาราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไป!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด