ราชินีพลิกสวรรค์ 489 การคัดเลือกของตำหนักเย่า

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 489 การคัดเลือกของตำหนักเย่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้านนอก​น้ำตก​ เงียบสงัด​

พวกเขา​มอง​เข้าไป​ใน​น้ำตก​ หญิงสาว​ที่​งดงาม​ มอง​นาง​และ​ยิ้ม​โดยไม่รู้ตัว​

หญิง​งามนั้น​งามที่​จิตใจ​หา​ใช่เพียง​ภายนอก​ หญิงสาว​ที่​งดงาม​ถึงเพียงนี้​ นอกจาก​ภายนอก​แล้ว​ ยังมี​พละกำลัง​ที่​น่าเกรงขาม​ถึงเพียงนี้​เลย​หรือ​

เวลานี้​ มีคน​จำนวน​หนึ่ง​คาดเดา​ใน​ใจ ผู้หญิง​คน​นี้​ เกรง​ว่า​จะเป็น​ม้ามืด​ของ​รุ่น​นี้​เป็นแน่​ แต่​ถ้าหากว่า​นาง​เทียบ​กับ​หันเห​ยาก​วง​ คน​ที่​แข็งแกร่ง​กับ​คน​ที่​ฝีมืออ่อน​จะเป็น​ใคร​กัน​แน่​

พละกำลัง​ที่​เจียง​หลี​แสดง​ออกมา​ เกินคาด​ที่​คน​ทั่วไป​คิด​ว่า​สตรี​คน​หนึ่ง​จะมีพละกำลัง​ถึงเพียงนี้​

การต่อสู้​ทั้ง​สามครั้ง​ นาง​สามารถ​เอาชนะ​ได้​ด้วย​หมัด​เดียว​

ถ้าเช่นนั้น​ขีดจำกัด​ของ​นาง​อยู่​ตรงไหน​กัน​แน่​

“ชนะ​แล้ว​!” ลู่​เสวียน​กระทบไหล่​เจียง​เฮ่าเล็กน้อย​ด้วย​ความตื่นเต้น​

ท่าทาง​ดู​มีความสุข​ของ​เขา​ ไม่สามารถ​บรรยาย​เป็น​คำพูด​ได้​

เจียง​เฮ่าก็​ยิ้ม​อย่าง​พึงพอใจ​ออกมา​ มอง​ยัง​ภาพ​หญิงสาว​สะท้อน​ใน​น้ำตก​ แววตา​เผย​ความอ่อนโยน​

“เจียง​หลี​เท่​ชะมัด​!” เห​วิน​เห​ริน​ชิ่งชิ่งดวงตา​เป็นประกาย​ สีหน้า​ชื่นชม​มอง​เจียง​หลี​ที่​น้ำตก​

ลู่​เสวียน​พยัก​ศีรษะ​เห็นด้วย​ “ซ้อ​เล็ก​ของ​ข้า​ เท่​มาตลอด​!”

“อ่ะ​แฮ่มๆ” เจียง​เฮ่าทนไม่ไหว​จึงส่งเสียง​ไอ​ออกมา​ เอ่ย​เสียง​เบา​แก้​คำพูด​ “ลู่​เสวียน​ ต่อ​จากนี้ไป​ไม่ต้อง​เรียก​ซ้อ​เล็ก​ เรียก​อา​หลี​ก็ได้​ จะทำให้​นาง​ด่างพร้อย​ พี่ชาย​ของ​เจ้า…พี่ชาย​ของ​เจ้าเขา​…ถึงอย่างไร​เขา​ก็​ไม่อยู่แล้ว​”

เขา​ไม่กล้า​มอง​แววตา​ที่​หม่นหมอง​ลง​ของ​ลู่​เสวียน​

คำพูด​นี้​ เขา​รู้​ว่า​มัน​ช่างโหดร้าย​ แต่​เพื่อ​เจียง​หลี​แล้ว​ เขา​เป็น​พี่ชาย​จะให้​ไม่โหดร้าย​ก็​ไม่ได้​ ไม่มีคนนอก​ก็​ไม่เป็นไร​ ทว่า​บัดนี้​เจียง​หลี​มาถึงกลุ่ม​อำนาจ​ฮวงเสิน​แล้ว​ นาง​ต้อง​เริ่มต้น​ชีวิต​ใหม่​ เขา​ไม่อยาก​ให้​น้องสาว​ของ​ตน​ถูก​เรื่องราว​ใน​อดีต​รังควาน​ไม่จบ​ไม่สิ้น​ และ​ไม่ต้องการ​ให้​คน​เข้าใจ​น้องสาว​ของ​ตน​ผิด​

“ข้า​ทราบ​แล้ว​” ลู่​เสวียน​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ แล้ว​ฝืนยิ้ม​ออกมา​ “ก็​แค่​เรียก​จน​ชิน​ พอ​นาน​ไปก็​ยาก​ที่จะ​เปลี่ยน​คำพูด​ ต่อไป​ข้า​จะระวัง​”

“อืม​” เจียง​เฮ่าพยักหน้า​ ตี​ที่​ไหล่​ของ​เขา​หนัก​ๆ

เห​วิน​เห​ริน​ชิ่งชิ่งมอง​ลู่​เสวียน​ด้วย​สีหน้าที่​สับสน​ มีคำพูด​มากมาย​ แต่​สุดท้าย​ทำได้​แค่​เพียง​ถอนหายใจ​

คน​จาก​ทั่วทุกทิศ​ล้วน​ถูก​ภาพ​ตรงหน้า​ของ​น้ำตก​ดึงดูด​ความสนใจ​ และ​กลับ​ไม่มีคน​สังเกตเห็น​พวกเขา​สามคน​

เวลานี้​ เจียง​หลี​ขึ้น​ถึงยอดเขา​หนาน​ซาน​แล้ว​ ยืน​อยู่​กับ​หันเห​ยาก​วง​และ​เจิ้งหยวน​

“พวก​เจ้าว่า​ตำหนัก​เย่า​จะรับ​คน​เข้า​หรือไม่​”

“ไม่ว่า​จะเป็น​ความสามารถ​ของ​สตรี​นาง​นี้​ หรือว่า​หันเห​ยาก​วง​ ล้วน​น่าตื่นเต้น​มาก​ คงจะ​ดึงดูด​ความสนใจ​จาก​ตำหนัก​เย่า​ได้​”

“ข้า​ก็​ไม่รู้​ว่า​ตำหนัก​เย่า​จะเลือก​ใคร​ หรือว่า​จะเลือก​ทั้งสอง​คน​”

“ใคร​จะไปรู้​ พวกเรา​ดู​ต่อไป​ก็​พอแล้ว​”

“หากว่า​มีคน​สามารถ​เข้า​ตำหนัก​เย่า​ได้​ ตำแหน่ง​ของ​ผู้​นั้น​ใน​ฮวงเสิน​นี้​ ก็​เหมือน​ได้​ขึ้น​สวรรค์​แล้ว​!”

“ใช่ ถึงเวลา​นั้น​ ความ​มุ่งหวัง​ที่​พวกเรา​ปรารถนา​ก็​จะเป็นจริง​”

“…”

บน​ยอดเขา​หนาน​ซาน​ เสียง​ลม​พัด​ดัง​ ฟู่ๆ พัด​ชายผ้า​จน​เกิด​เสียง​ ผม​ยาว​ปลิว​ว่อน​

มองเห็น​เจียง​หลี​ปรากฏตัว​ขึ้น​ หันเห​ยาก​วง​แววตา​เรียบ​นิ่ง​ เป็นประกาย​เล็กน้อย​

ยืน​อยู่​บน​ยอดเขา​ เขา​มองไม่เห็น​การต่อสู้​บน​แท่น​ประลอง​ด้านล่าง​ แต่ว่า​…ดูเหมือน​นาง​จะประลอง​เสร็จ​เร็ว​ไปสักหน่อย​

“เจียง​หลี​! เจ้าเร็ว​มาก​!” เจิ้งหยวน​เอ่ย​อย่าง​ตกใจ​

ทันใดนั้น​ ก็​หัวเราะ​ออกมา​ “ดี​เหลือเกิน​ เจ้าขึ้น​มาสิ ต่อไป​พวกเรา​ก็​เป็น​ศิษย์​สำนัก​เดียวกัน​แล้ว​” พูด​จบ​ เขา​แอบ​จ้องมอง​หันเห​ยาก​วง​

ถึงแม้เขา​ขึ้น​มาแล้ว​ แต่กลับ​ไม่กล้า​สนทนา​กับ​หันเห​ยาก​วง​ เพียงแค่​ยืน​อยู่​อย่าง​เขินอาย​ เมื่อ​เจียง​หลี​ขึ้น​มา ทำให้​รู้สึก​ว่า​ในที่สุด​บรรยากาศ​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ จึงกล้า​สนทนา​กัน​

“ก็​ไม่นะ​” เจียง​หลี​เอ่ย​อย่าง​ถ่อมตน​

“ศิษย์​ทั้ง​สามท่าน​ ยืน​รอ​เรียง​กัน​ไว้​ รอ​การคัดเลือก​จาก​ทั้ง​สามตำหนัก​” น้ำเสียง​เข้ม​ทั้ง​เยือกเย็น​ดัง​มาจาก​บน​ฟ้า

ทำให้​เจิ้งหยวน​ที่​ยัง​ไม่ทัน​จะได้​พูด​ออกมา​ ก็​ต้อง​เก็บ​คำพูด​นั้น​เข้าไป​ ยืน​รอ​อย่าง​ว่าง่าย​

หันเห​ยาก​วง​ยังคง​ไม่ขยับ​ ยืน​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ตรงกลาง​

เจิ้งหยวน​ยืน​อยู่​ทางซ้าย​ของ​เขา​ ก็​เหลือ​เพียง​พื้นที่​ทางขวา​

เจียง​หลี​ก็​ไม่ถือสา​ จึงเดิน​ตรง​ไปยืน​ทางขวา​ข้างๆ​ หันเห​ยาก​วง​ รอคอย​อย่าง​เงียบๆ​

ผู้เข้าร่วม​ทดสอบ​จำนวน​หนึ่งร้อย​คน​ เหลือ​เพียง​พวกเขา​สามคน​ยืน​อยู่​ที่นี่​ เป็นที่​ประจักษ์​ว่า​ใน​ฮวงเสิน​ สามตำหนัก​นอกจาก​ตำหนัก​เฉิน​ การคัดเลือก​คน​มีความสามารถ​นั้น​เข้มงวด​ถึงเพียงใด​

“หาก​มีตำหนัก​ไหน​หมายปอง​พวก​เจ้า คิด​ว่า​พวก​เจ้าเหมาะสม​ที่จะ​เข้าร่วม​ตำหนัก​นั้น​ ก็​จะมีแสงไฟส่อง​ลงมา​ มอบ​ชุด​ศิษย์​ให้​กับ​พวก​เจ้า คลี่​ชุด​ศิษย์​ออก​ พวก​เจ้าก็​เป็น​ศิษย์​ของ​ตำหนัก​นั้น​นับแต่​บัดนั้น​เป็นต้นไป​ แล้วก็​เป็น​ศิษย์​ของ​ฮวงเสิน​ข้า​ หาก​วันหน้า​ทำผิด​กฎ​สำนัก​ ชุด​ศิษย์​ของ​พวก​เจ้าก็​จะถูก​ปลดออก​ และ​ถูก​ขับ​ออกจาก​ฮวงเสิน​ เข้าใจ​แล้ว​หรือไม่​” เสียง​นั้น​เอ่ย​ขึ้น​

“เข้าใจ​แล้ว​!” ใน​สามคน​นี้​ มีเพียง​เจิ้งหยวน​ที่​ตอบ​ออกมา​เสียงดัง​คนเดียว​

เมื่อ​เขา​ตะโกน​ออกมา​แล้ว​ จึงพบ​ว่า​มีเพียง​เสียง​ของ​ตน​ เขา​หน้าแดง​ขึ้น​มาอย่าง​ห้าม​ไม่ได้​ เอา​มือ​ปิดปากเงียบ​

บน​ยอดเขา​หนาน​ซาน​ ทั้ง​สามคน​กำลัง​รอคอย​อย่าง​เงียบๆ​ ด้านนอก​น้ำตก​ของ​เมือง​นฮวงเสิน​ มีคน​จำนวนมาก​กำลัง​รอคอย​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​

ทันใดนั้น​ แสงไฟส่อง​รอบ​ศีรษะ​เจิ้งหยวน​ขึ้น​มา แสงดา​วสี​ฟ้ามัว​ มีแสงระยิบระยับ​เป็น​จุดประกาย​จาก​ดวงดาว​ จาก​วงล้อม​แสงพุ่ง​ลงมา​ปกคลุม​บน​ตัว​ของ​เจิ้งหยวน​

แสงที่​ส่อง​มากะทันหัน​ ทำให้​เจิ้งหยวน​เงยหน้า​อย่าง​ดีใจ​ มอง​ยัง​วง​แสงบน​ศีรษะ​ เห็น​ชุด​ศิษย์​สีขาวสะอาด​ปลิว​ลงมา​จาก​ใน​วง​แสง ลงมา​ตรง​หน้าอก​ของ​เขา​ เป็น​ชุด​ที่​ประดับ​ด้วย​เส้น​สีทอง​และ​เงิน​ ปัก​รูป​แสงดาว​

“ตำหนัก​ซิง”

คนภายนอก​น้ำตก​ ใน​ใจต่าง​กระจ่าง​

ผลลัพธ์​นี้​ กลับ​ไม่ทำให้​คนภายนอก​รู้สึก​แปลกใจ​ ดู​จาก​คุณสมบัติ​ของ​เจิ้งหยวน​ ได้รับ​คัดเลือก​เข้า​ตำหนัก​ซิงถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​สมเหตุสมผล​

ชุด​ตำหนัก​ซิงตก​ลงมา​ เจิ้งหยวน​ยื่นมือ​ทั้งสอง​ออกมา​รับ​ ถือ​ไว้​ใน​มือ​อย่าง​ระมัดระวัง​ เขา​หัวเราะ​ขึ้น​มาอย่าง​ตื่นเต้น​ดีใจ​ “ฮ่าๆ…ต่อจากนี้​ข้า​ก็​เป็น​ศิษย์​ตำหนัก​ซิงแห่ง​ฮวงเสิน​แล้ว​!”

วง​แสงเล็ก​ลง​จน​กลายเป็น​จุด​แล้ว​หาย​ไป แสงที่​ฉาย​บน​ตัว​ของ​เจิ้งหยวน​ก็​หาย​ไปเช่นกัน​ สิ่งเดียว​ที่​เหลืออยู่​ก็​คือ​ชุด​ศิษย์​ตำหนัก​ซิงใน​มือ​ของ​เขา​

“ยินดี​ที่​ตำหนัก​ซิงมีศิษย์​ใหม่​เพิ่มขึ้น​” น้ำเสียง​เข้ม​ดังก้อง​ยอดเขา​หนาน​ซาน​

เจียง​หลี​มอง​เจิ้งหยวน​ที่​มีท่าทาง​ยินดี​ มุมปาก​ยกขึ้น​ยิ้ม​ ยินดี​กับ​เขา​

ใน​ตอนนั้น​บน​ศีรษะ​ของ​เจียง​หลี​กับ​หันเห​ยาก​วง​ก็​ปรากฏ​แสงสีเงิน​ขึ้น​มา ทว่า​กลับ​กลับ​ไม่มีแสงส่อง​ลงมา​

“ตำหนัก​เย่ว์​มาแล้ว​” ภายนอก​น้ำตก​มีคน​ร้อง​ออกมา​เบา​ๆ

วง​แสงนั้น​อยู่​บน​ฟ้าแบ่ง​เป็น​สอง​ทาง​ แล้ว​ส่อง​ไปบน​ศีรษะ​ของ​เจียง​หลี​กับ​หันเห​ยาก​วง​

เจียง​หลี​เงย​ศีรษะ​ขึ้น​ มอง​ยัง​วงล้อม​แสงสีเงิน​นั้น​ สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​ ไม่มีความยินดี​ แล้วก็​ไม่ได้​ผิดหวัง​ ทว่า​ในขณะเดียวกัน​หันเห​ยาก​วง​ก็​เงย​ศีรษะ​ขึ้น​ กลับ​มอง​ที่​วง​แสงสีเงิน​แล้ว​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​

“ตำหนัก​เย่า​ก็​ยังคง​สูงส่งเช่น​เดิม​ ขนาด​เทียน​เจียว​ยัง​ไม่สามารถ​ดึง​ความสนใจ​ออกมา​ได้​ ไม่เข้าตา​เลย​หรือ​”

“ข้า​คิด​ว่า​ ครั้งนี้​ตำหนัก​เย่า​ต้อง​ปรากฏตัว​ ไม่คิด​ว่า​ยัง​นิ่งเงียบ​อยู่​เช่นนี้​”

“คน​ของ​ตำหนัก​เย่า​ ไม่ใช่ว่า​ลืม​ไปแล้ว​ว่า​วันนี้​มีการ​ทดสอบ​หรอก​นะ​”

“ที่จริง​แล้ว​ ตำหนัก​เย่า​ไม่ออกมา​ก็​ถูกต้อง​แล้ว​ ถึงอย่างไร​นี่​ก็​หลาย​ร้อย​ปีแล้ว​”

“…”

ผู้คน​ที่​ห้อมล้อม​อยู่​ที่​นอก​น้ำตก​ของ​เมือง​ฮวงเสิง​ แสดง​ความผิดหวัง​ออกมา​ทาง​คำพูด​อย่าง​เปิดเผย​

บน​ยอดเขา​หนาน​ซาน​ วง​แสงสีเงิน​ทั้งสอง​ปกคลุม​บน​ศีรษะ​ของ​เจียง​หลี​กับ​หันเห​ยาก​วง​แล้ว​ ประกาย​สุกใส​ของ​สีเงิน​ค่อยๆ​ ส่อง​ลงมา​

สีหน้า​แววตา​ของ​หันเห​ยาก​วง​ฝืน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ สุดท้าย​ก็​ยินยอม​ ใน​ทันใดนั้น​บน​ฟ้าก็​ปรากฏ​วง​แสงสีทอง​เจิดจ้า​ขึ้น​ แข็งแกร่ง​ดุดัน​ส่อง​ลงมา​แทรก​วง​แสงสีเงิน​ปกคลุม​บน​ศีรษะ​ของ​เจียง​หลี​…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด