ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลกบทที่ 335 เหล่าองค์หญิงและองค์ชาย
บทที่ 335 เหล่าองค์หญิงและองค์ชาย
บทที่ 335 เหล่าองค์หญิงและองค์ชาย
กลุ่มคนตระหนักว่านอกจากเสนาบดีทั้งสองแล้ว ยังมีเหล่าขุนนางใหญ่ที่พาบุตรชายของตนเองมาเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย และในบรรดาคุณชายเหล่านี้ต่างก็เป็นคนที่ยังไม่มีคู่ครองทั้งสิ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ ข้อสงสัยก่อนหน้าของบรรดาขุนนางใหญ่ทั้งหลายจึงต้องสงสัยว่าจะใช่เรื่องจริง
ทว่าพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่มองดูอย่างนึกอิจฉา องค์หญิงเจ็ดผู้เป็นที่รักของจักรพรรดินั้น หากต้องเลือกราชบุตรเขยให้ อีกฝ่ายก็ต้องมาจากตระกูลที่ทั้งทรงอำนาจและร่ำรวย มีรากฐานมั่นคง ไม่ใช่อะไรที่ขุนนางตัวเล็กเช่นพวกเขาจะสามารถใฝ่ฝันถึง
“องค์เหนือหัวรักและหวงแหนองค์หญิงเจ็ดมาโดยตลอด ดังนั้นย่อมไม่มีทางหยิบยกเรื่องการแต่งงานขึ้นมา ไฉนตอนนี้จึงเกิดเรื่องเช่นการคัดเลือกราชบุตรเขยได้?” ใครคนหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย
หลายคนที่เหลือต่างก็นึกสงสัยในประเด็นเดียวกัน ทั้งยังพยายามครุ่นคิดหาเหตุผลของเรื่องดังกล่าว
“เป็นไปได้หรือไม่ ว่าองค์เหนือหัวอาจรู้สึกว่าองค์หญิงเจ็ดเริ่มอายุมากขึ้นแล้ว ถึงเวลาต้องออกเรือนเสียที เพราะเหตุนั้นจึงทำให้เกิดเรื่องเช่นตอนนี้ขึ้นมา” ขุนนางอีกคนหนึ่งเอ่ยข้อสันนิษฐาน
กลุ่มคนเริ่มครุ่นคิด บางทีมันอาจจะเป็นเพราะเหตุผลดังกล่าวจริง
“ไม่รู้เลยว่าคุณชายจากตระกูลไหนจะโชคดีได้รับความโปรดปรานจากองค์เหนือหัวและองค์หญิงเจ็ด” อีกคนหนึ่งเผยคำพูดริษยาออกมา
“โชคดี?” ขุนนางอีกคนที่ยืนข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา “เป็นพระสวามีขององค์หญิงเจ็ดอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ราชบุตรเขยแทบไม่ได้มีสถานะสูงส่งอะไรต่อทางราชวงศ์ นับประสาอะไรกับการเป็นพระสวามีขององค์หญิงเจ็ด องค์หญิงเจ็ดเพราะเป็นที่โปรดปรานตั้งแต่เด็กจึงมีสถานะสูงส่ง ต่อให้แต่งงานแล้ว องค์เหนือหัวย่อมไม่มีทางนิ่งเฉยเมื่อองค์หญิงเจอเรื่องเศร้าโศก แต่เลือกที่จะให้คอยอยู่เคียงข้างองค์เหนือหัวต่อไป ต่อไปราชบุตรเขยจะเป็นได้เพียงแค่เงาขององค์หญิงเจ็ด บางทีอาจมีสถานะเหนือกว่าข้ารับใช้เล็กน้อย”
คนอื่นต่างพยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน
องค์หญิงเจ็ดมีนิสัยเอาแต่ใจ ทั้งยังเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิ ต่อให้แต่งงานออกไป ผู้ใดบ้างจะกล้ากลั่นแกล้งรังแกนาง? มีแต่ต้องเชื่อฟังนางมิใช่หรือ? ด้วยนิสัยใจคอของนาง การจะทรมานราชบุตรเขยจนตายก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเสียด้วยซ้ำ
“แต่เมื่อส่งคนไปเป็นราชบุตรเขยที่อยู่ข้างกายจักรพรรดิ ตระกูลก็จะได้รับผลตอบแทนมหาศาล” ขุนนางอีกคนหนึ่งเอ่ยคำขึ้น
“แน่นอนอยู่แล้ว องค์เหนือหัวให้ความสำคัญแก่องค์หญิงเจ็ด จวนของราชบุตรเขยย่อมต้องได้รับการตอบแทนดูแลเป็นอย่างดี การเป็นราชบุตรเขยขององค์เหนือหัวก็มีข้อดีนี้อยู่”
มันคือการสังเวยเพียงหนึ่งคนเพื่อเกียรติยศของทั้งวงศ์ตระกูล ทุกคนในที่นี้ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องผิดแปลกแต่ประการใด มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เป็นการสร้างฐานอำนาจให้แก่ตระกูล เรื่องนี้จะต้องไม่ปล่อยผ่านมองข้าม การนำทายาทซึ่งยังไม่ได้แต่งงานมาเข้าร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ ก็เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว
“แต่ข้าก็นึกขึ้นมาได้ว่าด้วยนิสัยใจคอขององค์หญิงเจ็ด ต่อให้องค์เหนือหัวต้องการคัดเลือกราชบุตรเขยให้ องค์หญิงก็อาจจะไม่เห็นด้วย” ขุนนางคนหนึ่งยิ้มออกมา ราวกับเพิ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้
หลังครุ่นคิดตาม กลุ่มคนต่างพยักหน้ารับ “เป็นไปได้มาก”
องค์หญิงเจ็ดเอาแต่ใจอย่างไรทุกคนทราบดี แม้กระทั่งจักรพรรดิเอง บางครั้งก็ไม่อาจฝืนความต้องการขององค์หญิงเจ็ดได้ ดังนั้นหากนางประกาศกร้าวว่าจะไม่แต่งงาน ต่อให้คำพูดของจักรพรรดิหนักแน่นเพียงใด ก็อาจไม่มีความหมาย
หากเป็นเช่นที่ว่า ก็คงมีเรื่องให้ชม แต่ความตื่นเต้นกระหายรับชมบทละครฉากนั้น พวกเขาจำเป็นต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในใจ เนื่องจากไม่กล้าเผยความคิดต่ำช้าในใจออกมาต่อหน้าเบื้องสูง
ขณะใกล้เริ่มงานเลี้ยง จำนวนคนในโถงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ทั้งโถงเริ่มคึกคักและจอแจด้วยผู้คน
ตอนนี้ร่างของคนหลายคนปรากฏบริเวณทางเข้าโถงใหญ่ บรรดาผู้ที่เห็นต่างต้องลุกขึ้นยืนทักทาย
กลุ่มคนที่มาเยือนตอนนี้ ย่อมเป็นเหล่าองค์หญิงและองค์ชายแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิง จักรพรรดิแห่งอาณาจักรเหยียนเฟิงมีบุตรเป็นองค์ชายสิบเอ็ดคน องค์หญิงเจ็ดคน ซึ่งองค์ชายสองคนและองค์หญิงอีกหนึ่งคนนั้นได้สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ยังเป็นทารก ส่วนที่เหลือต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และขณะนี้ก็มารวมตัวกันที่โถงแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว
การมาถึงของเหล่าองค์หญิงและองค์ชาย ทำให้ผู้คนในโถงใหญ่ไม่กล้าเชื่องช้า พวกเขาต่างเข้ามาคำนับทักทายด้วยความนอบน้อม
องค์หญิงและองค์ชายเหล่านี้ต่างก็มีนิสัยแตกต่างกันไป พวกเขาตอบรับคำทักทายอย่างอบอุ่นจากผู้คนแตกต่างกัน บ้างก็ยิ้มตอบรับ บ้างก็เพียงพยักหน้ารับ บ้างก็เดินเฉย ๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง หาได้ตอบรับใดแก่เหล่าขุนนางและขันทีบราวนี่ออนไลน์
“เสด็จพ่อโปรดปรานน้องหญิงเจ็ดเกินไปแล้ว ทุกปีจะทุ่มจัดงานเลี้ยงวันเกิดใหญ่โต เมื่อเทียบกันแล้ว ของพวกเรานี่แสนจะขัดสน หรือพวกเราไม่ใช่ทายาทของเสด็จพ่อกันแน่?”
“น้องหญิงห้า ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าก็เชิญบรรดาคนมีชื่อเสียงและร่ำรวยไปงานเลี้ยงวันเกิดของตัวเองหรือ? เอาอะไรมากล่าวว่าขัดสนกัน?”
“จะยังไงก็เทียบกับงานของน้องหญิงเจ็ดไม่ได้อยู่ดี ดูบรรดาผู้คนที่มาวันนี้สิ ข้ากล้าพูดด้วยซ้ำว่าหากเสด็จพ่อทำได้คงเชิญแขกเหรื่อทั้งอาณาจักรมาที่นี่แล้ว เสด็จพ่อโปรดปรานน้องหญิงเจ็ดมากเกินไป”
“ข้าเองก็คิดว่าเสด็จพ่อทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ในตอนนี้ราชสำนักกำลังมีปัญหาทั้งภายนอกและภายใน พวกกบฏนับวันก็ยิ่งแข็งข้อมากขึ้น ภัยคุกคามจากโลกอสูรก็ใกล้เข้ามา อาณาจักรเพื่อนบ้านทั้งหลายก็ไม่ได้สงบ เสด็จพ่อจัดงานเลี้ยงวันเกิดยิ่งใหญ่ให้น้องหญิงเจ็ดแบบนี้ หากเรื่องนี้เปิดเผยสู่โลกภายนอกแล้วประชาชนจะคิดเห็นเช่นไร?”
“น้องห้ากังวลเรื่องทางโลกเกินไปแล้ว ทำไมจึงกล่าวคำที่ไม่เห็นแก่หน้าเสด็จพ่อเช่นนั้นกันเล่า? บ่นที่นี่ไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา”
“ข้ามองว่าน้องหญิงเจ็ดซึ่งเป็นที่โปรดปรานและเอ็นดู เสด็จพ่อจะยิ่งเอาใจก็พอเข้าใจได้ น้องหญิงเจ็ดนับว่าเด็กที่สุด พวกเราที่เป็นพี่น้องซึ่งแก่กว่าก็ควรเอ็นดูน้องหญิงเจ็ดให้มากกว่านี้”
องค์ชายและองค์หญิงทั้งหลาย เพราะจักรพรรดิโปรดปรานองค์หญิงเจ็ด พวกเขาแต่ละคนจึงมีความเห็นไปทางอิจฉาริษยากันแทบจะถ้วนหน้า เพียงแต่เลือกที่จะแสดงออกอย่างเฉยชา บางคนกระทั่งพยายามเอาใจรักษาสัมพันธ์อันดีกับองค์หญิงเจ็ดไว้ เพราะหวังจะใช้นางดึงความสนใจจากจักรพรรดิชรา โดยเฉพาะองค์ชายผู้คิดชิงราชบัลลังก์ พวกเขายิ่งต้องรักและเอาใจองค์หญิงเจ็ดให้มาก ส่วนความรักที่แสดงออกนั้นมาจากใจจริงหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องยากคาดเดา
จักรพรรดิรักและเอ็นดูองค์หญิงเจ็ดเป็นที่สุด องค์ชายที่คิดชิงราชบัลลังก์ย่อมไม่มีทางหาเรื่องนาง เพราะมันอาจเป็นประเด็นที่ทำให้จักรพรรดิชราโกรธเคืองได้
หลังองค์ชายและองค์หญิงทั้งหลายต่างนั่งประจำที่ องค์หญิงเจ็ดจึงเข้าห้องโถงพร้อมจักรพรรดิชราอย่างเชื่องช้า นับเป็นการเอาใจใส่ที่องค์หญิงองค์ชายผู้อื่นนึกริษยา
องค์หญิงเจ็ดนามเจ้าฉี ปีนี้อายุสิบแปด นางทั้งงดงามและน่ารักน่าชัง รูปลักษณ์ที่เห็นถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาองค์หญิง เพียงแค่สาเหตุนี้ ก็มากพอเรียกความริษยาจากองค์หญิงผู้อื่นได้แล้ว กระทั่งครุ่นคิดว่าฟ้าดินไม่มีใจเมตตา กลับมอบแต่สิ่งดีงามให้เพียงแค่องค์หญิงเจ็ด
“เสด็จพ่อ วันนี้ที่นี่มีคนมามากมาย คึกคักและครื้นเครงมากเลยเพคะ” องค์หญิงเจ็ดกวาดสายตามองผู้คนในโถง พร้อมกับบอกจักรพรรดิชราที่อยู่ข้าง ๆ
“ลูกไม่ชอบความครื้นเครงหรือ? วันเกิดไม่ใช่มีบ่อย พ่ออยากให้มันมีชีวิตชีวาเท่าที่จะทำได้ ลูกคิดว่ายังไง ชอบหรือไม่?” จักรพรรดิกล่าวคำพลางลูบผมของเจ้าฉีด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“ชอบเพคะ” องค์หญิงเจ็ดตอบรับ “เพียงแต่ลูกไม่ทราบว่าของขวัญที่พวกเขานำมาครั้งนี้จะมีอะไรน่าสนใจหรือไม่ ปีก่อนหน้านี้มีแต่ของน่าเบื่อเต็มไปหมด”
——————————
Comments