ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 327 ขอบใจมาก พ่อคนดี

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 327 ขอบใจมาก พ่อคนดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 327 ขอบใจมาก พ่อคนดี

บทที่ 327 ขอบใจมาก พ่อคนดี

พลังมารซึ่งอยู่รอบหอคอยขนาดเล็กดูตื่นเต้นมาก ก่อนจะกลายเป็นปากขนาดเล็ก แล้วกลืนกินเศษเสี้ยวจิตสำนึกของราชันมารเข้าไป

เมื่อชิวเสวียนปรายตามอง การเคี้ยวของหอคอยถึงกับนิ่งไป ก่อนจะหมุนคล้ายกับกำลังหันมามาทางเขา

“เจ้าหอคอยทรุดโทรมกล้าพรากโชคชะตาของข้าได้อย่างไร?!”

โทสะของชิวเสวียนคุกรุ่น เขายกมือขวาแล้วกดลงไปอย่างรวดเร็ว ร่างในอากาศแผดเสียงคำรามในจุดที่ลู่หยวนอยู่ขณะพลังในมือพลุ่งพล่าน มันดึงหอกกลับก่อนแทงออกไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ลู่หยวนต้องตั้งรับ ชิวเสวียนก็ฉวยโอกาสโจมตีเข้าใส่หอคอย

หอคอยพลันตกตะลึงเมื่อเห็นอีกฝ่ายปรี่ตรงเข้ามา พลังมารรอบข้างเริ่มขยายตัวขณะปกคลุมเศษเสี้ยวจิตสำนึกที่เหลืออยู่ของราชันมาร จากนั้นจึงกลืนกินเข้าไป

หอคอยหลายชั้นพลันขยายตัวคล้ายกับจะสำลักออกมา โดยไม่ได้สนใจชิวเสวียนที่ตรงเข้ามาประชิดตัว มันกระโดดขึ้นไปบนกระบี่วิถีโลกา จากนั้นยอดหอคอยก็เอียงเอน กระบี่คล้ายกับได้รับคำสั่งก่อนจะทะยานไปทางที่หอคอยชี้อย่างรวดเร็ว

เมื่อชิวเสวียนรู้ว่าพลาดท่าแล้ว เส้นโลหิตบนหน้าผากก็ปูดโปน

โอกาสดีหลุดมือไปเสียแล้ว!

ชิวเสวียนกำลังจะพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง แต่พลังอันบ้าคลั่งก็ได้กวาดผ่านมาทางเขาแล้ว

อากาศระหว่างทางพลันพังทลาย!

ชิวเสวียนยกหอกขึ้นโดยไม่รู้ตัว ขณะที่พลังแห่งวิถีคุณธรรมทะยานออกจากปลายหอก เพื่อทำลายพลังที่กำลังตรงเข้ามา

หลังจากพลังหายไป อากาศโดยรอบยังไม่สงบลง ภาพติดตาก็ตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ฟ้าว!

เสียงกระบี่คำรามอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมตกลงข้างกายชิวเสวียนในทันที

เขายืนหยัดต่อกรกับจิตสังหารจากกระบี่เล่มนั้นด้วยหอก

ตู้ม!

เสียงคำรามดังขึ้นจากพลังสองชนิดนั้น ทำให้พลังรุนแรงนับไม่ถ้วนสั่นสะเทือนรอบข้าง

พลังนั้นทำให้รอบข้างทลายราบเป็นหน้ากลอง ชิวเสวียนต้องถือหอกด้วยสองมือจึงจะรับการโจมตีได้

ลู่หยวนถือกระบี่ด้วยสองมืออยู่เบื้องหน้า สายตาของเขาคล้ายกับยิ้มก่อนจะฟาดฟันออกไป

ชิวเสวียนขัดขืนอย่างสุดกำลังพลางครุ่นคิดหาทางรับมือ

ทันใดนั้น!

ชิวเสวียนก็เขย่งปลายเท้าแล้วผลักลู่หยวนออกไป พลังแห่งวิถีคุณธรรมและพลังมารนับไม่ถ้วนพลันหลั่งไหลออกมาจากร่างของเขาพร้อมกัน แล้วเข้าพัวพันที่มือของลู่หยวน ส่วนร่างของแม่ทัพเซียนที่สวมชุดเกราะสีม่วงและดำซึ่งอยู่ในอากาศถือหอกด้วยสองมือ ก่อนเคลื่อนลงมาหาอีกฝ่าย

“เหอะ… เจ้าหนีไม่รอดหรอก!”

ชิวเสวียนเผยรอยยิ้มมั่นใจออกมา หอกของแม่ทัพเซียนซึ่งอยู่ด้านหลังกำลังจะเผด็จศึก หากตีสำเร็จ หอกนี้จะทะลวงเข้าใส่ชายตรงหน้า!

ทว่าต้องรีบลงมือ!

หากล่าช้าอาจเกิดการพลิกผัน!

ชิวเสวียนครุ่นคิดอยู่ในใจ ขณะที่พลังรอบข้างยิ่งเพิ่มพูน การเชื่อมโยงของพลังแห่งวิถีคุณธรรมกับพลังมารประหนึ่งโซ่ตรงเข้าพันธนาการลู่หยวนอย่างแน่นหนา ส่วนด้านหลังก็มีหอกเคลื่อนลงมา

กระบี่วิถีโลกาทะยานไปไกลพร้อมกับหอคอย พวกมันไม่มีเวลากลับมาป้องกันการโจมตีนี้ให้ลู่หยวนแน่นอน!

สือจิ่วกับเจิ้งชิงเทียนอยู่ในหอคอยอสูรสวรรค์ พวกนางไม่สามารถออกไปได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากลู่หยวน!

แม้จะอยู่ในสภาพกระอักกระอ่วนเช่นนี้ แต่ลู่หยวนกลับเอ่ยเย้ยหยันว่า “เจ้าผสานพลังมารกับพลังวิถีคุณธรรมได้ดี”

ชิวเสวียนไม่ทราบว่าลู่หยวนพูดเช่นนี้มีความหมายว่าอย่างไร แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปกลับเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายคล้ายกับบุตรแห่งเทพผู้สงบนิ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดันไร้ที่สิ้นสุดราวกับสรรพสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุม!

ตอนชิวเสวียนเริ่มต่อสู้กับคนผู้นี้ เขาทราบว่าคนตรงหน้ามีพลังยิ่งใหญ่ แต่คล้ายกับไม่เต็มใจลงมืออย่างสุดกำลัง

พูดให้ถูกก็คืออีกฝ่ายเหมือนให้ชิวเสวียนทำการสำแดงพละกำลัง จากนั้นค่อยหาช่องทางสวนกลับ!

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาจึงรู้สึกว่าคนตรงหน้าคล้ายกับกำลังสังเกตการณ์อยู่

ชายผู้นี้มองชิวเสวียนด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ราวกับกำลังสืบหาความจริง

ตอนชิวเสวียนกำลังผสานพลังแห่งวิถีคุณธรรมและพลังมาร สายตาของอีกฝ่ายคล้ายกับเผยความตื่นเต้นและความใคร่ครวญบางอย่าง

“ชิ… ขอบใจมาก พ่อคนดี!”

ลู่หยวนพลันโพล่งขึ้น

ชิวเสวียนผู้อยู่ฝั่งตรงข้ามขมวดคิ้วเมื่อได้ยินประโยคนั้น ขณะจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสับสน

ขอบคุณหรือ?!

ขอบคุณอะไร?!

ลู่หยวนยกยิ้ม “พอได้เห็นการสาธิตของเจ้าแล้ว ข้าถึงได้รู้วิธีควบคุมพลังทั้งสองชนิดในร่างกาย”

ชิวเสวียนยิ่งตกตะลึง

รอยยิ้มในดวงตาของลู่หยวนราวกับสวรรค์ได้ปรากฏตรงหน้า!

เดิมเขาคิดว่าจะช่วงชิงพลังแห่งวิถีคุณธรรมหลังจากมาถึงตระกูลชิว

แต่ในร่างของเขามีเมล็ดพันธุ์มาร แม้จะปกปิดพลังมารด้วยการใช้พลังแห่งวิถีคุณธรรมได้ หรือต่อให้ไม่ต้องปกปิดด้วยยันต์ พลังแห่งวิถีคุณธรรมก็จะกำราบพลังมารในร่างเช่นกัน

ด้วยเหตุนั้น จึงไม่มีใครในแผ่นดินหลักตรวจสอบพลังมารในร่างได้

แต่สิ่งที่ตามมาคือปัญหาในการควบคุมพลังทั้งสองชนิดซึ่งแตกต่างกัน

พลังแห่งวิถีคุณธรรมและพลังมารขัดแย้งกัน ตัวตนของพลังสองชนิดนี้เป็นปฏิปักษ์ต่อกันโดยกำเนิด หากพวกมันถูกกำราบเอาไว้ภายในร่างเดียว แม้กระทั่งลู่หยวนก็ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

แม้จะครุ่นคิดมาเนิ่นนานและค้นหาจากตำราโบราณมาหลายเล่ม แต่ลู่หยวนก็ยังหาข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ จึงต้องหยุดการสำรวจไว้ก่อน

เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังมีระบบอยู่ในกำมือ!

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังมีหนทาง!

แต่ดวงตาของลู่หยวนทอประกายเมื่อได้เห็นชิวเสวียน

กลายเป็นว่ามีบุตรแห่งโชคชะตา ซึ่งมีทั้งพลังแห่งวิถีคุณธรรมและพลังมารอยู่บนแผ่นดินแห่งนี้!

ตอนที่ชิวเสวียนกำลังโคจรพลังในร่างกาย ลู่หยวนก็ได้ใช้เนตรเทวะจนมองเห็นการเคลื่อนไหวของพลังทั้งสองซึ่งแตกต่างกันในร่างกายของเขา!

หลังจากเข้าสู่ตระกูลชิวและย้ายพลังแห่งวิถีคุณธรรมเข้าสู่ร่างแล้ว เขาก็จะเลียนแบบวิธีการโคจรพลังสองชนิดของชิวเสวียนเพื่อควบคุมพวกมันได้อย่างอิสระ!

ขณะที่สายตาของลู่หยวนจริงจังขึ้น พลังอันแกร่งกล้าก็เคลื่อนลงมาจากท้องนภา

เขาทราบว่าหอกกำลังตรงเข้ามา!

ลู่หยวนพลันระดมกำลังทั้งหมดในร่างกาย ทำให้พลังอันไร้ที่สิ้นสุดทะยานออกมาจากร่างกาย จนอากาศรอบข้างแตกสลาย

โซ่ที่ชิวเสวียนใช้พันธนาการเริ่มขาดจากกัน ก่อนที่เขาจะทันได้ลงมืออีกรอบ ลู่หยวนก็คว้ากระบี่มหันตภัยไว้ในมือ

เจตจำนงเย็นเยือกแผ่ออกมาจากกระบี่เล่มนั้น ก่อนแช่แข็งมือของอีกฝ่ายไว้

เพียงชั่วพริบตา มือของชิวเสวียนก็กลายเป็นน้ำแข็งภายในหนึ่งอึดใจ

ยังไม่ทันทีจะถอยร่างออกมา เขาพลันรู้สึกโลกกลับตาลปัตร เพียงชั่วพริบตาก็สลับตำแหน่งกับลู่หยวน

หอกยาวซึ่งเคลื่อนลงมาจากท้องนภาและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด กำลังตรงเข้าหาชิวเสวียนเพื่อหมายจะปลิดชีพ

ภายในใจของชิวเสวียนก็รู้สึกเย็นเยือกขณะพลังแห่งความตายแผ่ซ่านไปทั่วแผ่นหลัง เขารีบสั่งให้ร่างแม่ทัพเซียนหยุดเคลื่อนไหว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด