ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 444 โชคชะตา

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 444 โชคชะตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 444 โชคชะตา

บทที่ 444 โชคชะตา

สายตาของลู่หยวนและซ่งชิงสบกันชั่วขณะ พวกเขามองหน้ากันอย่างมีนัยบางอย่าง

ไม่ทราบหรือ?!

ลู่หยวนสังหารบุตรแห่งโชคชะตามามากมาย แต่กลับไม่เคยเห็นผู้ที่มีค่าชะตาไม่ทราบค่ามาก่อน!

น่าสนใจ…

ยิ่งกว่านั้น แม้เป็นครั้งแรกที่ลู่หยวนพบซ่งชิง แต่เขาบอกได้ว่าคนผู้นี้ไม่ใช่แค่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว!

ถึงแม้การบ่มเพาะที่สำแดงออกมาจะอยู่ในขั้นครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์ แต่เขาก็มีเนตรเทวะ ดังนั้นจึงมองเห็นความผันผวนที่แตกต่างกันของปราณวิญญาณอีกฝ่ายได้!

ลู่หยวนหรี่ตา พละกำลังของเจ้าหนูคนนี้ถึงขั้นสูงกว่าขั้นครึ่งก้าวปรมาจารย์ยุทธ์! เขาเพียงไม่แสดงออกเท่านั้น!

ส่วนคนรอบข้างซ่งชิง ลู่หยวนตรวจสอบพอประมาณก่อนจะพบว่าเป็นพวกหน่วยก้านดีอยู่หลายคน

ยกตัวอย่างเช่นชายร่างกำยำคนนั้นคือกลุ่มวิญญาณดาบที่มีรูปทรงเป็นร่างกายมนุษย์!

บุตรแห่งโชคชะตาคนนี้ไม่ธรรมดา!

ลู่หยวนพลันยกยิ้มขึ้น บุตรแห่งโชคชะตาเช่นนี้จะต้องมีค่าชะตามหาศาล!

อีกฝ่ายจะต้องมีของดีอยู่กับตัวมากมายเป็นแน่!

สิ่งนี้คู่ควรแก่การเก็บเกี่ยวไม่ใช่หรือ?!

เมื่อลู่หยวนมองซ่งชิง อีกฝ่ายก็มองกลับมาเช่นกัน

เมื่อซ่งชิงได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ เขากลับไม่รู้สึกประหลาดใจ

เพราะเคยได้ยินเกี่ยวกับวีรกรรมของลู่หยวน เขาจึงอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้น!

วิญญาณของซ่งชิงไม่ได้มาจากโลกนี้!

พอมาอยู่ที่นี่ เขาก็ถูกผูกมัดไว้กับระบบที่มีชื่อว่า ‘บุตรแห่งโชคชะตา’

ระบบนี้มีไว้เพื่อสังหารวายร้ายตัวฉกาจบนแผ่นดิน โดยสามารถสั่งสมค่าชะตาเพื่อนำไปแลกเปลี่ยนสิ่งของได้

สิ่งเหล่านี้คล้ายกับสิ่งที่ซ่งชิงเคยอ่านในนวนิยาย ดังนั้นเขาจึงสวมบทบาทได้ค่อนข้างราบรื่น

หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซ่งชิงได้สังหารวายร้ายบนแผ่นดินเป็นจำนวนมาก ตอนนี้เขาสั่งสมค่าชะตาไว้เป็นจำนวนมาก!

ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใด วายร้ายทั้งหมดต่างก็ถูกสังหาร

ซ่งชิงตัดสินใจรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายสถานที่

เขาถึงขั้นแบ่งคนบางส่วนจากตระกูลแต่ละสาขาเพื่อไปประจำการพื้นที่แต่ละแห่ง

เพราะสิ่งนี้อำนวยความสะดวกในการพัฒนา และแน่นอนว่าก็เพื่อสืบหาข่าวคราวเกี่ยวกับวายร้ายเช่นกัน!

ทว่าเส้นสายดังกล่าวยังไม่มากพอ ก่อนซ่งชิงจะสืบพบสิ่งใด เขาก็ทราบเกี่ยวกับเส้นชีพจรจักรพรรดิแดนมัชฌิมที่กระจายไปทั่วแผ่นดินแล้ว!

ลู่หยวนเป็นคนโด่งดังที่สุดบนแผ่นดินก็เพราะเรื่องนี้ แม้กระทั่งสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ก็ยังได้รับการสรรเสริญ

ว่ากันว่ามีผู้ชายชื่อลู่เฉิน เขานับเป็นบุคคลไม่โดดเด่นในสาขารองของตระกูลลู่ แต่ด้วยเส้นสายนี้ ทำให้เจ้าตัวสามารถรวบรวมการกระทำของลู่หยวนลงในหนังสือแล้วทำการแจกจ่าย ทำให้ได้หินวิญญาณเป็นกอบเป็นกำ!

ถึงอย่างไรคำพูดของเขาก็เกินจริงไปหน่อย โดยบรรยายลู่หยวนไว้ว่าอีกฝ่ายราวกับเป็นทวยเทพ และเป็นผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้า ทำให้โดนผู้คนมากมายในแผ่นดินใหญ่ต่อว่าอยู่ทุกวัน

คำพูดเหล่านี้ได้เรียกความสนใจของซ่งชิง ก่อนที่เขาจะส่งคนไปตรวจสอบเรื่องราว ทำให้เรื่องราวในอดีตของลู่หยวนถูกขุดค้นขึ้นมา

ตระกูลมั่งคั่ง สถานะสูงส่ง ส่วนอีกฝ่ายก็มีชื่อเสียง มีนิสัยเกเร ชอบสร้างปัญหา อวดดีป่าเถื่อน หล่อเหลาและทรงพลัง!

นี่มันไม่ใช่รูปแบบวายร้ายสุดโด่งดังหรอกหรือ?!

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตระกูลทั้งหลายมาขอร้องจ้าวศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักประตูสวรรค์เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้

เดิมทีจ้าวศักดิ์สิทธิ์จะส่งเครื่องบรรณาการบางส่วนไปพร้อมกับศิษย์หนุ่มสาวผู้มีพละกำลังเก่งกาจ นอกจากเป็นการเดินทางไปสำรวจและทำความเข้าใจแล้ว ก็ยังนับว่าเป็นการสั่งสมประสบการณ์ระยะยาวให้แก่ลูกหลานด้วย

ทว่าซ่งชิงกลับห้ามเอาไว้ก่อนจะเสนอตัวที่จะนำคนไปด้วยตัวเอง

จ้าวศักดิ์สิทธิ์ย่อมตอบตกลง หลังซ่งชิงออกจากการเก็บตัวแล้ว เขาก็นำคนออกไป

ก่อนจะทันได้พบลู่หยวน ซ่งชิงก็ได้ข้อสรุปบางอย่างอยู่ในใจ

เมื่อเขตอาคมหายไป เนตรขาวไร้นัยน์ตาของซ่งชิงก็ตรวจพบพลังมารที่ลู่หยวนเพิ่งสะกดมันไว้!

เมล็ดพันธุ์มาร!

ซ่งชิงยืนยันไพ่ตายลับที่ซ่อนอยู่ของลู่หยวนได้ทันที!

ในระหว่างการต่อสู้เมื่อครู่ เขาได้เห็นไพ่ตายของอีกฝ่ายเป็นจำนวนมาก!

ซ่งชิงถามกับตัวเองว่าหากต้องต่อสู้เพียงลำพังโดยไม่มีระบบ เขาอาจจะไม่สามารถเอาชนะลู่หยวนได้!

เพราะเป็นครั้งแรกที่ซ่งชิงได้พบวายร้ายที่ไม่ทราบค่าชะตา ทำให้ยิ่งเกิดความสงสัย

เขาไม่ได้รีบสังหารลู่หยวน ถึงอย่างไร เด็กคนนี้ก็มากด้วยอุบาย ดังนั้นจึงต้องจับตาดูก่อน

อีกอย่าง ซ่งชิงยังมีข้อมูลวงใน ไม่ว่าอีกฝ่ายไปที่ใด เขาจะตามติดไปด้วย!

อาจจะมีการต่อสู้ดุเดือดระหว่างเขากับลู่หยวนก็เป็นได้!

เหอะ…

บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่หรือ?

ก็แค่ขนแกะอีกก้อนเท่านั้น!

ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่พักใหญ่ แม้แต่คนตาบอดก็สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นในแววตาของพวกเขา!

ซ่งชิงเป็นคนแรกที่ยิ้มก่อนจะเอ่ย “ตำหนักประตูสวรรค์ ซ่งชิง”

นี่คือการรายงานตัวเอง

ลู่หยวนเองยังคงเอ่ยอย่างสงบ “เวิ้งทะเลแดนเหนือ ตระกูลลู่ ลู่หยวน!”

ซ่งชิงคร้านเกินกว่าจะสนทนากับอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงเอ่ยตามตรงว่า “ข้ามาในครั้งนี้ก็เพราะได้รับคำขอจากตระกูลมากมาย ว่าตระกูลชิวได้ลักพาตัวผู้หญิงเหล่านั้นไป หาได้ข้องเกี่ยวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ไม่”

“แต่ดินแดนของตระกูลชิวถูกทำลายจนเกือบสิ้นซากแล้ว คนของตระกูลชิวคง…”

ซ่งชิงจงใจทิ้งช่วงขณะมองลู่หยวนด้วยสายตามีนัยยะ

“ข้าเชื่อว่าอีกไม่ช้า ตระกูลชิวแห่งวิถีคุณธรรมจะถูกทอดทิ้งเพียงลำพัง ดังนั้นตำหนักประตูสวรรค์ไม่ต้องเข้ามาก้าวก่ายเรื่องนี้หรอก”

“อย่างนั้นหรือ?”

ลู่หยวนคิ้วขมวด “ข้าคิดว่าเจ้าจะมาลงโทษข้าเสียอีก”

ซ่งชิงส่ายหน้า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ ข้าต้องขอตัวกลับก่อน อีกไม่ช้าพวกเราจะต้องได้พบกันอีกแน่นอน”

หลังจากนั้น เขาก็นำกลุ่มคนจากไป

เป้าหมายของซ่งชิงในครั้งนี้ลุล่วงแล้ว

ลู่หยวนอยู่ในรายชื่อที่เขาต้องสังหารแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง

วันที่พวกเขาได้พบกันอีกครั้งจะเป็นวันที่ลู่หยวนถึงฆาต!

ระหว่างทาง ซ่งชิงกลับรู้สึกว่าทันทีที่พบอีกฝ่าย ความรู้สึกต้องชะตาก็ก่อตัวขึ้นในใจ!

พวกแดนมัชฌิมไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

ทั้งที่เพิ่งมาถึง แต่เขากลับรีบร้อนจากไปหลังได้สนทนากับลู่หยวนและกู่จินเจาอย่างนั้นหรือ?!

ลู่หยวนมองร่างของซ่งชิงหายไปก่อนจะถอนสายตากลับมา

ถึงแม้ทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่บางเรื่องก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย!

ลู่หยวนขอให้กู่จินเจานำกลุ่มคนไปลานบ้านที่ตระกูลชิวตระเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้

กู่อี้เจี้ยนกำลังคุ้มกันที่นี่ ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีการต่อสู้อย่างหนัก แตสิ่งนั้นกลับไม่ส่งผลกระทบมาถึงบริเวณนี้

หลังจากทุกคนไปแล้ว ลู่หยวนจึงแหงนมองท้องนภา

ตอนนี้ชิวสิงกับชิวเสวียนแห่งตระกูลชิวตายแล้ว แต่พลังซึ่งเป็นของชิวสิงยังคงถูกเขาสยบไว้

ดังนั้น พลังมารที่ถูกผนึกอยู่ใต้ปฐพีจึงยังไม่สลายไปสิ้น!

ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา ลู่หยวนเงยหน้ามองก่อนจะพบค่ายกลอันเรียบง่ายกำลังขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องอยู่ท่ามกลางชั้นเมฆหมอก

ค่ายกลนี้ถูกประทับโดยลู่หยวนตอนเข้าตระกูลชิว มันคือหลักประกันที่เขาทิ้งเอาไว้ล่วงหน้า!

ทว่ามันยังไม่ถูกใช้งาน

นอกจากความสามารถในการจู่โจมแล้ว ค่ายกลนี้ยังสามารถรวบรวมพลังแห่งวิถีคุณธรรมได้อีกด้วย!

ลู่หยวนถามเจิ้งชิงเทียน “ค่ายกลพร้อมแล้วหรือยัง?”

เจิ้งชิงเทียนตอบทันที “นายท่าน พวกข้าเตรียมพร้อมแล้ว! สามารถลงมือได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ!”

ลู่หยวนนั่งขัดสมาธิอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆขณะหันหน้าไปทางค่ายกลบริเวณทางเข้าตระกูลชิว!

“เริ่มได้เลย!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด