ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 425 อันตรธาน

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 425 อันตรธาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 425 อันตรธาน

บทที่ 425 อันตรธาน

ตู้ม!

หมัดซัดเข้ามาพร้อมกับคลื่นอากาศอันไร้เทียมทาน มุ่งตรงใส่ด้านข้างของสุนัขมารสามหัวในชั่วพริบตา

กร็อบ!

เสียงกระดูกหักลอยเข้าหูเจิ้งชิงเทียน ขณะที่ศีรษะของสุนัขกระเด็นออกไปพร้อมเลือดพุ่งกระจายต่อหน้านาง!

ร่างในชุดคลุมหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าสุนัขมารสามหัวที่ร่นถอยออกไปหลายก้าว

ศีรษะตรงกลางหลุดออกจากบ่า อีกสองหัวยังคงขยับไปมา ส่วนหางยังคงกวัดแกว่ง ขณะที่มันส่งเสียงครวญคราง ซึ่งบ่งบอกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวจากการถูกโจมตีเมื่อครู่

“นายท่าน”

เจิ้งชิงเทียนกลับมามีสติ ก่อนมองไปยังลู่หยวนผู้อยู่เบื้องหน้า พร้อมตะโกนออกมา

ลู่หยวนส่งเสียงอื้มแล้วเอ่ยว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก แค่เตรียมพร้อมสำหรับการสังเวยตระกูลชิวก็พอ”

สิ่งที่เรียกว่าการสังเวยตระกูลชิวคือความปรารถนาของลู่หยวนที่จะได้รับเส้นชีพจรแห่งสวรรค์คุณธรรมมา!

ดังนั้นเจิ้งชิงเทียนจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา!

หญิงสาวพยักหน้า เมื่อครู่นางเห็นพละกำลังของลู่หยวนแล้ว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าต่อให้ไม่มีการช่วยเหลือจากตน เขาก็สามารถเอาชนะอาวุธมารเหล่านั้นทั้งหมดได้!

“หากนายท่านต้องการข้า ท่านสามารถเรียกหาได้ทุกเมื่อ!”

จากนั้นร่างของเจิ้งชิงเทียนก็กลับเข้าสู่หอคอยอสูรสวรรค์!

ลู่หยวนหันกลับมามองสุนัขมารสามหัวอีกครั้ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

เมื่อสุนัขชั่วร้ายที่เหลือเพียงสองหัวสบตากับเขา แข้งขาของมันก็อ่อนแรง พร้อมส่งเสียงครวญครางและไม่กล้าก้าวมาข้างหน้า

“ชิวสิง เจ้าเลี้ยงขยะพรรค์นี้ไว้ด้วยงั้นหรือ?”

ชายหนุ่มเย้ยหยันต่ออีกว่า “ถ้ายังมีอีกก็เอาออกมาให้หมด ข้าบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่หยวนจะได้ฆ่าพวกมันทีเดียว!”

ทันทีที่สิ้นคำ สุนัขมารสามหัวก็หยุดถอยหนี

คู่ดวงตาสีแดงพลันเลือนหาย ผ่านไปหลายอึดใจ พลังมารคล้ายกับได้รับการชี้นำก่อนจะทะลวงเข้าสู่ภายในร่าง

ชั่วพริบตานั้นเอง…

ร่างของสุนัขมารมีขนาดใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกับมัดกล้ามที่ปูดโปน เมื่อพลังอันแก่กล้าก่อขึ้นในร่างกาย!

โฮก!

สุนัขมารแผดเสียงคำราม ศีรษะของมันพลันก้มต่ำ แต่ดวงตาสีดำยังคงจับจ้องไปทางลู่หยวน

ดวงอาทิตย์สีดำปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของมัน ทำให้อากาศแตกสลาย ฟ้าดินพังทลาย แล้วกลิ่นอายเย็นยะเยือกอันไร้ที่สิ้นสุดก็ปะทุออกมา

ร่างของลู่หยวนทรุดลงเล็กน้อยขณะกำมือขวาไว้แน่น ทำให้พลังของเขาพลุ่งพล่านอยู่ชั่วขณะ

ทันใดนั้น ร่างสีทองก็ปรากฏอยู่ด้านหลังของเขาประหนึ่งแม่ทัพเซียน!

ชั่วพริบตานั้น ร่างสุนัขมารกับร่างลู่หยวนพุ่งเข้าปะทะกันราวกับคลื่นอันบ้าคลั่ง!

ตู้ม!

เสียงสะเทือนปฐพีดังขึ้น แล้วคลื่นอากาศสังหารก็ระเบิดกวาดปะทะร่างทั้งสอง!

แสงสีขาววูบไหว พลันกวาดชำระล้างดินแดนลับไปกว่าครึ่ง ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ไอรีนโนเวล ขอบคุนจ้า

พลังอันเจิดจ้าหายไปพร้อมกับคลื่นกระแทกนั้น

ชิวสิงที่กำลังสังเกตการณ์พลันหรี่ตาลง เพราะแม้แต่เขาก็ไม่อาจมองแสงดังกล่าวได้

ผ่านไปหลายอึดใจ ในที่สุดแสงสว่างก็สลายไป พร้อมกับก้อนเนื้อของสุนัขมารที่ตกลงมากระแทกพื้น

ชิวสิงชำเลืองมองอย่างรวดเร็วก่อนจะคิ้วขมวด

ลู่หยวนหายไปแล้ว!

ชิวสิงพลันผุดลุกขึ้น ขณะพลังไร้ที่สิ้นสุดกระจายเข้าสู่ดินแดนลับที่ลู่หยวนอยู่ แต่กลับไม่พบร่างของอีกฝ่าย!

“เป็นไปได้อย่างไร?!”

ดวงตาของชิวสิงเบิกกว้าง เขาไม่อยากเชื่อว่าลู่หยวนจะอันตรธานไปในอากาศเช่นนี้

ส่วนอาวุธมารในดินแดนลับแห่งนี้ก็หายไปเช่นกัน!

ชิวสิงตกตะลึง ก่อนจะเก็บพลังกลับมา จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าสู่ดินแดนลับอื่นแล้วเริ่มค้นหาอีกฝ่าย

ผ่านไปหลายอึดใจ หน้าอกของชิวสิงเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงรุนแรงจนเส้นโลหิตบนหน้าผากปูดชัด

อาวุธมารทั้งหมดในดินแดนลับทั้งแปดแห่งล้วนอันตรธานไปแล้ว!

นอกจากนี้ ชิวเสวียนก็ยังหายตัวไป!

เดิมที ชิวสิงคิดว่าอีกฝ่ายคงกำลังเก็บกู้อาวุธมารอยู่ในดินแดนลับสักแห่งหนึ่ง แต่มาตอนนี้เขาทำได้เพียงสบถหยาบคายสองสามคำ ก่อนจะเลิกสนใจ

ทว่าพอตรวจสอบอีกครั้ง เขากลับพบว่าจุดสีขาวและดำบนแผนที่ยังคงปรากฏเด่นชัด แต่กลับไม่มีคนอยู่ในดินแดนลับทั้งที่ควรจะมี!

“หรือว่าทั้งสองคนนั้นสมคบคิดกันมาตั้งแต่แรกแล้ว?!”

ในใจของชิวสิงเริ่มวิตกเป็นครั้งแรกในรอบสามแสนปี

ลู่หยวนกับชิวเสวียนคือขั้นบันไดสุดท้ายที่จะนำพาไปสู่ก้าวสำคัญในแผนการนี้!

บัดนี้ทั้งสองคนหายไปแล้ว อีกทั้งพวกเขายังขโมยอาวุธมารที่ถูกสะกดไว้ในดินแดนลับทั้งแปดชิ้นไปด้วย!

ทันทีที่อาวุธมารออกจากตระกูลชิว ปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดทั้งหลายก็จะหายไป!

พลังมารก็จะอันตรธานไปเช่นกัน!

ค่ายกลที่ชิวสิงติดตั้งเอาไว้จะพังทลาย!

สิ่งที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่า ก็คือธาตุแท้ของตระกูลชิวจะถูกแพร่งพรายอย่างรวดเร็ว หากมีใครสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ย่อมทราบว่าอาวุธมารซึ่งถูกตระกูลชิวสะกดไว้หายไป ทำให้ตระกูลอื่นเข้ามาหาคำตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้!

ชิวสิงไม่อยากถูกเรื่องเหล่านี้มารบกวนในช่วงเวลาสำคัญ!

“ผนึกตระกูลชิวทั้งหมดแล้วตามหาลู่หยวนกับชิวเสวียนซะ!”

ชิวสิงพลันถ่ายทอดคำสั่งออกไป แล้วเหล่าทาสอารักขาก็แยกย้ายกันไปแจ้งให้ผู้อื่นทราบ

เพียงหนึ่งถ้วยชา ทั่วทั้งจวนตระกูลชิวก็ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์

ทาสอารักขาทั้งหลายต่างถูกส่งตัวออกไปตามสถานที่ต่าง ๆ และกระจายจิตสัมผัสออกไปค้นหาอย่างต่อเนื่อง

ผู้อาวุโสพิทักษ์ที่มีการบ่มเพาะสูงต่างจับคู่กันไปตรวจสอบสถานที่ทั้งหลายเช่นกัน

แต่แม้จะพลิกจวนตระกูลชิวเพื่อออกตามหาก็ยังไม่พบร่องรอยของทั้งสอง!

ชิวสิงยังคงมองแผนที่ตรงหน้าขณะคาดเดาว่าสองคนนี้จะมุ่งหน้าไปที่ไหน

ทันใดนั้น ดวงตาของชิวสิงเบิกกว้างขึ้น จากนั้นอารมณ์วิตกก็เบาบางลง

เหอะ!

สถานที่ซึ่งอันตรายที่สุดก็คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด!

ทั้งที่ส่งคนออกไปตามหาตั้งมากมาย แต่กลับไม่เจอตัว แสดงว่าอีกฝ่ายจะต้องอยู่ในตระกูลชิวไม่ผิดแน่!

เช่นนั้นก็ต้องเป็นดินแดนต้องห้ามของตระกูล!

ชิวสิงยืดตัวตรงพร้อมคลี่ยิ้มออกมา “ออกมา เลิกซ่อนตัวได้แล้ว ต่อให้ข้าไม่รู้ว่าเจ้าใช้วิธีอะไรถึงป้องกันการตรวจจับกลิ่นอายได้ แต่ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่!”

เมื่อสิ้นเสียงของชิวสิง ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นทางด้านหลัง

อีกฝ่ายคือผู้ชายสวมชุดคลุมสีดำที่มีสีหน้ามุ่งมั่น เพียงแต่ใบหน้าทั้งซ้ายขวาแตกต่างกันมาก ด้านหนึ่งสงบนิ่ง ส่วนอีกด้านดุร้ายเกรี้ยวกราด

“ไง เจ้าเฒ่าบัดซบ เจ้าเองก็คงแก่แล้วถึงเดาได้ช้าขนาดนี้”

เสียงทุ้มต่ำลุ่มลึกมาจากลำคอของชายสวมชุดคลุมสีดำ

ชิวสิงหันมามอง จึงพบว่าเป็นชิวเสวียนที่อยู่ด้านหลัง!

“เหอะ… มารในใจ เจ้ามีความสามารถไม่เบา!”

ชิวสิงกล่าวประชด

เขาคิดว่ามารในใจตนนี้จะเหมือนกับผู้อื่น แต่นึกไม่ถึงว่าไอ้ชั่วนี่ที่อยู่กับชิวเสวียนจะมีสติปัญญาขนาดนี้!

มันรู้กระทั่งวิธีแว้งกัด!

“คิก ๆ ตาเฒ่าเอ๋ย เจ้าเอาแต่ตรวจสอบข้าอยู่ในสถานที่นรกพวกนี้ คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเป็นคนที่พรากพลังดั้งเดิมของข้าไปจนไม่สามารถไปอยู่กับผู้อื่นได้!”

ชิวเสวียนมีสีหน้าดุร้าย “ตาเฒ่าเอ๋ย เจ้าคงไม่คิดว่าทุกสิ่งจะเป็นไปตามที่หวังใช่หรือไม่? แล้ววันนี้เป็นอย่างไรเล่า?!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด