ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 361 แผนลับของวังหนี่ว์วา ความฮึกเหิมของลัทธิอันธการ

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 361 แผนลับของวังหนี่ว์วา ความฮึกเหิมของลัทธิอันธการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 361 แผนลับของวังหนี่ว์วา ความฮึกเหิมของลัทธิอันธการ

หลังจากหานเจวี๋ยเลือกดำเนินการต่อ เงาร่างสองสายพลันปรากฏขึ้นในหัวเขา พร้อมมีอักษรสองแถวปรากฏขึ้นตรงหน้า

[ไท่ซู่เทียน ระดับบำเพ็ญไม่ทราบ ตัวตนลึกลับที่ถือกำเนิดจากชั้นดาวดึงส์ พำนักอยู่ในวังหนี่ว์วามาโดยตลอด สดับฟังการเทศนาจากอริยะ ได้รับการชี้แนะจากอริยะ ลงสู่แดนมนุษย์เผชิญด่านเคราะห์ อู้เต้าเจี้ยนรู้แจ้งเปิดปัญญาได้เพราะร่างแยกภาคหนึ่งของนาง]

[ราชันโลภะ ระดับปฐมเทพขั้นหก ข้ารับใช้คนแรกของจักรพรรดิเซียนวัฏจักร เคารพเชื่อฟังจักรพรรดิเซียนวัฏจักร แต่เมื่อระดับบำเพ็ญก้าวหน้า ความทะเยอทะยานของตัวเขาเองก็ค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นมา]

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

ที่แท้เป็นไท่ซู่เทียน!

ภาพประจำตัวของไท่ซู่เทียนแตกต่างกับอู้เต้าเจี้ยน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเชื่อมโยงพวกนางเข้าด้วยกันเลย

ไม่คิดเลยว่าไท่ซู่เทียนจะมีร่างแยกด้วย

ช้าก่อน!

เมื่อนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องที่ไท่ซู่เทียนโยนหินซ่อมฟ้าให้ฟางเหลียงแล้ว แสดงว่าวังหนี่ว์วาจับตามองเขาอยู่แน่นอน

หานเจวี๋ยขนลุกซู่แล้ว

ถ้าหากเขาไม่มีระบบอยู่ คงไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของวังหนี่ว์วา เขานึกว่าหินซ่อมฟ้าเป็นชะตาลิขิตของฟางเหลียง และยิ่งไม่เคยระแคะระคายถึงเจ้านายเก่าของอู้เต้าเจี้ยนเลยสักนิด

อริยะผู้วางตัวสูงส่ง ปากบอกไม่เข้าร่วมเคราะห์ ทว่าความจริงวางแผนชักใยอยู่ลับๆ

เห็นทีว่าปรมาจารย์ถูก็เป็นตัวหมากของวังหนี่ว์วาเช่นกัน

ยังมีราชันโลภะคนนี้ด้วย ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มองจากรูปลักษณ์แล้ว หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อย่างยิ่ง เหตุใดจึงมาสวมรอยเป็นหานเจวี๋ยเล่า

หรือว่าเบื้องหลังเรื่องนี้จะมีคำสั่งมาจากจักรพรรดิเซียนวัฏจักร

ไม่ถูกสิ!

คนที่มีชัยที่สุดในอนาคตคือราชันโลภะ ไม่ใช่จักรพรรดิเซียนวัฏจักร

อีกอย่างในข้อมูลยังบ่งชี้ให้เห็นด้วยว่าราชันโลภะมีความทะเยอทะยานส่วนตัว พูดให้ชัดคือไอ้หมอนี่มีใจคิดทรยศแล้ว วันหน้าอาจวางแผนเล่นงานจักรพรรดิเซียนวัฏจักรก็เป็นไปได้

น่าสนใจจริงๆ!

หานเจวี๋ยยิ้มออกมาด้วยความโมโห

สายน้ำของแดนเซียนแห่งนี้ลึกล้ำจริงๆ นอกจากบรรดาขาใหญ่ในที่แจ้งแล้ว ยังมีเหล่าผู้คนที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดรอฉวยโอกาสอยู่อีกไม่น้อยเลย

หานเจวี๋ยกำลังคิดอยู่ว่าจะสาปแช่งไท่ซู่เทียนและราชันโลภะไปตรงๆ เลยดีหรือไม่

ไม่ได้!

ถ้าทำให้ตายไปตรงๆ เช่นนี้ อาจจะเกิดตัวแปรใหม่ขึ้นมาอีกก็เป็นได้

รอดูไปสักระยะก่อนแล้วกัน รอให้สองคนนี้โผล่หัวออกมาแล้วค่อยจัดการพวกเขา

พวกเขาย่อมนึกไม่ถึงแน่นอนว่าหานเจวี๋ยรู้ถึงแผนร้ายของพวกเขาแล้ว

ด้วยความสามารถของพวกเขาไม่สามารถโค่นล้มวังสวรรค์ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ยิ่งไม่อาจมาคุกคามสำนักซ่อนเร้นได้

หานเจวี๋ยเรียกอู้เต้าเจี้ยนเข้ามา

เรียกให้สวยหรูคือเรียกมาถ่ายทอดมรรคา แต่ความจริงคือถือโอกาสประทับตราประทับหกวิถีให้ลึกล้ำขึ้น เลี่ยงไม่ให้ไท่ซู่เทียนเล่นลูกไม้ได้

โดยทั่วไปแล้วแล้วตราประทับหกวิถีไม่ส่งผลกระทบต่ออู้เต้าเจี้ยน หานเจวี๋ยแค่กันไว้ก่อนเท่านั้น

ความเสี่ยงที่จะเพลี่ยงพล้ำมีมากเกินไป หานเจวี๋ยจำต้องระวังทุกฝีก้าวเสมือนเหยียบย่างอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ไม่อาจประมาทได้

แม้แต่ต้าหลัวยังพลาดท่ากันหมด แล้วนับประสาอะไรกับเขาเล่า

….

ภายในถ้ำใต้ดินอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง เงาร่างมากมายรวมตัวกันอยู่ที่นี่ มนุษย์เอย ปีศาจเอย ภูตผีเอย

เซวียนฉิงจวินสวมเสื้อคลุมสีดำ ปะปนอยู่ในหมู่มนุษย์

สายตานางทอดมองไปด้านหน้า ห่างออกไปหลายลี้มีเวทียกสูงเวทีหนึ่งตั้งอยู่ บนเวทีมีตัวตนที่แผ่รัศมีกล้าแกร่งยืนอยู่หลายสิบคน พวกเขากำลังหารืออะไรบางอย่าง

‘ไม่คิดเลยว่าลัทธิอันธการจะซ่องสุมรวบรวมกองกำลังได้มากขนาดนี้ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการมีที่มาอย่างไรกันแน่’

เซวียนฉิงจวินลอบตระหนกอยู่ในใจ

นางเข้าสู่ลัทธิอันธการด้วยความบังเอิญ นางรู้สึกว่าอยู่นิกายเจี๋ยไปก็ไม่มีอนาคต เจ้านิกายเจี๋ยไม่สนใจจะดูแลนิกายแล้ว ผู้อาวุโสและเจ้าเกาะก็ต่อสู้ขัดแย้งกันเอง นั่นไม่ใช่นิกายแห่งโชคชะตาอันรุ่งเรืองที่ตำนานเล่าขานอีกต่อไปแล้ว เหมือนพวกหัวมังกุท้ายมังกรมากกว่า

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

เสียงหนึ่งแว่วขึ้นมา “เงียบ!”

สาวกลัทธิอันธการทั้งหมดที่รออยู่พากันเงียบเสียงลง พร้อมหันไปมองกันอย่างพร้อมเพรียง

ถ้าหากหานเจวี๋ยอยู่ที่นี่ด้วย จะพบว่าผู้ที่กำลังกล่าวคือเซวี่ยหมิงเหอที่หลบหนีออกมาจากแดนชำระบาปเก้าขุม

เซวี่ยหมิงเหอที่มีไอโลหิตลุกไหม้อยู่บนร่างยืนชิดขอบกั้นบนเวที ก้มมองฝูงชน เปิดปากเอ่ย “ตอนนี้ในแดนเซียนมีไอ้พวกน่ารังเกียจที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอยู่มากมายเหลือเกิน ในบรรดานั้นรวมถึงปรมาจารย์ถูแห่งวังเทพด้วย พวกเราในฐานะสาวกของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ จะทนได้อย่างไร พวกเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เขาต้องจับตามองพวกเราอยู่ในความมืดมิดพร้อมทั้งคาดหวังต่อท่าทีของพวกเราอยู่เป็นแน่”

“พวกเจ้าอยากอยู่ในสายตาของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการกันหรือไม่”

พอสิ้นเสียงเขา ทุกคนล้วนตื่นเต้นคึกคักขึ้นมา

“อยาก!”

เสียงตะโกนดังขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้ทั่วทั้งถ้ำใต้ดินสั่นสะเทือนไปหมด

เซวียนฉิงจวินก็ตะโกนด้วยเช่นกัน รู้สึกตกตะลึงอยู่ในใจ

เมื่อมาถึงแดนเซียน นางถึงได้พบเห็นภาพเช่นนี้เป็นครั้งแรก เมื่อก่อนตอนอยู่ที่นิกายเจี๋ยนางไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

นางไม่เข้าใจเลยว่า เพราะเหตุใดเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถึงมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนได้มากมายขนาดนี้

ถึงแม้เขาจะแข็งแกร่งมากจริงๆ ถึงกับบีบให้บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์และจักรพรรดิปีศาจให้พลาดท่าได้ แต่เขากลับไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย

เซวี่ยหมิงเหอยิ้มพลางกล่าวต่อ “ไม่รู้ว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อใด ที่ปวงสวรรค์หมื่นโลกาถูกแบ่งแยกโดยวังเทพ วังสวรรค์ สำนักพุทธและวังปีศาจ พวกเขาวางตัวสูงส่ง กำหนดกฎเกณฑ์ให้หมื่นโลกา แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวของพวกเรากลับเป็นเหตุให้สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนต้องล้มหายตายจากไปทีละราย ต้องมุ่งสู่ยมโลก ถึงขั้นที่ร่างสลายจิตมลาย แต่ไม่ว่าจะเกิดสงครามขึ้นสักกี่ครั้ง ผู้ที่สิ้นชีพล้วนเป็นคนตัวเล็กไร้กำลังอย่างพวกเราเสมอ สี่กลุ่มอำนาจจักรวรรดิก็ยังคงเป็นจักรวรรดิอยู่ดี สรรพชีวิตล้วนเป็นตัวหมากในมือของพวกเขา ในระหว่างที่พวกเขาพูดคุยยิ้มแย้ม สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนต่างตัวตายมรรคผลสลาย แต่สถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังนี้ในที่สุดก็ถูกทำลายลง!

เป็นเขา! เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ! เขาปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน สาปแช่งทำลายความเป็นอมตะของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ สำนักพุทธอันสูงส่งไม่น่าเชื่อว่าแท้จริงจะเป็นบรรพชนมารในคราบบรรพชนพุทธ ช่างน่าขันเสียจริง อีกทั้งเรื่องของจักรพรรดิปีศาจที่เข้าถล่มแดนเซียนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งจักรพรรดิสวรรค์ ประมุขแห่งวังเทพและบรรพชนพุทธต่างก็ไม่กล้าลงมือ แต่เป็นเพราะเจ้าแดนต้องห้ามอันธการลงมือด้วยตัวเองถึงสามารถกำจัดหายนะครั้งนี้ได้!

ยามนี้ ทุกแห่งในใต้หล้าล้วนเป็นของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการดูหมิ่นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ พวกเราจะต้องเป็นตัวแทนของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการตัวจริง กำจัดตัวปลอมพวกนี้ทิ้ง เพราะมีแค่พวกเราเท่านั้นที่เคารพเทิดทูนเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอย่างแท้จริง นับถือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นนายเหนือหัวที่แท้จริง!”

ข้าเซวี่ยหมิงเหอ ตัวแทนของเผ่าอสูรขอเข้าร่วมลัทธิอันธการ เมื่อมหาเคราะห์เริ่มขึ้น เผ่าอสูรจะเป็นทัพหน้าแน่นอน!

“พวกเจ้ายินดีจะอุทิศทุกอย่างเพื่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เพื่อสรวงสวรรค์แห่งนี้หรือไม่”

เมื่อเซวี่ยหมิงเหอกล่าวจบ ทุกชีวิตต่างร้องตะโกนว่ายินดี เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

แม้แต่เซวียนฉิงจวินที่ไม่เข้าใจเรื่องราวก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นฮึกเหิมไปด้วย

ระดับความศรัทธาเช่นนี้แรงกล้าเกินไปแล้ว!

ทำให้ลัทธิอันธการก่อตัวเป็นปึกแผ่นได้!

ขอเพียงเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่พ่ายแพ้ปราชัย ลัทธิอันธการก็จะกลายเป็นกองทัพยืนยงไร้พ่าย!

เซวียนฉิงจวินก็บังเกิดความรู้สึกคาดหวังขึ้นมาแล้วเช่นกัน

บางทีการเข้าร่วมลัทธิอันธการ อาจทำให้นางได้รับโอกาสใหญ่ในศึกมหาเคราะห์

นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหานเจวี๋ยขึ้นมา

ความสามารถของหานเจวี๋ยล้ำหน้านางไปแล้ว แต่เขากลับมีนิสัยขี้ขลาด กลัวการเผชิญเคราะห์

‘รอจนมหาเคราะห์ครั้งนี้จบลง หากว่าลัทธิอันธการได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย พอถึงเวลานั้นข้าค่อยชักจูงเขามาเข้าร่วม’

รอยยิ้มเผยออกมาบนใบหน้าของเซวียนฉิงจวิน

ในอดีตเพื่อให้ตระหนักถึงมรรคา จึงบังเอิญจับคู่บำเพ็ญกับหานเจวี๋ย ผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้ คนที่ทำให้นางคะนึงหาได้เหลือเพียงหานเจวี๋ยคนเดียวเท่านั้น

คนรู้จักมักคุ้นที่เหลือ ต่างก็กลายเป็นธุลีเหลืองไปนานแล้ว

….

เวลาผ่านไปสิบปี

หานเจวี๋ยหยุดบำเพ็ญเพียร เริ่มทำการสาปแช่งศัตรู

ตอนนี้อู้เต้าเจี้ยนอยู่นอกถ้ำ ไปเกาะแกะลี่เหยาเพื่อบำเพ็ญเพียรด้วยกัน หากหานเจวี๋ยไม่เรียกหา นางก็จะไม่เป็นฝ่ายกลับมาหาเขาก่อน

หานเจวี๋ยทอดถอนใจ สตรีเติบใหญ่แล้วมักไม่อยู่ติดเรือน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจไม่น้อย เพราะเวลามีอู้เต้าเจี้ยนอยู่ด้านข้าง เขามักจะระแวงอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยทำการสาปแช่งพลางตรวจสอบจดหมายไปด้วย

ในช่วงนี้กลับไม่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเลย จดหมายจึงดูน่าเบื่ออยู่บ้าง

หนึ่งเดือนผ่านไป หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง

ทันใดนั้นเขาบังเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้น

‘ข้าอยากเห็นว่าราชันโลภะทำอะไรอยู่’ หานเจวี๋ยนึกเงียบๆ

[จำเป็นต้องหักอายุขัยสิบล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ถึงอย่างไรก็เป็นระดับปฐมเทพขั้นหก เข้าใกล้ต้าหลัวมากแล้ว

สำหรับหานเจวี๋ยในตอนนี้ อายุขัยแค่สิบล้านปีถือว่าน้อยนิดยิ่ง

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 361 แผนลับของวังหนี่ว์วา ความฮึกเหิมของลัทธิอันธการ

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 361 แผนลับของวังหนี่ว์วา ความฮึกเหิมของลัทธิอันธการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 361 แผนลับของวังหนี่ว์วา ความฮึกเหิมของลัทธิอันธการ

หลังจากหานเจวี๋ยเลือกดำเนินการต่อ เงาร่างสองสายพลันปรากฏขึ้นในหัวเขา พร้อมมีอักษรสองแถวปรากฏขึ้นตรงหน้า

[ไท่ซู่เทียน ระดับบำเพ็ญไม่ทราบ ตัวตนลึกลับที่ถือกำเนิดจากชั้นดาวดึงส์ พำนักอยู่ในวังหนี่ว์วามาโดยตลอด สดับฟังการเทศนาจากอริยะ ได้รับการชี้แนะจากอริยะ ลงสู่แดนมนุษย์เผชิญด่านเคราะห์ อู้เต้าเจี้ยนรู้แจ้งเปิดปัญญาได้เพราะร่างแยกภาคหนึ่งของนาง]

[ราชันโลภะ ระดับปฐมเทพขั้นหก ข้ารับใช้คนแรกของจักรพรรดิเซียนวัฏจักร เคารพเชื่อฟังจักรพรรดิเซียนวัฏจักร แต่เมื่อระดับบำเพ็ญก้าวหน้า ความทะเยอทะยานของตัวเขาเองก็ค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นมา]

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

ที่แท้เป็นไท่ซู่เทียน!

ภาพประจำตัวของไท่ซู่เทียนแตกต่างกับอู้เต้าเจี้ยน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเชื่อมโยงพวกนางเข้าด้วยกันเลย

ไม่คิดเลยว่าไท่ซู่เทียนจะมีร่างแยกด้วย

ช้าก่อน!

เมื่อนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องที่ไท่ซู่เทียนโยนหินซ่อมฟ้าให้ฟางเหลียงแล้ว แสดงว่าวังหนี่ว์วาจับตามองเขาอยู่แน่นอน

หานเจวี๋ยขนลุกซู่แล้ว

ถ้าหากเขาไม่มีระบบอยู่ คงไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของวังหนี่ว์วา เขานึกว่าหินซ่อมฟ้าเป็นชะตาลิขิตของฟางเหลียง และยิ่งไม่เคยระแคะระคายถึงเจ้านายเก่าของอู้เต้าเจี้ยนเลยสักนิด

อริยะผู้วางตัวสูงส่ง ปากบอกไม่เข้าร่วมเคราะห์ ทว่าความจริงวางแผนชักใยอยู่ลับๆ

เห็นทีว่าปรมาจารย์ถูก็เป็นตัวหมากของวังหนี่ว์วาเช่นกัน

ยังมีราชันโลภะคนนี้ด้วย ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มองจากรูปลักษณ์แล้ว หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อย่างยิ่ง เหตุใดจึงมาสวมรอยเป็นหานเจวี๋ยเล่า

หรือว่าเบื้องหลังเรื่องนี้จะมีคำสั่งมาจากจักรพรรดิเซียนวัฏจักร

ไม่ถูกสิ!

คนที่มีชัยที่สุดในอนาคตคือราชันโลภะ ไม่ใช่จักรพรรดิเซียนวัฏจักร

อีกอย่างในข้อมูลยังบ่งชี้ให้เห็นด้วยว่าราชันโลภะมีความทะเยอทะยานส่วนตัว พูดให้ชัดคือไอ้หมอนี่มีใจคิดทรยศแล้ว วันหน้าอาจวางแผนเล่นงานจักรพรรดิเซียนวัฏจักรก็เป็นไปได้

น่าสนใจจริงๆ!

หานเจวี๋ยยิ้มออกมาด้วยความโมโห

สายน้ำของแดนเซียนแห่งนี้ลึกล้ำจริงๆ นอกจากบรรดาขาใหญ่ในที่แจ้งแล้ว ยังมีเหล่าผู้คนที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดรอฉวยโอกาสอยู่อีกไม่น้อยเลย

หานเจวี๋ยกำลังคิดอยู่ว่าจะสาปแช่งไท่ซู่เทียนและราชันโลภะไปตรงๆ เลยดีหรือไม่

ไม่ได้!

ถ้าทำให้ตายไปตรงๆ เช่นนี้ อาจจะเกิดตัวแปรใหม่ขึ้นมาอีกก็เป็นได้

รอดูไปสักระยะก่อนแล้วกัน รอให้สองคนนี้โผล่หัวออกมาแล้วค่อยจัดการพวกเขา

พวกเขาย่อมนึกไม่ถึงแน่นอนว่าหานเจวี๋ยรู้ถึงแผนร้ายของพวกเขาแล้ว

ด้วยความสามารถของพวกเขาไม่สามารถโค่นล้มวังสวรรค์ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ยิ่งไม่อาจมาคุกคามสำนักซ่อนเร้นได้

หานเจวี๋ยเรียกอู้เต้าเจี้ยนเข้ามา

เรียกให้สวยหรูคือเรียกมาถ่ายทอดมรรคา แต่ความจริงคือถือโอกาสประทับตราประทับหกวิถีให้ลึกล้ำขึ้น เลี่ยงไม่ให้ไท่ซู่เทียนเล่นลูกไม้ได้

โดยทั่วไปแล้วแล้วตราประทับหกวิถีไม่ส่งผลกระทบต่ออู้เต้าเจี้ยน หานเจวี๋ยแค่กันไว้ก่อนเท่านั้น

ความเสี่ยงที่จะเพลี่ยงพล้ำมีมากเกินไป หานเจวี๋ยจำต้องระวังทุกฝีก้าวเสมือนเหยียบย่างอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ไม่อาจประมาทได้

แม้แต่ต้าหลัวยังพลาดท่ากันหมด แล้วนับประสาอะไรกับเขาเล่า

….

ภายในถ้ำใต้ดินอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง เงาร่างมากมายรวมตัวกันอยู่ที่นี่ มนุษย์เอย ปีศาจเอย ภูตผีเอย

เซวียนฉิงจวินสวมเสื้อคลุมสีดำ ปะปนอยู่ในหมู่มนุษย์

สายตานางทอดมองไปด้านหน้า ห่างออกไปหลายลี้มีเวทียกสูงเวทีหนึ่งตั้งอยู่ บนเวทีมีตัวตนที่แผ่รัศมีกล้าแกร่งยืนอยู่หลายสิบคน พวกเขากำลังหารืออะไรบางอย่าง

‘ไม่คิดเลยว่าลัทธิอันธการจะซ่องสุมรวบรวมกองกำลังได้มากขนาดนี้ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการมีที่มาอย่างไรกันแน่’

เซวียนฉิงจวินลอบตระหนกอยู่ในใจ

นางเข้าสู่ลัทธิอันธการด้วยความบังเอิญ นางรู้สึกว่าอยู่นิกายเจี๋ยไปก็ไม่มีอนาคต เจ้านิกายเจี๋ยไม่สนใจจะดูแลนิกายแล้ว ผู้อาวุโสและเจ้าเกาะก็ต่อสู้ขัดแย้งกันเอง นั่นไม่ใช่นิกายแห่งโชคชะตาอันรุ่งเรืองที่ตำนานเล่าขานอีกต่อไปแล้ว เหมือนพวกหัวมังกุท้ายมังกรมากกว่า

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

เสียงหนึ่งแว่วขึ้นมา “เงียบ!”

สาวกลัทธิอันธการทั้งหมดที่รออยู่พากันเงียบเสียงลง พร้อมหันไปมองกันอย่างพร้อมเพรียง

ถ้าหากหานเจวี๋ยอยู่ที่นี่ด้วย จะพบว่าผู้ที่กำลังกล่าวคือเซวี่ยหมิงเหอที่หลบหนีออกมาจากแดนชำระบาปเก้าขุม

เซวี่ยหมิงเหอที่มีไอโลหิตลุกไหม้อยู่บนร่างยืนชิดขอบกั้นบนเวที ก้มมองฝูงชน เปิดปากเอ่ย “ตอนนี้ในแดนเซียนมีไอ้พวกน่ารังเกียจที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอยู่มากมายเหลือเกิน ในบรรดานั้นรวมถึงปรมาจารย์ถูแห่งวังเทพด้วย พวกเราในฐานะสาวกของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ จะทนได้อย่างไร พวกเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เขาต้องจับตามองพวกเราอยู่ในความมืดมิดพร้อมทั้งคาดหวังต่อท่าทีของพวกเราอยู่เป็นแน่”

“พวกเจ้าอยากอยู่ในสายตาของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการกันหรือไม่”

พอสิ้นเสียงเขา ทุกคนล้วนตื่นเต้นคึกคักขึ้นมา

“อยาก!”

เสียงตะโกนดังขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้ทั่วทั้งถ้ำใต้ดินสั่นสะเทือนไปหมด

เซวียนฉิงจวินก็ตะโกนด้วยเช่นกัน รู้สึกตกตะลึงอยู่ในใจ

เมื่อมาถึงแดนเซียน นางถึงได้พบเห็นภาพเช่นนี้เป็นครั้งแรก เมื่อก่อนตอนอยู่ที่นิกายเจี๋ยนางไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

นางไม่เข้าใจเลยว่า เพราะเหตุใดเจ้าแดนต้องห้ามอันธการถึงมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนได้มากมายขนาดนี้

ถึงแม้เขาจะแข็งแกร่งมากจริงๆ ถึงกับบีบให้บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์และจักรพรรดิปีศาจให้พลาดท่าได้ แต่เขากลับไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย

เซวี่ยหมิงเหอยิ้มพลางกล่าวต่อ “ไม่รู้ว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อใด ที่ปวงสวรรค์หมื่นโลกาถูกแบ่งแยกโดยวังเทพ วังสวรรค์ สำนักพุทธและวังปีศาจ พวกเขาวางตัวสูงส่ง กำหนดกฎเกณฑ์ให้หมื่นโลกา แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวของพวกเรากลับเป็นเหตุให้สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนต้องล้มหายตายจากไปทีละราย ต้องมุ่งสู่ยมโลก ถึงขั้นที่ร่างสลายจิตมลาย แต่ไม่ว่าจะเกิดสงครามขึ้นสักกี่ครั้ง ผู้ที่สิ้นชีพล้วนเป็นคนตัวเล็กไร้กำลังอย่างพวกเราเสมอ สี่กลุ่มอำนาจจักรวรรดิก็ยังคงเป็นจักรวรรดิอยู่ดี สรรพชีวิตล้วนเป็นตัวหมากในมือของพวกเขา ในระหว่างที่พวกเขาพูดคุยยิ้มแย้ม สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนต่างตัวตายมรรคผลสลาย แต่สถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังนี้ในที่สุดก็ถูกทำลายลง!

เป็นเขา! เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ! เขาปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน สาปแช่งทำลายความเป็นอมตะของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ สำนักพุทธอันสูงส่งไม่น่าเชื่อว่าแท้จริงจะเป็นบรรพชนมารในคราบบรรพชนพุทธ ช่างน่าขันเสียจริง อีกทั้งเรื่องของจักรพรรดิปีศาจที่เข้าถล่มแดนเซียนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งจักรพรรดิสวรรค์ ประมุขแห่งวังเทพและบรรพชนพุทธต่างก็ไม่กล้าลงมือ แต่เป็นเพราะเจ้าแดนต้องห้ามอันธการลงมือด้วยตัวเองถึงสามารถกำจัดหายนะครั้งนี้ได้!

ยามนี้ ทุกแห่งในใต้หล้าล้วนเป็นของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการดูหมิ่นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ พวกเราจะต้องเป็นตัวแทนของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการตัวจริง กำจัดตัวปลอมพวกนี้ทิ้ง เพราะมีแค่พวกเราเท่านั้นที่เคารพเทิดทูนเจ้าแดนต้องห้ามอันธการอย่างแท้จริง นับถือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นนายเหนือหัวที่แท้จริง!”

ข้าเซวี่ยหมิงเหอ ตัวแทนของเผ่าอสูรขอเข้าร่วมลัทธิอันธการ เมื่อมหาเคราะห์เริ่มขึ้น เผ่าอสูรจะเป็นทัพหน้าแน่นอน!

“พวกเจ้ายินดีจะอุทิศทุกอย่างเพื่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เพื่อสรวงสวรรค์แห่งนี้หรือไม่”

เมื่อเซวี่ยหมิงเหอกล่าวจบ ทุกชีวิตต่างร้องตะโกนว่ายินดี เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

แม้แต่เซวียนฉิงจวินที่ไม่เข้าใจเรื่องราวก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นฮึกเหิมไปด้วย

ระดับความศรัทธาเช่นนี้แรงกล้าเกินไปแล้ว!

ทำให้ลัทธิอันธการก่อตัวเป็นปึกแผ่นได้!

ขอเพียงเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่พ่ายแพ้ปราชัย ลัทธิอันธการก็จะกลายเป็นกองทัพยืนยงไร้พ่าย!

เซวียนฉิงจวินก็บังเกิดความรู้สึกคาดหวังขึ้นมาแล้วเช่นกัน

บางทีการเข้าร่วมลัทธิอันธการ อาจทำให้นางได้รับโอกาสใหญ่ในศึกมหาเคราะห์

นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหานเจวี๋ยขึ้นมา

ความสามารถของหานเจวี๋ยล้ำหน้านางไปแล้ว แต่เขากลับมีนิสัยขี้ขลาด กลัวการเผชิญเคราะห์

‘รอจนมหาเคราะห์ครั้งนี้จบลง หากว่าลัทธิอันธการได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย พอถึงเวลานั้นข้าค่อยชักจูงเขามาเข้าร่วม’

รอยยิ้มเผยออกมาบนใบหน้าของเซวียนฉิงจวิน

ในอดีตเพื่อให้ตระหนักถึงมรรคา จึงบังเอิญจับคู่บำเพ็ญกับหานเจวี๋ย ผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้ คนที่ทำให้นางคะนึงหาได้เหลือเพียงหานเจวี๋ยคนเดียวเท่านั้น

คนรู้จักมักคุ้นที่เหลือ ต่างก็กลายเป็นธุลีเหลืองไปนานแล้ว

….

เวลาผ่านไปสิบปี

หานเจวี๋ยหยุดบำเพ็ญเพียร เริ่มทำการสาปแช่งศัตรู

ตอนนี้อู้เต้าเจี้ยนอยู่นอกถ้ำ ไปเกาะแกะลี่เหยาเพื่อบำเพ็ญเพียรด้วยกัน หากหานเจวี๋ยไม่เรียกหา นางก็จะไม่เป็นฝ่ายกลับมาหาเขาก่อน

หานเจวี๋ยทอดถอนใจ สตรีเติบใหญ่แล้วมักไม่อยู่ติดเรือน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจไม่น้อย เพราะเวลามีอู้เต้าเจี้ยนอยู่ด้านข้าง เขามักจะระแวงอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยทำการสาปแช่งพลางตรวจสอบจดหมายไปด้วย

ในช่วงนี้กลับไม่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นเลย จดหมายจึงดูน่าเบื่ออยู่บ้าง

หนึ่งเดือนผ่านไป หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง

ทันใดนั้นเขาบังเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้น

‘ข้าอยากเห็นว่าราชันโลภะทำอะไรอยู่’ หานเจวี๋ยนึกเงียบๆ

[จำเป็นต้องหักอายุขัยสิบล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ถึงอย่างไรก็เป็นระดับปฐมเทพขั้นหก เข้าใกล้ต้าหลัวมากแล้ว

สำหรับหานเจวี๋ยในตอนนี้ อายุขัยแค่สิบล้านปีถือว่าน้อยนิดยิ่ง

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+