ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม 365 สู้กับสัตว์จักรกล
“ยินดีต้อนรับสู่การทดสอบจักรกล เอาชนะจักรกลรูปสัตว์สามตัว ก็จะผ่านการทดสอบ”
“จากสถิติของผู้ทดสอบที่ผ่านมา อัตราการรอดของการทดสอบครั้งนี้อยู่ที่ห้าเปอร์เซ็นต์ หากผ่านด่านจะได้รับการสืบทอดวิชาวิศวกรรมเครื่องกล จะเริ่มทำการทดสอบเลยหรือไม่”
เสียงของไป๋หลิงดังขึ้นในห้องอีกครั้ง เย็นเยียบอย่างยิ่ง
อันหลินกลอกตาทันที่ได้ยินคำว่าวิศวกรรมเครื่องกล การสืบทอดแบบนี้จะให้เราเป็นวิศวกรหรืออย่างไร
“เริ่มการทดสอบ!”
ไม่ว่าการสืบทอดจะเป็นอะไร อย่างไรเสียเป้าหมายที่อันหลินมาที่นี่ก็เพื่อกวาดล้างทุกอย่าง สู้ก็พอแล้ว!
มีรูแหวกออกบนผนัง จากนั้นก็มีสัตว์ป่าจักรกลที่มีพลังท่วมท้นสามตัวเดินออกมา
มีสิงโตที่ส่องแสงทองพร่างพราย หมาป่าสีชาด และม้าป่าที่มีกระแสไฟกะพริบแปลบปลาบ
“ฮ่าๆ สัตว์จักรกลหรือ”
ดวงตาของอันหลินวาวโรจน์
ไม่มีใครตอบคำถามเขา สิงโตคำรามลั่น พ่นลูกไฟอุณหภูมิสูงออกจากปากทันที กลายเป็นรูปพัดลอยไปหาอันหลิน
อันหลินกระโดดขึ้นสูง แหวนมิติสว่างวาบ
“อย่างพวกเจ้ายังกล้าแข่งเครื่องจักรกลกับข้า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง!”
“ออกมาเลยต๋าอี ต๋าเอ้อร์!”
หลังแหวนมิติสว่างวาบแล้ว ร่างสีขาวสองร่างก็ปรากฏกายกลางนภา
ขณะเดียวกัน หมาป่าสีแดงก็ระเบิดพลัง ร่างกายกลายเป็นลำแสงสีแดงพุ่งใส่อันหลินด้วยความเร็วยิ่งยวด
กรงเล็บเหล็กที่ทนทานแหวกอากาศ ยื่นไปตะปบชายที่อยู่ตรงหน้า
ในตอนนั้นเอง ร่างสีเงินก็เข้าขวางหน้าอันหลิน ตวัดดาบเลเซอร์ฟันทันที!
การปะทะทำให้เกิดเสียงดังบาดหู กรงเล็บหมาป่าที่ดูทนทานทำลายได้ยากถูกดาบเลเซอร์ฟันจนขาดสะบั้น กันดั้มอีกตัวก็ยกปากกระบอกปืนใหญ่เล็งหมาป่าสีชาด
ตูม
ระเบิดพลังงานถูกยิงทันที พลังงานที่ทรงอานุภาพกระจายตัว กลายเป็นคลื่นโจมตีความร้อน ระเบิดจนหมาป่าสีชาดจมลงพื้น ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
“ฮ่าๆ ๆ สวะ ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ของข้าต่างหากที่เรียกว่าหุ่นยนต์!”
เมื่ออันหลินเห็นภาพนี้ก็เท้าเอวหัวเราะอย่างลำพองใจ
ในตอนนั้นเอง เสียงโกรธขึ้งของไป๋หลิงก็ดังก้องในห้อง
“อันหลิน! นี่เจ้ากำลังโกงอยู่นะ! รีบเก็บสิ่งประดิษฐ์จักรกลของเจ้าเสีย ไม่อย่างนั้นก็ไสหัวออกไป!”
อันหลินที่ได้ยินเสียงชะงักงัน “เจ้าไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์เป็นของของข้าอยู่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถข้า”
“สาม”
“สอง”
…
อันหลินได้ยินไป๋หลิงนับถอยหลังก็สะดุ้งโหยง รีบเรียกต๋าอีกับต๋าเอ้อร์กลับมา
เวลานับถอยหลังที่น่ากลัวนั่นถึงได้หายไป
“ก็ได้ๆ นมเจ้าใหญ่ เจ้าชี้ขาด” อันหลินเบะปากอย่างไม่พอใจ “ใช่ว่าข้าจะสู้สัตว์จักรกลพวกนี้ไม่ได้เสียหน่อย ก็แค่ไม่ใช้งานต๋าอีกับต๋าเอ้อร์นานแล้ว กลัวขึ้นสนิม ก็เลยเอาออกมาเดินเล่นเฉยๆ”
ม้าป่าเหล็กแผ่กระแสไฟเจิดจ้าทั้งตัว ยามวิ่งห้อเหมือนย่ำสายฟ้า กระโจนใส่อันหลิน
ใบหน้าของอันหลินเรียบเฉย ชักกระบี่พิชิตมารออกมา ขณะเดียวกันดวงตาก็กลายเป็นสีขาวโพลนด้วย
ม้าเหล็กสายฟ้าที่รวดเร็วปานสายฟ้าฟาด มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ กลับเห็นช่องโหว่ทันทีในสายตาเขา
ลำแสงกระบี่สีดำที่แฝงด้วยปราณของหกกระบี่เทพสงครามพุ่งออกไปโดยพลัน
ลำแสงสีแดงกะพริบวาบ ร่างของอันหลินก็หลบหลีกการพุ่งชนของม้าป่าในเวลาเดียวกัน
สายฟ้าสีน้ำเงินของม้าป่ายังคงกะพริบแปลบปลาบ แต่ศีรษะขาดสะบั้น ลอยกระเด็นออกไปแล้ว
ตึง ร่างโลหะล้มลงทันใด กระแสไฟก็เริ่มหม่นแสง
ต้าไป๋ยังประมือกับสิงโตที่ส่องแสงทองเรืองรองอยู่ การปะทะของทั้งคู่ทำให้เกิดลมพัดกระโชก
สิงโตตัวนี้นอกจากไม่มีเขตอาคมแล้ว ความเร็ว พละกำลังและพลังป้องกันล้วนอยู่ในระดับแปลงจิตขั้นต้น ไม่แปลกที่จนบัดนี้แล้วต้าไป๋ยังจัดการสิงโตตัวนี้ไม่ได้
อันหลินก็ไม่รีบร้อนเข้าช่วยเหลือ แต่ถือกระบี่พิชิตมาร ย่างสามขุมไปหาหมาป่าเหล็กสีชาดที่ถูกต๋าอีกับต๋าเอ้อร์โจมตีจนตกลงไปชั้นดิน เพื่อดูว่าจะซ้ำเติมสักหน่อยหรือไม่
หมาป่าเหล็กตัวนั้นยังไม่ตายจริงๆ ด้วย เมื่อเห็นอันหลิน ก็อ้าปากปล่อยระเบิดพลังออกมาทันที
อันหลินเตรียมพร้อมนานแล้ว หลังหลบหลีกด้วยวิชาญาณทิพย์ กระบี่พิชิตมารก็กลายเป็นภาพติดตา สับหมาป่าเหล็กสีชาดในชั้นดินเป็นแปดท่อน!
“ฟู่ว จัดการไปอีกหนึ่ง”
คราวนี้อันหลินก็มองต้าไป๋อย่างผ่อนคลายได้สักที
การต่อสู้ของต้าไป๋กับสิงโตเข้าสู่ช่วงดุเดือด สุนัขขย้ำสิบแปดกระบวนท่าของต้าไป๋มาถึงท่าที่สิบห้าแล้ว
“สุนัขศึกท่องไพร โฮ่ง!”
ต้าไป๋หมุนตัว อุ้งมือที่สวมกรงเล็บปราณทลายฟ้ากลายเป็นลำแสงพายุหมุน ม้วนตัวไปหาสิงโต
สิงโตเหล็กพ่นลูกไฟปานเกลียวคลื่นออกมา กลับถูกลำแสงพายุหมุนทลายเป็นประกายไฟ
สิงโตเหล็กเห็นดังนั้นก็ตะลึงงัน จึงรีบใช้สิงโตคำราม เคล็ดวิชาที่สองทันที!
“โฮก!” มันคำรามลั่น คลื่นเสียงที่ทรงพลังกลายเป็นคลื่นซัดสาด โจมตีลำแสงพายุหมุนสีน้ำเงิน จากนั้นก็ซึมเข้าไปในร่างของต้าไป๋
ต้าไป๋กระอักเลือดราวกับร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนอย่างนั้น กระเด็นไปข้างหลัง
สิงโตสีทองระยิบระยับฉวยจังหวะนี้กระโจนใส่ต้าไป๋ทันใด โลหะของกรงเล็บส่องแสงแปลบปลาบ
ดวงตาของอันหลินเย็นเยือก ปีกวายุสีขาวบนแผ่นหลังกางออก
“สุนัขเทวะสะบัดหาง โฮ่ง!”
ต้าไป๋บิดตัวในช่วงเวลาคับขัน กรงเล็บปราณทลายฟ้ารายล้อมด้วยใบมีดลมหมาป่าสวรรค์ วาดลำแสงสีเงินรูปจันทร์เสี้ยวตัดศีรษะของสิงโต
เสียงแผดร้องของโลหะดังก้องทั้งห้อง ชั่ววินาทีที่เกิดประกายไฟ สิงโตยังค้างอยู่ในท่ากระโจน ศีรษะลอยขึ้นฟ้าพร้อมกับกระแสไฟแปลบปลาบ
“สวย!” อันหลินเห็นท่าตอบโต้ท่านี้ของต้าไป๋ ก็อดปรบมือชื่นชมไม่ได้
ต้าไป๋เช็ดเลือดที่มุมปากทิ้งแล้วยิ้มบางๆ “เป็นราชสีห์แล้วอย่างไร สุดท้ายก็สยบใต้กรงเล็บของสุนัขอย่างข้าอยู่ดี โฮ่ง!”
“วางมาดเท่ได้เยี่ยมเลย!” อันหลินปรบมือต่อ
“ยินดีด้วย ผ่านการทดสอบจักรกลแล้ว ขอให้พวกเจ้ารีบไสหัวไปด่านต่อไปให้ไว เลิกเก๊กได้แล้ว”
เสียงเย็นชาของไป๋หลิงดังขึ้นในห้อง คล้ายว่าจะเจือความขุ่นเคืองอยู่ด้วย
อันหลินคิดว่าเป็นเพราะตนปล่อยต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ออกมา ยั่วโมโหร่างจำแลงศูนย์กลางคนนี้ จึงคร้านจะใส่ใจนาง หลังให้ต้าไป๋กินยาบำรุงเลือดลม พักผ่อนครู่หนึ่งแล้วจึงออกเดินทางต่อ
ลอดผ่านประตู พวกเขามาถึงมิติที่มืดมนแห่งหนึ่ง
มันเป็นความมืดมิดที่ยื่นมือไปมองไม่เห็นนิ้ว ปราศจากแสงสว่าง ราวกับติดอยู่ในก้นของหุบเหวลึก ความมืดกับความเงียบสงัดกลายเป็นนิจนิรันดร์
“ยินดีต้อนรับการทดสอบอนธการ ที่นี่มีปีศาจเงาโคลนนิ่ง หามันให้เจอแล้วทำลายเสีย จึงจะผ่านการทดสอบนี้ จากสถิติของผู้ทดสอบที่ผ่านมา อัตราการรอดของการทดสอบนี้อยู่ที่ศูนย์เปอร์เซ็นต์ หากผ่านการทดสอบจะได้รับการสืบทอดปีศาจเงา จะเริ่มการทดสอบบัดนี้เลยหรือไม่” เสียงของไป๋หลิงดังขึ้น
หลังได้ยินว่าอัตราการรอดเป็นศูนย์ ในที่สุดอันหลินก็เริ่มระแวดระวังขึ้นมา
เขาสามารถผ่านการทดสอบที่มีอัตราการรอดพวกนั้นได้อย่างมั่นใจยิ่ง เพราะคนอื่นก็รอดชีวิต เขาคิดว่าตัวเองไม่ด้อยกว่าใคร ย่อมผ่านไปได้อยู่แล้ว
แต่เขาไม่ดูถูกด่านทดสอบที่สามารถทำให้คนกลุ่มหนึ่งตายยกทีมพวกนั้น เพราะเท่ากับว่าไม่รู้ถึงความอันตรายของการทดสอบ เช่นเดียวกับด่านทำลายล้างเมื่อก่อนหน้านี้ ไม่อาจคลี่คลายได้
อันหลินสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “เริ่มทดสอบได้!”
Comments