ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลกบทที่ 585 ไม่พอใจ

Now you are reading ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก Chapter บทที่ 585 ไม่พอใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 585 ไม่พอใจ

……….

บทที่ 585 ไม่พอใจ

“นายน้อยอู๋ก็มาด้วยเหรอครับ?”

“ผมกำลังมองหานายน้อยอู๋อยู่เชียว ตั้งแต่มาถึงงานผมก็หาอยู่ครึ่งค่อนวันแต่กลับไม่พบ ตอนแรกนึกว่านายน้อยอู๋คงไม่มาซะแล้ว”

“นายน้อยอู๋ หลังจบงานเลี้ยงวันนี้แล้วไปดื่มต่อด้วยกันหน่อยดีไหมครับ?”

บุคคลที่พวกเขากำลังเข้าหาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอู๋ฝาน

อู๋ฝานไม่ได้เจตนามาสาย แต่พอมาถึงครึ่งทางแล้วกลับเพิ่งรู้ตัวว่าลืมเทียบเชิญไว้ สุดท้ายจึงต้องกลับไปเอาจนเกิดความล่าช้า ผลลัพธ์คือเมื่อมาถึงก็พบว่างานเลี้ยงเริ่มขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว

“นายน้อยอู๋มาแล้ว ผมรออยู่นานเลยทีเดียวครับ” เจียงฟั่นโจวที่เป็นเจ้าภาพก้าวเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

คนที่ตามเจียงฟั่นโจวมา ย่อมเป็นเจียงอวี่ที่เผยสีหน้าเรียบเฉย

“พอดีติดเรื่องนิดหน่อยเลยมาสายน่ะครับ” อู๋ฝานตอบรับอย่างเฉยชา

“นายน้อยอู๋มาก็ดีแล้วครับ จะมาตอนไหนผมก็ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว” เจียงฟั่นโจวตอบรับ

“ช้าไปหน่อยบ้าอะไร เห็นกันอยู่ว่าจงใจ วางตัวใหญ่โตเรียกร้องความสนใจล่ะสิไม่ว่า” เจียงอวี่ที่อยู่ด้านหลังบ่นพึมพำ แม้เสียงไม่ดัง แต่เจียงฟั่นโจว อู๋ฝาน รวมถึงคนอื่นต่างก็ได้ยินกันทั้งสิ้น

เจียงฟั่นโจวถึงกับหน้าเปลี่ยนสีพร้อมมองลูกชายและเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “อวี่เอ๋อร์ ลูกพูดแบบนั้นได้ยังไง ไม่มีมารยาทเกินไปแล้ว ขออภัยนายน้อยอู๋เดี๋ยวนี้”

“ทำไมผมต้องขอโทษด้วยล่ะครับ? ผมไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย” เจียงอวี่เชิดศีรษะขึ้นสูง “ที่นี่มีหลายคนที่มีสถานะสูงกว่าเขา แต่ทุกคนก็ยังมาก่อนงานเริ่ม มีแต่เขาที่มาสาย แค่นี้ยังเห็นเจตนาไม่ชัดงั้นเหรอครับ?”

“นายน้อยเจียงมีปัญหากับผมนี่เอง ถ้าไม่ยินดีต้อนรับ ผมกลับเลยก็แล้วกัน” อู๋ฝานตอบกลับ

“รอเดี๋ยวครับ!” เจียงฟั่นโจวรีบเอ่ยขึ้น มือขยับไปตบไหล่บุตรชายอย่างรุนแรง “พูดจาอะไรออกมา รีบขอโทษเดี๋ยวนี้ ถ้ายังไม่ทำแกก็ไม่ต้องเปิดบริษัทแล้ว!”

ในใจเจียงฟั่นโจวอาจไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับคำพูดของอู๋ฝาน แต่เขาทราบดีว่าการสานสัมพันธ์ดี ๆ กับอีกฝ่ายไว้ อย่างไรมันก็ดีกว่าการยั่วยุ

เจียงอวี่มองผู้เป็นพ่อราวไม่เชื่อว่าจะโดนข่มขู่แบบนี้ แต่คนเป็นพ่อกลับไม่มีท่าทีล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นแม้จะไม่ยินดีก็ยังเอ่ยคำ “ขอโทษ” ออกมา

“นายน้อยเจียงขอโทษอย่างฝืนใจกันแบบนี้ ผมคิดว่าไม่พูดยังจะดีกว่า” อู๋ฝานตอบรับอย่างเฉยเมย

เจียงอวี่แทบถลึงตามองอู๋ฝานอย่างดุร้าย ประกายความโกรธในดวงตาเกือบจะแผ่พุ่งออกมา แต่ไม่นานก็เริ่มระงับอารมณ์เอาไว้พร้อมเอ่ยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มกว่าเมื่อครู่ “ขอโทษด้วยครับ ผมพูดผิดไปเอง”

“นายน้อยอู๋ อวี่เอ๋อร์ไม่รู้ความไปบ้าง อย่าถือสาเขาเลยนะครับ” เจียงฟั่นโจวเอ่ยบอก “ผมทราบดีว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันขึ้น อวี่เอ๋อร์เป็นฝ่ายทำไม่ดีก่อน ผมหวังว่านายน้อยอู๋จะไม่ถือสาเรื่องราวที่ไม่น่าจดจำเหล่านั้นครับ”

“พ่อ ผม…” เจียงอวี่ที่ไม่ยอมรับคิดจะเอ่ยอะไรออกมา แต่เจียงฟั่นโจวกลับถลึงตามองอย่างดุร้ายจนเขาต้องกลืนคำพูดกลับลงท้องไป

“ผมไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นหรอกครับ ตราบใดที่นายน้อยเจียงไม่มาสร้างปัญหาอะไรให้ ผมก็ไม่คิดที่จะไปรบกวนนายน้อยเจียงเช่นกัน” อู๋ฝานตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

แท้จริงแล้วอู๋ฝานแทบไม่ใส่ใจข้อพิพาทที่เคยมีกับเจียงอวี่เลยแม้แต่น้อย ทุกวันนี้สิ่งที่เขาต้องคิดมีแต่เรื่องของกิจการทั้งหลายในโลกความเป็นจริง และเรื่องที่กำลังดำเนินอยู่ทางฝั่งโลกแห่งเกม ส่วนเรื่องเล็กน้อยกับเจียงอวี่ ตนไม่เหลือเวลาไปต่อล้อต่อเถียงกับนายน้อยที่แม้แต่เดินเองยังทำไม่เป็นหรอก

“วิเศษแล้วครับ! ผมรับประกันได้เลยว่าอวี่เอ๋อร์จะไม่ไปสร้างปัญหาอะไรให้นายน้อยอู๋อย่างแน่นอน” เจียงฟั่นโจวยิ้มตอบรับ “นับจากนี้นายน้อยอู๋จะเป็นมิตรสหายที่ดีกับตระกูลเจียงของเราครับ”

อู๋ฝานมองเจียงฟั่นโจว จากนั้นก็มองเจียงอวี่ เนื่องจากเขาแทบไม่อาจเชื่อมโยงคำว่า ‘มิตรสหาย’ ที่อีกฝ่ายพูดขึ้นมาได้สักเท่าไหร่ แม้เจียงฟั่นโจวจะมีท่าทีค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายจริงใจแต่อย่างใด มิตรสหายในความหมายของอีกฝ่ายคงดีแต่กับตระกูลเจียงซะมากกว่า

ตอนที่เดินเข้ามา อู๋ฝานก็เริ่มมองหาเป้าหมายจนเจอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“พอดีผมเจอเพื่อนแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ” อู๋ฝานบอกกับพ่อลูกตระกูลเจียง

“นายน้อยอู๋ตามสบายนะครับ” เจียงฟั่นโจวยังคงเผยยิ้มแย้ม ขณะที่เจียงอวี่แทบจะบูดบึ้ง

“จื่อฉี เธอรู้จักเขาเหรอ?” พี่จ้าวเอ่ยถามขึ้นมา

เนื่องจากเธอได้ยินสวี่จื่อฉีบ่นพึมพำเมื่อครู่ แต่พอมองสำรวจอู๋ฝานให้ดีกลับพบว่าตนไม่รู้จัก ดังนั้นจึงสงสัยว่าสวี่จื่อฉีไปรู้จักกับอีกฝ่ายได้อย่างไร

“เป็นคนที่ฉันขับรถไปชนเมื่อเช้าค่ะ” สวี่จื่อฉีตอบ

“บังเอิญอะไรขนาดนี้?” พี่จ้าวมองทางอู๋ฝานที่อยู่ห่าง ๆ พลางรู้สึกประหลาดใจ

“ใช่ค่ะ ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอเขาที่นี่” สวี่จื่อฉีพยักหน้าตอบรับ

พี่จ้าวมองอู๋ฝานแต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ตอนนี้จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “คนที่มาที่นี่วันนี้ได้ มีแต่คนมีชื่อเสียงและหน้าตาในเจียงโจว ก่อนมาที่นี่ฉันก็ทำความรู้จักคนใหญ่คนโตของเจียงโจวมาแทบหมดแล้ว แต่จำไม่ได้เลยว่ามีคนคนนี้อยู่ด้วย เขาไม่ใช่คนของห้าตระกูลใหญ่ ทว่าแค่มาถึงกลับได้ความสนใจมากมาย หลายคนเดินเข้าไปทักทาย กระทั่งพ่อลูกตระกูลเจียงยังต้องเข้าไปทักทายด้วยตัวเอง เห็นได้ว่าสถานะของเขาไม่ใช่ธรรมดา …แต่เขาเป็นใครกันล่ะ?”

พี่จ้าวกำลังสับสน สวี่จื่อฉีเองก็ไม่ทราบเช่นกัน

“เอ… ฉันว่าเขากำลังเดินมาทางนี้นะ” ขณะนี้เองที่พี่จ้าวเห็นอู๋ฝานกำลังเดินมุ่งตรงมาทางนี้อย่างไม่ไขว้เขวแม้แต่น้อย

“สวัสดีครับคุณหนูสวี่จื่อฉี ผมอู๋ฝานครับ” อู๋ฝานเดินเข้ามาจนถึงตรงหน้าสวี่จื่อฉีพร้อมเผยยิ้มทักทาย

สวี่จื่อฉีไม่เหมือนคนดังตามโลกออนไลน์ หน้าตาของเธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ดังนั้นเพียงเห็นเขาก็ทราบได้ว่าเป็นเธอ

“สวัสดีค่ะนายน้อยอู๋” สวี่จื่อฉีตอบรับ

“นายน้อยอู๋รู้จักจื่อฉีด้วยเหรอคะ?” พี่จ้าวเอ่ยถามขึ้นมา

“ใครในประเทศนี้ไม่รู้จักคุณหนูสวี่กันล่ะครับ?” อู๋ฝานตอบกลับ “แต่การจะได้พบคุณหนูสวี่นี่ไม่ง่ายเลย”

ไม่ง่าย?

แต่ทำไมน้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยพอใจ?

พี่จ้าวและสวี่จื่อฉีต่างก็ได้ยินน้ำเสียงที่สื่อความหมายของอู๋ฝาน

“นายน้อยอู๋ก็พูดเกินไปค่ะ” พี่จ้าวพยายามแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่เข้าใจ

“ไม่ได้พูดเกินไปเลยครับ” อู๋ฝานไม่คิดเปลี่ยนหัวข้อ “คนของผมไปเจอคุณหนูสวี่เพื่อติดต่อเรื่องงานก่อนหน้านี้ เพราะต้องการให้คุณหนูสวี่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้พบ แต่ก็เข้าใจได้นะครับว่าคุณคือดาราดังระดับประเทศ คุณคงต้องมีเรื่องราวให้ทำมากมาย ประเด็นนี้ถือว่าเข้าใจกันได้ แต่ตอนที่พวกเราฝากสินค้าตัวอย่างทดลองเอาไว้ให้ สุดท้ายไม่มีการตอบกลับ ทำแบบนี้ไม่มากเกินไปเหรอครับ? หลังคนของทางผมพยายามติดต่อไป ทางคุณก็ให้คำตอบขอไปทีกลับมา”

อู๋ฝานค่อนข้างไม่พอใจสวี่จื่อฉีจริง ๆ เพราะเกาหานรับผิดชอบไปติดต่อด้วยตัวเอง ทั้งยังคอยติดตามเรื่องราวอยู่นาน ทว่ากลับได้รับคำตอบขอไปทีจากอีกฝ่าย มันจะดีกว่าหากว่าปฏิเสธให้ชัดเจนเป็นเรื่องราว แต่ท่าทีไม่ให้ความใส่ใจเลยของอีกฝ่าย มันทำให้เขาไม่พอใจอยู่พอสมควร

“นายน้อยอู๋ เกรงว่าอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นค่ะ” พี่จ้าวเผยยิ้มอย่างประดักประเดิดยิ่งขึ้น มันเป็นรอยยิ้มที่แทบไม่ต่างอะไรกับกำลังจะร้องไห้ออกมา

……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด