ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น)

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น)

บทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น)

“นาง… แค่หนึ่งกระบี่ แค่หนึ่งกระบี่เท่านั้นก็ฆ่าล้างคนของข้าทั้งหมดได้!”

โทสะพลันถาโถมลงมา เกล็ดมังกรที่เพิ่งหายไปบนแขนของเซียวเทียนปรากฏขึ้นอีกครั้ง

เสิ่นซูเหยียนคือลูกสาวของตระกูลเสิ่น เป็นคนที่ไปหาเซียวเทียนเพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย

ลู่หยวนส่งเสียงอืม กล่าวอย่างราบเรียบว่า “ค่ายกลมายาก็ไม่เท่าไหร่ แต่เจ้ากลับเสียสติ ดูเหมือนเรื่องของเสิ่นซูเหยียนจะส่งผลกับเจ้ามาก ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเจ้าได้เข้าสู่วิถีมารเป็นแน่”

หลังจากกล่าวจบ ลู่หยวนยกยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจ หากบุตรแห่งโชคชะตาถูกมารยึดร่างจริง ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ถึงตอนนั้นอีกฝ่ายก็จะถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นหุ่นเชิดมาร

หุ่นเชิดมารที่มีเกล็ดมังกร มีค่าต่อการบ่มเพาะยิ่งนัก!

แถมเขายังสามารถหาผลประโยชน์จากอีกฝ่ายเพิ่มได้อีกด้วย

เซียวเทียนไม่รู้ว่าลู่หยวนกำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากสงบสติได้แล้ว เขาก็ประสานมือให้กับเพื่อนร่วมทางแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณพี่ลู่ที่ช่วยข้า หากไม่ใช่เพราะพี่ลู่ ข้าอาจจะตายในวันนี้ก็ได้!”

เมื่อลู่หยวนกำลังจะพูด ทว่าในใจของเขา เสียงระบบกลับดังขึ้น

[ระบบแจ้งเตือน บุตรแห่งโชคชะตาชื่นชอบในตัวท่าน ค่าชะตาวายร้ายในตอนนี้เพิ่มขึ้น 6,000 แต้ม!]

[ค่าชะตาวายร้ายในปัจจุบันคือ 30,000 แต้ม!]

ลู่หยวนขมวดคิ้ว เขามองเซียวเทียนด้วยสายตาทอประกาย

“ระบบ การที่บุตรแห่งโชคชะตามีความชื่นชอบต่อข้าเพิ่มขึ้นส่งผลต่อค่าชะตาวายร้ายเช่นกันหรือ?”

[ถูกต้อง เมื่อบุตรแห่งโชคชะตามีความสนิทสนมกับท่านเพิ่มขึ้น ท่านจะแย่งชิงค่าชะตาทั้งหมดจากเขามาได้ง่ายขึ้น!]

วายร้ายยกมุมปาก กลืนคำพูดเมื่อครู่ลงไป จากนั้นกล่าวกับเซียวเทียนว่า “ด้วยความยินดี เจ้าเป็นพี่น้องของข้า ทำไมต้องสุภาพด้วย จากนี้ไป เรื่องของเจ้า ก็คือเรื่องของข้าเช่นกัน!”

เดิมลู่หยวนวางแผนจะแย่งชิงค่าชะตาของเซียวเทียนเหมือนกับก่อนหน้า แต่ตอนนี้เขาได้ใจของอีกฝ่ายแล้ว เช่นนั้นทำไมไม่ลองดูกันสักตั้ง

ยิ่งกว่านั้น เซียวเทียนผู้นี้ดูหลอกง่ายไม่เบา!

บุตรแห่งโชคชะตาได้ฟังคำพูดของชายหนุ่ม จึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ขอบคุณพี่ลู่!”

หลังจากนั้น เซียวเทียนกล่าวว่า “พี่ลู่ ในเมื่อมีค่ายกลอยู่ในห้องโถงใหญ่นี้ แสดงว่าต้องมีของดี ทำไมพวกเราไม่ไปดูด้วยกันล่ะ?”

“ได้!”

ถึงแม้ลู่หยวนจะสำรวจมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขายังคงไปค้นหาพร้อมกับอีกฝ่าย

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป เซียวเทียนเก็บอาวุธระดับฟ้าทั้งหมดไว้ด้านข้าง ก่อนแบ่งบางส่วนให้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์

คุณชายลู่แห่งตำหนักธารสุญญะไม่ต้องการแม้แต่ชิ้นเดียว

สำหรับลู่หยวนนั้นอาวุธระดับฟ้านี้ไม่ต่างจากเศษเหล็ก เอาไปหั่นผักยังเสียดายผักด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่ต้องการ เซียวเทียนจึงหน้าระรื่นยินดี ในสายตาของเขา อาวุธเหล่านี้ล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น!

บุตรแห่งโชคชะตาเผยแววตาเป็นประกาย หากพี่ลู่ไม่ช่วยชีวิตเขาไว้ อาจไม่ได้พบขุมสมบัติเช่นนี้

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสำรวจพื้นที่โดยรอบด้วยกัน สายตาของเซียวเทียนลอบมองลู่หยวนอยู่ไม่ห่าง พลางระบายยิ้มอบอุ่น

หลังจากที่เจอเรื่องเลวร้ายมามากมาย เขาไม่ได้สัมผัสความเอื้อเฟื้อจากใครสักคนมานาน

ตั้งแต่ที่ได้พบกับลู่หยวนก็มีแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น อีกฝ่ายทั้งใจดี และพึ่งพาได้

เป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้!

หลังจากนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์จับจ้องไปยังรูปปั้นหิน ก้าวไปข้างหน้าสองสามขั้น เดินตรงมาอยู่ข้างรูปปั้นหินทันที

ย่างก้าวของเซียวเทียนราบรื่นยิ่ง ไม่มีการต่อต้านใด ๆ ดูท่าแรงกดดันที่ปกคลุมท้องนภาเมื่อครู่จะไม่อยู่แล้ว

เซียวเทียนค้นหาสักพัก ทันใดนั้นก็กล่าวว่า “พี่ลู่ มีค่ายกลอยู่ที่นี่!”

“ค่ายกลหรือ?”

เมื่อครู่ลู่หยวนไม่ได้สำรวจค่ายกลแต่อย่างใด!

ลู่หยวนก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว มาหยุดยืนอยู่ด้านข้างรูปปั้นหิน …พบว่าสิ่งที่เซียวเทียนกำลังชี้คือด้านหลังของรูปปั้น

ตอนนี้ด้านหลังไม่ราบเรียบอย่างที่ชายหนุ่มเห็นก่อนหน้า มันมีค่ายกลเลือนรางปรากฏขึ้นมา

ชายหนุ่มเพียงชำเลืองมองคร่าว ๆ ก็รู้ว่าค่ายกลดังกล่าวคือค่ายกลเคลื่อนย้าย

ดูท่าว่าแก่นโลหิตมังกรเมื่อครู่จะไม่ใช่สมบัติลับที่ดีที่สุดของที่นี่ สิ่งที่อยู่หลังค่ายกลเคลื่อนย้าย ไม่อาจรู้ได้ว่ามีของดีอะไรรออยู่

ค่ายกลตรงหน้าพวกเขาผันผวน ถึงแม้เซียวเทียนผู้อยู่ด้านข้างจะพินิจค่ายกลอยู่เนิ่นนาน และพยายามใช้ทุกวิถีทาง แต่เขาก็ไม่เห็นการเคลื่อนไหวของค่ายกลแต่อย่างใด

ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ไม่เหมือนกับค่ายกลอื่น มันต้องการของพิเศษบางอย่างเพื่อเปิดใช้งาน

ลู่หยวนมองเซียวเทียน รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปาก

พอถูกชายหนุ่มจ้องก็ทำให้เพื่อนร่วมทางรู้สึกลนลานอย่างอธิบายไม่ถูก “พี่ลู่ ทำไมเจ้ามองข้าแบบนี้ล่ะ?”

“พี่เทียน ข้าจะให้เจ้ายืมบางอย่างเพื่อเปิดค่ายกลนี้”

เอ่ยจบบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็จับมือของเซียวเทียนทันที ก่อนใช้ปลายนิ้วกรีดอีกฝ่ายจนมีโลหิตหลั่งรินออกมา! และกดมือเปื้อนโลหิตลงบนค่ายกลทันที

วิ้ง!

ค่ายกลพลันส่องแสง จากนั้นทั่วรูปปั้นหินก็สั่นสะเทือน อักขระมารวมตัวกัน ก่อนจะสลายไปจนสิ้น

ตอนนี้รูหนอนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ณ ใจกลางห้องโถงใหญ่ คลื่นพลังสีแดงลอยขึ้นรอบรูหนอน พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากมันคล้ายกับของเซียวเทียนนัก

ลู่หยวนหรี่ตา แต่ไม่บุ่มบ่ามลงมือต่อ เพียงกล่าวกับบุตรแห่งโชคชะตาที่อยู่ด้านข้างว่า “พี่เทียน ไปกันเถอะ”

เพราะยังไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน ให้เจ้าพระเอกเข้าไปสำรวจทางก่อนย่อมดีกว่า

เซียวเทียนพยักหน้าหนักแน่น ก่อนเดินออกไปพร้อมกับคุณชายลู่ เมื่อกำลังจะไปถึงรูหนอน เขาพลันหันศีรษะมาถามด้วยความสงสัยว่า “พี่ลู่ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเลือดของข้าสามารถเปิดค่ายกลนี้ได้?”

ชายหนุ่มก้าวถอยหลังครึ่งก้าว ยิ้มออกมาแล้วตอบว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะ…”

เขาพลันยกเท้าขึ้น เตะก้นของคนถามอย่างแรงจนกระเด็นเข้าไปข้างใน!

“นิยายมันกำหนดเอาไว้ยังไงล่ะ!”

ลู่หยวนรออยู่หลายลมหายใจ เมื่อสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของบุตรแห่งโชคชะตาที่อยู่ข้างในผันผวนไม่มากนัก เขาจึงก้าวเข้ารูหนอนไป

แต่เมื่อย่างเท้าเข้าไปข้างใน สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือที่ราบกว้างใหญ่ที่มืดสลัว

อีกด้าน เซียวเทียนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือสองข้างจับกระบี่ยักษ์ สายตาเคร่งขรึมระแวดระวัง เพราะมีสัตว์ประหลาดเจ็ดถึงแปดตัวรายล้อมเข้ามา

สัตว์ประหลาดเหล่านี้ล้วนมีรากฐานการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับกลางของขั้นจักรพรรดิยุทธ์ พวกมันแต่ละตัวแยกเขี้ยวยิงฟัน ย่อตัวลงมา ราวกับจะโจมตีเซียวเทียนทุกเมื่อ!

เซียวเทียนมีการบ่มเพาะอยู่ที่ครึ่งก้าวสู่จักรพรรดิยุทธ์ ดังนั้นเมื่อสัตว์ประหลาดจำนวนมากมาล้อมเอาไว้ เขาจึงไม่กล้าลงมือบุ่มบ่าม

เมื่อพวกมันเห็นว่ามีใครบางคนเข้ามาอีก ครึ่งหนึ่งในนั้นจึงหันหลังแล้วกระโจนเข้าใส่!

พวกมันเร็วมาก เพียงพริบตาก็มาถึงร่างของลู่หยวน พร้อมปากอ้ากว้างเตรียมเขมือบ

“พี่ลู่ระวัง!”

เซียวเทียนเตือนทันที ก่อนยกกระบี่ยักษ์ในมือขึ้น

ชายหนุ่มมองดูสัตว์ประหลาดที่รายล้อมเข้ามาอย่างดูแคลน กล่าวออกมาว่า “รนหาที่ตายนัก!”

หลังจากสิ้นเสียง กลิ่นอายแก่กล้าก็ปรากฏขึ้นจากร่างของคุณชายจากตำหนักธารสุญญะ กลิ่นอายอันน่าสะพรึงบดขยี้สัตว์ประหลาดจำนวนมากในทันที!

เซียวเทียนผู้ยังคงกังวลพลันตกตะลึงขึ้นมา

เขารู้ว่าลู่หยวนมีรากฐานการบ่มเพาะอยู่ที่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ระดับสูง แต่พลังที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ไม่ใช่สิ่งที่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ระดับสูงจะสามารถทำได้!

ดูเหมือนพี่ลู่จะเป็นพวกน้ำนิ่งไหลลึกสินะ!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ชำเลืองมองสัตว์ประหลาดตัวอื่น และรู้ประเภทของพวกมันทันที

เขาทำท่าปาดคอข่มขู่ ทำให้พวกมันถอยออกมาด้วยความหวาดกลัว ก่อนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตาบทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น)

Now you are reading ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา Chapter บทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น)

บทที่ 90 เมล็ดพันธุ์มังกร (ต้น)

“นาง… แค่หนึ่งกระบี่ แค่หนึ่งกระบี่เท่านั้นก็ฆ่าล้างคนของข้าทั้งหมดได้!”

โทสะพลันถาโถมลงมา เกล็ดมังกรที่เพิ่งหายไปบนแขนของเซียวเทียนปรากฏขึ้นอีกครั้ง

เสิ่นซูเหยียนคือลูกสาวของตระกูลเสิ่น เป็นคนที่ไปหาเซียวเทียนเพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย

ลู่หยวนส่งเสียงอืม กล่าวอย่างราบเรียบว่า “ค่ายกลมายาก็ไม่เท่าไหร่ แต่เจ้ากลับเสียสติ ดูเหมือนเรื่องของเสิ่นซูเหยียนจะส่งผลกับเจ้ามาก ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเจ้าได้เข้าสู่วิถีมารเป็นแน่”

หลังจากกล่าวจบ ลู่หยวนยกยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจ หากบุตรแห่งโชคชะตาถูกมารยึดร่างจริง ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ถึงตอนนั้นอีกฝ่ายก็จะถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นหุ่นเชิดมาร

หุ่นเชิดมารที่มีเกล็ดมังกร มีค่าต่อการบ่มเพาะยิ่งนัก!

แถมเขายังสามารถหาผลประโยชน์จากอีกฝ่ายเพิ่มได้อีกด้วย

เซียวเทียนไม่รู้ว่าลู่หยวนกำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากสงบสติได้แล้ว เขาก็ประสานมือให้กับเพื่อนร่วมทางแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณพี่ลู่ที่ช่วยข้า หากไม่ใช่เพราะพี่ลู่ ข้าอาจจะตายในวันนี้ก็ได้!”

เมื่อลู่หยวนกำลังจะพูด ทว่าในใจของเขา เสียงระบบกลับดังขึ้น

[ระบบแจ้งเตือน บุตรแห่งโชคชะตาชื่นชอบในตัวท่าน ค่าชะตาวายร้ายในตอนนี้เพิ่มขึ้น 6,000 แต้ม!]

[ค่าชะตาวายร้ายในปัจจุบันคือ 30,000 แต้ม!]

ลู่หยวนขมวดคิ้ว เขามองเซียวเทียนด้วยสายตาทอประกาย

“ระบบ การที่บุตรแห่งโชคชะตามีความชื่นชอบต่อข้าเพิ่มขึ้นส่งผลต่อค่าชะตาวายร้ายเช่นกันหรือ?”

[ถูกต้อง เมื่อบุตรแห่งโชคชะตามีความสนิทสนมกับท่านเพิ่มขึ้น ท่านจะแย่งชิงค่าชะตาทั้งหมดจากเขามาได้ง่ายขึ้น!]

วายร้ายยกมุมปาก กลืนคำพูดเมื่อครู่ลงไป จากนั้นกล่าวกับเซียวเทียนว่า “ด้วยความยินดี เจ้าเป็นพี่น้องของข้า ทำไมต้องสุภาพด้วย จากนี้ไป เรื่องของเจ้า ก็คือเรื่องของข้าเช่นกัน!”

เดิมลู่หยวนวางแผนจะแย่งชิงค่าชะตาของเซียวเทียนเหมือนกับก่อนหน้า แต่ตอนนี้เขาได้ใจของอีกฝ่ายแล้ว เช่นนั้นทำไมไม่ลองดูกันสักตั้ง

ยิ่งกว่านั้น เซียวเทียนผู้นี้ดูหลอกง่ายไม่เบา!

บุตรแห่งโชคชะตาได้ฟังคำพูดของชายหนุ่ม จึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ขอบคุณพี่ลู่!”

หลังจากนั้น เซียวเทียนกล่าวว่า “พี่ลู่ ในเมื่อมีค่ายกลอยู่ในห้องโถงใหญ่นี้ แสดงว่าต้องมีของดี ทำไมพวกเราไม่ไปดูด้วยกันล่ะ?”

“ได้!”

ถึงแม้ลู่หยวนจะสำรวจมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขายังคงไปค้นหาพร้อมกับอีกฝ่าย

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป เซียวเทียนเก็บอาวุธระดับฟ้าทั้งหมดไว้ด้านข้าง ก่อนแบ่งบางส่วนให้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์

คุณชายลู่แห่งตำหนักธารสุญญะไม่ต้องการแม้แต่ชิ้นเดียว

สำหรับลู่หยวนนั้นอาวุธระดับฟ้านี้ไม่ต่างจากเศษเหล็ก เอาไปหั่นผักยังเสียดายผักด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่ต้องการ เซียวเทียนจึงหน้าระรื่นยินดี ในสายตาของเขา อาวุธเหล่านี้ล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น!

บุตรแห่งโชคชะตาเผยแววตาเป็นประกาย หากพี่ลู่ไม่ช่วยชีวิตเขาไว้ อาจไม่ได้พบขุมสมบัติเช่นนี้

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสำรวจพื้นที่โดยรอบด้วยกัน สายตาของเซียวเทียนลอบมองลู่หยวนอยู่ไม่ห่าง พลางระบายยิ้มอบอุ่น

หลังจากที่เจอเรื่องเลวร้ายมามากมาย เขาไม่ได้สัมผัสความเอื้อเฟื้อจากใครสักคนมานาน

ตั้งแต่ที่ได้พบกับลู่หยวนก็มีแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น อีกฝ่ายทั้งใจดี และพึ่งพาได้

เป็นบุรุษที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้!

หลังจากนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์จับจ้องไปยังรูปปั้นหิน ก้าวไปข้างหน้าสองสามขั้น เดินตรงมาอยู่ข้างรูปปั้นหินทันที

ย่างก้าวของเซียวเทียนราบรื่นยิ่ง ไม่มีการต่อต้านใด ๆ ดูท่าแรงกดดันที่ปกคลุมท้องนภาเมื่อครู่จะไม่อยู่แล้ว

เซียวเทียนค้นหาสักพัก ทันใดนั้นก็กล่าวว่า “พี่ลู่ มีค่ายกลอยู่ที่นี่!”

“ค่ายกลหรือ?”

เมื่อครู่ลู่หยวนไม่ได้สำรวจค่ายกลแต่อย่างใด!

ลู่หยวนก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว มาหยุดยืนอยู่ด้านข้างรูปปั้นหิน …พบว่าสิ่งที่เซียวเทียนกำลังชี้คือด้านหลังของรูปปั้น

ตอนนี้ด้านหลังไม่ราบเรียบอย่างที่ชายหนุ่มเห็นก่อนหน้า มันมีค่ายกลเลือนรางปรากฏขึ้นมา

ชายหนุ่มเพียงชำเลืองมองคร่าว ๆ ก็รู้ว่าค่ายกลดังกล่าวคือค่ายกลเคลื่อนย้าย

ดูท่าว่าแก่นโลหิตมังกรเมื่อครู่จะไม่ใช่สมบัติลับที่ดีที่สุดของที่นี่ สิ่งที่อยู่หลังค่ายกลเคลื่อนย้าย ไม่อาจรู้ได้ว่ามีของดีอะไรรออยู่

ค่ายกลตรงหน้าพวกเขาผันผวน ถึงแม้เซียวเทียนผู้อยู่ด้านข้างจะพินิจค่ายกลอยู่เนิ่นนาน และพยายามใช้ทุกวิถีทาง แต่เขาก็ไม่เห็นการเคลื่อนไหวของค่ายกลแต่อย่างใด

ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ไม่เหมือนกับค่ายกลอื่น มันต้องการของพิเศษบางอย่างเพื่อเปิดใช้งาน

ลู่หยวนมองเซียวเทียน รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปาก

พอถูกชายหนุ่มจ้องก็ทำให้เพื่อนร่วมทางรู้สึกลนลานอย่างอธิบายไม่ถูก “พี่ลู่ ทำไมเจ้ามองข้าแบบนี้ล่ะ?”

“พี่เทียน ข้าจะให้เจ้ายืมบางอย่างเพื่อเปิดค่ายกลนี้”

เอ่ยจบบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็จับมือของเซียวเทียนทันที ก่อนใช้ปลายนิ้วกรีดอีกฝ่ายจนมีโลหิตหลั่งรินออกมา! และกดมือเปื้อนโลหิตลงบนค่ายกลทันที

วิ้ง!

ค่ายกลพลันส่องแสง จากนั้นทั่วรูปปั้นหินก็สั่นสะเทือน อักขระมารวมตัวกัน ก่อนจะสลายไปจนสิ้น

ตอนนี้รูหนอนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ณ ใจกลางห้องโถงใหญ่ คลื่นพลังสีแดงลอยขึ้นรอบรูหนอน พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากมันคล้ายกับของเซียวเทียนนัก

ลู่หยวนหรี่ตา แต่ไม่บุ่มบ่ามลงมือต่อ เพียงกล่าวกับบุตรแห่งโชคชะตาที่อยู่ด้านข้างว่า “พี่เทียน ไปกันเถอะ”

เพราะยังไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน ให้เจ้าพระเอกเข้าไปสำรวจทางก่อนย่อมดีกว่า

เซียวเทียนพยักหน้าหนักแน่น ก่อนเดินออกไปพร้อมกับคุณชายลู่ เมื่อกำลังจะไปถึงรูหนอน เขาพลันหันศีรษะมาถามด้วยความสงสัยว่า “พี่ลู่ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเลือดของข้าสามารถเปิดค่ายกลนี้ได้?”

ชายหนุ่มก้าวถอยหลังครึ่งก้าว ยิ้มออกมาแล้วตอบว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะ…”

เขาพลันยกเท้าขึ้น เตะก้นของคนถามอย่างแรงจนกระเด็นเข้าไปข้างใน!

“นิยายมันกำหนดเอาไว้ยังไงล่ะ!”

ลู่หยวนรออยู่หลายลมหายใจ เมื่อสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของบุตรแห่งโชคชะตาที่อยู่ข้างในผันผวนไม่มากนัก เขาจึงก้าวเข้ารูหนอนไป

แต่เมื่อย่างเท้าเข้าไปข้างใน สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือที่ราบกว้างใหญ่ที่มืดสลัว

อีกด้าน เซียวเทียนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือสองข้างจับกระบี่ยักษ์ สายตาเคร่งขรึมระแวดระวัง เพราะมีสัตว์ประหลาดเจ็ดถึงแปดตัวรายล้อมเข้ามา

สัตว์ประหลาดเหล่านี้ล้วนมีรากฐานการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับกลางของขั้นจักรพรรดิยุทธ์ พวกมันแต่ละตัวแยกเขี้ยวยิงฟัน ย่อตัวลงมา ราวกับจะโจมตีเซียวเทียนทุกเมื่อ!

เซียวเทียนมีการบ่มเพาะอยู่ที่ครึ่งก้าวสู่จักรพรรดิยุทธ์ ดังนั้นเมื่อสัตว์ประหลาดจำนวนมากมาล้อมเอาไว้ เขาจึงไม่กล้าลงมือบุ่มบ่าม

เมื่อพวกมันเห็นว่ามีใครบางคนเข้ามาอีก ครึ่งหนึ่งในนั้นจึงหันหลังแล้วกระโจนเข้าใส่!

พวกมันเร็วมาก เพียงพริบตาก็มาถึงร่างของลู่หยวน พร้อมปากอ้ากว้างเตรียมเขมือบ

“พี่ลู่ระวัง!”

เซียวเทียนเตือนทันที ก่อนยกกระบี่ยักษ์ในมือขึ้น

ชายหนุ่มมองดูสัตว์ประหลาดที่รายล้อมเข้ามาอย่างดูแคลน กล่าวออกมาว่า “รนหาที่ตายนัก!”

หลังจากสิ้นเสียง กลิ่นอายแก่กล้าก็ปรากฏขึ้นจากร่างของคุณชายจากตำหนักธารสุญญะ กลิ่นอายอันน่าสะพรึงบดขยี้สัตว์ประหลาดจำนวนมากในทันที!

เซียวเทียนผู้ยังคงกังวลพลันตกตะลึงขึ้นมา

เขารู้ว่าลู่หยวนมีรากฐานการบ่มเพาะอยู่ที่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ระดับสูง แต่พลังที่ปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ไม่ใช่สิ่งที่ขั้นจักรพรรดิยุทธ์ระดับสูงจะสามารถทำได้!

ดูเหมือนพี่ลู่จะเป็นพวกน้ำนิ่งไหลลึกสินะ!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ชำเลืองมองสัตว์ประหลาดตัวอื่น และรู้ประเภทของพวกมันทันที

เขาทำท่าปาดคอข่มขู่ ทำให้พวกมันถอยออกมาด้วยความหวาดกลัว ก่อนวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+