ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 454 อริยะดับสูญ ไล่ล่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 454 อริยะดับสูญ ไล่ล่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 454 อริยะดับสูญ ไล่ล่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

ล้างบางเหล่าอริยะ!

เหล่าเทพเซียนพลันแตกตื่น พวกเขาคิดมาโดยตลอดว่าอริยะล้วนเล่นละครกันอยู่ ไม่นึกเลยว่าจะมีเจตนาเข่นฆ่ากันจริงๆ

ยอดแม่ทัพเทพขมวดคิ้วถาม “จริงหรือ อาจเป็นเพียงการข่มขวัญกระมัง”

ฟางเหลียงเอ่ยเสียงขรึม “เมื่อสมบัติชิ้นนี้ถูกเซ่นสรวง โลกาสิ้นสำเนียง จะเกิดผลสะท้อนกลับเข้าหาตัวอริยะ ย่อมมิใช่เพียงการข่มขวัญแน่นอน”

พระราชวังเทียมเมฆาตกอยู่ในความเงียบงัน

หากว่าเทพสูงสุดหนานจี๋และเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยเป็นผู้ใช้สมบัตินี้ก็ดีไป แต่ถ้าหากผู้ถือครองสมบัติชิ้นนี้คือฝูซีเทียนและเจ้าแม่หนี่ว์วา เช่นนั้นวังสวรรค์ก็จบสิ้นแล้ว!

ความสิ้นหวังเริ่มแพร่กระจายไปทั่ว เทพเซียนทุกคนล้วนรู้สึกไม่สบายใจ

….

หลังเสร็จสิ้นการแสดงธรรมในครั้งก่อน เวลาก็ผ่านพ้นไปอีกยี่สิบปี

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยกำลังฝึกบำเพ็ญ

[ตรวจสอบพบว่าเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยอริยะมรรคาสวรรค์กำลังใช้งานยอดสมบัติมรรคาสวรรค์อำมหิต เร่งปฏิกิริยามหาเคราะห์ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง เข้าสู่เคราะห์นที ขัดขวางเจ้านิกายเทียนเจวี๋ย จะได้รับโอกาสยกระดับระบบหนึ่งครั้ง]

[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ หลีกห่างการต่อสู้แย่งชิงในมหาเคราะห์ จะได้รับโอกาสยกระดับอาณาเขตเต๋าหนึ่งครั้ง]

นี่คือสิ่งใดกัน

ช่างเถอะ ไม่สำคัญหรอก!

หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สองทันที

[เริ่มยกระดับอาณาเขตเต๋า]

หานเจวี๋ยเบิกบานใจยิ่งนัก หลังจากอาณาเขตเต๋ายกระดับ เขาก็จะปลอดภัยยิ่งขึ้น

ครั้งนี้ ค่ายกลอาณาเขตเต๋าก็คงจะยกระดับขึ้นไปถึงระดับอริยะแล้วกระมัง

คราวนี้ หากอริยะต้องการจะบุกเข้ามาก็ทำไม่ได้แล้ว เขาก็จะฝึกบำเพ็ญได้อย่างสบายใจเสียที

การยกระดับอาณาเขตเต๋าต้องใช้เวลา หานเจวี๋ยก็ไม่ได้รออยู่ว่างๆ บำเพ็ญต่อไป

เข้าสู่ปีที่สอง

ขณะที่กำลังบำเพ็ญอยู่นั้นจู่ๆ หานเจวี๋ยก็ลืมตาขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จิตใจเขาไม่สงบเอาเสียเลย รู้สึกหดหู่อย่างน่าประหลาด

เขาสังเกตเห็นว่าเหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นที่อยู่นอกถ้ำก็เป็นแบบนี้เช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้น ข้ารู้สึกหดหู่เหลือเกิน”

“พวกเจ้าก็เหมือนกันหรือ”

“ความรู้สึกเช่นนี้…แดนเซียนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! พูดให้ชัดเจนคือมรรคาสวรรค์เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”

“จะมีเภทภัยมากล้ำกรายพวกเราอีกหรือไม่”

“ไม่อาจรู้ได้ เจ้าสำนักยังไม่ออกมาเลย เจ้าจะกลัวอะไร”

….

เมื่อได้ยินบทสนทนาจากด้านนอก หานเจวี๋ยก็ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะที่กำลังจะใช้ระบบวิวัฒนาการ จู่ๆ เกาะสำนักซ่อนเร้นก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีจากสิ่งอัปมงคลเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

คลื่นทะเลริมเกาะซัดโถมอย่างบ้าคลั่ง บรรพตโยกคลอน เศษหินนับไม่ถ้วนร่วงกราวลงมา

ม่านตาหานเจวี๋ยพลันหดตัว พลังเวทมหาศาลครอบคลุมอาณาเขตเต๋าเอาไว้ ควบคุมทุกสิ่งให้มั่นคง

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีแรงโจมตีอันน่าพรั่นพรึงกวาดม้วนผ่านเกาะสำนักซ่อนเร้น ม้วนพาเกาะสำนักซ่อนเร้นไปยังทิศทางที่ไม่รู้จัก

[ฉิวซีไหลต้องการเข้าฝันท่าน จะยอมรับหรือไม่]

หานเจวี๋ยเมินเฉยไปตรงๆ เกาะสำนักซ่อนเร้นกำลังมีปัญหา เขาตอบรับการเข้าฝันไม่ได้

ข้อความเริ่มส่งมาอย่างถี่รัว

หานเจวี๋ยลอบสบถ

คนผู้นี้ทำตัวมีปัญหาเสียจริง เซ้าซี้เช่นนี้ใช่บุคลิกของผู้ที่เป็นอริยบุคคลเสียที่ไหน

หานเจวี๋ยถามในใจ ‘เป็นสิ่งใดที่กำลังโจมตีเกาะสำนักซ่อนเร้นอยู่’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยสี่พันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

ราคาระดับนี้…

อริยะเป็นแน่!

[เจ้าแม่หนี่ว์วาดับสูญ พลังทำลายล้างที่เกิดจากการระเบิดของอริยะมรรคาสวรรค์กวาดม้วนเข้าใส่เกาะสำนักซ่อนเร้น]

เจ้าแม่หนี่ว์วาดับสูญ?

หานเจวี๋ยเบิกตากว้าง สูดหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความตกตะลึง

มีอริยะดับสูญจริงๆ

ที่สำคัญคือเจ้าแม่หนี่ว์วา…

อาจเป็นเพราะมีส่วนมาจากเทวตำนานของจีน หานเจวี๋ยจึงรู้สึกอยู่เสมอว่าเจ้าแม่หนี่ว์วาสูงส่งกว่าอริยะมรรคาสวรรค์คนอื่นอยู่หนึ่งขั้น ไม่คิดเลยว่านางจะพลาดท่าเป็นรายแรก

อริยะดับสูญ มหาเคราะห์ก็ควรจะสิ้นสุดลงได้แล้วกระมัง

เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดเกาะสำนักซ่อนเร้นก็หยุดนิ่ง

ฉิวซีไหลยังคงรัวคำขอเข้าฝันมาอย่างต่อเนื่อง

หานเจวี๋ยตรวจสอบรอบข้างดูเล็กน้อย หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีศัตรูผู้ทรงพลัง ถึงได้ยอมรับคำขอเข้าฝันของฉิวซีไหล

ยังคงอยู่ในโถงใหญ่แห่งนั้น ฉิวซีไหลยังคงอยู่ในรูปลักษณ์ของพระพุทธรูปทองใหญ่ยักษ์ที่ดูสูงส่งทรงบารมี

หานเจวี๋ยไม่ได้นำหยินหยางพิทักษ์ตะวันจันทราออกมาใช้ ถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็เป็นยอดสมบัติมรรคาสวรรค์ มียอดสมบัติเลิศล้ำไร้พ่ายเพิ่มขึ้นมาหนึ่งชิ้น ย่อมดึงดูดให้อริยะเกิดความสงสัยได้

“หนี่ว์วาดับสูญแล้ว ตำแหน่งเก้าอริยะมรรคาสวรรค์หายไปหนึ่งที่ หลังมหาเคราะห์ครั้งนี้สิ้นสุดลง สรรพสิ่งสามารถแข่งขันชิงตำแหน่งอริยะได้ เจ้าเตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆ เถิด” ฉิวซีไหลกล่าว

เป็นอริยะมรรคาสวรรค์หรือ

ข้าไม่สนใจหรอก!

หานเจวี๋ยแสร้งเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก “อริยะก็ดับสูญได้หรือ”

ฉิวซีไหลกล่าวตอบ “ภายใต้บารมีของมรรคาสวรรค์ อริยะมิอาจสิ้น ทว่าท่ามกลางมหาเคราะห์ กลไกสวรรค์ถูกแรงกรรมขวางกั้น ดวงชะตาอริยะเสื่อมถอย มีโอกาสดับสูญ เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยแห่งนิกายเจี๋ยใช้ยอดสมบัติมรรคาสวรรค์อำมหิตสังหารหนี่ว์วา ฝูซีเทียนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน นับว่าถอนตัวออกจากมหาเคราะห์ครั้งนี้ไปก่อนแล้ว”

เจ้านิกายเทียนเจวี๋ย…

หานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเจ้านิกายทงเทียนในเรื่องห้องสิน เจ้านิกายทงเทียนก็เป็นเจ้านิกายเจี๋ยเช่นกัน และก็ถูกบีบคั้นจนต้องสำแดงค่ายกลกระบี่สังหารเซียนเตรียมสังหารเหล่าเทพ

อริยะแห่งนิกายเจี๋ยช่างร้ายกาจยิ่งนัก!

หรือนี่จะเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา

หานเจวี๋ยซักถาม “กล่าวเช่นนี้คือมหาเคราะห์ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วใช่หรือไม่”

ฉิวซีไหลกล่าวตอบ “อืม หลังจากจำนวนสิ่งมีชีวิตลดลงตามที่มรรคาสวรรค์กำหนดแล้ว อริยชนจะร่วมมือกันปัดเป่าแรงกรรมแห่งฟ้าดิน คืนความสงบสุขสดใสให้แก่โลกาแห่งมรรคาสวรรค์”

หานเจวี๋ยเงียบลง กล่าวเช่นนี้คือ หลังจากนี้ยังมีการสังหารล้างบางฉากใหญ่รออยู่

หนี่ว์วาดับสูญ ฝูซีเทียนพ่ายแพ้ล่าถอย เผ่ามนุษย์เองก็นับว่าจบสิ้นแล้ว

อารมณ์ของหานเจวี๋ยไม่สู้ดีอยู่บ้าง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ถึงแม้จะไม่มีความผูกพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของโลกนี้ แต่ก็มักจะรู้สึกสลดใจในชะตากรรมของเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์อยู่เสมอ

“หลังมหาเคราะห์สิ้นสุดก็กลับสู่แดนเซียนเถิด แดนต้องห้ามอันธการกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภายหน้าจะอันตรายอย่างยิ่ง ระดับที่ต่ำกว่าอริยะลงไป ทุกสรรพสิ่งทำได้เพียงพึ่งพาการปกปักษ์จากมรรคาสวรรค์เพื่อหลบเลี่ยงเภทภัยอันตรายจากแดนต้องห้ามอันธการ”

หานเจวี๋ยพยักหน้ารับ

อริยะมรรคาสวรรค์น่าจะไม่ทราบถึงแผนการของอริยะมหามรรค

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องความปั่นป่วนในแดนต้องห้ามอันธการที่มีสาเหตุมาจากอริยะมหามรรคออกไป พูดไปก็เปล่าประโยชน์ ซ้ำยังเสี่ยงล่วงเกินอริยะมหามรรคได้ง่ายๆ อีกด้วย

อริยะมหามรรคนั้นน่าหวาดกลัวเป็นที่สุด ภูตผีเท่านั้นที่รู้ว่าอริยะมหามรรคเป็นตัวตนเช่นใด

หานเจวี๋ยถามต่อ “จุดจบของจักรพรรดิสวรรค์จะเป็นอย่างไร”

ฉิวซีไหลตอบ “เขามิใช่สิ่งมีชีวิตใต้ร่มเงามรรคาสวรรค์แล้ว หากต้องการปกป้องเขา ก็ทำได้เพียงขับไล่ให้เขาออกห่างจากมรรคาสวรรค์ ส่วนเขาจะรอดชีวิตไปได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับชะตาของเขาเอง”

หานเจวี๋ยเงียบลง

บางทีนี่อาจจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุดแล้ว

หลังจากมหาเคราะห์สิ้นสุดลงค่อยถามจักรรพรดิสวรรค์ว่ายินดีจะติดตามตนหรือไม่

“เจ้ารู้จักเจ้าแดนต้องห้ามอันธการหรือไม่” จู่ๆ ฉิวซีไหลก็ถามขึ้น

หานเจวี๋ยตอบ “เคยได้ยินมาบ้าง”

ฉิวซีไหลเอ่ยว่า “หลังมหาเคราะห์สิ้นสุดลง อริยชนจะคิดวิธีควานหาตัวเจ้าแดนต้องห้ามอันธการออกมา หากข้างกายเจ้ามีผู้ที่ต้องการติดตามเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ตัดขาดไปเสียจะดีที่สุด มีความเป็นไปได้สูงที่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะมิใช่อริยะมหามรรค แต่เป็นตัวตนชั่วร้ายที่อยู่นอกเหนือไปจากมรรคาสวรรค์ คอยยุ่มย่ามกับแนวทางวิวัฒนาการของมรรคาสวรรค์อยู่ตลอด หากมิใช่เพราะเขา มหาเคราะห์ก็ไม่มีทางดึงดูดให้อริยะลงมือได้ และไม่มีทางที่มหาเคราะห์จะจบลงรวดเร็วเช่นนี้”

หานเจวี๋ยตกตะลึง เอ่ยถามด้วยความตระหนก “ตัวตนชั่วร้ายที่อยู่นอกเหนือมรรคาสวรรค์ หมายความเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะเป็นภัยคุกคามต่อสรรพสิ่งอย่างนั้นหรือ”

“มิผิด แต่เจ้าวางใจเถอะ อริยะย่อมจัดการได้”

“ซวยซ้ำซวยซ้อนโดยแท้”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างปลดปลง แสดงได้เป็นธรรมชาติยิ่ง

ฉิวซีไหลก็ไม่พูดมากอีก สลายฉากความฝันลง

หลังกลับสู่ถ้ำเทวาฟ้าประทาน เรื่องแรกที่หานเจวี๋ยทำคือสอบถามว่ามีอริยะมรรคาสวรรค์ฉุกสงสัยบ้างหรือไม่ว่าเขาคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

จ่ายอายุขัยไปสี่พันล้านปี ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า [ไม่มี]

หานเจวี๋ยสบายใจขึ้นมาแล้ว

ขอเพียงความสงสัยไม่เพ่งเล็งมาที่เขา ก็ปล่อยให้เหล่าอริยะต่อกรกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไปเถอะ

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะบทที่ 454 อริยะดับสูญ ไล่ล่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 454 อริยะดับสูญ ไล่ล่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 454 อริยะดับสูญ ไล่ล่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

ล้างบางเหล่าอริยะ!

เหล่าเทพเซียนพลันแตกตื่น พวกเขาคิดมาโดยตลอดว่าอริยะล้วนเล่นละครกันอยู่ ไม่นึกเลยว่าจะมีเจตนาเข่นฆ่ากันจริงๆ

ยอดแม่ทัพเทพขมวดคิ้วถาม “จริงหรือ อาจเป็นเพียงการข่มขวัญกระมัง”

ฟางเหลียงเอ่ยเสียงขรึม “เมื่อสมบัติชิ้นนี้ถูกเซ่นสรวง โลกาสิ้นสำเนียง จะเกิดผลสะท้อนกลับเข้าหาตัวอริยะ ย่อมมิใช่เพียงการข่มขวัญแน่นอน”

พระราชวังเทียมเมฆาตกอยู่ในความเงียบงัน

หากว่าเทพสูงสุดหนานจี๋และเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยเป็นผู้ใช้สมบัตินี้ก็ดีไป แต่ถ้าหากผู้ถือครองสมบัติชิ้นนี้คือฝูซีเทียนและเจ้าแม่หนี่ว์วา เช่นนั้นวังสวรรค์ก็จบสิ้นแล้ว!

ความสิ้นหวังเริ่มแพร่กระจายไปทั่ว เทพเซียนทุกคนล้วนรู้สึกไม่สบายใจ

….

หลังเสร็จสิ้นการแสดงธรรมในครั้งก่อน เวลาก็ผ่านพ้นไปอีกยี่สิบปี

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยกำลังฝึกบำเพ็ญ

[ตรวจสอบพบว่าเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยอริยะมรรคาสวรรค์กำลังใช้งานยอดสมบัติมรรคาสวรรค์อำมหิต เร่งปฏิกิริยามหาเคราะห์ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง เข้าสู่เคราะห์นที ขัดขวางเจ้านิกายเทียนเจวี๋ย จะได้รับโอกาสยกระดับระบบหนึ่งครั้ง]

[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ หลีกห่างการต่อสู้แย่งชิงในมหาเคราะห์ จะได้รับโอกาสยกระดับอาณาเขตเต๋าหนึ่งครั้ง]

นี่คือสิ่งใดกัน

ช่างเถอะ ไม่สำคัญหรอก!

หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกที่สองทันที

[เริ่มยกระดับอาณาเขตเต๋า]

หานเจวี๋ยเบิกบานใจยิ่งนัก หลังจากอาณาเขตเต๋ายกระดับ เขาก็จะปลอดภัยยิ่งขึ้น

ครั้งนี้ ค่ายกลอาณาเขตเต๋าก็คงจะยกระดับขึ้นไปถึงระดับอริยะแล้วกระมัง

คราวนี้ หากอริยะต้องการจะบุกเข้ามาก็ทำไม่ได้แล้ว เขาก็จะฝึกบำเพ็ญได้อย่างสบายใจเสียที

การยกระดับอาณาเขตเต๋าต้องใช้เวลา หานเจวี๋ยก็ไม่ได้รออยู่ว่างๆ บำเพ็ญต่อไป

เข้าสู่ปีที่สอง

ขณะที่กำลังบำเพ็ญอยู่นั้นจู่ๆ หานเจวี๋ยก็ลืมตาขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จิตใจเขาไม่สงบเอาเสียเลย รู้สึกหดหู่อย่างน่าประหลาด

เขาสังเกตเห็นว่าเหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นที่อยู่นอกถ้ำก็เป็นแบบนี้เช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้น ข้ารู้สึกหดหู่เหลือเกิน”

“พวกเจ้าก็เหมือนกันหรือ”

“ความรู้สึกเช่นนี้…แดนเซียนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! พูดให้ชัดเจนคือมรรคาสวรรค์เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”

“จะมีเภทภัยมากล้ำกรายพวกเราอีกหรือไม่”

“ไม่อาจรู้ได้ เจ้าสำนักยังไม่ออกมาเลย เจ้าจะกลัวอะไร”

….

เมื่อได้ยินบทสนทนาจากด้านนอก หานเจวี๋ยก็ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะที่กำลังจะใช้ระบบวิวัฒนาการ จู่ๆ เกาะสำนักซ่อนเร้นก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีจากสิ่งอัปมงคลเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

คลื่นทะเลริมเกาะซัดโถมอย่างบ้าคลั่ง บรรพตโยกคลอน เศษหินนับไม่ถ้วนร่วงกราวลงมา

ม่านตาหานเจวี๋ยพลันหดตัว พลังเวทมหาศาลครอบคลุมอาณาเขตเต๋าเอาไว้ ควบคุมทุกสิ่งให้มั่นคง

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีแรงโจมตีอันน่าพรั่นพรึงกวาดม้วนผ่านเกาะสำนักซ่อนเร้น ม้วนพาเกาะสำนักซ่อนเร้นไปยังทิศทางที่ไม่รู้จัก

[ฉิวซีไหลต้องการเข้าฝันท่าน จะยอมรับหรือไม่]

หานเจวี๋ยเมินเฉยไปตรงๆ เกาะสำนักซ่อนเร้นกำลังมีปัญหา เขาตอบรับการเข้าฝันไม่ได้

ข้อความเริ่มส่งมาอย่างถี่รัว

หานเจวี๋ยลอบสบถ

คนผู้นี้ทำตัวมีปัญหาเสียจริง เซ้าซี้เช่นนี้ใช่บุคลิกของผู้ที่เป็นอริยบุคคลเสียที่ไหน

หานเจวี๋ยถามในใจ ‘เป็นสิ่งใดที่กำลังโจมตีเกาะสำนักซ่อนเร้นอยู่’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยสี่พันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

ราคาระดับนี้…

อริยะเป็นแน่!

[เจ้าแม่หนี่ว์วาดับสูญ พลังทำลายล้างที่เกิดจากการระเบิดของอริยะมรรคาสวรรค์กวาดม้วนเข้าใส่เกาะสำนักซ่อนเร้น]

เจ้าแม่หนี่ว์วาดับสูญ?

หานเจวี๋ยเบิกตากว้าง สูดหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความตกตะลึง

มีอริยะดับสูญจริงๆ

ที่สำคัญคือเจ้าแม่หนี่ว์วา…

อาจเป็นเพราะมีส่วนมาจากเทวตำนานของจีน หานเจวี๋ยจึงรู้สึกอยู่เสมอว่าเจ้าแม่หนี่ว์วาสูงส่งกว่าอริยะมรรคาสวรรค์คนอื่นอยู่หนึ่งขั้น ไม่คิดเลยว่านางจะพลาดท่าเป็นรายแรก

อริยะดับสูญ มหาเคราะห์ก็ควรจะสิ้นสุดลงได้แล้วกระมัง

เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ในที่สุดเกาะสำนักซ่อนเร้นก็หยุดนิ่ง

ฉิวซีไหลยังคงรัวคำขอเข้าฝันมาอย่างต่อเนื่อง

หานเจวี๋ยตรวจสอบรอบข้างดูเล็กน้อย หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีศัตรูผู้ทรงพลัง ถึงได้ยอมรับคำขอเข้าฝันของฉิวซีไหล

ยังคงอยู่ในโถงใหญ่แห่งนั้น ฉิวซีไหลยังคงอยู่ในรูปลักษณ์ของพระพุทธรูปทองใหญ่ยักษ์ที่ดูสูงส่งทรงบารมี

หานเจวี๋ยไม่ได้นำหยินหยางพิทักษ์ตะวันจันทราออกมาใช้ ถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็เป็นยอดสมบัติมรรคาสวรรค์ มียอดสมบัติเลิศล้ำไร้พ่ายเพิ่มขึ้นมาหนึ่งชิ้น ย่อมดึงดูดให้อริยะเกิดความสงสัยได้

“หนี่ว์วาดับสูญแล้ว ตำแหน่งเก้าอริยะมรรคาสวรรค์หายไปหนึ่งที่ หลังมหาเคราะห์ครั้งนี้สิ้นสุดลง สรรพสิ่งสามารถแข่งขันชิงตำแหน่งอริยะได้ เจ้าเตรียมตัวเสียแต่เนิ่นๆ เถิด” ฉิวซีไหลกล่าว

เป็นอริยะมรรคาสวรรค์หรือ

ข้าไม่สนใจหรอก!

หานเจวี๋ยแสร้งเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก “อริยะก็ดับสูญได้หรือ”

ฉิวซีไหลกล่าวตอบ “ภายใต้บารมีของมรรคาสวรรค์ อริยะมิอาจสิ้น ทว่าท่ามกลางมหาเคราะห์ กลไกสวรรค์ถูกแรงกรรมขวางกั้น ดวงชะตาอริยะเสื่อมถอย มีโอกาสดับสูญ เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยแห่งนิกายเจี๋ยใช้ยอดสมบัติมรรคาสวรรค์อำมหิตสังหารหนี่ว์วา ฝูซีเทียนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน นับว่าถอนตัวออกจากมหาเคราะห์ครั้งนี้ไปก่อนแล้ว”

เจ้านิกายเทียนเจวี๋ย…

หานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเจ้านิกายทงเทียนในเรื่องห้องสิน เจ้านิกายทงเทียนก็เป็นเจ้านิกายเจี๋ยเช่นกัน และก็ถูกบีบคั้นจนต้องสำแดงค่ายกลกระบี่สังหารเซียนเตรียมสังหารเหล่าเทพ

อริยะแห่งนิกายเจี๋ยช่างร้ายกาจยิ่งนัก!

หรือนี่จะเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา

หานเจวี๋ยซักถาม “กล่าวเช่นนี้คือมหาเคราะห์ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วใช่หรือไม่”

ฉิวซีไหลกล่าวตอบ “อืม หลังจากจำนวนสิ่งมีชีวิตลดลงตามที่มรรคาสวรรค์กำหนดแล้ว อริยชนจะร่วมมือกันปัดเป่าแรงกรรมแห่งฟ้าดิน คืนความสงบสุขสดใสให้แก่โลกาแห่งมรรคาสวรรค์”

หานเจวี๋ยเงียบลง กล่าวเช่นนี้คือ หลังจากนี้ยังมีการสังหารล้างบางฉากใหญ่รออยู่

หนี่ว์วาดับสูญ ฝูซีเทียนพ่ายแพ้ล่าถอย เผ่ามนุษย์เองก็นับว่าจบสิ้นแล้ว

อารมณ์ของหานเจวี๋ยไม่สู้ดีอยู่บ้าง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ถึงแม้จะไม่มีความผูกพันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของโลกนี้ แต่ก็มักจะรู้สึกสลดใจในชะตากรรมของเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์อยู่เสมอ

“หลังมหาเคราะห์สิ้นสุดก็กลับสู่แดนเซียนเถิด แดนต้องห้ามอันธการกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภายหน้าจะอันตรายอย่างยิ่ง ระดับที่ต่ำกว่าอริยะลงไป ทุกสรรพสิ่งทำได้เพียงพึ่งพาการปกปักษ์จากมรรคาสวรรค์เพื่อหลบเลี่ยงเภทภัยอันตรายจากแดนต้องห้ามอันธการ”

หานเจวี๋ยพยักหน้ารับ

อริยะมรรคาสวรรค์น่าจะไม่ทราบถึงแผนการของอริยะมหามรรค

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องความปั่นป่วนในแดนต้องห้ามอันธการที่มีสาเหตุมาจากอริยะมหามรรคออกไป พูดไปก็เปล่าประโยชน์ ซ้ำยังเสี่ยงล่วงเกินอริยะมหามรรคได้ง่ายๆ อีกด้วย

อริยะมหามรรคนั้นน่าหวาดกลัวเป็นที่สุด ภูตผีเท่านั้นที่รู้ว่าอริยะมหามรรคเป็นตัวตนเช่นใด

หานเจวี๋ยถามต่อ “จุดจบของจักรพรรดิสวรรค์จะเป็นอย่างไร”

ฉิวซีไหลตอบ “เขามิใช่สิ่งมีชีวิตใต้ร่มเงามรรคาสวรรค์แล้ว หากต้องการปกป้องเขา ก็ทำได้เพียงขับไล่ให้เขาออกห่างจากมรรคาสวรรค์ ส่วนเขาจะรอดชีวิตไปได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับชะตาของเขาเอง”

หานเจวี๋ยเงียบลง

บางทีนี่อาจจะเป็นจุดจบที่ดีที่สุดแล้ว

หลังจากมหาเคราะห์สิ้นสุดลงค่อยถามจักรรพรดิสวรรค์ว่ายินดีจะติดตามตนหรือไม่

“เจ้ารู้จักเจ้าแดนต้องห้ามอันธการหรือไม่” จู่ๆ ฉิวซีไหลก็ถามขึ้น

หานเจวี๋ยตอบ “เคยได้ยินมาบ้าง”

ฉิวซีไหลเอ่ยว่า “หลังมหาเคราะห์สิ้นสุดลง อริยชนจะคิดวิธีควานหาตัวเจ้าแดนต้องห้ามอันธการออกมา หากข้างกายเจ้ามีผู้ที่ต้องการติดตามเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ตัดขาดไปเสียจะดีที่สุด มีความเป็นไปได้สูงที่เจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะมิใช่อริยะมหามรรค แต่เป็นตัวตนชั่วร้ายที่อยู่นอกเหนือไปจากมรรคาสวรรค์ คอยยุ่มย่ามกับแนวทางวิวัฒนาการของมรรคาสวรรค์อยู่ตลอด หากมิใช่เพราะเขา มหาเคราะห์ก็ไม่มีทางดึงดูดให้อริยะลงมือได้ และไม่มีทางที่มหาเคราะห์จะจบลงรวดเร็วเช่นนี้”

หานเจวี๋ยตกตะลึง เอ่ยถามด้วยความตระหนก “ตัวตนชั่วร้ายที่อยู่นอกเหนือมรรคาสวรรค์ หมายความเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะเป็นภัยคุกคามต่อสรรพสิ่งอย่างนั้นหรือ”

“มิผิด แต่เจ้าวางใจเถอะ อริยะย่อมจัดการได้”

“ซวยซ้ำซวยซ้อนโดยแท้”

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างปลดปลง แสดงได้เป็นธรรมชาติยิ่ง

ฉิวซีไหลก็ไม่พูดมากอีก สลายฉากความฝันลง

หลังกลับสู่ถ้ำเทวาฟ้าประทาน เรื่องแรกที่หานเจวี๋ยทำคือสอบถามว่ามีอริยะมรรคาสวรรค์ฉุกสงสัยบ้างหรือไม่ว่าเขาคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

จ่ายอายุขัยไปสี่พันล้านปี ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า [ไม่มี]

หานเจวี๋ยสบายใจขึ้นมาแล้ว

ขอเพียงความสงสัยไม่เพ่งเล็งมาที่เขา ก็ปล่อยให้เหล่าอริยะต่อกรกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไปเถอะ

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด