รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 1076 มองตาแล้วรู้ใจ พวกเราคือคนกันเองทั้งนั้น!

Now you are reading รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] Chapter บทที่ 1076 มองตาแล้วรู้ใจ พวกเราคือคนกันเองทั้งนั้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1076 มองตาแล้วรู้ใจ พวกเราคือคนกันเองทั้งนั้น!

……….

บทที่ 1076 มองตาแล้วรู้ใจ พวกเราคือคนกันเองทั้งนั้น!

จ้าวเทียนตวาด เสียงของเขากึกก้องดุจอสนีบาต ห้วงมิติสั่นสะท้านเป็นเสียงดังกัมปนาท

เขาบันดานโทสะ ไม่คิดเกลี้ยกล่อมอีก เตรียมใช้ไม้แข็ง

“พวกเจ้าไปเถิด พาตัวมู่อวี่กลับมาให้ข้าก่อน!”

เขาออกคำสั่งลงไปทันที ด้านทางออกของเส้นทางดินแดนใหม่มียอดฝีมือดินแดนใหม่รวมตัวกันไม่น้อยแล้ว เขาคิดว่าจับกุมมู่อวี่ได้ไม่เป็นปัญหา

นอกจากนี้ เขายังชูดาบใหญ่เล่มหนึ่งขึ้นมา นี่คือดาบสวรรค์ที่เขาตั้งใจหล่อหลอม ตัดสะบั้นได้ทุกสิ่ง เป็นอาวุธสังหารอย่างสิ้นเชิง

ไม่เพียงเท่านั้น เขายังขอให้นายเหนือหัวหว่างเซิงเตรียมพร้อมลงมือทุกเมื่อ

“ได้!”

นายเหนือหัวหว่างเซิงพยักหน้า เรียกเจดีย์วิจิตรเก้าชั้นออกมาองค์หนึ่ง

เจดีย์วิจิตรเก้าชั้นองค์นี้ถูกเขาตัดสะบั้นจากบ่วงกรรมทั้งปวง เฉกเช่นดาบสวรรค์ในมือจ้าวเทียน ถูกหล่อหลอมออกมาอย่างบรรจงเมื่อคราวอยู่ที่ดินแดนเก่า

พวกเขาไม่กล้าจุติไปยังดินแดนเก่าเพราะกลัวว่าการจุติของพวกเขาจะส่งผลให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดบางอย่าง

เพราะอย่างนี้พวกเขาถึงตั้งใจรังสรรค์ดาบสวรรค์และเจดีย์วิจิตรเก้าชั้นออกมาและตัดสะบั้นทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถส่งดาบสวรรค์และเจดีย์วิจิตรเก้าชั้นเข้าไปในดินแดนเก่าเพื่อโจมตี

แน่นอนว่าที่พวกเขาทั้งสองรอบคอบปานนี้ไม่ใช่เพราะมู่อวี่

มู่อวี่เพิ่งคืนชีพกลับมา พลังย่อมมีจำกัด ไม่ต้องให้พวกเขาลงมือมู่อวี่ก็ต้องถูกปราบปรามอยู่ดี

ที่พวกเขารอบคอบเพียงนี้เพื่อป้องกันการจู่โจมยับยั้งกะทันหันของ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น

มู่อวี่สนิทสนมกับผู้นั้นเกินไป โดยเฉพาะบัดนี้นางสงสัยขึ้นมาแล้ว ยิ่งปล่อยให้นางอยู่ที่ดินแดนเก่าต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ

เพราะอย่างนั้น ต่อให้พวกเขาต้องปะทะกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นก็ต้องพามู่อวี่ไปให้ได้

ต้องรู้ว่าก่อนนี้พวกเขาไม่เคยคิดปะทะกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นี้เลย อย่างน้อยก็ยังไม่คิดปะทะกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นี้ด้วยตนเองในยามนี้

พวกเขาส่งยอดฝีมือดินแดนใหม่ไปจำนวนมากก็เพื่อบีบบังคับให้ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นปรากฏตัว ให้พวกเขาได้รู้เรื่องของ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นบ้างก็เท่านั้น

เพราะ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นี้ต้องแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน หากต้องต่อกรกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น พวกเขาต้องวางแผนให้รัดกุมเสียก่อน

ทว่าบัดนี้สถานการณ์เร่งด่วน พวกเขาไม่มีแก่จิตแก่ใจยึกยัก มู่อวี่ต้องถูกพาตัวออกจากดินแดนเก่าให้เร็วที่สุด!

จ้าวเทียน นายเหนือหัวหว่างเซิง หย่งโจ้วคือปรมาจารย์ทั้งสามที่คอยพิทักษ์อยู่ดินแดนใหม่ ทว่าที่นี่มีเพียงจ้าวเทียนและนายเหนือหัวหว่างเซิง หย่งโจ้วไม่อยู่

หย่งโจ้วกำลังดำเนินแผนการจัดการซีและเต่าชรา

เขาดำเนินการล่อซีและเต่าชราออกมาด้วยตนเอง

ขณะเดียวกัน ด้านเส้นทางดินแดนใหม่ก็มียอดฝีมือดินแดนใหม่มากมายได้รับคำสั่งจากจ้าวเทียน พวกเขาทุกคนเคลื่อนไหวบุกออกจากเส้นทางดินแดนใหม่ทันที

อวกาศส่งเสียงครืนคราน ดวงดารานับไม่ถ้วนหม่นหมองสิ้นแสง พวกเขายืนตระหง่านอยู่ตรงนั้นกว่าร้อยตน แรงกดดันสยดสยองไร้ขอบเขตโถมทับออกไปทั่วจักรวาล ราวกับวันโลกาวินาศก็ไม่ปาน!

พวกเขาทรงพลังเกินไป แต่ละคนล้วนอยู่เหนือขอบเขตคลุมฟ้า ดินแดนใหม่นั้นวิเศษสูงส่ง มีกำลังรบระดับสูงอยู่มหาศาล

นี่ยังเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่พลังด่างพร้อยปะทุอยู่ในดินแดนใหม่แล้ว

หากความด่างพร้อยไม่ได้ปะทุในดินแดนใหม่ จะมีสิ่งมีชีวิตระดับคลุมฟ้ามากกว่านี้ หรืออาจมีสิ่งมีชีวิตระดับแสวงวิถีซึ่งเหนือกว่าระดับคลุมฟ้าปรากฏออกมาจำนวนมาก

ท่านผู้นั้นน่าทึ่งอย่างแท้จริง ฝีมือที่มีนั้นเกินจินตนาการ ดินแดนใหม่ที่สร้างออกมามหัศจรรย์ไร้ใดเปรียบ เหมาะแก่การฝึกตนอย่างยิ่งยวด

“บังอาจนัก!”

หลังมู่อวี่เห็นบรรดายอดฝีมือดินแดนใหม่ก็ตวาดเสียงเย็น “พวกเจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรอยู่ ลงมือกับปรมาจารย์ พวกเจ้ามีสักกี่ชีวิตกัน?!”

นางองอาจเปี่ยมบารมี เสียงตวาดนี้ทำเอายอดฝีมือดินแดนใหม่เหล่านั้นตัวสั่นสะท้านกันหมดอย่างอดไม่ได้

“ท่านใช่ปรมาจารย์ที่ไหน! เพิ่งคืนชีพกลับมาแท้ ๆ ยังอีกไกลกว่าจะได้พลังระดับปรมาจารย์คืน!”

จ้าวเทียนตะโกนต่อว่า ทลายความองอาจที่มู่อวี่บ่มขึ้น สั่งให้เหล่ายอดฝีมือดินแดนใหม่ลงมือ

ใช่แล้ว มู่อวี่คือปรมาจารย์ดินแดนใหม่จริง ๆ

ทว่าน่าเสียดาย ยามมู่อวี่อยู่ที่ดินแดนใหม่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับปัญหาของดินแดนใหม่เท่าใด มิหนำซ้ำนางยังตายเร็ว จึงมีบารมีในดินแดนใหม่ไม่เท่าจ้าวเทียน

“ฆ่า!”

ยอดฝีมือดินแดนใหม่นับร้อยลงมือพร้อมเพรียง บุกโจมตีมู่อวี่ตามคำสั่งจ้าวเทียน

ชั่วขณะนั้น ทั่วทั้งอวกาศระเบิดระเบ้อ ปริภูมิเวลายุ่งเหยิงอลเวง พลังที่กำลังรบระดับคลุมฟ้านับร้อยปล่อยออกมาน่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างแท้จริง!

มู่อวี่หาได้เกรงกลัวไม่ ก้าวเท้าออกไปยังนอกอาณาจักร เป็นฝ่ายบุกไปหายอดฝีมือดินแดนใหม่ระดับคลุมฟ้านับร้อยเสียเอง

“พวกเราต้องช่วยหรือไม่”

สือเฟิงถาม กำกระบี่วชิระที่หล่อหลอมขึ้นจากแหวนเพชรในมือแน่น พร้อมลงมือต่อสู้ทุกเมื่อ

“รอก่อน!”

เมิ่งจีเอ่ยเสียงเข้ม

ดูจากตอนนี้คล้ายว่ามู่อวี่อยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเขาก็จริง ทว่าใต้หล้านี้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม เขาไม่ได้เชื่อใจมู่อวี่เต็มร้อย กลัวว่านางแสร้งทำเป็น แต่ที่จริงยังคงเป็นพรรคพวกของจ้าวเทียนและปรมาจารย์ดินแดนใหม่ตนอื่น

เขาตัดสินใจรอดูอีกสักพัก

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงระเบิดดังไม่ขาดหู ทั่วทั้งจักรวาลระเบิดแหลกลาญ มู่อวี่ในอาภรณ์สีขาวดุจหิมะบุกไปตามลำพังด้วยท่วงท่าห้าวหาญ เปี่ยมไปด้วยความไร้เทียมทาน!

มือขาวนวลเนียนของนางโบกไปมา ทันใดนั้นพลังอันสยดสยองปะทุ ยอดฝีมือดินแดนใหม่ระดับคลุมฟ้าวรรณะสองหลายตนกระเด็นออกไปกลายเป็นหมอกเลือด!

นางยกมือเรียกกระบี่ยาวเล่มหนึ่งออกมา สำแดงเคล็ดกระบี่สะท้านโลกันตร์ แสงกระบี่นับล้านพวยพุ่ง ยอดฝีมือดินแดนใหม่ถูกฟาดฟันนับคณา บาดเจ็บสาหัส!

“ท่านฟื้นตัวไวขนาดนี้ได้อย่างไร!”

ในห้วงอากาศ เสียงเหลือเชื่อของจ้าวเทียนดังออกมา

พลังที่มู่อวี่สำแดงออกมาเหนือความคาดหมายของเขาไปไกล!

ลองคำนวณเวลาดูแล้ว มู่อวี่เพิ่งคืนชีพได้ไม่นาน ย่อมฟื้นพลังได้ไม่มาก ยอดฝีมือระดับคลุมฟ้านับร้อยต้องกำราบมู่อวี่ได้ง่ายดายถึงจะถูก

ทว่ามู่อวี่กลังทรงพลังยิ่งยวด ยอดฝีมือระดับคลุมฟ้านับร้อยแตะต้องนางไม่ได้เลย!

เห็นได้ชัดว่ามู่อวี่ฟื้นตัวได้ว่องไว ไวกว่าที่เขาคิดไว้มาก!

“ท่านได้พบ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นแล้วหรือ?”

เขาเอ่ยเสียงเย็น รู้สึกว่ามู่อวี่น่าจะได้พบ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นแล้ว มิฉะนั้นในสถานการณ์ปกตินางไม่ควรฟื้นตัวเร็วปานนี้

“‘คนท้องถิ่น’ อะไร ข้าไม่รู้ว่าท่านพูดถึงสิ่งใด”

สีหน้ามู่อวี่ราบเรียบ ไม่รู้จริง ๆ ว่า ‘คนท้องถิ่น’ ที่จ้าวเทียนเอ่ยถึงคือผู้ใด คุณชายหลี่คนนั้นหรือ

ม่านแสงจรัสอาบไล้ ในบรรดายอดฝีมือระดับคลุมฟ้านับร้อยมีระดับคลุมฟ้าวรรณะห้าอยู่ ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่อวี่ก็ยังไม่ไหว

นางสำแดงสุดยอดวิชาสะท้านโลกันตร์ได้ง่ายดาย เสียงคำรามของอสูรพิฆาตดังสะท้อน ทะเลเพลิงไร้ที่สิ้นสุดซัดสาด อสนีบาตส่งเสียงกัมปนาท ยอดฝีมือดินแดนใหม่มหาศาลล้มลงตาม ๆ กัน สูญเสียพลังต่อสู้

ผ่านไปไม่นาน ยอดฝีมือดินแดนใหม่นับร้อยถูกนางเล่นงานจนหมด นางยืนตระหง่านในอวกาศเพียงผู้เดียว เผยให้เห็นถึงความไร้เทียมทาน!

ดินแดนใหม่

ดวงตาของจ้าวเทียนมีเปลวเพลิงลุกโชน บัดนี้ไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว เห็นชัด ๆ ว่ามู่อวี่เคยพบปะกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นแล้ว มิฉะนั้นมู่อวี่ไม่มีทางทรงพลังเพียงนี้!

“มู่อวี่บังเอิญโผล่มาอยู่ที่เส้นทางหรือ”

เขาเอ่ยเสียงเย็น เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ นางได้เจอกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น ซ้ำยังฟื้นพลังอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจาก ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น! ที่นางปรากฏตัวยังเส้นทางต้องถูก ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นส่งมาแน่นอน!

“สมควรตายนัก น่ากลัวว่าที่มู่อวี่ไม่เชื่อพวกเราก็เกี่ยวข้องกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นเช่นกัน!”

นายเหนือหัวหว่างเซิงหน้าตาอึมครึม

เขารู้สึกเช่นกันว่ามู่อวี่ได้พบกับ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น บัดนี้กลายเป็นนักสู้ของ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นและช่วย ‘คนท้องถิ่น’ ต่อกรกับพวกเขา

เพราะเหตุนี้มู่อวี่ถึงไม่ยอมกลับดินแดนใหม่

“ต้องลงมือหรือไม่”

เขาถามจ้าวเทียน เตรียมใช้เจดีย์วิจิตรเก้าชั้น

“รออีกสักพักแล้วค่อยลงมือ!”

จ้าวเทียนเอ่ยเสียงเข้ม “พลังของมู่อวี่ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ซ้ำ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นยังไม่ปรากฏตัว พวกเราส่งดาบสวรรค์และเจดีย์วิจิตรเก้าชั้นก็ใช่ว่าจะเรียบร้อย”

เขาเอ่ยต่อ “รอให้ยอดฝีมือดินแดนใหม่ที่เหลือรวมตัวเสร็จสิ้นแล้วค่อยว่ากัน ถึงคราวนั้นพวกเขาค่อยโจมตีสนับสนุนยอดฝีมือดินแดนใหม่ที่เหลือ!”

ยอดฝีมือดินแดนใหม่ที่เหลือทรงพลังยิ่งกว่า มีกำลังรบระดับคลุมฟ้าวรรณะเก้าอยู่ ซ้ำยังมีกำลังรบระดับครึ่งก้าวแสวงวิถี รอจนยอดฝีมือเหล่านี้ถึงแล้วพวกเขาค่อยลงมือเป็นการปลอดภัยกว่า

“ระยะเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ มู่อวี่ไม่มีทางคืนกลับสู่ระดับสูงสุด อย่างมากก็แค่ใกล้ถึงขอบเขตแสวงวิถีเท่านั้น ถึงเวลานั้นปล่อยให้ยอดฝีมือดินแดนใหม่ที่เหลือจัดการมู่อวี่ พวกเราจัดการ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น!”

จ้าวเทียนกล่าว “สำคัญที่สุดคือ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้น ขอเพียงพวกเรายื้อ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นไว้ได้และพาตัวมู่อวี่มาก็พอ!”

“ได้…หรือ”

นายเหนือหัวหว่างเซิงเอ่ย “ปัจจัยเหนือการควบคุมมีมากเกินไป หากดาบสวรรค์และเจดีย์ยื้อ ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นไม่ได้ หากมู่อวี่ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่พวกเราคาดคิด มีกำลังรบเหนือขอบเขตแสวงวิถีแล้ว จนยอดฝีมือดินแดนใหม่ที่เหลือกำราบมู่อวี่ไม่ลงจะทำอย่างไร”

เขากล่าวต่อ “ใช่ว่าเรื่องเช่นนี้เป็นไปไม่ได้ พวกเราจำต้องคำนึงไว้ด้วย ถึงอย่างไร ‘คนท้องถิ่น’ ผู้นั้นก็ผิดมนุษย์อย่างแท้จริง ไม่อาจคาดการณ์ด้วยหลักการทั่วไป”

จ้าวเทียนไม่ได้เอ่ยวาจา เขามีสีหน้าขบคิด ที่นายเหนือหัวหว่างเซิงกล่าวมาไม่ผิด ฝ่ายพวกเขายังมั่นคงไม่พอ หากมีหนึ่งในเหตุการณ์ที่นายเหนือหัวหว่างเซิงว่ามาเกิดขึ้น พวกเขาก็หมดโอกาสพาตัวมู่อวี่กลับมา

“ข้าจะติดต่อปรมาจารย์ท่านอื่นให้พวกเขาส่งของวิเศษมา จำต้องทำทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุด!”

สุดท้ายจ้าวเทียนก็เอ่ยขึ้น

เขารีบติดต่อปรมาจารย์ท่านอื่นทันที เล่าเรื่องมู่อวี่ให้ฟังและขอให้ส่งของวิเศษเข้ามา

“ได้!”

“จะส่งไปเดี๋ยวนี้!”

ปรมาจารย์ดินแดนใหม่ตนอื่น ๆ ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องมู่อวี่อย่างยิ่ง พวกเขาต่างรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้นางอยู่ที่ดินแดนเก่านานจนข้องแวะกับดินแดนเก่าไปมากกว่านี้

หาไม่แล้ว นี่ง่ายต่อการเกิดปัญหาใหญ่ในดินแดนเก่าจริง ๆ!

พวกเขาไม่ได้ลังเล รีบสกัดกลั่นยอดศาสตราเพื่อตัดบ่วงกรรมให้สะบั้น

นี่คือยอดศาสตราที่ต้องส่งเข้าไปในดินแดนเก่า ให้ติดบ่วงกรรมของพวกเขาไปด้วยไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นคงเกิดเรื่องได้ง่าย

อาณาจักรหั่วซาง

มู่อวี่กลับมาจากนอกอาณาจักร นางไม่ได้เข่นฆ่ายอดฝีมือดินแดนใหม่เหล่านี้ เพียงแต่กำราบพวกเขาไว้

“พวกเจ้าถูกตบตา ความผิดจึงไม่ใช่ของพวกเจ้า ข้าเองก็ไม่โทษพวกเจ้า วันหน้าหลังความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย พวกเจ้าจักตาสว่างได้เอง”

นางเอ่ยเสียงเบา

ยอดฝีมือดินแดนใหม่เหล่านี้แค่ถูกปรมาจารย์ดินแดนใหม่ล้างสมองเท่านั้น ความผิดไม่ถึงตาย

หากวันหน้าความจริงเปิดเผยแล้วยอดฝีมือดินแดนใหม่เหล่านี้ยังไม่ได้สติ ดื้อด้านไม่ยอมฟัง ถึงเวลานั้นคงต้องฆ่าแล้วจริง ๆ

“สุดยอด!”

เวลานั้นสุนัขดำก้าวเข้ามา ดวงตาจ้องมองมู่อวี่พลางถาม “ขอถามสักประโยค เจ้าได้ข้องแวะกับผู้ใดในดินแดนเก่าหรือไม่”

มันรู้สึกว่ามู่อวี่น่าจะได้พบคุณชายแล้ว

มิฉะนั้น นางไม่น่าแข็งแกร่งได้เพียงนี้

มันเคยเจอกับปรมาจารย์ดินแดนใหม่ที่ตายไปแล้วในดินแดนเก่า รู้ดีว่าหลังปรมาจารย์ดินแดนใหม่เหล่านี้คืนชีพลังจักยังไม่กลืนคืนจุดสูงสุด จำต้องฟื้นคืนทีละน้อย

มู่อวี่สามารถฟื้นพลังจนแกร่งกล้าปานนี้ได้ในเวลาอันสั้น ทำให้มันก็คิดเหมือนจ้าวเทียนว่ามู่อวี่อาจมีเหตุผลอื่นที่ฟื้นพลังจนถึงขั้นนี้ได้

หากจะมีสาเหตุอื่นในดินแดนเก่า มันนึกถึงคุณชายคนแรก

“ใช่”

มู่อวี่พยักหน้า ไม่ได้ปิดบัง “ข้าเคยพานพบกับบุคคลสูงส่งท่านหนึ่ง ทว่าขออภัย ข้าไม่อาจกล่าวถึงเรื่องของบุคคลสูงส่งท่านนั้นได้โดยละเอียด”

นางไม่รู้ว่าหลี่จิ่วเต้าคิดทำการใดในดินแดนเก่า และไม่กล้าคาดเดาเรื่องของเขาสุ่มสี่สุ่มห้า

“คุณชายหรือ”

สุนัขดำยิ้มออกมาทันที

สีหน้ามู่อวี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย สรรพนามคุณชายเป็นคำที่ผู้ติดตามหลี่จิ่วเต้าใช้เรียกเขา

สุนัขดำกลับเอ่ยเรียก ‘คุณชาย’ ออกมาทันที นับว่าเหนือความคาดหมายของนาง

เดี๋ยวก่อน!

ในเวลานั้นเอง นัยน์ตาของนางทอประกายประหลาด ก่อนจะพาดผ่านยอดศาสตราในมือสุนัขดำและพวกจักรพรรดินีไม่หยุด!

ยอดศาสตราเหล่านี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับนาง ประกายประหลาดในแววตาของนางยิ่งทวีความเจิดจ้า

“พวกเจ้าคือผู้ติดตามคุณชายหรือ”

นางถามอย่างอดไม่ได้

ยอดศาสตราเหล่านี้มีจังหวะแห่งเต๋าเช่นเดียวกันไหลเวียน คล้ายกับจังหวะแห่งเต๋าของยอดศาสตราในมือหลี่จิ่วเต้าอย่างยิ่ง

เมื่อลองไตร่ตรองดู นอกจากผู้ติดตามหลี่จิ่วเต้าไฉนเลยจะมีสิ่งมีชีวิตดินแดนเก่าน่าพรั่นพรึงที่กล้าหยุดยั้งยอดฝีมือดินแดนใหม่อยู่ที่นี่เช่นนี้ได้อีก?

“มองตาแล้วรู้ใจ เป็นอย่างที่เจ้าคิด พวกเราล้วนเป็นผู้ติดตามคุณชาย”

สุนัขดำคลี่ยิ้มขณะเอ่ย

ทว่าเมิ่งจีข้างกายยังคงระมัดระวัง ลอบติดต่อลั่วสุ่ยทันทีว่ามู่อวี่เคยพบคุณชายจริงหรือไม่

ไม่นานนักลั่วสุ่ยก็ให้คำตอบยืนยัน เล่าเรื่องที่มู่อวี่ได้พบคุณชายให้เมิ่งจีฟังอย่างละเอียด

จนบัดนี้ เมิ่งจีถึงวางใจได้อย่างสิ้นเชิง ไม่เหลือความกังวลใดอีก

ในเมื่อเคยพบคุณชายทั้งยังได้รับน้ำชาจากคุณชาย เช่นนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามู่อวี่ควรค่าแก่การเชื่อใจอย่างยิ่ง

ผู้ที่ไม่ได้รับความเชื่อใจจากคุณชาย คุณชายไม่มีทางประทานชาให้

“คนกันเอง!”

เมิ่งจีเอ่ยพลางยิ้ม “ขออภัย เมื่อครู่ข้ายังกังขาในตัวเจ้า สงสัยว่าทุกอย่างที่เจ้าทำเป็นเพียงการแสดงเพื่อตบตาพวกเรา”

เวลานั้น มู่อวี่คล้ายตระหนักถึงบางอย่าง

‘นี่คือเหตุผลที่เขาประทานชาวิเศษแก่ข้าหรือ’

นางคิดในใจ ‘หลี่จิ่วเต้าประทานชาวิเศษช่วยให้ข้าคืนกลับสู่ระดับสูงสุด ทั้งยังช่วยยกระดับพลังข้าขึ้นอีกขั้นก็เพื่อให้ข้าใช้ต่อกรกับบรรดาปรมาจารย์ดินแดนใหม่อย่างจ้าวเทียนหรือ’

นางรู้สึกราง ๆ ว่านี่อาจคือความจริง

‘เขากำลัง…ปกป้องดินแดนเก่าหรือ’

ดวงตาของนางลุกวาว รู้สึกว่าหลี่จิ่วเต้าไม่ได้เป็นกลาง

ดินแดนเก่าไม่ดับสูญหมายความว่าร่องรอยของพี่ชายจะไม่มีวันถูกลบล้าง และหมายความว่าพี่ชายมีโอกาสคืนชีพ

ก่อนหน้านี้นางคงคิดผิดไป

หลี่จิ่วเต้าผู้นี้เหมือนเลือกฝ่ายแล้วแต่แรก และเขาอยู่ฝ่ายเดียวกับพี่ชายของนาง!

……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด