ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 619 จัดการ ‘ลู่เทียนเฟิ่ง’

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 619 จัดการ ‘ลู่เทียนเฟิ่ง’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 619 จัดการ ‘ลู่เทียนเฟิ่ง’

บทที่ 619 จัดการ ‘ลู่เทียนเฟิ่ง’

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านโปรดหยุดให้พวกข้ากินอาหารหมาเสียที!”

เสียงของฮ่วนซิงไป๋ดังขึ้นจากด้านหลัง ลู่หยวน และกู้ชิงหรันจึงหันหลังกลับไป เห็นสายตาของผู้ติดตามจดจ้องอยู่ที่มือของพวกเขาทั้งสองที่กำลังจับกันแน่นรวมถึงมือที่ลู่หยวนกำลังโอบเอวกู้ชิงหรันอยู่ด้วย

กู้ชิงหรันยังมีความอายอยู่บ้างจึงดิ้นออกจากอ้อมกอดลู่หยวนโดยไม่รู้ตัว ถอยออกไปสองสามก้าว ใบหูของนางแดงระเรื่อ ส่วนลู่หยวนหัวเราะเบา ๆ “ได้แล้ว เดินต่อกันเถอะ”

เมื่อลู่หยวนออกคำสั่ง ทุกคนก็เริ่มเดินต่อไปยังด้านในของเกาะสังหารเซียนพร้อมกัน

ตลอดทาง ยังคงเป็นเหมือนตอนที่เพิ่งเข้ามา ทุกอย่างไร้ชีวิตชีวาราวกับกำลังเดินอยู่บนเส้นทางสู่นรก

ลู่เทียนเฟิ่งเดินตามอยู่ด้านหลังของทุกคนอย่างเงียบ ๆ ยันต์ในแขนเสื้อของเขาถูกบีบจนเหงื่อออก แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงส่งออกไปไม่ได้เลย

ลู่เทียนเฟิ่งเกิดความสงสัยในใจ ยันต์ที่เขาใช้นั้นได้รับพรจากท่านปรมาจารย์เอง แม้แต่หลังจากเข้ามาในเกาะสังหารเซียนแล้วก็ยังไม่มีความผิดปกติใด ๆ ยังคงใช้ติดต่อได้อยู่

ตอนที่เพิ่งเข้ามายังส่วนลึกของเกาะสังหารเซียน นี่ก็ยังใช้ได้อยู่ และส่งออกไปได้อีกสองสามฉบับ ทว่าตั้งแต่ลู่หยวนหายไปนั้น สิ่งนี้ก็ใช้ไม่ได้แล้ว!

ขณะที่ลู่เทียนเฟิ่งกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจไม่หยุด ทั้งขบวนก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ความคิดของลู่เทียนเฟิ่งถูกดึงกลับมา มองไปข้างหน้าด้วยความสงสัย

เห็นทุกคนหันหลังกลับมามองเขา สีหน้าและดวงตาดูน่ากลัวยิ่งนัก

ลู่เทียนเฟิ่งตกใจ สายตาของเขาจ้องมองลู่หยวน ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน พยายามข่มความคิดทั้งหมดในใจ เปิดปากถามว่า “มองข้าเพราะเหตุใดกัน ไม่เดินแล้วหรือ?”

ลู่หยวนหัวเราะเยาะ “อาเทียน ตอนนี้เข้ามาในส่วนลึกของเกาะสังหารเซียนแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องจัดการเรื่องระหว่างแล้ว”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

ลู่เทียนเฟิ่งขมวดคิ้ว ซ่อนมือไว้ใต้แขนเสื้อกว้างกำยันต์ที่ยังไม่ได้ส่งออกไปแน่นโดยไม่รู้ตัว

และในตอนนี้ สายตาของลู่หยวนก็ค่อย ๆ เลื่อนลงมามองไปที่แขนเสื้อของลู่เทียนเฟิ่ง “ยันต์ที่ส่งให้ลู่ปู้ฝาน อาเทียนไม่คิดจะหยิบออกมาให้ข้าดูหน่อยหรือ?”

ลู่เทียนเฟิ่งตกใจจึงตัดสินใจขยี้ยันต์ให้แตก!

แต่ร่างหนึ่งมาได้เร็วกว่า ในชั่วพริบตาก่อนที่ลู่เทียนเฟิ่งจะออกแรงก็มาถึงข้างกายเขาแล้ว การสั่นสะเทือนในอากาศยังไม่ทันสงบลงก็รู้สึกถึงมือเล็กนุ่มนิ่มเย็นยะเยือกจับอยู่ที่ข้อมือ

หลังจากนั้นก็เห็นมือเล็กนั้นหมุนเบา ๆ

แกร๊ก!

ข้อมือของลู่เทียนเฟิ่งที่กำยันต์อยู่ถูกบิดหักทันที!

กู้ชิงหรันมีใบหน้าเย็นชา ออกแรงดึงเล็กน้อย แขนของลู่เทียนเฟิ่งก็ถูกหลุดออกมาทั้งท่อน

มือของลู่เทียนเฟิ่งถูกดึงออกมาจากแขนเสื้อ ข้อมือที่หลุดออกจากร่างกายแล้วนั้น มียันต์สื่อสารอยู่ในกำมือจริง ๆ

กู้ชิงหรันดึงยันต์ออกมาจากฝ่ามือแล้วส่งให้ลู่หยวน

ลู่หยวนรับมาไว้ในมือ ก้มหน้ามองผ่าน ๆ ก็เข้าใจคร่าว ๆ แล้วว่าเขียนอะไรไว้

“เฮอะ”

ลู่หยวนหัวเราะเบา ๆ เดินไปข้างหน้าลู่เทียนเฟิ่ง “อาเทียน ท่านรู้มากนักนะ ดูเหมือนจะไม่ใช่สารที่คนในแผ่นดินหยวนหงรู้ได้”

“ไม่ใช่ ถ้าเป็นคนแก่ที่ไม่ยอมตายเหมือนลู่ปู้ฝาน ก็อาจจะรู้ทุกอย่างนี้ได้”

ลู่หยวนยกยันต์ขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าของลู่เทียนเฟิ่ง

ในขณะนี้รัศมีแสงสว่างกระจายออกมาจากตัวของ ลู่หยวนทันที ห่อหุ้มเอาลู่หยวน กู้ชิงหรัน และลู่เทียนเฟิ่งเข้าไว้ด้วยกัน

ภายนอก ฮ่วนซิงไป๋เห็นดังนั้นก็รู้ว่าลู่หยวนมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการ

ฮ่วนซิงไป๋มีสีหน้าเรียบเฉย พูดกับเซียวเทียนข้าง ๆ ว่า “ไปกันเถอะ บุตรศักดิ์สิทธิ์กำลังจะจัดการเรื่องของตัวเอง ไม่แน่ว่าต่อไปนี้อาจจะมีฉากรุนแรงเกิดขึ้น พวกเราไปดูสถานการณ์รอบ ๆ ดีกว่าหรือไม่?”

เซียวเทียนพยักหน้า “ได้”

ความสัมพันธ์ของเซียวเทียน ฮ่วนซิงไป๋ และลู่หยวนถือว่าดีมากทีเดียว พวกเขารู้ว่าในฐานะคนที่อยู่ข้างกายลู่หยวน ควรมองอะไร ไม่ควรมองอะไร

ทั้งสองคนจับคู่กัน เลือกทิศทางแบบสุ่ม ๆ บินโฉบออกไป

ทิ้งให้เฟยซิงยืนอึ้งอยู่ที่เดิมคนเดียว ตั้งแต่ตอนที่ ลู่หยวนเปิดกำแพงกั้น เขาก็รู้ว่าตอนนี้ตนเองไม่ควรอยู่ที่นี่

แต่ตอนนี้จะตามทั้งสองคนนั้นไปก็ไม่ทันแล้ว อีกทั้งสองคนก็พุ่งออกไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้ไปทางใด

ตอนนี้อยู่ภายในเกาะสังหารเซียน เฟยซิงไม่กล้าบินไปมาสุ่มสี่สุ่มห้า ตอนนี้เขาแทบจะไม่มีคุณค่าใด ๆ ให้ใช้ประโยชน์แล้ว

หากไปยั่วอะไรที่ตนเองสู้ไม่ได้ขึ้นมา เขาคิดว่าลู่หยวนและพรรคพวกคงจะไม่ช่วยเขาแน่นอน!

เฟยซิงมองซ้ายมองขวา สุดท้ายก็ถอยห่างออกไปสักระยะหนึ่ง จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิหันหลังให้ลู่หยวนและคนอื่น ๆ หลับตาพักผ่อน

ภายในกำแพงกั้น

ลู่หยวนชี้ไปที่ตัวอักษร ‘วิถีโบราณ’ บนยันต์นั้นแล้วกล่าวว่า “อาเทียนเฟิ่ง พูดมาเถิด เจ้ากับพวกคนแก่ที่ไม่ยอมตายพวกนี้รู้เรื่องได้อย่างไร?”

บนยันต์ที่ไม่เคยถูกเผยแพร่ออกไปนั้น อธิบายไว้ว่า ลู่หยวนได้พบกับวิถีโบราณแล้ว คาดว่าคงได้รับประโยชน์จากวิถีโบราณ

ยังบอกอีกว่า อีกไม่นานลู่หยวนคงจะต้องต่อสู้กับ ซ่งชิงแล้ว!

ตอนนี้ลู่เทียนเฟิ่งทำเป็นโง่ต่อไปไม่ได้แล้ว เพียงแต่หุบปากแน่น ไม่พูดสักคำ

“ไม่พูดงั้นหรือ?”

ลู่หยวนวางมือลงบนไหล่ของลู่เทียนเฟิ่ง คลื่นพลังแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของลู่เทียนเฟิ่ง

คนหลังเห็นลู่หยวนทำเพียงเท่านี้ ในใจก็หัวเราะเยาะไม่หยุด

เฮอะ! พลังเท่านี้จะทำอะไรได้

ตอนนี้เขาเป็นเพียงวิญญาณที่อาศัยอยู่ในร่างนี้เท่านั้น ต่อให้ร่างนี้ถูกพลังปราณกัดกร่อนจนหมดสิ้น ก็ไม่อาจทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อย!

แต่อีกไม่นาน เสียงหัวเราะเยาะในใจของเขาก็หยุดลงทันที

ดวงตาก็ค่อย ๆ ปรากฏความหวาดกลัว เขามองไปที่ลู่หยวนอย่างเหลือเชื่อ “นี่มัน…เป็นไปไม่ได้!”

ลู่เทียนเฟิ่งจำได้แม่นว่าลู่ปู้ฝานเคยพูดไว้ว่า ถึงแม้ลู่หยวนจะมีพลังมาร แต่ก็เป็นเพียงขั้นสูงสุดที่มนุษย์จะมีได้เท่านั้น

สำหรับพวกมนุษย์แล้ว มันสามารถกัดกร่อนได้ทุกอย่างจริง ๆ ทั้งร่างกายรวมถึงวิญญาณด้วย

แต่สำหรับสถานการณ์ของลู่เทียนเฟิ่ง พลังมารของลู่หยวนไม่มีทางทำอะไรได้เลย

แต่ตอนนี้ลู่เทียนเฟิ่งรู้ดีว่าพลังมารของลู่หยวน กำลังแทรกซึมเข้าไปในจิตเทวะของเขาอย่างต่อเนื่อง ในจิตเทวะแผ่ขยายขึ้นไปราวกับมือนับพันนับหมื่นที่ยื่นออกมาจากนรกกำขาของเขาไว้แน่น พลังมารพุ่งทะยานขึ้นไปพร้อมกับมือเหล่านั้น และกำลังควบคุมวิญญาณของเขาไว้!

“ไม่นะ!”

ลู่เทียนเฟิ่งรีบร้องตะโกนออกมา ต้องการให้ลู่หยวนหยุด “เจ้าต้องการรู้อะไร ข้าจะบอกทั้งหมด ข้าจะบอกให้หมด!”

ร่างกายของเขาสลายไปนานแล้ว เหลือเพียงดวงวิญญาณนี้ ก่อนจะตกลงมาในโลกนี้ รอคอยมานานมาก หากดวงวิญญาณสลายไปในตอนนี้ เช่นนั้นการซ่อนเร้นและอดทนมาหลายปีของเขาก็จะสูญเปล่า!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด