รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 357 ปล่อยไปนั้นได้ แต่ข้ามีประโยคหลังจากนั้นยังไม่ได้พูด!

Now you are reading รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] Chapter บทที่ 357 ปล่อยไปนั้นได้ แต่ข้ามีประโยคหลังจากนั้นยังไม่ได้พูด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 357 ปล่อยไปนั้นได้ แต่ข้ามีประโยคหลังจากนั้นยังไม่ได้พูด!

น้ำทะเลสีดำยาวเหยียดเชื่อมกับขอบฟ้าจนดูไร้ที่สิ้นสุด หมอกพิษปกคลุมมหาสมุทรทั้งผืน ทัศนวิสัยย่ำแย่ยิ่ง มองเห็นสิ่งที่อยู่ห่างออกไปได้อย่างมากแค่หนึ่งฉื่อ ไม่อาจมองเห็นภาพที่อยู่ไกลไปกว่านั้น

หลิงอินมาแล้ว

ทั้งยังพาวิญญาณสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้นมาด้วย

หุบเขาคงหลิงห่างไกลจากทะเลต้องห้ามมาก แม้ว่านางจะบรรลุเป็นนักบุญแล้ว ก็ยังใช้เวลาถึงสองวันสองคืน ฉีกทะลุมิติเรื่อย ๆ กว่าจะมาถึงที่นี่

นี่หรือคือทะเลต้องห้าม?

หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย นางมิได้เข้าไป ทว่ายังอยู่ตามขอบแดนนอกทะเลต้องห้าม กระนั้นก็ยังสัมผัสถึงกลิ่นอายแห่งความตายได้อย่างล้นหลาม สถานที่แห่งนี้สยดสยองจนน่าหวาดหวั่น สมเป็นหนึ่งในเก้าแดนต้องห้าม!

ดวงตาของนางเปล่งประกาย ด้วยนางเสริมพลังเข้าไป หมายจะมองทะลุผ่านหมอกพิษให้เห็นสิ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในทะเลต้องห้าม

ทว่านางทำไม่สำเร็จ

ในหมอกพิษมีพลังงานพิศวงบางอย่างบดบังทัศนวิสัยของนาง ส่งผลให้สายตาของนางไม่อาจมองทะลุหมอกพิษเข้าไปได้

ซ่าาา!

น้ำทะเลสีดำซัดสาด สัตว์ทะเลน่าเกลียดน่ากลัวกระโจนขึ้นมาเป็นครั้งคราว ทั้งหมดล้วนเป็นกระดูกอสูรชวนขนลุกที่ยังมีชิ้นเนื้อเน่าเปื่อยติดอยู่ ดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด

หลิงอินขมวดคิ้วเป็นปมขึ้นเรื่อย ๆ มิติบนน้ำทะเลสีดำผันผวน พลังมิติอันน่ากลัวทะลักออกจากทั่วทุกสารทิศ แถบนี้น่าประหวั่นพรั่นพรึงเกินไป ลำพังมิติผันผวนเช่นนี้ก็ยากที่จะผ่านเข้าไปได้

เก้าแดนต้องห้าม เขตหวงห้ามสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งปวง มิใช่แค่คำกล่าวอ้างไปอย่างนั้น แม้กระทั่งมหาจักรพรรดิเดินทางมาที่นี่ เกรงว่าก็ไม่อาจซัดกระเซ็นคลื่นได้แม้แต่หยดเดียว

“ไปกันเถิด”

หญิงสาวเอ่ยปากราวกับมิได้มีความเกรงกลัวอีกแล้ว นางสั่งให้วิญญาณของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามนำทางนางเข้าไป

เพราะมีหยกคุ้มภัยที่ท่านเซียนประทานให้ นางจึงไม่พะวงว่าจะเกิดเรื่องกับตน

มิติผันผวน พลังมิติอันน่ากลัวไหลหลาก แต่ยังมีเส้นทางถูกต้องที่สามารถหลีกเลี่ยงพลังมิติที่ทะลักอยู่นี้

นี่เป็นเส้นทางที่มีเพียงสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามเท่านั้นที่รู้

จะเข้าไปจริงหรือ?

แม่นางมีรากฐานอย่างไรกันแน่ ไฉนถึงมั่นใจปานนี้!

สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามคิดไม่ตกว่า เหตุใดหลิงอินถึงแน่วแน่ได้เพียงนี้ ตรงดิ่งเข้าทะเลต้องห้ามโดยปราศจากความเกรงกลัว

ทว่ามันมิได้ใคร่ครวญมากนัก แต่พาหลิงอินก้าวสู่เส้นทางที่ถูกต้อง รุดหน้าไปในทะเลต้องห้ามทันที

มันอยากกลับเข้าไปในทะเลต้องห้ามแทบแย่ เช่นนี้มันจึงจะยังมีทางรอดอยู่บ้าง

เส้นทางที่ถูกต้องไม่เพียงแต่หลีกเลี่ยงพลังมิติอันผันผวน แต่ยังหลีกเลี่ยงกระดูกอสูรชวนผวาในทะเลได้อีกด้วย หลิงอินปลอดภัยทั้งทาง ไม่ถูกโจมตีแต่อย่างใด

นางมุ่งหน้าต่อไปเรื่อย ๆ จนมาถึงส่วนลึกของทะเลต้องห้าม

ที่นั่นมีเกาะยักษ์แห่งหนึ่งลอยอยู่ บนเกาะมีสิ่งปลูกสร้างโบราณมากมาย และกลิ่นอายแห่งกาลเวลาของที่นี่ก็หนาแน่นเป็นพิเศษ

นี่เป็นสิ่งปลูกสร้างจากยุคสมัยใดกัน?

หลิงอินขมวดคิ้วเล็กน้อย ตัวนางเองถือว่าตนพบเจออะไรมามาก อ่านคัมภีร์โบราณมาก็เยอะ พอจะมีความเข้าใจในทุกยุคสมัย

ทว่านางกลับไม่รู้จักสิ่งปลูกสร้างโบราณที่นี่ ทั้งยังดูไม่ออกว่ามันสร้างในยุคสมัยใด

แต่เรื่องที่นางแน่ใจได้คือ ยุคสมัยของสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้เก่าแก่เหลือคณาอย่างไม่ต้องสงสัย มิฉะนั้นไม่มีทางที่นางจะไม่คุ้นตาเลยสักนิด

นางมาถึงบนเกาะ

“พี่น้องเอ๋ย ช่วยข้าด้วย!”

ทันทีที่ขึ้นมาบนเกาะได้แล้ว สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้นก็โหวกเหวกขึ้นมา ร้องเรียกให้สิ่งมีชีวิตตนอื่นในทะเลต้องห้ามมาช่วย

หมอกดำเวียนวน สิ่งมีชีวิตตนอื่นในทะเลต้องห้ามมาถึง หลอมรวมเป็นรูปร่างอย่างรวดเร็ว และเป็นสิ่งมีชีวิตไม่ทราบสายพันธุ์เช่นกัน รูปลักษณ์แปลกประหลาด ทว่าแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้น

สิ่งมีชีวิตประหลาดตนนี้มีเกล็ดสีเขียวปกคลุมทั่วตัว มีเขากระทิงอยู่บนศีรษะ ร่างเป็นมนุษย์ทว่ามีหางปลา

“พวกเจ้าปะติดปะต่อร่างอย่างนี้กันหมดเลยหรือ”

หลิงอินเห็นสิ่งมีชีวิตทะเลต้องห้ามมีเขากระทิงตนนี้แล้วเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้

สิ่งมีชีวิตเขากระทิงตรงหน้าให้ความรู้สึกเดียวกับสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามผู้อยู่ในมือนาง ร่างกายคล้ายว่าปะติดปะต่อแต่ละส่วนขึ้นมาใหม่

สิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามในมือนางมีร่างเป็นเสือดาว หางแมงป่อง หนามกระดูกปกคลุมเต็มตัว เหมือนเป็นร่างที่ต่อส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

“บังอาจ!”

สิ่งมีชีวิตเขากระทิงตวาดเสียงเย็น กลิ่นอายดุดันในตัวท่วมท้นนภา “เจ้าเป็นผู้ใด บังอาจบุกเข้ามาในทะเลต้องห้ามของเรา! ซ้ำยังจับตัวสมาชิกทะเลต้องห้ามไว้อีก! ไหนยังจะใช้วาจายั่วยุข้า! ยังไม่รีบปล่อยสมาชิกทะเลต้องห้ามของเราอีก!”

“ปล่อยมันไปหรือ?”

หลิงอินว่า “ได้”

ฮ่าฮ่า

ข้าก็ว่าคนผู้นี้เอาความมั่นใจจากไหนมาตั้งมากมาย เมื่อมาถึงทะเลต้องห้ามก็ต้องหงออยู่ดีนี่อย่างไร

หลังจากสมาชิกทะเลต้องห้ามในมือหลิงอินได้ยินว่าหลิงอินยอมปล่อยมัน ก็หัวเราะในใจไม่หยุด

มันก็นึกเสียว่าหลิงอินเก่งกาจปานใด ที่แท้มีปัญญาแค่นี้เองหรือ

สงสัยที่เดินทางมาทะเลต้องห้ามก็คงเพื่อขอความเมตตาจากจ้าวสมุทรแห่งทะเลต้องห้ามของพวกเขากระมัง

ทว่าลมหายใจถัดมา สีหน้าของวิญญาณมันเปลี่ยนไปอย่างมาก

“ไม่!”

มันตะโกนด้วยความสิ้นหวัง รู้สึกได้ว่ามีพลังมวลหนึ่งถาโถมใส่มัน หลินอินคิดจะปล่อยมันไปที่ไหน คิดจะฆ่ามันชัด ๆ!

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นไวมาก แม้แต่สิ่งมีชีวิตเขากระทิงยังตั้งตัวไม่ทัน

กว่าสิ่งมีชีวิตเขากระทิงจะตั้งตัวได้ วิญญาณของสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนั้นก็ถูกหลิงอินบีบจนระเบิด สูญสิ้นอย่างสมบูรณ์!

เป็นผลให้มันกราดเกรี้ยวเดือดดาล จิตสังหารท่วมท้นในบัดดล

หลิงอินคิดจะทำอันใด?

สังหารสมาชิกทะเลต้องห้ามในถิ่นทะเลต้องห้ามของพวกมัน ซ้ำยังต่อหน้ามันอีก!!!

ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตตนใดกำแหงท้าทายทะเลต้องห้ามถึงเพียงนี้!

“ปล่อยมันไปนั้นได้ แต่ข้ามีประโยคหลังจากนั้นยังไม่ได้พูด…”

หญิงสาวกล่าวคำ “สมาชิกหุบเขาคงหลิงที่ตายด้วยน้ำมือของมัน นี่มิใช่เรื่องที่จะยอมกันได้ เลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด มันจำต้องตายเท่านั้น!”

นางต้องการสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้ไว้นำทางเท่านั้น ส่วนเรื่องปล่อยสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามตนนี้ไปนั้น…

ไม่มีทางเด็ดขาด!

เลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด!

“เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”

จิตสังหารสิ่งมีชีวิตเขากระทิงโถมทับ ฟาดฝ่ามือไปหาหลิงอิน พลังอันน่าพรั่นพรึงซัดสาดเข้ามาในปฐพีผืนนี้

มันไม่รู้เรื่องหลิงอิน ไม่รู้ว่านางคือผู้ที่จ้าวสมุทรของพวกมันต้องการพบ

หากมันรู้ ให้มันกล้ากว่านี้อีกหมื่นเท่าก็มิบังอาจ!

ติ๊ง!

หลิงอินยกมือเรียกฉินเฟิ่งหมิงออกมา ดีดสายฉินหนึ่งเส้น พลังอันแกร่งกล้าหลั่งไหล ยับยั้งฝ่ามือนี้ของสิ่งมีชีวิตเขากระทิง

นางขมวดคิ้วเล็กน้อย

นี่หรือคือความน่ากลัวของทะเลต้องห้าม?

สิ่งมีชีวิตเขากระทิงตรงหน้านี้ก็เป็นการดำรงอยู่ที่เหนือกว่ามหาจักรพรรดิ เทียบกับสิ่งมีชีวิตจากทะเลต้องห้ามที่นางฆ่าไปนั้น มีแต่จะแข็งแกร่งกว่า!

“ผู้ใดก่อความวุ่นวายอยู่!”

“บังอาจสร้างเรื่องในดินแดนทะเลต้องห้ามเชียวหรือ!?”

หมอกดำก้อนแล้วก้อนเล่าลอยเข้ามา หลอมรวมเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดคณานับ พลังปราณอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงแผ่ซ่านออกจากตัว

หลังได้เห็นสิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านี้ ความรู้สึกหนักอึ้งในใจหลิงอินก็ทวีความรุนแรงขึ้น

สิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านี้ก็ไม่เหมือนสายพันธุ์ใดทั้งสิ้น เหมือนการต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ จนเป็นรูปร่างขึ้นมา

แดนต้องห้ามก็คือแดนต้องห้าม…

หลิงอินนึกทึ่งในใจ สิ่งมีชีวิตประหลาดเบื้องหน้านี้ ล้วนมีพลังปราณเหนือมหาจักรพรรดิกันทั้งสิ้น!

ขอบเขตมหาจักรพรรดิก้าวผ่านได้ง่ายดายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด

แม้กระทั่งตลอดยุคโบราณ สิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่เหนือมหาจักพรรดิก็มิได้มากมายปานนี้

แดนต้องห้ามน่ากลัวมากจริง ๆ สิ่งมีชีวิตเหนือมหาจักรพรรดิมีอยู่ทุกที่!

ตนแล้วตนเล่า ที่แห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตเหนือมหาจักรพรรดิมารวมตัวกันทั้งหมดเก้าตน!

‘แล้วจ้าวสมุทรแห่งทะเลต้องห้ามอยู่ในระดับไหนกัน?’

หลิงอินคิดในใจ

ไม่ต้องสงสัย จ้าวสมุทรแห่งทะเลต้องห้ามมีแต่จะยิ่งสยดสยองขึ้นไป มิฉะนั้นจะปกครองทะเลต้องห้ามได้เยี่ยงไร

แดนต้องห้ามที่อยู่มาตั้งแต่ยุคอนันตกาล สิ่งมีชีวิตทั้งปวงล้วนมิกล้ากล้ำกราย มิควรดูแคลนจริง ๆ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด